ฟิลเลอร์ใต้ตา ตัวช่วยฟื้นฟูปัญหาใต้ตาให้กลับมาสดใสดีไหม
โปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา

ฟิลเลอร์ใต้ตา ตัวช่วยฟื้นฟูปัญหาใต้ตาให้กลับมาสดใส ดีไหม ?

คุณหมอสรุปให้ ฟิลเลอร์ใต้ตา

  • ฟิลเลอร์ใต้ตา คือการฉีดสารกลุ่ม Hyaluronic Acid เพื่อช่วยดูแลปัญหารอบดวงตา เช่น ถุงใต้ตา ใต้ตาคล้ำ และร่องลึกใต้ตา โดยหลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น
  • การฉีดใต้ตาจะใช้สารเติมเต็มกลุ่มไฮยาลูรอนิกแอซิด (HA) ที่เลียนแบบสารธรรมชาติในร่างกาย สามารถสลายตัวได้เองภายใน 6-12 เดือน
  • ฟิลเลอร์ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวกระชับยืดหยุ่น
  • ฟิลเลอร์ใต้ตามีหลายยี่ห้อให้เลือก เช่น Restylane, Juvederm, Belotero | ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี ?
  • การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเริ่มต้นที่ 13,000 บาท ขึ้นอยู่กับปริมาณและยี่ห้อ |  ฟิลเลอร์ใต้ตาราคาเท่าไหร่ ?
ฟิลเลอร์ใต้ตา

ฟิลเลอร์ใต้ตา หัตถการสำหรับดูแลผิวรอบดวงตาด้วยการฉีดสารเติมเต็ม (ฟิลเลอร์) กลุ่มไฮยาลูรอนิก แอซิด (HA) ช่วยแก้ไขปัญหาบริเวณใต้ตา ไม่ว่าจะเป็นร่องลึก ใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตา หรือริ้วรอย ด้วยขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน ใช้เวลาน้อย และไม่ต้องพักฟื้น

บทความนี้ RWC Clinic เราได้รวบรวมสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ตั้งแต่หลักการทำงาน การเตรียมตัว การดูแลตัวเองหลังทำ จนถึงแนวทางการเลือกคลินิกและแพทย์ มาให้ประกอบการตัดสินใจค่ะ

ฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร

ฟิลเลอร์ใต้ตา คือการฉีดสารเติมเต็มไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) ที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ เข้าไปในชั้นผิวบริเวณใต้ตา เพื่อแก้ไขปัญหารอบดวงตา เช่น เบ้าตาลึก ร่องลึกใต้ตา ใต้ตาคล้ำ และรอยเหี่ยวย่น ทำให้ผิวใต้ตาดูเต็มขึ้น ร่องลึกดูตื้นขึ้น และริ้วรอยเล็ก ๆ แลดูจางลง

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัดและไม่มีขั้นตอนซับซ้อน ใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที หลังทำเสร็จไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติค่ะ

ฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร

คุณสมบัติของสารเติมเต็มที่ใช้สำหรับบริเวณใต้ตา

ฟิลเลอร์ใต้ตา ถูกออกแบบมาสำหรับผิวรอบดวงตาที่บอบบางและมีการเคลื่อนไหวอยู่เสมอ โดยมีคุณสมับัติหลัก ดังนี้

  • เนื้อนุ่มกับความยืดหยุ่น ฟิลเลอร์ที่ใช้ต้องมีเนื้อนุ่ม เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติและไม่เป็นก้อนหลังการฉีดใต้ตา
  • ความหนาแน่นที่เหมาะสม  ต้องมีความหนาแน่นที่พอดี ไม่แข็งหรือนิ่มเกินไป
  • คุณสมบัติในการอุ้มน้ำ ฟิลเลอร์ใต้ตาต้องมีคุณสมบัติอุ้มน้ำ เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นใต้ผิวหนัง
  • การกระจายตัวที่ดี สามารถกระจายตัวได้ดีในเนื้อเยื่อ ไม่เคลื่อนที่หลังการฉีด
  • ความคงทน สลายไปเองตามธรรมชาติภายใน 6-12 เดือน ไม่เหลือสารตกค้างในร่างกาย
  • คุณสมบัติในการกระตุ้นคอลลาเจน ต้องมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ช่วยเสริมความยืดหยุ่น กระชับ ลดเลือนริ้วรอยในระยะยาว

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใคร ช่วยแก้ปัญหาอะไร ?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เหมาะกับคนที่มีความกังวลเรื่องใบหน้าที่ดูอ่อนล้าและโทรม โดยเข้าไปเติมเต็มกับปรับสภาพผิวบริเวณที่ฉีดให้กลับมาดูสดใสขึ้น และหัตถการนี้สามารถแก้ปัญหาใต้ตาได้หลายรูปแบบ ได้แก่

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใคร ช่วยแก้ปัญหาอะไร ?
  • ปัญหาร่องลึกกับสีผิว ช่วยเติมเต็มร่องใต้ตาลึก (Tear trough) และลดใต้ตาคล้ำที่เกิดจากโครงสร้างผิว ทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น
  • ปัญหาถุงใต้ตากับริ้วรอย ช่วยลดเลือนถุงใต้ตาที่เกิดจากไขมันและความหย่อนคล้อย รวมถึงริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตา
  • ปัญหาโครงสร้าง แก้ไขลักษณะเบ้าตาลึกหรือตาโหลที่ทำให้ใบหน้าดูมีอายุ
  • ความต้องการส่วนบุคคล ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์เร็ว ไม่ต้องการพักฟื้นนาน และผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไปที่ผิวรอบดวงตาเริ่มเปลี่ยนแปลง

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหัตถการที่ต้องพิจารณาข้อจำกัดด้านสุขภาพของแต่ละบุคคล เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ กลุ่มบุคคลที่มีเงื่อนไขต่อไปนี้ควรหลีกเลี่ยง หรือปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจฉีดใต้ตา ได้แก่

  1. ผู้ที่มีการติดเชื้อบริเวณผิวหนังที่กำลังทำการรักษาตัวอยู่
  2. สตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
  3. ผู้ที่มีภาวะเลือดแข็งตัวผิดปกติ หรือใช้ยาละลายลิ่มเลือด
  4. ผู้ที่เคยมีประวัติแพ้ส่วนประกอบของฟิลเลอร์ใต้ตา
  5. ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ชนิดรุนแรง หรือโรคเกี่ยวกับภูมิต้านทานตัวเอง

การแจ้งข้อมูลสุขภาพตามจริงกับแพทย์ และการปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด จะช่วยให้ทีมแพทย์สามารถประเมินและวางแผนการดูแลได้อย่างตรงจุด เพื่อให้ผลลัพธ์เป็นไปตามที่คาดหวัง

ที่ RWC Clinic เราใส่ใจในทุกขั้นตอนของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ทีมแพทย์จะประเมินสภาพผิวและโครงสร้างใบหน้าอย่างละเอียด เพื่อเลือกใช้เทคนิคการเติมเต็มที่เข้ากับแต่ละบุคคลค่ะ

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสำหรับผู้ชาย

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสำหรับผู้ชาย

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้หญิงเท่านั้น ผู้ชายที่ต้องการแก้ไขปัญหาใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตา หรือร่องลึกก็สามารถทำได้ค่ะ เพื่อเสริมให้ใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น สำหรับการฉีดใต้ตาในผู้ชายจะมีจุดที่ต้องข้อพิจารณาแตกต่างกับผู้หญิงเล็กน้อย ได้แก่

  • โครงสร้างใบหน้า ผู้ชายมักมีผิวหนาและโครงสร้างกระดูกที่แข็งแรงกว่า อาจต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์มากกว่าผู้หญิงเล็กน้อย
  • เทคนิคการฉีด แพทย์จะปรับเทคนิคให้เข้ากับโครงสร้างใบหน้า เพื่อให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและรักษาเอกลักษณ์ของความเป็นชายไว้

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตา

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัดและใช้เวลาไม่นาน แต่ต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยและเนียนกับผิว โดยทั่วไปจะมีขั้นตอนดังนี้

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตา
  • การปรึกษาและวางแผน แพทย์จะประเมินสภาพผิวกับปัญหาบริเวณใต้ตา เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม เลือกชนิดและปริมาณฟิลเลอร์ใต้ตา พร้อมให้คำแนะนำก่อนเริ่มทำหัตถการ
  • การเตรียมผิวก่อนฉีด เจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดผิว จากนั้นทายาชาหรือครีมชาทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาที และมีการประคบเย็นเพื่อช่วยลดโอกาสเกิดรอยช้ำ
  • ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ แพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กหรือหลอดสอด (cannula) ฉีดฟิลเลอร์ทีละน้อย และปรับแต่งให้ดูเป็นธรรมชาติ โดยการฉีดจะแบ่งตามระดับความลึกของชั้นผิว ได้แก่
      • ระดับลึก ฉีดฟิลเลอร์เนื้อแข็งบริเวณแนวกระดูกเบ้าตา และเส้นเอ็นเพื่อสร้างฐานรองรับ
      • ระดับตื้น ฉีดฟิลเลอร์เนื้อนิ่มเพื่อเก็บรายละเอียด ลดริ้วรอย และทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
  • การปรับแต่งหลังฉีดใต้ตา หลังฉีดเสร็จ แพทย์จะนวดเบา ๆ เพื่อให้ฟิลเลอร์กระจายตัวสม่ำเสมอ และประคบเย็นอีกครั้งเพื่อช่วยลดอาการบวม
  • การดูแลหลังฉีด แพทย์จะให้คำแนะนำสำหรับดูแลตัวเองหลังกลับบ้าน และนัดหมายเพื่อติดตามผลการรักษาถ้าจำเป็น

ความรู้สึกระหว่าง ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เจ็บไหม?

ความรู้สึกระหว่าง ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เจ็บไหม?

ก่อนเริ่มฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แพทย์จะทายาชาเฉพาะจุดเพื่อบรรเทาความเจ็บ ทำให้คนส่วนใหญ่จะรู้สึกแค่ระดับไม่สบายตัวเล็กน้อยถึงปานกลาง ไม่เจ็บมากค่ะ

ขณะฉีดจะรู้สึกตึงหรือมีแรงกดทับ ระดับความเจ็บที่เกิดขึ้นนั้นไม่เท่ากันในทุกคน เพราะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งความลึกในการฉีด อุปกรณ์ที่แพทย์เลือกใช้ ประสบการณ์ของแพทย์เอง รวมถึงความไวต่อความเจ็บของร่างกายแต่ละคน

ถ้ามีความกังวลเรื่องความเจ็บ สามารถแจ้งแพทย์ล่วงหน้าได้เลย แพทย์จะพิจารณาหาวิธีการที่ช่วยให้รู้สึกสบายที่ขึ้น เช่น เพิ่มเวลาทายาชา หรือใช้เทคนิคการฉีดที่นุ่มนวลขึ้นค่ะ

ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี ? ที่ผ่านการรับรอง

การเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตา มีผลโดยตรงต่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ได้ ในท้องตลาดมีหลายแบรนด์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก อย. ไทยแล้ว ได้แก่

ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี ? ที่ผ่านการรับรอง
  • Restylane คือฟิลเลอร์แบรนด์แรกของโลก ผลิตโดยบริษัท Galderma ประเทศสวีเดน มีเทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะ NASHA Technology และ OBT Technology รุ่นที่เหมาะกับการฉีดใต้ตา เช่น Restylane Vital Light, Restylane Lyft, Restylane Refyne ความหลากหลายของรุ่น ก็เหมาะกับปัญหาผิวหน้าที่แตกต่างกัน
  • Juvederm ผลิตโดย Allergan บริษัทยาระดับโลก ใช้เทคโนโลยี Vycross ที่ช่วยในการยกกระชับและคงรูป รุ่นที่เหมาะกับใต้ตา ได้แก่ Juvederm Volbella, Juvederm Volift มีลักษณะเป็นเนื้อนิ่ม ไม่เป็นก้อน ฉีดแล้วดูเป็นธรรมชาติ
  • Belotero ผลิตโดยบริษัท Merz ประเทศเยอรมนี ใช้เทคโนโลยี CPM (Cohesive Polydensified Matrix) รุ่นที่เหมาะกับใต้ตา ได้แก่ Belotero Balance, Belotero Soft เนื้อบางเบา กระจายตัวได้ดี เหมาะกับการฉีดในชั้นผิวตื้น ๆ

ลักษณะเนื้อของฟิลเลอร์ใต้ตาแต่ละแบบ ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาในชั้นผิวที่ต่างกัน ได้แก่

  • เนื้อนิ่ม (Soft) ใช้สำหรับฉีดในชั้นตื้น เพื่อแก้ไขริ้วรอยเล็ก ๆ และเติมเต็มผิวชั้นบน
  • เนื้อปานกลาง (Medium) ใช้สำหรับฉีดในชั้นกลาง เพื่อแก้ไขร่องลึกและเติมเต็มปริมาตรใต้ตาทั่วไป
  • เนื้อแข็ง (Firm) ใช้สำหรับฉีดในชั้นลึกติดกระดูก เพื่อซัพพอร์ตครงสร้างและยกกระชับบริเวณที่หย่อนคล้อย

การเลือกรุ่นฟิลเลอร์ใต้ตาให้เข้ากับปัญหาผิวของแต่ละบุคคลเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ควรให้แพทย์ประเมินเพื่อผลลัพธ์ที่ดี โดยมีแนวทางการประเมิณเบื้องต้นดังนี้

  • ผิวบาง ควรเลือกฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ที่กระจายตัวได้ดี เช่น Belotero Balance หรือ Restylane Vital Light
  • ร่องลึกชัดเจน ควรเลือกฟิลเลอร์ที่มีความหนาแน่นปานกลาง เช่น Juvederm Volift หรือ Restylane Lyft

ถุงใต้ตาและตาลึก ควรเลือกฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติในการยกกระชับ เช่น Juvederm Voluma หรือ Restylane Lyft

การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

การดูแลตัวเองหลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นขั้นตอนที่จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดีและลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง โดยมีข้อแนะนำในการปฏิบัติตัวตามช่วงเวลาดังนี้

การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ในช่วง 48 ชั่วโมงแรก 

ใน 48 ชั่วโมงแรกหลังฉีดใต้ตา ควรใส่ใจดูแลบริเวณที่ฉีดเป็นพิเศษเพื่อลดอาการบวม โดยมีขั้นดังนี้

  1. ประคบเย็นบริเวณที่ฉีดครั้งละ 10-15 นาที ทุก 1-2 ชั่วโมง
  2. นอนศีรษะสูง ยกหมอนให้สูงกว่าปกติ เพื่อช่วยลดอาการบวม
  3. หลีกเลี่ยง การนวด กด หรือสัมผัสแรง ๆ บริเวณนั้น เว้นแต่แพทย์จะแนะนำ
  4. งดการออกกำลังกายหนัก และกิจกรรมที่ต้องก้มหน้าเป็นเวลานาน
  5. หลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่มีความร้อนสูง เช่น ห้องซาวน่า อบไอน้ำ หรือการเผชิญแสงแดดจัด

ตลอด 2 สัปดาห์แรก

ช่วงนี้ควรดูแลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ฟิลเลอร์ใต้ตาเข้าที่อย่างสมบูรณ์

  1. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้บวมมากขึ้น
  2. งดการนวดหน้าหรือทำทรีตเมนต์ใด ๆ บริเวณใบหน้า
  3. หลีกเลี่ยงการสัมผัสรังสี UV โดยทาครีมกันแดด SPF 50+ เมื่อออกแดด
  4. ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ ประมาณวันละ 8 แก้ว เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิว
  5. งดรับประทานยาต้านการอักเสบและยาละลายลิ่มเลือด ถ้าไม่มีความจำเป็นทางการแพทย์

ข้อควรระวังเพิ่มเติมหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง

  • อาหารรสเค็มจัด เพราะจะทำให้เกิดการกักเก็บน้ำและอาการบวม
  • อาหารรสเผ็ดจัด เพราะอาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ
  • อาหารที่มีสารกระตุ้นมาก เช่น ชา กาแฟ เพราะอาจทำให้บวมมากขึ้น

สัญญาณที่ควรพบแพทย์ทันที

  • มีอาการบวม แดง หรือเจ็บมากผิดปกติ
  • มีรอยช้ำที่ลุกลามหรือไม่หายภายใน 1 สัปดาห์
  • พบก้อนแข็งที่ไม่หายไปหลังผ่านไป 2 สัปดาห์
  • มีอาการแพ้ เช่น คัน ผื่น หรือหน้าบวมรุนแรง

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากี่วันเห็นผล และอยู่ได้นานแค่ไหน ?

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากี่วันเห็นผล ? การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะมีลำดับการเห็นผลลัพธ์หลังฉีดดังนี้

ช่วงเวลาการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์
หลังฉีดทันทีเห็นการเปลี่ยนแปลง แต่อาจมีอาการบวมเล็กน้อย
1-3 วันแรกอาจมีอาการบวมหรือรอยช้ำเล็กน้อย แล้วจะค่อย ๆ ยุบลง
7-14 วันฟิลเลอร์เริ่มเข้าที่ ผิวใต้ตาดูเนียนและกลืนกับผิวเดิมมากขึ้น
2-4 สัปดาห์ฟิลเลอร์เซ็ตตัวเต็มที่ เห็นผลลัพธ์ชัดเจนและเป็นธรรมชาติขึ้น

ฟิลเลอร์บริเวณใต้ตาจะอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน แต่ระยะเวลาจะสั้นหรือยาวขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนบุคคล เช่น

  • ชนิดและยี่ห้อของฟิลเลอร์ บางยี่ห้ออาจอยู่ได้นานถึง 18 เดือน
  • อัตราการเผาผลาญของแต่ละบุคคล คนที่มีอัตราการเผาผลาญสูงอาจทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วกว่า
  • บริเวณที่ฉีด ถ้าเป็นบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวมาก ฟิลเลอร์จะสลายเร็วกว่า
  • การดูแลหลังฉีด ถ้าดูแลตามคำแนะนำช่วยให้ฟิลเลอร์คงอยู่ได้นานขึ้น
  • พฤติกรรมและสภาพแวดล้อม การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือเจอแสงแดดจัดอาจทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น

เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้ต่อเนื่อง ควรกลับมาฉีดซ้ำเมื่อสังเกตเห็นว่าผลเริ่มจางลง โดยช่วงเวลาที่แนะนำคือทุก 9-12 เดือน การฉีดซ้ำอย่างสม่ำเสมอมีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ในระยะยาวค่ะ

อ่านเพิ่มเติม: ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้กี่เดือน ? แชร์วิธียืดอายุฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นานขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม มีความเสี่ยงอะไรบ้าง ?

คำถามว่า ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม ? การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยระดับหนึ่ง ถ้าทำกับแพทย์ผู้มีประสบการณ์ แต่ก็มีความเสี่ยงและผลข้างเคียงบางอย่างที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ โดยสามารถแบ่งอาการที่เกิดขึ้นได้ตามระดับความรุนแรง ดังนี้

อาการ / ความเสี่ยงระดับความรุนแรง

คำอธิบายเพิ่มเติม
อาการบวมและรอยช้ำพบได้ทั่วไป (ไม่อันตราย)จะค่อย ๆ หายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์
รอยแดงหรือรู้สึกไม่สบายพบได้ทั่วไป (ไม่อันตราย)บริเวณที่ฉีดจะรู้สึกตึงหรือเจ็บเล็กน้อย และจะดีขึ้นใน 1-2 วัน
ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อนพบได้ทั่วไป (ไม่อันตราย)เกิดขึ้นในช่วงแรกและจะค่อย ๆ เรียบเนียนเข้าที่
การติดเชื้อพบได้น้อยมีโอกาสเกิดการติดเชื้อบริเวณที่ฉีด แต่เกิดขึ้นไม่บ่อย
ผลลัพธ์ไม่สมมาตรพบได้น้อยเกิดจากการฉีดที่ไม่เท่ากัน ทำให้ใบหน้าสองข้างดูต่างกัน
การแพ้ส่วนประกอบร้ายแรง (พบน้อย)บางรายมีอาการแพ้สารในฟิลเลอร์
การอุดตันของเส้นเลือดร้ายแรง (พบน้อย)ภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายที่สุด เกิดเมื่อฟิลเลอร์เข้าไปในเส้นเลือด เช่น ความเสี่ยงตาบอดจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

แนวทางการลดความเสี่ยง

เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดี ควรปฏิบัติตามแนวทางต่อไปนี้

  1. เลือกแพทย์ผู้มีประสบการณ์ เพราะแพทย์จะรู้เทคนิคและตำแหน่งการฉีดที่ปลอดภัย
  2. เลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัย
  3. เข้ารับบริการในคลินิกหรือโรงพยาบาลที่มีมาตรฐาน สถานที่จะมีความพร้อมรับมือกับภาวะแทรกซ้อน
  4. แจ้งประวัติการแพ้ยาและโรคประจำตัว ให้แพทย์ทราบก่อนทำหัตถการเสมอ
  5. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ในการดูแลตัวเองหลังฉีดอย่างเคร่งครัด

ราคาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาและปริมาณที่ใช้

ราคาและปริมาณฟิลเลอร์ใต้ตาที่ใช้ (CC) ขึ้นอยู่กับความลึกของร่องใต้ตากับโครงสร้างใบหน้าของแต่ละบุคคล เช่น

  • ปัญหาร่องใต้ตาเล็กน้อย ใช้ประมาณ 0.5-1 CC ต่อข้าง
  • ปัญหาร่องใต้ตาปานกลาง ใช้ประมาณ 1-1.5 CC ต่อข้าง
  • ปัญหาร่องใต้ตาลึก สามารถใช้ถึง 2 CC ต่อข้าง

อัตราค่าบริการจะแตกต่างกันตามปัจจัยต่าง ๆ ตั้งแต่ยี่ห้อ รุ่นของฟิลเลอร์ ปริมาณที่ฉีด ประสบการณ์ของแพทย์ รวมถึงที่ตั้งของคลินิก สำหรับที่ RWC Clinic อัตราค่าบริการเริ่มต้นที่ประมาณ 13,000 บาท

ตัวอย่างอัตราค่าบริการ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา โดยประมาณ

ปริมาณฟิลเลอร์อัตราค่าบริการ (บาท)
1CC13,000 - 18,000
2CC22,000 - 30,000
3CC30,000 - 45,000

ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม: อัตราค่าบริการที่ต่ำกว่ามาตรฐานควรตรวจสอบให้รอบคอบถึงคุณภาพของฟิลเลอร์และประสบการณ์ของแพทย์ ฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพจะให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจและมีความเสี่ยงน้อยกว่าค่ะ

รีวิวก่อน-หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ RWC Clinic

ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ RWC Clinic ช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ใบหน้ากลับมาดูสดใสขึ้น จากรีวิวของลูกค้าที่เข้ารับบริการ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นมีดังนี้

  • ร่องใต้ตาตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น
  • ใต้ตาคล้ำดูจางลง เพราะความลึกของร่องใต้ตาลดลง ทำให้เงาใต้ตาลดลงไปด้วย
  • ผิวใต้ตาดูเรียบเนียนขึ้น ริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตาลดเลือนลง
  • ใบหน้าดูสดชื่นและมีชีวิตชีวา ลูกค้ารายงานว่าหลังการฉีด มีคนทักว่าดูสดชื่นและพักผ่อนเพียงพอ
  • ความมั่นใจเพิ่มขึ้น หลายคนรู้สึกมั่นใจมากขึ้นหลังจากแก้ไขปัญหาใต้ตา
ฟิลเลอร์ใต้ตา รีวิว
รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา
รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา รีวิว
รีวิวใต้ตา ฟิลเลอร์ฟิลเลอร์หลังฉีดใต้ตา
ฟิลเลอร์ ใต้ตา รีวิวรีวิวฉีดฟิลเลอร์
รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ใต้ตาเรียบเนียนด้วยการฉีดฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา รีวิว ใต้ตาดูเต็มอิ่มด้วยฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตารีวิว
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา รีวิว
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา รีวิว ใต้ตาเปล่งปลั่ง
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา รีวิว แก้ตาคล้ำ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา รีวิว
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 1cc
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา รีวิว ใต้ตาดูเต็มอิ่ม
รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ถุงใต้ตาเรียบด้วยการฉีดฟิลเลอร์

วิธีเลือกคลินิกและแพทย์เพื่อฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

การเลือกคลินิกและแพทย์คือสิ่งสำคัญก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา โดยมีหลักในการพิจารณาดังนี้

วิธีเลือกคลินิกและแพทย์เพื่อฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

เกณฑ์การเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน

  • ใบอนุญาตและการรับรอง ตรวจสอบใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลและการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานภาครัฐ สถานพยาบาลต้องแสดงเอกสารเหล่านี้ไว้ในที่เปิดเผย
  • สภาพแวดล้อมและความสะอาด สังเกตความสะอาด ความเป็นระเบียบของสถานที่ รวมถึงห้องทำหัตถการที่เป็นสัดส่วน และระบบฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ตามมาตรฐาน
  • อุปกรณ์และเทคโนโลยี สถานพยาบาลควรมีเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย มีอุปกรณ์สำหรับกรณีฉุกเฉิน และมีระบบจัดเก็บผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ เช่น การควบคุมอุณหภูมิสำหรับเก็บฟิลเลอร์
  • ระบบการทำงานและบริการ มีขั้นตอนการนัดหมายกับการดูแลลูกค้าที่ดี มีการให้คำปรึกษาอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ และระบบติดตามผลหลังการรักษา

คุณสมบัติของแพทย์ผู้ทำการรักษา

  • คุณวุฒิและใบประกอบวิชาชีพ แพทย์ต้องมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่ไม่หมดอายุ ผ่านการศึกษาหรืออบรมเฉพาะทางด้านความงามหรือการฉีดฟิลเลอร์
  • ประสบการณ์และความชำนาญ แพทย์ต้องมีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาโดยเฉพาะ มีผลงานที่สามารถตรวจสอบได้ เช่น รูปก่อน-หลังการรักษา และมีความเข้าใจเกี่ยวกับกายวิภาคศาสตร์ของใบหน้าอย่างละเอียด
  • การสื่อสารกับการให้คำแนะนำ สามารถอธิบายขั้นตอนการรักษา ผลลัพธ์ที่คาดหวัง และความเสี่ยงได้อย่างชัดเจน มีการประเมินความเหมาะสมของการฉีดสำหรับแต่ละบุคคล ยินดีตอบคำถามและให้ข้อมูลอย่างครบถ้วน ไม่รับรองผลลัพธ์เกินจริงหรือสัญญาว่าจะไม่มีความเสี่ยงใด ๆ
  • จรรยาบรรณและความรับผิดชอบ มีจรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพ ไม่ชักจูงให้ทำการรักษาที่ไม่จำเป็น และมีการติดตามผลกับการดูแลหลังการฉีดอย่างต่อเนื่อง

วิธีตรวจสอบฟิลเลอร์ว่าเป็นของแท้

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรรตรวจเช็คว่าผลิตภัณฑ์นั้นเป็นฟิลเลอร์แท้หรือไม่ สามารถสังเกตและตรวจสอบได้ด้วยตัวเองผ่านขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้

  • สังเกตบรรจุภัณฑ์และฉลาก กล่องฟิลเลอร์ของแท้จะมีคุณภาพการพิมพ์ที่ดี ตัวอักษรคมชัด บนฉลากต้องระบุชื่อผลิตภัณฑ์ บริษัทผู้ผลิต และวันหมดอายุอย่างถูกต้อง
  • มองหาเลขทะเบียนและซีเรียลนัมเบอร์ ผลิตภัณฑ์ต้องมีเลขทะเบียนที่สามารถตรวจสอบได้ พร้อมกับซีเรียลนัมเบอร์เฉพาะกล่องที่ไม่ซ้ำกัน แพทย์ที่มีจรรยาบรรณจะยินดีให้คนไข้ตรวจสอบหรือเห็นบรรจุภัณฑ์ก่อนฉีด
  • ตรวจสอบผ่านช่องทางออนไลน์ บางยี่ห้อจะมีโค้ดให้สแกนหรือนำไปกรอกบนเว็บไซต์ของผู้ผลิต เพื่อยืนยันผลิตภัณฑ์ได้ทันที
  • การเก็บรักษาฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ต้องอยู่ในอุณหภูมิที่ควบคุม (2-25 องศาเซลเซียส) มีการจัดเก็บในตู้เย็นหรือที่เก็บเฉพาะ และมีระบบจัดการที่ดีเพื่อป้องกันการใช้ผลิตภัณฑ์หมดอายุ

อ่านเพิ่มเติม: ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ? การเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ให้ปลอดภัย

สรุป

ฟิลเลอร์ใต้ตา คือหัตถการฉีดสารเติมเต็มไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปในชั้นผิวบริเวณใต้ตา เป็นทางเลือกสำหรับการแก้ไขปัญหาบริเวณใต้ตา ตั้งแต่ร่องลึก ความคล้ำ ถุงใต้ตา จนถึงริ้วรอยเล็ก ๆ ด้วยขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน ใช้เวลาไม่นาน และไม่ต้องพักฟื้น

ก่อนตัดสินใจฉีดใต้ตา ควรเริ่มจากการเลือกคลินิกและแพทย์ที่มีความชำนาญ รวมถึงการใช้ฟิลเลอร์ของแท้ที่ผ่านการรับรอง  แล้วหลังการฉีดควรดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์ ช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานและลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง

ที่ RWC Clinic เรามีทีมแพทย์ที่จะประเมินและให้คำปรึกษา เพื่อวางแผนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละบุคคลค่ะ

ถูกยอมรับจากดาราชื่อดังของไทย

ฉีดฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ใต้ตา รางวัล

CONTACT FOR SPECIAL PRIVILEGES

กดด้านล่างติดเราเพื่อสอบถามรายละเอียดเเละสิทธิ์อื่นๆ

โทร RWC
line rwc
Facebook rwc
โทร RWC
Facebook rwc
line rwc

ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง RWC Clinic

ทีมแพทย์ RWC