โดย : อาจารย์แพทย์หมอขนม
ฟิลเลอร์ (Filler) คือ สาร Hyaluronic Acid หรือ HA เป็นสารที่เลียนแบบสารในร่างกาย ที่มีอยู่แล้วในร่างกายของมนุษย์เรา โดยสารกลุ่มนี้จะมีอยู่มากในชั้นผิวหนังและกระดูกอ่อน ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของคอลลาเจน
เมื่อฉีดแล้วจึงสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ การฉีดฟิลเลอร์ช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ บนใบหน้า ช่วยเต็มเติมใบหน้า ใต้ตา ร่องแก้ม ปากฯ ให้เต่งตึง ช่วยปรับสภาพผิวให้ชุ่มชื้น ทำให้หน้าดูเด็กลง ริ้วรอยและรอยหมองคล้ำดูจางลง ทั้งยังช่วยในเรื่องการชะลอวัยได้อีกด้วย
สารบัญฟิลเลอร์
- ฟิลเลอร์ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
- ประเภทของฟิลเลอร์
- ฟิลเลอร์ชนิดสลายและไม่สลาย
- ฉีดฟิลเลอร์อันตรายหรือไม่
- ตำแหน่งฮอตฮิตในการฉีดฟิลเลอร์
- ฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละตำแหน่งต้องฉีดในปริมาณเท่าใด
- อาการแพ้ฟิลเลอร์
- ราคาฉีดฟิลเลอร์
- แบรนด์ฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองในประเทศไทย(อย.ไทย)
- ฟิลเลอร์ที่แนะนำ
- การเลือกฟิลเลอร์แท้ ฟิลเลอร์คุณภาพ
- ระยะเวลาของฟิลเลอร์ อยู่ได้นานแค่ไหน ?
ฟิลเลอร์ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
- การเติมเต็มใบหน้า ริ้วรอย รอยหมองคล้ำให้ดูจางลง
- ช่วยแก้ไขโครงสร้างใต้ผิวหนัง
- ผิวบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์เต่งตึงขึ้น ดูมีน้ำมีนวล
- ช่วยเติมเส้นใยคอลลาเจนที่หายไป
- ผิวนั้นดูอ่อนเยาว์ ริ้วรอยร่องลึกดูตื้นขึ้น
- ผิวดูอ่อนกว่าวัย
- ช่วยปรับสภาพผิวให้ชุ่มชื้น
1. Temporary filler (แบบชั่วคราว)
ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว อยู่ได้ประมาณ 6 เดือน นานถึง 2 ปี สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ มีความปลอดภัยสูง เป็นที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน เช่น ฟิลเลอร์กลุ่มไฮยารูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ HA ที่เรารู้จักกัน
ภาพ : ก่อน – หลัง การรักษาด้วย “ฟิลเลอร์”
2. Semi Permanent Filler (แบบกึ่งถาวร)
ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร สามารถอยู่ได้นานประมาณ 2-5 ปี มีความปลอดภัยรองลงมาจากแบบแรก เช่น แคลเซียมฟิลเลอร์ ที่มีส่วนผสมของแคลเซียม ไฮดรอกซิลอะพาไทต์ (Hydroxyapatite)
สารเติมเต็มกลุ่มกึ่งถาวรนี้มีใช้ในต่างประเทศ แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้รักษาในประเทศไทย
3. Permanent Filler (แบบถาวร)
ฟิลเลอร์แบบถาวร เป็นสารเติมเต็มพวก ซิลิโคน หรือ พาราฟิน หลังฉีดไปแล้วผิวจะไม่สามารถดูดซึมฟิลเลอร์ชนิดนี้ได้ ทำให้คงค้างอยู่ในชั้นผิวของเรา โดยไม่สามารถสลายไปตามธรรมชาติ มีผลข้างเคียงในระยะยาว เช่น ฟิลเลอร์ไหล ฟิลเลอร์ย้อยผิดรูป ดังนั้น แพทย์จึงไม่แนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์ประเภทนี้
ฟิลเลอร์ชนิดสลายและไม่สลาย
สารที่นำมาใช้ฉีดเพื่อเติมเต็มนั้น โดยรวมเราจะเรียกกันว่า “ ฟิลเลอร์ ” (Filler) ทั้งหมดโดยฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าสู่ผิวหนังนั้น มีหลากหลายประเภท บางประเภทให้ผลลัพธ์ยาวนาน และบางประเภทก็ให้ผลลัพธ์เพียงชั่วคราว
หากเป็นประเภทฟิลเลอร์ที่ทำจากสารที่ร่างกายสามารถค่อย ๆ สลายออกไปได้ หรือ ฟิลเลอร์ธรรมชาติที่มาจากร่างกายของเราเอง ซึ่งแต่ละชนิดนั้น มีข้อดีและข้อเสียต่างกันออกไป
1. ฟิลเลอร์ที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้
1.1 ฟิลเลอร์สารสังเคราะห์
- ฟิลเลอร์ที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน คือ ฟิลเลอร์กลุ่ม กรดไฮยาลูรอนิก (HA) สารชนิดนี้จะสามารถจับตัวกับน้ำและพองขึ้นเป็นเจล มีคุณสมบัติส่งผลให้ผิวหนังเต่งตึง มีอายุประมาณ 6-12 เดือน และเป็นฟิลเลอร์ชนิดเดียวที่ อย.ไทยรับรอง
- แคลเซียมฟิลเลอร์ สารชนิดมาจาก Calcium Hydroxyapatite หรือ CaHA ฟิลเลอร์ชนิดนี้สามารถฉีดเพื่อแก้ไขเติมเต็มได้ นอกจากการฉีดบนใบหน้าและมือแล้ว ยังสามารถนำมาใช้ในการเติมหน้าอกและสะโพกได้อีกด้วย ผลการรักษาอยู่ได้นาน 2 ปี
- กรดโพลี แอล แลคติก (Poly L lactic acid หรือ PLLA) คือ สารอุ้มน้ำที่มีความเข้ากันได้กับเนื้อเยื่อในร่างกายและสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ PLLA เป็นฟิลเลอร์ที่ได้ผลอยู่นานกว่าไฮยารูลอนิกแอซิด ให้ผลลัพธ์ยาวนานถึง 2-4 ปี
1.2 ฟิลเลอร์จากร่างกายของคนไข้เอง
การฉีดฟิลเลอร์ชนิดนี้ ก็คือ ฉีดไขมัน หรือ Fat grafting ที่นำมาจากบริเวณต้นขา สะโพก หรือหน้าท้องของคนไข้เอง และจะมีกระบวนการ 2 ขั้นตอน คือ การนำไขมันออกมาโดยวิธีการดูดไขมัน และฉีดไขมันเข้าไปยังส่วนที่ต้องการเติมเต็มนั่นเอง
2. ฟิลเลอร์ที่ร่างกายไม่สามารถดูดซึม
โพลีเมธิลเมธาไครเลต บีทส์ (Polymethylmethacrylate beats หรือ PMMA microspheres) เป็นสารเติมเต็มจำพวก ซิลิโคน หรือ พาราฟิน คือ พลาสติกสังเคราะห์ เป็นสารสังเคราะห์เช่นเดียวกับ PLLA ที่มีความเข้ากันได้กับเนื้อเยื่อในร่างกาย แต่ไม่สามารถย่อยสลายตามธรรมชาติได้
ข้อเสีย คือ การเอาออกหรือไม่สามารถทำการฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ การเอาออกเพียงทางเดียวคือต้องตัดเนื้อเยื่อบริเวณนั้นออกไป
ฉีดฟิลเลอร์ อันตรายหรือไม่
- ฟิลเลอร์ปลอม เสี่ยงการอุดตันในเส้นเลือด
- แพทย์ที่ทำการฉีดต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
- แพทย์มีความเชี่ยวชาญด้านกายวิภาค และลดความเสี่ยงในการฉีดโดนเส้นเลือด
โดยปกติแพทย์จะเป็นผู้แนะนำว่าผิวของเราเหมาะกับฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนรุ่นไหน ซึ่งส่วนหนึ่งก็ขึ้นกับความถนัดและเทคนิคการฉีดของหมอแต่ละคนด้วย
เจาะลึกฟิลเลอร์ : ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม
ตำแหน่งยอดฮิตที่นิยมฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์สามารถฉีดได้หลากหลายตำแหน่ง ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล หรือต้องการที่จะเสริมในบริเวณไหน ส่วนใหญ่ตำแหน่งที่นิยมฉีดกันมาก มีทั้งหมด 8 ตำแหน่ง ดังนี้
1. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
สาเหตุการเกิดรอยคล้ำหมองของใต้ตา มีด้วยกันหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น การพักผ่อนไม่เพียงพอ ใต้ตาคล้ำจากโรคภูมิแพ้ ลักษณะทางพันธุกรรม หรือแม้กระทั่ง กระดูกใต้ตายุบลง จากสาเหตุอายุที่เพิ่มมากขึ้น โดยสามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
เจาะลึกฟิลเลอร์ใต้ตา : ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ข้อดี-ข้อเสีย อันตรายไหม รู้จริงกับหมอขนม [2023]
2. ฉีดฟิลเลอร์คาง
ฟิลเลอร์คาง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาคางสั้น คางบุ๋ม คางตัด คางยื่นไม่เข้ากับรูปหน้า หรือใกล้ปากมากเกินไป การฉีดฟิลเลอร์คาง จึงมีส่วนช่วยในการปรับรูปหน้า เติมส่วนที่ขาดหายให้ใบหน้าดูสมส่วนมากยิ่งขึ้น
เจาะลึกฟิลเลอร์คาง : รวมข้อควรรู้ ฟิลเลอร์คาง เติมส่วนที่ขาดให้สวย
3. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
ปัญหาร่องแก้มลึก ทั่วไปร่องลึกนี้จะลึกมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่ออายุย่างเข้าสู่ 25 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะผู้หญิงเห็นชัดกว่าผู้ชาย เพราะร่องแก้มลึกจะทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย ต้องแก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม จะช่วยให้ร่องแก้มตื้นขึ้น ใบหน้าดูอวบอิ่ม ไม่โทรม
เจาะลึกฟิลเลอร์ร่องแก้ม : ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฉีดแล้วปลอดภัย สวยได้ไม่เสี่ยง
4. ฉีดฟิลเลอร์จมูก
การฉีดฟิลเลอร์จมูก เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการผ่าตัด เหมาะสำหรับคนที่ต้องการปรับแก้ไขรูปจมูกให้สวย มีมิติ สามารถเติมปลายหยดน้ำ หรือปรับรูปให้จมูกสวยงามตามลักษณะของโหงวเฮ้งให้ดีได้อีกด้วย
เจาะลึกฟิลเลอร์จมูก : รวมทุกเรื่อง ฉีดฟิลเลอร์จมูก สวย ปลอดภัย
5. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
เมื่ออายุมากขึ้น หน้าผากก็จะเล็กและแคบลง เนื่องจากกระดูกกะโหลกและชั้นผิวจะบางลงเมื่อเวลาผ่านไป เป็นสาเหตุที่ทำให้หน้าผากไม่สวย โค้งมน เกิดการยุบตัวลง ส่งผลให้ใบหน้าดูไม่มีมิติ และขาดสมมาตร ต้องแก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ทั้งนี้ฟิลเลอร์หน้าผากยังช่วยในเรื่องการปรับโหงวเฮ้งให้ดีด้วย
เจาะลึกฟิลเลอร์หน้าผาก : ปรับโหงวเฮ้งให้เฮง ด้วยการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
6. ฉีดฟิลเลอร์ปาก
สำหรับริมฝีปากที่คอลลาเจนน้อยลงจะดูไม่อิ่มเอิบ เห็นริ้วรอยได้ง่าย ดูแห้ง ส่งผลทำให้ความมีเสน่ห์ น่าดึงดูดลดน้อยลงด้วย ฉะนั้นการฉีดฟิลเลอร์ปากจะช่วยให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม ชุ่มชื้นและมีเสน่ห์น่ามอง
เจาะลึกฟิลเลอร์ปาก : รวมสิ่งที่ต้องรู้ก่อนฟิลเลอร์ปาก
7. ฉีดฟิลเลอร์ขมับ
ปัญหาขมับตอบ เกิดจากโครงสร้างกะโหลกศีรษะของแต่ละบุคคล การฉีดฟิลเลอร์ขมับ จะช่วยปรับรูปหน้าโดยรวมให้ได้สัดส่วนมากขึ้น และช่วยลดความเด่นของโหนกแก้มลง และช่วยในเรื่องการเสริมโหวงเฮ้งอีกด้วย
เจาะลึกฟิลเลอร์ขมับ : ฟิลเลอร์ขมับ ปรับรูปหน้า โหนกแก้มดูเล็กลงได้โดยไม่ต้องผ่าตัด [อัปเดต 2023]
8. ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ
สาเหตุแก้มตอบเกิดจากผอมเกินไป หรือ ลดน้ำหนักรวดเร็วเกินไป ผลกระทบจากการจัดฟัน พันธุกรรม หรือมีโหนกแก้มสูงเกินไป ส่งผลให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย โทรม ไม่สดใส การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบจะช่วยให้ผิวก็จะดูเรียบเนียนขึ้น ทั้งยังช่วยในการปรับโหงวเฮ้ง ช่วยส่งเสริมในเรื่องต่าง ๆ ตามหลักความเชื่อชาวจีนอีกด้วย
เจาะลึกฟิลเลอร์แก้มตอบ : ฟิลเลอร์แก้มตอบ แก้ปัญหาเนื้อแก้มแบบไม่ต้องพักฟื้น
การฉีดฟิลเลอร์แต่ละตำแหน่งนั้น ใช้ปริมาณฟิลเลอร์ไม่เท่ากัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาบนใบหน้าของคนไข้แต่ละคน โดยแพทย์จะประเมินว่าในแต่ละตำแหน่ง ใช้ปริมาณฟิลเลอร์เท่าไหร่จึงจะเพียงพอ โดยรวมแล้วขึ้นอยู่กับสภาพผิวของคนไข้และปัญหาที่จะทำการแก้ไขในบริเวณนั้น ๆ ด้วย
** เป็นปริมาณโดยคร่าว ขึ้นกับระดับปัญหาของแต่ละบุคคล
อาการแพ้ฟิลเลอร์
อาการแพ้ฟิลเลอร์ เป็นการแพ้สารบางชนิดในฟิลเลอร์ โดยโอกาสที่จะพบคนที่แพ้ฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid น้อยกว่า 1%
หากใครที่มีอาการแพ้ จะมี 2 รูปแบบ ดังนี้
- ลมพิษแบบรุนแรง (Angioedema) : อาการแพ้จะแสดงให้เห็นลมพิษขึ้นมาอย่างรุนแรง
- อาการแพ้ฟิลเลอร์ (Delay Hypersensitivity) : อาการแพ้ฟิลเลอร์ชนิดนี้จะเป็นก้อนบวม นูนแดงอักเสบ มักเกิดอาการ ได้ภายในระยะเวลา 6 เดือนหลังจากฉีดฟิลเลอร์ไปแล้ว
โดยเบื้องต้นสามารถทานยาฆ่าเชื้อ เพื่อบรรเทาอาการบวมได้ แต่ถ้าหากรุนแรงมากอาจต้องเข้ามาพบแพทย์เพื่อทำการฉีดสลายฟิลเลอร์
การใช้ฟิลเลอร์ในการรักษานั้นมีราคาค่อนข้างสูง ปริมาณที่ใช้ก็ขึ้นอยู่กับปัญหาและสภาพผิว ซึ่งหากใช้ฟิลเลอร์แท้จะมีราคาค่อนข้างสูง (อย่างต่ำประมาณ 1X,000 บาท/CC.)
ฟิลเลอร์แบรนด์ที่หมอใช้เป็นประจำและอยากแนะนำ คือ แบรนด์ Juvederm Restylane และ Belotero เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของคุณภาพและความปลอดภัย มีผลงานการศึกษาถึงความปลอดภัยเป็นเวลานาน
เจาะลึกฟิลเลอร์ : ฟิลเลอร์ 1 cc ปริมาณเท่าไร
ปัจจุบันมีฟิลเลอร์หลากหลายยี่ห้อหลายรุ่นด้วยกัน แต่ละรุ่นราคาก็แตกต่างกันไป
**สำคัญ อย่าลืมปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษา และเลือกให้เหมาะกับปัญหาที่จะแก้ไข เพื่อความปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างตรงจุด สำหรับยี่ห้อที่ได้รับความนิยมและผ่านการรับรองในประเทศไทย มีดังนี้
1. Juvederm
Juvederm นำเข้าจากอเมริกา มีหลากหลายรุ่นให้เราเลือกใช้ ตามความเหมาะสมของแต่ละส่วน เจาะลึกฟิลเลอร์ Juvederm ของแท้
- Ultra / Ultra plus เป็น 2 รุ่นของฟิลเลอร์แบรนด์อเมริกา ที่ให้ความเข้มข้นของสาร HA ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เก็บกักน้ำได้ดี ทนต่อการขยับ เหมาะในการเติมเต็มขมับ ร่องแก้ม ปาก และแก้มตอบ อยู่ได้นาน 12-15 เดือน
- Voluma filler ฟิลเลอร์เนื้อแข็งฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับฉีดใต้ตา ฉีดปาก ร่องแก้ม คางและขมับ อยู่ได้นาน 16-18 เดือน
- Volift filler ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความละเอียดสูง เหมาะในการใช้สำหรับแก้ไขร่องลึกและรอยย่น อันเนื่องมาจากสภาวะต่าง ๆ มุมปาก เติมระหว่างคิ้วได้ เช่นการแก่ก่อนวัย อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Vobella filler ฟิลเลอร์ตัวนี้มีลักษณะเป็นเนื้อนิ่ม ที่มีความละเอียดสูงที่สุด เน้นใช้กับคาง หน้าผาก, ขมับตอบ หรือการฉีดลิฟติ้งยกใบหน้า ฉีดแล้วมีความธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Volite filler ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เหมาะกับฉีดในผิวชั้นตื้น ใช้สำหรับเติมเต็มรอยที่ผิวหนัง และเก็บรายละเอียดริ้วรอยเล็ก เพิ่มความชุ่มชื้น ลดรอยยับของผิวหนัง ตำแหน่งที่นิยมใช้ คือ ใต้ตา และเพื่อบำรุงผิว (Skin booster) อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
2. Restylane
Restylane ฟิลเลอร์จากสวีเดน การันตีจากอย FDA อเมริกา และ CE MARKS จากยุโรป มีมากมายหลายรุ่นให้เลือกใช้กับแต่ละตำแหน่งปัญหาเช่นกัน อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 12-18 เดือน เจาะลึกฟิลเลอร์ : ฟิลเลอร์ Restylane ดีไหม หมอขนม Restylane Trainner มีคำตอบ
- Restylane classic ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง สำหรับแก้ปัญหาริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก ใช้เก็บรายละเอียดใต้ตา นิยมนำมาใช้ในการรักษาตำแหน่ง Midface ใต้ตา แก้มส้ม ร่องแก้ม ร่องพับมุมปาก ร่องพับคาง อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Restylane Refyne ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับผิวหนังที่บาง แก้ปัญหารอยยับเล็ก ๆ ที่ต้องการความละเอียด เหมาะสำหรับฉีดปาก ร่องแก้ม มุมปาก รอบดวงตา อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Restylane Defyne ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง เนื้อเจลมีความนิ่มปานกลาง สามารถอุ้มน้ำได้มาก นิยมใช้รักษาบริเวณ midface หรือนำมาใช้ในการเติมเต็มแก้มส้ม ร่องน้ำหมาก ร่องพับคาง ใต้ตา ปาก อยู่ได้นาน 16-18 เดือน
- Restylane Lyft
ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง นิยมนำมาเติมเต็มแก้ไขในจุดที่ต้องการแรงยกสูง เช่น บริเวณขมับ ตามตำแหน่งเส้นเอ็นต่าง ๆ ของใบหน้า คาง ร่องแก้ม ใต้ตา จมูก เป็นต้น อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Restylane Volyme ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ใช้เติมชั้นผิวให้ เติมผิวให้อิ่มฟูขึ้น นิยมนำมาใช้ในการรักษาในตำแหน่งที่ต้องการการเติมเต็มที่สมบูรณ์แบบ เช่น บริเวณแก้มตอบ ร่องแก้ม ปาก และมุมปาก เป็นต้น อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Restylane Vital ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เหมาะสำหรับแก้ไขปัญหา ริ้วรอย ร่องลึก ตื้น ๆ ฉีดใต้ตา หน้าผาก ให้เรียบเนียนเป็นธรรมชาติ ช่วยปรับความชุ่มชื้นของผิว อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Restylane Vital light ฟิลเลอร์เจลอนุภาคเล็ก เนื้อละเอียดมากที่สุด แก้ไขปัญหาจะใช้แก้ไขบริเวณ หลุมสิว รอยคล้ำใต้ตา หรือบริเวณที่ต้องการความชุ่มชื้นเป็นหลัก เช่น ใต้ตา ปาก หลังฝ่ามือ ฝ่าเท้า รวมถึงการแก้ไขปัญหาที่ลำคอ และเนินอก อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
- Restylane Kysse *new ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ผลิตขึ้นเพื่อปรับรูปปากโดยเฉพาะ เป็นเทคโนโลยีผสมผสาน OBT ช่วยเติมเต็มริมฝีปากให้ดูชุ่มชื้น เรียบเนียน เพิ่มวอลลุ่มให้ริมฝีปากดูสวย สุขภาพดี อยู่ได้นาน 12 เดือน อ่านเพิ่มเติม >>> ฟิลเลอร์ Kysse
3. Belotero
Belotero filler หรือ colorful filler จากสวิสเซอร์แลนด์ ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะราคาไม่แพงจับต้องได้ ผลิตด้วยเทคโนโลยี CPM Technology ซึ่งเป็นนวัตกรรมการผลิตพิเศษที่มีแค่ยี่ห้อนี้เท่านั้น ทำให้ได้เนื้อเจลที่มีความเรียบเนียน กลืนกับผิวหน้าได้ดี สามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกสภาพผิว มี 4 รุ่นให้เลือกใช้ เจาะลึกฟิลเลอร์ : ทำความรู้จักฟิลเลอร์ Belotero
- Belotero Soft ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด โมเลกุลเล็ก นิยมใช้สำหรับในการเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวใส หน้าฉ่ำวาว มีน้ำมีนวล เก็บริ้วรอยเล็ก ๆ นิยมใช้บริเวณหน้าแก้ม ใต้ตา และรักษาหลุมสิวที่ไม่ลึกมากได้ด้วย อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
- Belotero Balance นิยมใช้สำหรับบริเวณใต้ตา เพิ่มความกระจ่างใส เรียบเนียน ไม่เป็นก้อน สร้างขอบปากและสร้างร่องเหนือริมฝีปากให้ชัดมากขึ้น อีกทั้งยังใช้บริเวณหน้าผากที่มีปัญหาไม่มากได้ รวมไปถึงหลุมสิวไม่ลึก อยู่ได้นาน 12-18 เดือน
- Belotero Intense ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นสูง นิยมใช้สำหรับบริเวณที่มีการขยับบ่อย ๆ เช่น ขมับ หรือริมฝีปาก และใช้ยกกระชับใบหน้า รวมไปถึงริ้วรอยร่องลึกตามใบหน้า อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Belotero Volume ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก นิยมใช้ในการเติมเต็มในบริเวณที่ต้องการการคงที่ของฟิลเลอร์ เช่น คาง ขมับ แก้มส้ม ปาก อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Belotero Revive *new ฟิลเลอร์ตัวแรกของโลกที่เพิ่มส่วนผสมของ HA+Glycerol (Duo Action) ที่มีประสิทธิภาพในการกักเก็บความชุ่มชื้นจากชั้นผิวหนังด้านในสู่ด้านนอก เหมาะสำหรับการฉีดบำรุงผิว เน้นการฟื้นฟู เพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว ไม่เน้นปรับโครงสร้างผิวเหมือนรุ่นอื่น ๆ อยู่ได้นาน 9 เดือน
4. Perfectha
Perfectha filler new generation จากฝรั่งเศส ผ่านการตรวจรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ไทย และต่างประเทศ
เจาะลึกฟิลเลอร์ : ฟิลเลอร์ Perfectha
Neuramis filler จากประเทศเกาหลี ราคาประหยัด ซึ่งตอนนี้ผ่านการรับรองในประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว
เจาะลึกฟิลเลอร์ : ฟิลเลอร์ Neuramis ของแท้ดูอย่างไร
6. Definisse filler
Definisse ฟิลเลอร์บริสุทธิ์น้องใหม่ ผู้ผลิตเดียวกับไหม Definisse จากประเทศอิตาลี บริษัท RELIFE Menarini Group และ A.Menarini (Thailand) Ltd. ฟิลเลอร์ Definisse ใช้เทคโนโลยี XTR™ Technology (eXcellent Three-Dimensional Reticulation) ที่ช่วยในการยกพยุง และยกกระชับปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 รุ่น คือ
- Touch เหมาะสำหรับการเติมหน้าผากให้ดูสวยเป็นธรรมชาติ
- Restore เหมาะสำหรับฉีดเติมริ้วรอยร่องลึก รอยหย่อนคล้อยร่องแก้ม ร่องมุมปาก
- Core เหมาะในการใช้ปรับโครงสร้างหน้า หรือยกพยุงหน้า
ซึ่งความพิเศษ คือ ตัวไซริงค์ทำจากแก้ว มีลักษณะใสทำให้สามารถมั่นใจได้ถึงความบริสุทธิ์ของตัวฟิลเลอร์ ดันตัวยาได้ง่ายทำให้ผู้เข้ารับบริการเจ็บน้อยลง ถูกพัฒนาและทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญและผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ( อย.ไทย )
เจาะลึกฟิลเลอร์ : ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ มีอะไรบ้าง
7. Rejuran
รีจูรัน (Rejuran) ฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลีใต้ เป็นสารสกัดจาก Polyneucleotide (PN) ที่มีความเข้มข้น 2% มาจาก DNA ของปลาแซลมอน (Salmon DNA) ที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดเซลล์ผิวใหม่ ช่วยเรื่องการฟื้นฟูใบหน้าในระดับชั้นผิวหนังแท้ ให้ผิวดูฉ่ำวาว มีออร่า เปร่งปรั่ง แข็งแรง และดูสุขภาพดี
ปัจจุบันรีจูรัน ที่นำเข้าไทยจะมีทั้งหมด 3 รุ่น 3 สี แต่ข้อมูลล่าสุด ณ ปี 2022 มีเพียง Rejuran Healer (กล่องสีดำ) รุ่นเดียวเท่านั้น ที่ผ่าน อย.ไทยส่วนอีก 2 รุ่น Rejuran S และ Rejuran I ยังไม่ผ่าน อย. ไทยค่ะ
8. Yvoire
รับชมวิดีโอ : ทำไมฟิลเลอร์ถึงมีหลายรุ่น พร้อมวิธีการเลือกฟิลเลอร์
การเลือกฟิลเลอร์แท้ และ ฟิลเลอร์คุณภาพ
ในการเลือกฉีดฟิลเลอร์ สิ่งแรกที่ต้องให้ความสำคัญ คือฟิลเลอร์ที่เราฉีดเป็นฟิลเลอร์แท้หรือไม่ ? การฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้งจะต้องมั่นใจได้ว่าฟิลเลอร์ที่เราฉีดนั้น ได้รับการรับรอง และตรวจสอบมาตรฐานโดยองค์การอาหารและยาประเทศไทย
เราต้องทราบ วิธีการตรวจสอบฟิลเลอร์แท้หรือปลอม หรือวิธีการสังเกตฟิลเลอร์เบื้องต้น เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง สำหรับกรณี ของแท้จากต่างประเทศ แต่ลักลอบหิ้วเข้ามาฉีด โดยปกติกระบวนการเก็บรักษา ในกระบวนการหิ้วฟิลเลอร์หนีภาษีจากต่างประเทศนั้น ต้องขนส่งหลายต่อ อาจทำให้ฟิลเลอร์เสื่อมไม่ได้คุณภาพ
เจาะลึกฟิลเลอร์ : ฟิลเลอร์ปลอม คืออะไร ส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างไร ?
ระยะเวลาของฟิลเลอร์ อยู่ได้นานแค่ไหน
ส่วนใหญ่โดยมาตรฐานของฟิลเลอร์แล้ว จะขึ้นกับปริมาณความเข้มข้นของ Hyaluronic Acid และเทคโนโลยีการผลิต ที่ได้รับมาตรฐานการรับรองจากองค์การอาหารและยา เป็นสารที่เลียนแบบสารที่มีตามธรรมชาติ สามารถย่อยสลายได้เอง ตามกระบวนการทางธรรมชาติของร่างกายโดยไม่ทิ้งสารตกค้าง
แต่สิ่งที่ควรระวัง คือ ฟิลเลอร์ปลอม หรือ ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน สารเหล่านี้จะไม่สามารถย่อยสลายไปได้เอง
เจาะลึกฟิลเลอร์ : ฟิลเลอร์ อยู่ได้นานแค่ไหน ?
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ ที่ RWC Clinic ของเรานั้น จะประกอบไปด้วย 4 ขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้
1. ประเมินใบหน้าและวางแผน
แพทย์จะทำการประเมินดูลักษณะของใบหน้าและปัญหาผิว เพื่อตรวจดูบริเวณที่จะแก้ไขโดยการทำเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ในแต่ละจุด รวมถึงมีการถ่ายภาพใบหน้าบริเวณที่จะทำการรักษาเพื่อวัดผลการเปลี่ยนแปลงหลังฉีด
2. ทำความสะอาดและใช้ยาระงับความรู้สึก
ขั้นตอนนี้จะต้องเช็ดทำความสะอาดใบหน้าก่อน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ จากนั้นจะเป็นขั้นตอนการทายาระงับความรู้สึก หรือ อาจใช้อุปกรณ์เย็นจัด ที่จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดที่อาจเกิดขึ้นขณะฉีดฟิลเลอร์
3. ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ จะใช้เวลาในการฉีดแต่ละเข็มเพียงไม่นาน แพทย์จะทำการนวดและประเมินผลการตรวจไปพร้อมกับการฉีดฟิลเลอร์ หรืออาจมีการเพิ่มปริมาณของฟิลเลอร์ตามที่แพทย์เห็นสมควร
4. การทำความสะอาดแผลและพักฟื้น
เมื่อแพทย์เห็นว่าผลลัพธ์ของการรักษาเป็นที่พอใจแล้ว จะลบทำความสะอาดเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ออก และใช้น้ำแข็งประคบเพื่อลดอาการบวมและบรรเทาความรู้สึกไม่สบายที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้ป่วย โดยผิวหนังที่ฉีด อาจมีการฟกช้ำจากรอยเข็ม 1-2 วัน
โดยอาการข้างเคียงจะดีขึ้นภายในไม่กี่ชั่วโมง หรือเพียง 2-3 วัน ทั้งนี้หากเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงใด ๆ ควรไปพบแพทย์ที่ทำการรักษาเพื่อให้ตรวจดูความผิดปกติที่เกิดขึ้น
* หลีกเลี่ยงอาหารเสริมหรือยาบางชนิด อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เช่น ยาแก้ปวด กลุ่ม NSAIDs, แอสไพริน (aspirin) และ ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) สมุนไพรก็จะเป็น น้ำมันตับปลา แปะก๊วย โสม เป็นต้น
ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์
หากฟิลเลอร์ที่ฉีดนั้นเป็นฟิลเลอร์แท้จะไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่อันตราย แต่อาจจะมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคันได้ในจุดที่ทำการฉีดฟิลเลอร์เล็กน้อยเป็นปกติ ให้หลีกเลี่ยงการแตะ การเกา การกดนวดในจุดนั้น ๆ อาการต่าง ๆ จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน หาก 3 วัน อาการไม่ดีขึ้น แนะนำให้พบแพทย์คลินิกที่ได้ทำการรักษา เจาะลึกฟิลเลอร์ : ฉีดฟิลเลอร์อันตรายหรือไม่
สลายฟิลเลอร์ คืออะไร
สลายฟิลเลอร์ คือ การฉีดสารเพื่อสลายฟิลเลอร์ ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์มาแล้วเกิดผลลัพธ์ที่ไม่พึ่งประสงค์ สามารถใช้เอ็นไซม์ไฮยาลูโรนิเดส ( Hyarulonidase :HYAL) ฉีดสลายฟิลเลอร์กลุ่ม ไฮยารูลอนิกแอซิด Hyaluronic Acid: HA (เจาะลึกการสลายฟิลเลอร์)
**สามารถสลายได้เฉพาะฟิลเลอร์แท้ที่ทำมาจากกรดไฮยาลูรอนิกเท่านั้น
วิดีโอ : ข้อควรรู้ก่อนฉีดสลายฟิลเลอร์ที่ RWC Clinic
การเข้ารับบริการการฉีดฟิลเลอร์ แพทย์ผู้ทำการรักษาจะทายาชาก่อน จะออกฤทธิ์โดยระงับการทำงานของระบบประสาท ทำให้ผิวหนังและเนื้อเยื่อบริเวณโดยรอบที่ทายา จะไร้ความรู้สึกชั่วคราว ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ รวมไปถึงตัวของฟิลเลอร์เองมีส่วนผสมของยาชา (Lidocane) อยู่ด้วย
ดังนั้นระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ สามารถมั่นใจได้ว่าแทบจะไม่รู้สึกเจ็บเลย รวมทั้งหลังยาชาหมดฤทธิ์แล้ว ก็จะไม่มีความรู้สึกเจ็บเช่นกัน
อีกปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการฉีดฟิลเลอร์ก็คือ การเลือก ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี เพราะฉีดครั้งหนึ่งจะต้องคำนึงถึงผลลัพธ์ที่ตามมา จะส่งผลดีหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยและความพึงพอใจของผู้เข้ารับบริการเอง โดยมีปัจจัยดังนี้
1. มีรีวิวที่น่าเชื่อถือได้
ต้องดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง พิจารณาจากแหล่งที่เป็นกลางและน่าเชื่อถือ มีความเป็นปัจจุบัน และควรดูรีวิวที่เป็นคลิปวิดีโอก่อน-หลังทำ จะสามารถเปรียบเทียบได้อย่างชัดเจน
2. มีราคาที่เหมาะสม
ราคาต้องไม่สูงหรือต่ำต่างไปจากคลินิกอื่น ๆ มาก ซึ่งอาจจะแตกต่างกันได้ในด้านความชำนาญของแพทย์ หากเป็นฟิลเลอร์ที่มีราคาถูกจนเกินไป ให้เดาได้เลยว่าน่าจะเป็นฟิลเลอร์ปลอมหรือฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน
3.ดูเคสรีวิวของแพทย์แต่ละคน
แพทย์ต้องมีประสบการณ์และความชำนาญเฉพาะทางด้านการฉีดฟิลเลอร์ การวางตัวยาในตำแหน่งชั้นผิวแบบใดแก้ปัญหาใด เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นธรรมชาติ และบวมช้ำน้อยที่สุด และ ไม่เกิดปัญหาหลังการฉีดฟิลเลอร์ในแบบต่าง ๆ
อ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวม
1. ประเภทของฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ สามารถแบ่งประเภทได้หลากหลายรูปแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการได้อย่างครอบคลุม คือ ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว ฟิลเลอร์แบบกึ่งชั่วคราว และฟิลเลอร์แบบถาวร
2. ฟิลเลอร์แท้ หรือ ฟิลเลอร์ปลอม
ฟิลเลอร์ที่ใช้ต้องเป็นฟิลเลอร์แท้เท่านั้น สามารถดูรายละเอียดได้จาก การเลือกฟิลเลอร์แท้ และ ฟิลเลอร์คุณภาพ และ วิธีการตรวจสอบฟิลเลอร์แท้หรือปลอม
3. แพทย์ผู้ทำการรักษา
แพทย์จริงต้องสามารถตรวจสอบรายชื่อแพทย์ได้ที่ เว็บไซต์ของแพทย์สภา แพทย์ที่ทำการรักษาจะต้องเป็นแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านกายวิภาค เส้นเลือดบนใบหน้า และการวางตำแหน่งยาได้อย่างแม่นยำ
เจาะลึกโหงวเฮ้งใบหน้าเพิ่มเติม >>>ได้ที่นี่<<<
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ ที่ RWC
ภาพรีวิว












ตัวอย่างรีวิวฉีดฟิลเลอร์
คลิปรีวิว
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ (Filler) คือ สาร Hyaluronic Acid ที่ฉีดเพื่อเติมเต็มใบหน้า ริ้วรอย รอยหมองคล้ำดูจางลง รวมไปถึงการฉีดเสริมในจุดต่าง ๆ เช่น จมูก ปาก คาง ขมับ แก้มตอบ เป็นต้น
การฉีดฟิลเลอร์ไม่อันตรายอย่างที่คิด หากเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์แท้ และแพทย์ผู้ทำการรักษามีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านการฉีดฟิลเลอร์ มีความรู้ในเรื่องกายวิภาพเป็นอย่างดี
การเปลี่ยนแปลงจะเห็นได้ทันทีหลังฉีดฟิลเลอร์ โดยอาจจะมีอาการบวม แดง เขียวช้ำ แต่จะค่อย ๆ หายใน 1-2 วัน และหากมีอาการไม่ดีขึ้น บวมนานผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ที่ทำการรักษา
ไม่ค่ะ หลังฟิลเลอร์สลายหมดแล้ว ใบหน้าจะไม่ดูแก่ขึ้น แต่จะช่วยในเรื่องของการชะลอวัยมากกว่าค่ะ เนื่องจากผิวในบริเวณที่ฉีดจะมีความชุ่มชื้น คอลลาเจนและอีลาสตินก็จะถูกสร้างขึ้นมา เพื่อช่วยปรับสภาพผิวใหม่ แม้จะหมดผิวก็ยังคงดูดีค่ะ
สรุป
ฟิลเลอร์ หรือ สาร Hyaluronic Acid (HA) ที่เลียนแบบสารในร่างกาย ที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ บนใบหน้า เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม ปาก เต็มเติมใบหน้าให้เต่งตึง ปรับสภาพผิวให้ชุ่มชื้น การฉีดฟิลเลอร์จำเป็นต้องคำนึงถึงผลลัพธ์ที่ตามมา จะส่งผลดีต่อเมื่อใช้ของแท้ แพทย์ที่ฉีดมีประสบการณ์ หากใช้ฟิลเลอร์ปลอมจะทำให้เกิดอันตราย เช่น ตาบอด ฟิลเลอร์จับเป็นก้อนต้องฉีดสลายหรือผ่าตัดออกเท่านั้น ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยและความพึงพอใจของผู้เข้ารับบริการเอง ต้องศึกษารีวิว และข้อมูลสถานที่ให้บริการให้ชัดเจน
ถูกยอมรับจากสื่อชั้นนำ
ลงสื่อออนไลน์หลากหลายช่องทาง อาทิ Zolitic / Bright today / อมรินทร์ / 77ข่าวเด็ด / สมาร์ท SME Channel / SMEชี้ช่องรวย / NEW18 / สยามรัฐ / บิสเนสทูเดย์ / ThaiQuote
อันดับ 1 คลินิกฉีดฟิลเลอร์จาก Thaitopclinic
1 ในคลินิกฉีดฟิลเลอร์ชื่อดังจาก Wongnai