ฟิลเลอร์อันตรายไหม? ข้อดี-ข้อเสีย และสิ่งที่ต้องรู้ก่อนฉีด

ฟิลเลอร์อันตรายไหม กับสิ่งที่ต้องรู้ก่อนฉีด

ฟิลเลอร์อันตรายไหม? คำถามยอดฮิตก่อนตัดสินใจฉีด ซึ่งมีทั้งข้อดีในการลดริ้วรอยและเติมเต็มร่องลึก แต่ก็มีความเสี่ยงต่อผลข้างเคียง เช่น บวม แดง ช้ำ ติดเชื้อ หรือเกิดก้อนใต้ผิวหนัง แม้เทคนิคการฉีดจะทันสมัยขึ้น แต่ภาวะแทรกซ้อนก็ยังเกิดได้เสมอ ขึ้นกับฝีมือแพทย์ คุณภาพวัสดุ และการดูแลตัวเองหลังฉีด 

การฉีดฟิลเลอร์ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ไม่ใช่ “หมอทั่วไป” เพราะอาจได้รับความเสี่ยงที่ร้ายแรงกว่า เช่น การอุดตันของหลอดเลือด หรือความเสี่ยงต่อการสูญเสียการมองเห็น

ฟิลเลอร์อันตรายไหม ต้องรู้อะไรบ้างก่อนฉีด

ฉีดฟิลเลอร์อีกเรื่องที่ควรรู้คือ ฟิลเลอร์อันตรายไหม?  แม้ฟิลเลอร์จะได้รับการรับรองและใช้อย่างถูกต้องมีความปลอดภัยสูง แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องตระหนัก ฟิลเลอร์ส่วนใหญ่ผลิตจากไฮยาลูรอนิค แอซิด ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกาย โดยในประเทศไทย อย. รับรองเฉพาะฟิลเลอร์ชนิดไฮยาลูรอนิค แอซิดเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม การเติบโตของอุตสาหกรรมความงามทำให้เกิดโปรโมชั่นราคาถูกที่อาจโฆษณาเกินจริง ผู้บริโภคควรระวังผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ผ่านการรับรอง อย. รวมถึงการใช้บริการจากคลินิกเถื่อน ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรงได้

ดังนั้น ผู้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน เลือกใช้บริการจากสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน และปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

ฟิลเลอร์อันตรายไหม คืออะไร

ฟิลเลอร์อันตรายไหม คืออะไร มีหน้าที่อะไร

ฟิลเลอร์  คือ สารเติมเต็มเพื่อเพิ่มปริมาตรหรือปรับรูปทรงของผิวหนังและเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง แก้ไขข้อบกพร่องบริเวณใบหน้า แก้ไขเรื่องริ้วรอย ทำหน้าที่ขยายและทำให้บริเวณที่ถูกฉีดดูเต็มขึ้น สิ่งสำคัญคือ จะต้องเป็นแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รู้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้องเหมาะสม มีความเชี่ยวชาญด้านกายวิภาค และ เส้นเลือดบนใบหน้า เพื่อให้การฉีดฟิลเลอร์นั้นออกมาสวยและปลอดภัยที่สุด

สำหรับอันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ ส่วนใหญ่มาจากแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญและขาดความรู้ในด้านกายวิภาค ถ้าฉีดไม่ดีอาจทำให้เกิดอันตราย  และมีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เช่น การอุดตันของหลอดเลือด หรือการเกิดก้อนใต้ผิวหนัง

ฟิลเลอร์อันตรายไหม? กับ 3 ชนิดฟิลเลอร์

1. Temporary filler (แบบชั่วคราว)

ฟิลเลอร์อันตรายไหม Temporary filler (แบบชั่วคราว)

กลุ่ม Hyaluronic Acid หรือ HA กรดไฮยาลูรอนิก สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ มีความปลอดภัยสูง สามารถจับตัวกับน้ำ มีคุณสมบัติส่งผลให้ผิวหนังเต่งตึง ผลลัพธ์อยู่ได้ 6– 18 เดือน เป็นฟิลเลอร์ชนิดเดียวที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของไทยรับรองให้ใช้ได้อย่างปลอดภัย

2. Semi-Permanent Filler (แบบกึ่งถาวร)

ฟิลเลอร์อันตรายไหม Semi-Permanent filler (แบบกึ่งถาวร)

ฟิลเลอร์ชนิดนี้เป็นแบบกึ่งถาวร ตัวอย่าง เช่น แคลเซียมฟิลเลอร์ ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 5 ปี (แล้วแต่บุคคล) ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในไทย เพราะผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง เป็นฟิลเลอร์ชนิดที่ไม่สามารถสลายได้หมด เมื่อเวลาผ่านไปอาจทำให้เป็นก้อน ทำการรักษาได้ยาก

3. Permanent Filler (แบบถาวร)

ฟิลเลอร์อันตรายไหม Permanent filler (แบบถาวร)

เป็นชนิดแบบถาวร ตัวอย่าง เช่น ซิลิโคน พาราฟิน แพทย๋ไม่แนะนำให้ใช้ประเภทนี้ เพราะเป็นชนิดที่อยู่ถาวร หากฉีดไปแล้วผิวไม่สามารถดูดซึมได้ จะส่งผลให้สารเหล่านี้ตกค้างอยู่ในชั้นผิว ไม่สามารถย่อยสลายได้ ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในไทย

4. การฉีด Collagen จากสัตว์

ฟิลเลอร์อันตรายไหม การฉีด collagen จากสัตว์

คอลลาเจนจากสัตว์เคยเป็นที่นิยมเพราะมีโครงสร้างใกล้เคียงกับมนุษย์ แต่ปัจจุบันไม่แนะนำแล้ว เพราะมีรายงานการแพ้และการต่อต้านจากร่างกาย ทางการแพทย์จึงไม่แนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์คอลลาเจนจากสัตว์หรือฟิลเลอร์ปลอม เพราะมักก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่อันตราย และไม่สามารถฉีดสลายออกได้

ความเสี่ยงและผลข้างเคียงของการฉีดคอลลาเจนจากสัตว์

ผลข้างเคียงทั่วไป

  • อาการบวม : มักเกิดขึ้นบริเวณที่ฉีด และหายไปเองภายใน 1-2 วัน
  • รอยช้ำ : อาจเกิดขึ้นและหายไปภายใน 1-2 สัปดาห์
  • อาการแดง : บริเวณที่ฉีดอาจมีอาการแดงเล็กน้อยหลังฉีด
  • มีก้อนเล็ก ๆ ใต้ผิวหนัง : มักหายไปเองภายในไม่กี่สัปดาห์
  • ผลลัพธ์ไม่สม่ำเสมอ : อาจเกิดความไม่เท่ากันของผลลัพธ์ในบางบริเวณ

ผลข้างเคียงร้ายแรง

  • การแพ้อย่างรุนแรง : อาจเกิดปฏิกิริยาแพ้รุนแรงจากโปรตีนสัตว์ในคอลลาเจน
  • การติดเชื้อ : มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อบริเวณที่ฉีด
  • เนื้อเยื่อตาย : ในกรณีที่รุนแรงมาก อาจทำให้เกิดการตายของเนื้อเยื่อ
  • การเกิดก้อนแข็งเรื้อรัง : อาจเกิดก้อนแข็งใต้ผิวหนังที่ไม่หายไป
  • ปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันต่อต้านตัวเอง : อาจกระตุ้นให้เกิดโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
  • การอุดตันของหลอดเลือด : ในกรณีที่รุนแรงมาก อาจทำให้เกิดการอุดตันของหลอดเลือด
  • ผลกระทบต่อระบบประสาท : ในกรณีที่ฉีดผิดตำแหน่ง อาจส่งผลต่อระบบประสาทบริเวณใกล้เคียง
ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม ปรึกษาหมอ

ภาพตัวอย่างฟิลเลอร์กลุ่ม Hyaluronic Acid  จากโรงงานผลิตฟิลเลอร์ เเบรนด์ Restylane ที่สามารถฉีดสลายได้ 

ฉีดฟิลเลอร์ดีไหม ข้อดี และข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์

การฉีดฟิลเลอร์ดีไหม มีข้อดีและข้อเสียให้พิจารณากันเองว่าดีหรือไม่ เพราะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละบุคคล โดยพิจารณาจากข้อดีที่จะได้รับก่อนตัดสินใจ มีดังนี้

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์

  • ไม่ต้องผ่าตัด เป็นวิธีที่ลดความเสี่ยงและระยะเวลาฟื้นตัว
  • เห็นผลลัพธ์เร็ว สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังฉีด
  • ปรับแต่งได้ สามารถเพิ่มหรือลดปริมาณฟิลเลอร์ได้ตามต้องการ
  • ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ให้ความรู้สึกและการเคลื่อนไหวที่เป็นธรรมชาติ
  • ไม่ถาวร เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทดลองก่อนตัดสินใจทำแบบถาวร
  • ฟื้นตัวเร็ว สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้เร็วกว่าการผ่าตัด
  • ความเสี่ยงต่ำ มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนน้อยกว่าการผ่าตัด
  • มีความคุ้มค่า สามารถใช้กับหลายบริเวณของใบหน้าได้ โดยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล และควรเปรียบเทียบกับทางเลือกอื่น ๆ
  • ไม่ต้องดมยาสลบ ลดความเสี่ยงจากการดมยาสลบ
  • ประสิทธิภาพสูง สามารถแก้ไขปัญหาริ้วรอย หรือเพิ่มปริมาตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งประสิทธิภาพอาจต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุ สภาพผิว และวิธีการดูแลหลังฉีด

ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์

  • ผลลัพธ์ไม่ถาวร ต้องทำซ้ำเป็นระยะเพื่อรักษาผลลัพธ์
  • ค่าใช้จ่ายในระยะยาว การทำซ้ำอาจมีค่าใช้จ่ายสูงเมื่อรวมกันในระยะยาว
  • ความเสี่ยงจากการฉีดผิดตำแหน่ง อาจเกิดความไม่สมมาตรหรือผลข้างเคียงอื่นๆ
  • อาการข้างเคียง อาจเกิดอาการบวม ช้ำ หรือในกรณีที่รุนแรง อาจเกิดการอุดตันของหลอดเลือด
  • ข้อจำกัดในการแก้ไขปัญหา อาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาโครงสร้างที่ซับซ้อนได้
  • ความเสี่ยงจากการแพ้ แม้จะพบได้น้อย แต่อาจเกิดการแพ้สารฟิลเลอร์ได้
  • ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับทักษะของแพทย์ คุณภาพของผลลัพธ์อาจแตกต่างกันตามประสบการณ์ของแพทย์
  • อาจเกิดการพึ่งพาทางจิตใจ บางคนอาจรู้สึกต้องทำซ้ำบ่อยๆ เพื่อรักษาผลลัพธ์

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ควรผ่านการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินความเหมาะสมและความปลอดภัย และควรพิจารณาจากคุณภาพ และความน่าเชื่อถือของคลินิก และแพทย์ที่ทำการรักษาด้วย เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและมีประสิทธิภาพ

ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม ผลข้างเคียงและความเสี่ยงที่ต้องระวัง

การฉีดฟิลเลอร์โดยทั่วไปมีความปลอดภัยเมื่อทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่ก็มีความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่ควรระวัง

ผลข้างเคียงทั่วไป

ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม ผลข้างเคียงทั่วไป
  • อาจมีอาการบวมนูน ผิวหนังแดง หรือมีรอยช้ำสีม่วงแดงจากเข็ม และมักหายภายใน 1-2 สัปดาห์ โดยอาการบวมจะลดลงเร็วที่สุด หากอาการไม่ดีขึ้นหรือแย่ลงหลัง 2 สัปดาห์ ให้รีบปรึกษาแพทย์
  • อาการเจ็บหรือคันเล็กน้อย เกิดจากการระคายเคืองของเนื้อเยื่อและการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน มักหายภายใน 3-7 วัน อาจใช้ยาแก้ปวดหรือยาทาแก้คันตามคำแนะนำของแพทย์
  • รอยนูนหรือก้อนเล็กใต้ผิวหนัง อาจเกิดจากการกระจายตัวของฟิลเลอร์ที่ไม่สม่ำเสมอ หรือปฏิกิริยาของร่างกาย มักหายเองภายใน 1-2 เดือน หากไม่หาย แพทย์อาจใช้เทคนิคการนวดหรือฉีดสารละลายฟิลเลอร์ หากก้อนมีขนาดใหญ่ขึ้น แข็ง หรือเจ็บ ควรปรึกษาแพทย์ทันทีเพราะอาจเกิดการติดเชื้อ – ปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อน สาเหตุ อาการ และวิธีแก้ไข

ทั้งนี้ ผลข้างเคียงทั่วไปเหล่านี้มักเกิดขึ้นกับฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองจาก อย. เท่านั้น ผลข้างเคียงเหล่านี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติและมักไม่รุนแรง ผลข้างเคียงบางอย่างอาจเกิดขึ้นได้ถึงจะฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่โอกาสเกิดจะน้อยกว่า

อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดในการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ จะช่วยลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงและทำให้หายเร็วขึ้น หากมีอาการผิดปกติหรือรุนแรงกว่าที่กล่าวมา ควรปรึกษาแพทย์ให้เร็วที่สุด เพื่อรับการตรวจและรักษาอย่างเหมาะสม

ผลข้างเคียงรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม ผลข้างเคียงรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น
  • การอุดตันของหลอดเลือด การฉีดฟิลเลอร์แล้วอุดตันในเส้นเลือดและเส้นประสาทบนบนใบหน้า ที่ทำให้เกิดอาการเนื้อตาย จากการที่เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงบริเวณนั้นได้ ทำให้ฟิลเลอร์เข้าไปในเส้นเลือดแดง และอุดตันเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงบริเวณดวงตา ส่งผลให้จอประสาทตาตาย ( Retinal Artery Occlusion ) ส่วนใหญ่จะมีอาการปวดหัวหรือกระบอกตาร่วมด้วยทันทีหลังฉีด ทำให้เกิดอาการตาพร่ามัวและตาบอด retinal artery occlusion ได้ เป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องได้รับการรักษาทันที
  • ติดเชื้อ ลักษณะจะบวม ช้ำ หรือเป็นหนอง ผลข้างเคียงเหล่านี้ในทางการแพทย์จะให้ ทานยาปฏิชีวนะ และยาลดบวม โอกาสในการติดเชื้อก็จะลดน้อยลงพอสมควร แต่ในกรณีที่ดื้อยา จะมีการทานยาปฏิชีวนะเพิ่มมากกว่า 1 ตัว
  • แพ้สารฟิลเลอร์ เพราะร่างกายตอบสนองต่อสารฟิลเลอร์เป็นสิ่งแปลกปลอม ทำให้มีอาการ บวม แดง คัน อาจเกิดผื่นหรือลมพิษ จนเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงอาจเกิดภาวะช็อกจากการแพ้ (anaphylaxis) ทำให้การรักษา จะต้องใช้ยาแก้แพ้ ในกรณีรุนแรงอาจต้องฉีดอะดรีนาลีน – อาการแพ้ฟิลเลอร์ คืออะไร
  • การฉีดผิดตำแหน่ง เกิดจากแพทย์ขาดความชำนาญหรือความเข้าใจในกายวิภาคศาสตร์ จนเกิดผลกระทบทำให้เกิดความไม่สมมาตรของใบหน้า การวางตัวยาอาจกดทับเส้นประสาทหรือหลอดเลือด ซึ่งการแก้ไขอาจต้องฉีดสารละลายฟิลเลอร์ออก หรือในบางกรณีต้องรอให้ฟิลเลอร์สลายไปเองจนหมด 

เพื่อป้องกันการเกิดผลข้างเคียงเหล่านี้ ควรเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ ปลอดภัย และเลือกแพทย์ที่เป็นแพทย์ความงามจริง ไม่เช่นนั้นอาจเกิดอันตรายตามมาได้ การฉีดฟิลเลอร์มีความปลอดภัยเมื่อทำอย่างถูกต้อง แต่ก็มีความเสี่ยงที่ควรตระหนัก ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมและความเสี่ยงสำหรับแต่ละบุคคล

อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์เน่า อันตรายไหม ? แก้ไขได้อย่างไร ?

วิธีลดความเสี่ยงและอันตราย จากการฉีดฟิลเลอร์ 

การฉีดฟิลเลอร์ที่ปลอดภัย และ ไม่เป็นอันตราย จะต้องเลือกจากปัจจัยหลายอย่าง โดยเราจะต้องตัดสินใจให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ตามมา

1. เลือกฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองความปลอดภัย

ลดความเสี่ยงการฉีดฟิลเลอร์ เลือกสารที่ผ่านการรับรองความปลอดภัย

ต้องรู้จักฟิลเลอร์แท้ หรือ ฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์ที่ใช้ในการฉีดเพื่อทำการรักษา จะต้องเป็นฟิลเลอร์แท้ เท่านั้น ฟิลเลอร์จะต้องได้มาตรฐาน ได้รับรองจากองค์การอาหารและยา ซึ่งในประเทศไทย ฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองจาก อย. มีเพียงชนิดเดียว คือ ไฮยาลูรอนิก แอซิด โดยสามารถตรวจสอบรายละเอียดได้จาก การตรวจสอบเลขทะเบียน อย. วันหมดอายุ และเลข LOT ของวันผลิตอยู่หน้ากล่อง

ในปัจจุบันฟิลเลอร์มีหลายยี่ห้อ และหลายรุ่น มีจุดเด่นและคุณสมบัติที่ต่างกันออกไป มีทั้งเนื้อแบบแข็งและเนื้ออ่อน แต่ละแบบเหมาะกับแต่ละจุดที่ต้องการฉีดที่แตกต่างกันออกไป จึงจำเป็นต้องเลือกเนื้อฟิลเลอร์ให้เหมาะกับผิวบริเวณที่ฉีด การเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมควรเป็นหน้าที่ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่คอยแนะนำให้ ไม่ใช่ผู้รับบริการ 

2. ฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

ลดความเสี่ยงการฉีดฟิลเลอร์ ฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ก่อนตัดสินใจฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ จะต้องมั่นใจได้ว่าเป็นแพทย์จริง สามารถตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ของแพทย์สภา โดยแพทย์ที่ทำการรักษาจะต้องเป็นแพทย์ที่มีความชำนาญและเชี่ยวชาญด้านกายวิภาค และ เส้นเลือดบนใบหน้าเป็นอย่างดี  แพทย์ที่ฉีดควรเป็นผู้ที่ได้รับการฝึกอบรมเฉพาะทางด้านการฉีดฟิลเลอร์ ไม่ใช่แพทย์ทั่วไป หากพลาดพลั้งฉีดโดนเส้นเลือด หรือ วางตำแหน่งยาผิดชั้นผิวไปแล้วนั้น อาจทำให้เกิดปัญหาอื่นตามมาได้ หรือสามารถดูได้ที่ผลงานของแพทย์ท่านนั้น ๆ โดยตรง เพื่อประกอบการตัดสินใจที่แม่นยำมากขึ้น

สำคัญ โปรดระวังหมอกระเป๋า เพราะหมอกระเป๋า คือ ผู้ช่วยแพทย์ที่เห็นการทำหัตถการจากแพทย์ อาจจะจดจำเทคนิคต่าง ๆ แล้วนำไปลองฉีดแบบเถื่อน ไม่ได้มีประสบการณ์จริง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายและอันตรายนั่นเองค่ะ 

3. ฉีดในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน

ลดความเสี่ยงการฉีดฟิลเลอร์ ฉีดในสถานพยาบาลมาตรฐาน

สำหรับคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ใช้บริการต้องได้มาตรฐาน สะอาด และมีอุปกรณ์ที่ปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ ควรมีอุปกรณ์ฉุกเฉินพร้อมใช้งานสำหรับกรณีเกิดผลข้างเคียงรุนแรง และสถานพยาบาลต้องมีใบอนุญาตถูกต้อง แสดงป้ายชื่อและเลขที่ใบอนุญาต 11 หลักชัดเจน มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประจำการ ไม่ควรรับบริการในสถานที่ที่ไม่ใช่สถานพยาบาล เช่น บ้านหรือร้านเสริมสวย เพราะผิดกฎหมายและขาดมาตรฐานความปลอดภัย 

ดังนั้น ก่อนการตัดสินใจเข้ารับการรักษา ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของสถานพยาบาลจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย รวมถึงประวัติการร้องเรียน และรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง แต่พึงระวังรีวิวปลอมหรือภาพตกแต่ง การพิจารณาอย่างรอบคอบจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเลือกใช้บริการค่ะ

วิธีสังเกตฟิลเลอร์ของแท้

วิธีสังเกตฟิลเลอร์แท้
  • มีเลขทะเบียน อย. และมีภาษาไทยกำกับ ฟิลเลอร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก อย. มีเพียงไฮยาลูรอนิก แอซิด ซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศและเป็นสารที่ใช้ในทางการแพทย์โดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น การตรวจสอบฟิลเลอร์แท้เป็นหน้าที่ของแพทย์และสถานพยาบาล ไม่ใช่ผู้รับบริการ แต่ผู้รับบริการควรมีความรู้และสามารถเปรียบเทียบข้อมูลเบื้องต้นเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการเลือกได้
  • มีเลข LOT บนหน้ากล่องเข็มด้านใน สามารถดูเลขที่หรืออักษรแสดงครั้งที่ผลิต หรือ Lot No. ที่กล่องของฟิลเลอร์ แล้วนำโทรไปตรวจสอบได้ แต่ละยี่ห้อของฟิลเลอร์อาจมีวิธีการตรวจสอบความแท้ที่แตกต่างกัน เช่น บางยี่ห้อมี QR code ให้สแกนเพื่อตรวจสอบ
  • มีการบรรจุเข็มภายในกล่องในจำนวนที่ถูกต้อง ภายในกล่องฟิลเลอร์ของแท้ 1 กล่องนั้นจะประกอบด้วยเข็มจำนวน 2 อัน พร้อมระบุวันหมดอายุอย่างชัดเจน
  • ต้องมีเอกสารกำกับ เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญของฟิลเลอร์ที่มีประโยชน์และให้ความปลอดภัยแก่ผู้รับบริการ จะมีฉลากหรือเอกสารกำกับทุกกล่อง มีบาร์โค้ดชัดเจนที่ด้านข้างตัวกล่อง ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยให้ผู้รับบริการสามารถติดตาม ตรวจสอบย้อนกลับ และข้อดูกล่องฟิลเลอร์ก่อนการฉีดได้ เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดตามกฎหมาย
  • เลข LOT บนกล่องและด้านในต้องตรงกันฟิลเลอร์ของแท้ เลข LOT บนกล่องและซองด้านใน จะต้องปรากฏเป็นตัวเลขชุดเดียวกันทั้งสองที่ ฟิลเลอร์แท้จะต้องเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม และมีวิธีการขนส่งที่ถูกต้อง

ข้อควรปฏิบัติก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์

ข้อปฏิบัติก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์

ข้อควรปฏิบัติก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์มีความสำคัญมากต่อผลลัพธ์และความปลอดภัย ดังนี้

ก่อนฉีดฟิลเลอร์

  • ควรงดอาหารเสริมหรือยาบางชนิด เช่น ยาแอสไพริน และวิตามินอี ก่อนทำประมาณ 1 เดือน
  • หากต้องทำการเลเซอร์ในบริเวณที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ ควรทำก่อนอย่างน้อย 3 วัน เพราะหลังจากฉีดฟิลเลอร์ต้องงดเป็นเวลา 2 อาทิตย์
  • งดดื่มแอลกฮอล์ และ กิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น เข้าซาวน่า ออกกำลังกาย cardio เป็นเวลา 24 ชม.ก่อนทำ ควรทำต่อเนื่องหลังฉีดร่วมด้วย

หลังฉีดฟิลเลอร์

  • ห้ามนอนราบหลังการฉีดฟิลเลอร์ 3 – 4 ชั่วโมง และช่วง 12 ชั่วโมงแรก ห้ามแต่งหน้าหรือใช้ครีมบำรุงทุกชนิด
  • ห้ามออกกำลังกายภายใน 48 ชั่วโมงแรก หรือสัมผัสความร้อนด้วยวิธีต่างๆ รวมทั้งห้ามถูหน้าแรงๆ ด้วยเช่นกัน
  • ควรดื่มน้ำมาก ๆ ประมาณวันละ 12 แก้ว เพื่อเข้าไปเพิ่มความชุ่มชื้นและให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดไปอุ้มน้ำและฟูเร็วมากขึ้น
  • การประคบเย็นอย่างผิดวิธีอาจทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีด เกิดการเคลื่อนและไม่เกาะผิวได้ ควรประคบเย็นตามคำแนะนำของแพทย์ในบางกรณีเท่านั้น หากสังเกตว่าเกิดอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ทันที
  • ให้งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรงดอย่างน้อย 2 อาทิตย์

นอกจากการปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ ยังมีวิธีการดูแลผิวหน้าอื่น ๆ หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ในระยะยาว เช่น การเลี่ยงเจอแสงแดดจัด, ทาครีมกันแดดที่มี PA+++ ขึ้นไปทุกครั้งที่ออกไปข้างนอก และเว้นการเข้าซาวน่าหรือที่ร้อนจัด จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพของการฉีดฟิลเลอร์ และผลลัพธ์ที่ดี ตรงตามความต้องการของแต่ละบุคคลได้อย่างเหมาะสมและเป็นธรรมชาติ

อ่านเพิ่มเติม : ปัญหาฟิลเลอร์ไหลย้อย

บทสรุป 

ฟิลเลอร์อันตรายไหม คำตอบ คือทุกหัตถการความงามย่อมมีความเสี่ยงที่อันตราย และอันตราย ควรเลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน มีใบรับรองสถานพยาบาล 11 หลักชัดเจน แพทย์ที่ทำการรักษาต้องมีความรู้และประสบการณ์ด้านผิวหนังและการฉีดฟิลเลอร์โดยตรง มีรีวิวจากผู้รับบริการจริง ทั้งแบบภาพนิ่ง และเป็นวิดีโอ จะทำให้เห็นข้อเปรียบเทียบในการเลือกคลินิกที่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการทางการแพทย์ ไม่ใช่การเสริมความงามทั่วไป ควรได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบ ผู้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมและความเสี่ยงเฉพาะบุคคล หรือทางเลือกอื่นๆ นอกเหนือจากการฉีดฟิลเลอร์ สำหรับผู้ที่ไม่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ที่ทำการรักษา

CONTACT FOR SPECIAL PRIVILEGES

กดด้านล่างติดเราเพื่อสอบถามรายละเอียดเเละสิทธิ์อื่นๆ

โทร RWC
line rwc
Facebook rwc
โทร RWC
Facebook rwc
line rwc

ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง RWC Clinic

ทีมแพทย์ RWC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า