การฉีดฟิลเลอร์ขมับเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาขมับตอบ ขมับยุบ หรือต้องการปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์และมีสัดส่วนสมดุลมากขึ้น แต่ หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ การดูแลตนเองอย่างถูกวิธีมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อผลลัพธ์และความคงทนของฟิลเลอร์ การปฏิบัติตามคำแนะนำหลังการฉีดฟิลเลอร์ขมับจะช่วยป้องกันการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัวได้ดี มีความกลมกลืนเป็นธรรมชาติ และยืดระยะเวลาการคงอยู่ของฟิลเลอร์ให้นานขึ้น บทความนี้จะแนะนำวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ พร้อมข้อควรระวังที่สำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีความปลอดภัยค่ะ
ผลข้างเคียงทั่วไปที่หายได้เอง
- ปวดบวมเล็กน้อย: บริเวณที่ฉีดอาจมีอาการบวมในช่วง 3-7 วันแรก เป็นการตอบสนองปกติของร่างกายต่อการฉีด
- รอยช้ำหรือรอยฟกช้ำ: เกิดจากเข็มที่ทำให้เส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังได้รับบาดเจ็บ มักจางหายภายใน 7-14 วัน
- ปวดศีรษะหรือรู้สึกตึง: เกิดจากการมีฟิลเลอร์อยู่ใต้ผิวบริเวณขมับซึ่งมีเส้นประสาทมาก มักหายภายใน 1-2 วัน สามารถบรรเทาด้วยยาแก้ปวดพาราเซตามอลได้
- อาการคันเล็กน้อย: เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการหายของผิวหนัง
- ฟิลเลอร์เป็นก้อนเล็กๆ: ในช่วงแรกอาจคลำพบก้อนฟิลเลอร์ได้ซึ่งเป็นเรื่องปกติ จะค่อยๆ นิ่มลงและกลืนไปกับผิวภายใน 2-3 สัปดาห์
ผลข้างเคียงที่ต้องเฝ้าระวังและอาจต้องพบแพทย์
- ปวด บวม แดง ร้อนผิดปกติ: หากอาการเหล่านี้รุนแรงหรือแย่ลงหลังจาก 48 ชั่วโมง อาจเป็นสัญญาณของการอักเสบติดเชื้อ
- ฟิลเลอร์ขมับเป็นก้อนใหญ่: มีลักษณะนูนผิดปกติ ไม่สมมาตร หรือก้อนไม่ยุบหลังจาก 2 สัปดาห์
- ผิวซีดหรือเปลี่ยนสี: บริเวณที่ฉีดมีสีซีดผิดปกติหรือเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำ อาจเป็นสัญญาณของปัญหาการไหลเวียนเลือด
ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่ต้องพบแพทย์ทันที
- การอุดตันของเส้นเลือด: มีอาการปวดรุนแรงผิดปกติ ผิวซีดขาวหรือเขียวคล้ำ รู้สึกชา
- ปัญหาทางสายตา: มีอาการปวดศีรษะรุนแรง มองเห็นผิดปกติ ตาพร่ามัว มองไม่เห็น หรือมีอาการปวดบริเวณดวงตา อาจเป็นสัญญาณอันตรายของการอุดตันเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงตา
- ผิวเนื้อตาย: ผิวมีลักษณะเขียวคล้ำ ดำ และเริ่มมีการตายของเนื้อเยื่อ
ระยะเวลาฟื้นตัวและการคงอยู่ของฟิลเลอร์ขมับ
โดยทั่วไปฟิลเลอร์ขมับจะใช้เวลาประมาณ 3-7 วันกว่าอาการบวมจะยุบลง และต้องใช้เวลาประมาณ 14 -30 วันฟิลเลอร์ขมับถึงจะเข้าที่สมบูรณ์ และฟิลเลอร์สามารถอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ ซึ่งปัจจัยที่มีผลต่ออายุการใช้งานของฟิลเลอร์ ได้แก่ การดูแลตนเองหลังฉีด คุณภาพผิว และการเผาผลาญของร่างกายแต่ละบุคคล
- การทำความสะอาดบริเวณที่ฉีด: หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับประมาณ 3-6 ชั่วโมง สามารถล้างหน้าได้ตามปกติ แต่ควรใช้สบู่อ่อนๆ และไม่ควรปล่อยให้รอยเข็มโดนน้ำเป็นเวลานานเกิน 15 นาที เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- งดการสัมผัสหรือนวดบริเวณที่ฉีด: หลีกเลี่ยงการแคะ แกะ เกา สัมผัส หรือนวดบริเวณขมับที่ฉีดฟิลเลอร์ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่งหรือเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
- หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด: หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่อุณหภูมิสูง เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ บริเวณใกล้เตาปิ้งย่าง หรือกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายร้อนและเลือดสูบฉีด เพราะความร้อนอาจทำให้ฟิลเลอร์ละลายเสียทรงได้
- งดการออกกำลังกายหนัก: ควรงดการออกกำลังกายที่ทำให้เลือดสูบฉีดมากเป็นเวลาอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดรอยช้ำและอาการบวม
- การใช้การประคบเย็น: หากมีอาการบวมหรือปวด สามารถใช้การประคบเย็นเบาๆ ช่วยบรรเทาอาการได้ แต่ควรทำอย่างเบามือและไม่กดบริเวณที่ฉีดแรงเกินไป
- การนอน: หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับควรหลีกเลี่ยงการนอนตะแคงหรือการกดทับบริเวณขมับในช่วง 5-7 วันแรก เพื่อป้องกันการเสียรูปทรงของฟิลเลอร์ ควรนอนหงายและใช้หมอนนุ่มรองศีรษะเพื่อลดแรงกดทับ
- การใส่หมวกหรืออุปกรณ์ที่กดทับขมับ: ควรหลีกเลี่ยงการใส่หมวก หูฟังครอบ หรือแว่นตาที่รัดแน่นเกินไป เพราะอาจกดทับบริเวณขมับและทำให้ฟิลเลอร์เสียทรง
- การแต่งหน้า: หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ 24 ชั่วโมง สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ แต่ควรระวังไม่ให้เครื่องสำอางเข้าไปในรอยเข็มที่ยังไม่หาย และควรทำความสะอาดเครื่องสำอางให้สะอาดหมดจด
- งดการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่: ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่อย่างน้อย 7-14 วัน เพราะแอลกอฮอล์อาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ ส่วนการสูบบุหรี่ทำให้แผลหายช้าและเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ
| อ่านเพิ่มเติม ฟิลเลอร์ขมับ ปรับรูปหน้า โหนกแก้มดูเล็กลง โดยไม่ต้องผ่าตัด
- งดอาหารแสลง: หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับควรงดอาหารที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เช่น อาหารดิบ อาหารหมักดอง อาหารที่ปรุงไม่สุก อาหารรสจัด เผ็ดจัด และอาหารที่มีน้ำตาลสูง เป็นเวลาอย่างน้อย 3-7 วัน
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ: เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นสารอุ้มน้ำ การดื่มน้ำมากๆ (1.5-2 ลิตรต่อวัน) จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูสวยและอยู่ได้นานขึ้น
- รับประทานอาหารที่มีวิตามินซีสูง: อาหารที่อุดมด้วยวิตามินซีจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและการฟื้นฟูผิว ทำให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับดีขึ้น
บทสรุป
หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ การดูแลตนเองอย่างถูกวิธีมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อผลลัพธ์และความปลอดภัย การปฏิบัติตามคำแนะนำทั้งการหลีกเลี่ยงความร้อน การระมัดระวังไม่กดทับบริเวณขมับ การงดอาหารแสลง และการสังเกตผลข้างเคียงที่ผิดปกติ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ขมับอยู่ได้นานและให้ผลลัพธ์ที่สวยงามเป็นธรรมชาติ
หากเกิดอาการผิดปกติใด ๆ หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ ไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรรีบปรึกษาแพทย์หรือติดต่อคลินิกที่ทำหัตถการโดยเร็ว เพื่อได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงทีนะคะ