ฟิลเลอร์ (Filler) สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ที่มีอยู่แล้วในร่างกายตามธรรมชาติ มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ ช่วยเติมเต็มร่องลึก ริ้วรอย เพิ่มวอลุ่มให้กับใบหน้า ปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ นิยมฉีดบริเวณร่องแก้ม ใต้ตา ขมับ คาง หน้าผาก ริมฝีปาก จมูก
หลังฉีดฟิลเลอร์ ถ้าต้องการให้ผลลัพธ์ดูสวย ดูดี และปลอดภัย บทความนี้มาเช็คลิสต์หลังฉีดฟิลเลอร์กัน ว่าควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไร รวมถึงข้อควรระวัง และอาการข้างเคียงที่พบได้หลังการฉีด ตามมาอ่านกันค่ะ
- ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์
ทันทีหลังฉีดฟิลเลอร์
3 – 48 ชั่วโมงหลังฉีดฟิลเลอร์
3 – 14 วันหลังฉีดฟิลเลอร์
1 เดือนหลังฉีดฟิลเลอร์ - ข้อระวังหลังฉีดฟิลเลอร์แต่ละบริเวณ
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ
หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
หลังฉีดฟิลเลอร์คาง - อาการข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ ที่อาจเกิด
อาการทั่วไปที่พบบ่อย
อาการที่ควรระวัง (พบได้น้อย) - คำถามที่พบบ่อย (FAQ) หลังฉีดฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเห็นผล? บวมกี่วัน?
หลังฉีดฟิลเลอร์ล้างหน้าน้ำอุ่นได้ไหม?
หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง?
หลังฉีดฟิลเลอร์ ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานแค่ไหน?
หลังฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรก กับครั้งถัดไป ใช้ต่างยี่ห้อกันได้ไหม?
สรุป
การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง มาดูกันว่ามีข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ มีอะไรบ้าง ดังต่อไปนี้
ทันทีหลังฉีดฟิลเลอร์
- ประคบเย็นบริเวณที่ฉีด 10 -15 นาทีต่อครั้ง
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือนวดบริเวณที่ฉีดช่วง 24 ชั่วโมงแรก
- นั่งตัวตรงประมาณ 4 ชั่วโมง ไม่นอนราบเพื่อลดอาการบวม
- งดการแต่งหน้า 24 ชั่วโมงแรกบริเวณที่ฉีด
- ประคบเย็นต่อเนื่อง (10 นาทีทุก 1-2 ชั่วโมง)
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก การออกกำลังกายเพิ่มการไหลเวียนเลือด อาจทำให้เกิดอาการบวมมากขึ้น
- งดดื่มแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์ทำให้หลอดเลือดขยายตัว เพิ่มความเสี่ยงของการบวม
- หลีกเลี่ยงอาหารเผ็ดและร้อนจัด เพราะอาจไปกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณใบหน้า ทำให้เกิดอาการบวมได้
- นอนหงายศีรษะสูง เพื่อช่วยลดอาการบวมน้ำที่ใบหน้าได้
- ใช้ครีมกันแดด SPF 50++ ทุกวัน ควรทาให้ทั่วหน้าสม่ำเสมอ โดยเฉพาะก่อนออกแดด และควรทาซ้ำทุก 3-4 ชั่วโมงเมื่ออยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนจัด ซาวน่า หรืออบไอน้ำ
- งดการนวดหน้าแรงๆ ป้องกันการเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์ไปยังตำแหน่งที่ไม่ต้องการ
- ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน
- หลีกเลี่ยงทรีตเมนต์ผิวหน้าอื่นๆ เช่น เลเซอร์ หรือการลอกผิว
- ดูแลผิวตามปกติ ใช้มอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำ
- ยังคงใช้ครีมกันแดดทุกวัน
- สามารถทำทรีตเมนต์ผิวหน้าอื่นๆ ได้ (ปรึกษาแพทย์ก่อน)
- สังเกตผลลัพธ์และปรึกษาแพทย์หากมีข้อสงสัย
- วางแผนการฉีดซ้ำ (ถ้าต้องการ) ตามคำแนะนำของแพทย์
ข้อระวังหลังฉีดฟิลเลอร์แต่ละบริเวณ
แต่ละตำแหน่งบนใบหน้ามีลักษณะเนื้อเยื่อที่แตกต่างกัน เช่น ใต้ตามีผิวที่บอบบางกว่าบริเวณอื่น ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย จึงมีข้อระวังเฉพาะที่ควรใส่ใจหลังฉีดฟิลเลอร์ มาทำความเข้าใจข้อระวังสำหรับแต่ละบริเวณเพื่อผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย ซึ่งการดูแลแต่ละตำแหน่ง มีดังนี้
- หลีกเลี่ยงการสวมแว่นตาแน่นเกินไป 1-2 วันแรก
- ระวังการใช้ครีมบำรุงรอบดวงตา ใช้เบา ๆ ไม่กดแรง
- งดสารเคมีหรือสารที่มีฤทธิ์กัดกร่อนบริเวณใต้ตาในช่วงแรก เช่น Retinol, AHA/BHA เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหลังทำได้
- นอนศีรษะสูงเพื่อลดอาการบวม
- หลีกเลี่ยงการขยี้ตาแรง ๆ
- งดจูบหรือใช้หลอดดูดเครื่องดื่ม 24-48 ชั่วโมงแรก
- เลี่ยงการกัดริมฝีปากหรือการยิ้มกว้าง ๆ ในช่วงสองสามวันแรกหลังฉีด
- ระวังการแปรงฟันในช่วงแรก เลี่ยงการแปรงฟันแรกๆ เพราะอาจไปกระทบบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ปากได้
- หลีกเลี่ยงอาหารร้อนจัดและเผ็ดมาก
- งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะสารเคมีในบุหรี่อาจไปรบกวนกระบวนการสมานแผลและทำให้หายช้าลง
หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
- หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงในช่วงแรก
- หลีกเลี่ยงอาหารที่ต้องเคี้ยวหนักหรือต้องอ้าปากกว้าง เพราะอาจไปกระทบการเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์ แนะนำอาหารเหลว นิ่ม เคี้ยวง่ายไปก่อนในช่วง 3-5 วันแรก
- หลีกเลี่ยงการยิ้มหรือหัวเราะกว้างมากเกินไปในช่วงแรก
- ใช้ความระมัดระวังเมื่อล้างหน้าหรือทาครีม
- หลีกเลี่ยงการนวดขมับแรงๆ
- เลี่ยงการสวมใส่เครื่องประดับศีรษะที่รัดแน่นเกินไป เช่น หมวก ที่คาดผม เพราะอาจไปกดทับหรือทำให้ฟิลเลอร์บริเวณขมับเคลื่อนได้
- หลีกเลี่ยงการนอนกดทับบริเวณขมับ
- ใช้ความระมัดระวังเมื่อหวีผมหรือทำผม
- หลีกเลี่ยงการขมวดคิ้วหรือยกคิ้วบ่อยๆ ในช่วงแรก
- ระวังการใส่แว่นตาที่มีกรอบหนักกดบนหน้าผาก
- หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหน้า ให้หาหมอนรองข้าง ๆ เพื่อหนุนตัวไม่ให้กลิ้งหรือพลิกตะแคงโดนบริเวณหน้าผาก
- ใช้ความระมัดระวังเมื่อล้างหน้าหรือทาครีม โดยแนะนำวิธีการล้างหน้าแบบเบามือ ไม่ถูหรือนวดแรง ๆ รวมถึงวิธีทาครีมโดยใช้นิ้วกลาง เกลี่ยครีมเป็นวงกลมแบบนุ่มนวล
- หลีกเลี่ยงการเกาหรือกดบริเวณคาง
- ระวังการใช้โทรศัพท์มือถือโดยกดที่คาง
- หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหน้าหรือตะแคงกดคาง
- ใช้ความระมัดระวังเมื่อโกนหนวดหรือแต่งหนวด (สำหรับผู้ชาย)
- หลีกเลี่ยงการกัดเคี้ยวอาหารเหนียวแข็ง ผู้อ่านควรเลือกทานอาหารลักษณะนิ่ม ละลายง่ายในช่วงแรกหลังฉีด เพื่อลดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบริเวณคางให้น้อยที่สุด
- บวม มักเกิดขึ้นใน 24-72 ชั่วโมงแรก
- รอยช้ำ อาจเห็นได้ 1-2 สัปดาห์
- แดง มักหายภายใน 1-2 วัน
- คัน อาจเกิดขึ้นเล็กน้อยในช่วงแรก
อาการเหล่านี้เป็นเรื่องปกติที่พบได้ทั่วไป และจะทุเลาลงได้เองตามระยะเวลาที่ระบุ กรณีอาการไม่ดีขึ้นหรือแย่ลงควรปรึกษาแพทย์ค่ะ
- ติดเชื้อ มีอาการบวม แดง ร้อน เจ็บมากผิดปกติ
- การอุดตันของเส้นเลือด ผิวซีดขาวผิดปกติ ปวดรุนแรง
- ภูมิแพ้รุนแรง หายใจลำบาก บวมมาก
ถ้าเกิดอาการผิดปกติรุนแรงหรือกังวล ให้รีบปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาทันที
อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์อันตรายไหม? ข้อดี-ข้อเสีย และสิ่งที่ต้องรู้ก่อนฉีด
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) หลังฉีดฟิลเลอร์
-
ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเห็นผล? บวมกี่วัน?
หลังฉีดฟิลเลอร์ให้ผลลัพธ์ทันที แต่ผลสมบูรณ์จะเห็นได้ชัดเจนหลัง 1-2 สัปดาห์ เมื่ออาการบวมหายสนิท โดยทั่วไป อาการบวมเล็กน้อยมักเกิดใน 24-72 ชั่วโมงแรก บวมปานกลาง 3-7 วัน และหายสนิทภายใน 1-2 สัปดาห์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดฟิลเลอร์ บริเวณที่ฉีด ปริมาณ และการตอบสนองของร่างกายแต่ละบุคคล
การประคบเย็นช่วยลดอาการบวมได้ หากบวมนานกว่า 2 สัปดาห์ควรปรึกษาแพทย์ ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
อ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเข้าที่? กี่วันเห็นผล?
-
หลังฉีดฟิลเลอร์ล้างหน้าน้ำอุ่นได้ไหม?
หลังทำฟิลเลอร์ช่วง 24 ชั่วโมงแรก ควรเลี่ยงการล้างหน้า หากจำเป็น ให้ใช้น้ำอุณหภูมิห้องเช็ดเบา ๆ 24-48 ชั่วโมงต่อมา สามารถล้างหน้าด้วยน้ำเย็นหรืออุณหภูมิห้องได้ หลัง 48 ชั่วโมง ใช้น้ำอุ่นได้แต่ไม่ควรร้อนจัด ล้างอย่างนุ่มนวล หลีกเลี่ยงการขัดถูแรง ๆ
การใช้น้ำอุ่นพอเหมาะช่วยให้ผิวสะอาดโดยไม่รบกวนฟิลเลอร์ ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
-
หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง?
เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง ควรหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มบางชนิดใน 24-48 ชั่วโมงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ ได้แก่ แอลกอฮอล์ อาหารรสเผ็ดจัด อาหารเค็ม คาเฟอีน อาหารที่ต้องเคี้ยวมากหรือแข็ง และอาหารร้อนจัด
สิ่งเหล่านี้อาจเพิ่มอาการบวม ฟกช้ำ หรือรบกวนบริเวณที่ฉีด แนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ทั้งนี้ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
-
หลังฉีดฟิลเลอร์ ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานแค่ไหน?
หลังฉีดฟิลเลอร์ ผลลัพธ์โดยทั่วไปจะอยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือนหรือมากกว่านี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ชนิดของฟิลเลอร์ บริเวณที่ฉีด ปริมาณที่ฉีด อายุและสภาพผิวของผู้รับการรักษา รวมถึงพฤติกรรมการดูแลผิวและไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล
อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน? ดูแลตัวเองยังไงให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นาน
-
หลังฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรก กับครั้งถัดไป ใช้ต่างยี่ห้อกันได้ไหม?
การใช้ฟิลเลอร์ต่างยี่ห้อระหว่างการฉีดครั้งแรกและครั้งถัดไปสามารถทำได้ แต่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องจากแต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติเฉพาะและอาจให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเปลี่ยนยี่ห้อ เพื่อประเมินความเหมาะสมและลดความเสี่ยงของปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์
การใช้ยี่ห้อเดิมมีข้อดีคือทราบผลลัพธ์และการตอบสนองของร่างกายที่แน่นอน อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนยี่ห้ออาจทำเพื่อต้องการผลลัพธ์ที่แตกต่างหรือตามคำแนะนำของแพทย์ ทั้งนี้ ควรรอให้ฟิลเลอร์เดิมสลายตัวหมดก่อนใช้ยี่ห้อใหม่เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
สรุป
สรุปแล้ว หลังฉีดฟิลเลอร์ มีควรทำการประคบเย็น เลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด และใช้ครีมกันแดดในบริเวณที่ฉีด มีข้อระวังคือควรเลี่ยงการสวมแว่นตาแน่นเกินไปหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หรืองดจูบหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
อาการข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ที่พบบ่อยคือบวม ช้ำ และแดง ซึ่งมักหายได้เอง ผลลัพธ์จะเห็นชัดเจนหลัง 1-2 สัปดาห์และอยู่ได้ 6-18 เดือน ทั้งนี้ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการค่ะ