ฉีดฟิลเลอร์จมูก รวมทุกเรื่องต้องรู้ก่อนฉีด ปลอดภัย ไม่ต้องผ่าตัด
การ ฉีดฟิลเลอร์จมูก คือ การฉีดสารเติมเต็ม HA เข้าไปที่บริเวณสันจมูก เพื่อเสริมแต่งบริเวณจมูก เสริมปลายจมูก และช่วยปรับรูปทรงจมูกให้โด่งขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ การฉีดฟิลเลอร์ปลอดภัย ไม่เสียเวลาในการพักฟื้น ง่าย สะดวก รวดเร็ว และมีผลกระทบน้อย
การฉีดฟิลเลอร์จมูก เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมมาก เนื่องจาก เป็นวิธีที่ง่าย สะดวก ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้น ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์จมูก จะช่วยในเรื่องอะไรบ้าง ดังนี้
- สามารถปรับรูปดั้ง สันจมูก
- ฉีดให้จมูกโด่งขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- ปรับแก้ทรงจมูกที่ไม่ได้สัดส่วน
- แก้ไขจมูกที่เบี้ยว ไม่สวย
- ช่วยเสริมโหงวเฮ้ง
การ ฉีดฟิลเลอร์จมูก ถือว่าเป็นบริเวณที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด เพราะถ้าหาก ฉีดฟิลเลอร์จมูก โดยแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญ โอกาสที่จะมีความเสี่ยงต่อการที่ฟิลเลอร์เข้าไปอุดตันเส้นเลือดที่บริเวณจมูกและตา ส่งผลให้เกิดเนื้อตายและตาบอด
อีกหนึ่งความเสี่ยงที่ควรระวัง คือ การที่ฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือดดำแล้วดันไหลย้อนกลับไปที่เส้นเลือดแดง หรือเรียกง่าย ๆ คือ การ “ท้นกลับ” โดยจะลำเลียงเลือดเพื่อนำเลือดไปเลี้ยงลูกตา ลูกตาก็จะฝ่อลงภายในไม่กี่วัน เพราะขาดเลือดไปเลี้ยงทั้งลูกตา ทำให้ตาบอดได้ในที่สุด
การฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณจมูก เหมาะกับคนที่มีฐานจมูกเดิมอยู่แล้ว แต่ต้องการเติมจมูกให้ดูมีมิติมากขึ้น และทรงจมูกที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์จมูก มีดังนี้
- จมูกเรียบแบบราบ การฉีดฟิลเลอร์จะช่วยปรับรูปดั้งและสันจมูกให้สูงขึ้น โดยใช้ปริมาณฟิลเลอร์เพียงเล็กน้อย ฉีดเข้าบริเวณเนื้อเยื่ออ่อนในตำแหน่งส่วนกลางของจมูก
- จมูกโตเป็นลูกชมพู่ จมูกใหญ่คล้ายผลชมพู่ สามารถฉีดเติมเต็มเพื่อปรับรูปทรงจมูกให้ได้สัดส่วนมากขึ้น
- จมูกเบี้ยวผิดรูป จะช่วยเสริมเนื้อเยื่อบริเวณจมูกที่หายไป หรือรูปทรงเบี้ยวให้สมส่วนและเป็นทรงสวยงามได้
- จมูกไม่สมส่วนจากการศัลยกรรม โดยเฉพาะปีกจมูกที่บิดเบี้ยวของ หรือปลายจมูกแหลมงุ้มมากเกินไป ฟิลเลอร์จะช่วยปรับรูปทรงจมูกให้เข้าที่เข้าทางมากขึ้น
ข้อดีของการฉีดจมูก คือ การที่ทำให้จมูกโด่งสวยงาม เห็นผลได้เร็วทันที ไม่ต้องพักฟื้นเหมือนการเสริมจมูก ไม่ต้องเสี่ยงกับการผ่าตัด ซึ่งหากพลาดพลั้งก็อาจเกิดอันตรายกับร่างกายได้มากกว่าการฉีดฟิลเลอร์จมูก ใช้เวลาในการฉีดฟิลเลอร์จมูกน้อย หากทำออกมาแล้วรูปร่างจมูกไม่เป็นที่ถูกใจ ก็ยังสามารถยกเลิก หรือแก้ไขในครั้งต่อไป เพื่อให้รูปร่างจมูกเป็นไปตามต้องการ
ข้อเสียของการ ฉีดฟิลเลอร์จมูก คือ ผลลัพธ์ไม่สามารถอยู่ได้ถาวรเหมือนการผ่าตัด เพราะสารเติมเต็มชนิดนี้สามารถสลายเองได้ จึงต้องฉีดซ้ำเป็นระยะ ๆ เพื่อคงรูปร่างจมูกไว้ อาจทำให้เกิดการสิ้นเปลืองและเสียเวลา
นอกจากนี้ การฉีดฟิลเลอร์ต้องพึงระวังในเรื่องของฟิลเลอร์ปลอม ไม่ได้มาตรฐานที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้
เจาะลึกฟิลเลอร์ : ฟิลเลอร์แท้สังเกตอย่างไร
การศัลยกรรมเสริมจมูก เป็นการผ่าตัดเสริมจมูกเพื่อปรับแต่งจมูกแบบถาวร โดยใช้วัสดุสงเคราะห์ เช่น ซิลิโคนแท่งสำเร็จ หรือกระดูกอ่อนหลังใบหู การศัลยกรรมจมูกจำเป็นจะต้องทำกับศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้น
เพราะหากแพทย์ที่ทำการผ่าตัดไม่มีความเชี่ยวชาญ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อหรือเกิดปัญหาจมูกทะลุได้
โดยปกติ การฉีดฟิลเลอร์จมูกไม่ควรฉีดเกิน 1 CC ค่ะ เพราะการฉีดฟิลเลอร์จมูกเหมาะกับผู้ที่มีฐานจมูกอยู่แล้ว แต่ต้องการให้ดูมีมิติสวยงามมากยิ่งขึ้น เพื่อปรับรูปให้จมูกให้สวยสำหรับการเสริมโหงวเฮ้ง
ทั้งนี้ ปริมาณยาที่ใช้ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล ส่วนคนที่มีเนื้อจมูกน้อย แพทย์จะไม่แนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ เพราะหากมากกว่า 1 CC จะเหมาะกับการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนค่ะ
อ่านเพิ่มเติม : โหงวเฮ้งดี เป็นอย่างไร
โดยมาตรฐานของฟิลเลอร์จะมีอายุของตัวยาอยู่ได้ 12-18 เดือน เนื่องจากสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid เป็นสารที่เลียนแบบสารที่มีตามธรรมชาติ ช่วยเติมเต็มในชั้นผิวหนังและใต้ผิวหนัง สามารถย่อยสลายได้เอง ตามกระบวนการทางธรรมชาติของร่างกาย โดยไม่ทิ้งสารตกค้าง และผ่านการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) และประเทศไทย
ข้อควรระวังในการฉีดฟิลเลอร์จมูก
อย่างที่ทราบกันดีว่าการฉีดฟิลเลอร์จมูกนั้น ไม่ใช่การเสริมจมูกแบบถาวร ดังนั้น ค่าใช้จ่ายในจะสูงกว่าเมื่อเทียบกับการผ่าตัดเสริมในครั้งเดียว เพราะผู้เข้ารับบริการอาจจะต้องการเพิ่มหรือเติมในอนาคต
ข้อห้ามสำหรับการฉีดฟิลเลอร์
- ผู้มีภาวะอักเสบติดเชื้อที่ผิวหนังบริเวณที่จะฉีด
- ผู้มีประวัติแพ้ส่วนประกอบของฟิลเลอร์
- ผู้มีประวัติแพ้ยาชา
- ห้ามทำในผู้ตั้งครรภ์
- หากอยู่ในภาวะเลือดไหลไม่หยุด แพทย์จะพิจารณาตามดุลยพินิจ
- ในกรณีผู้ที่ให้นมบุตร ควรปรึกษาสูติแพทย์ที่ดูแลก่อนทำ
- งดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนฉีด 24 ชั่วโมง ซึ่งจะดีที่สุดหากสามารถเลี่ยงได้ 3 วัน
- หลีกเลี่ยงอาหารเสริมหรือยาบางชนิด เช่น ยาแก้ปวด กลุ่ม NSAIDs, แอสไพริน (aspirin) และ ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- เลี่ยงการใช้สมุนไพร เช่น น้ำมันตับปลา แปะก๊วย โสม เป็นต้น
- ควรแจ้งประวัติการใช้ยา โรคประจำตัว หรือตั้งครรภ์ให้แพทย์ทราบทุกครั้ง
- หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็ม 2-3 วันก่อนฉีด เพราะจะส่งผลให้ร่างกายมีโอกาสบวมมากขึ้น
- หากมีบริเวณที่ช้ำ ควรประคบเย็นเบา ๆ บริเวณที่ฉีดครั้งละ 10 นาที ประมาณ 2-3 ชั่วโมง
- งดการออกกำลังกาย หรือทำกิจจกรรมที่สร้างความร้อนให้แก่ร่างกาย งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด 24 ชั่วโมง
- งดกดนวดบริเวณที่ทำการรักษา 48 ชั่วโมง
- งดแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง ดีที่สุด 3 วัน
- งดแต่งหน้าหรือใช้ครีมบำรุงทุกชนิด เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
- ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อความชุ่มชื้นให้ร่างกาย
- รับประทานยาหากมีอาการปวดในบริเวณที่ฉีด เช่น กลุ่มยาแก้ปวด พาราเซตามอล
เจาะลึกฟิลเลอร์ : หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไร
ภาพรีวิว




ฟิลเลอร์ (Filler) คือ สาร Hyaluronic Acid ที่ฉีดเพื่อเติมเต็มใบหน้า ริ้วรอย รอยหมองคล้ำดูจางลง รวมไปถึงการฉีดเสริมในจุดต่าง ๆ เช่น จมูก ปาก คาง ขมับ แก้มตอบ เป็นต้น
การฉีดฟิลเลอร์ไม่อันตรายอย่างที่คิด หากเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์แท้ และแพทย์ผู้ทำการรักษามีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านการฉีดฟิลเลอร์ มีความรู้ในเรื่องกายวิภาพเป็นอย่างดี
สามารถทำได้ค่ะ แต่ก่อนเสริมจมูกต้องแน่ใจก่อนว่าฟิลเลอร์ที่ฉีดฟิลเลอร์เข้าไปสลายหมดแล้ว โดยปกติฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานเพียง 12-18 เดือน ก็จะสลายเองตามธรรมชาติ แต่หากไม่แน่ใจสามารถเข้าปรึกษาแพทย์ที่ทำการฉีด เพื่อตรวจสอบหรือทำการฉีดสลายฟิลเลอร์ได้เช่นเดียวกันค่ะ
ฉีดสลายฟิลเลอร์ อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
สรุป
การ ฉีดฟิลเลอร์จมูก คือ การใช้สารไฮยาลูรอนิก ( HA) ฉีดเข้าไปที่บริเวณสันจมูก เพื่อปรับรูปจมูกให้ดูโด่งมากขึ้น เป็นการปรับรูปจมูก ที่ให้ความรู้สึกเป็นเป็นธรรมชาติ ปลอดภัย ไม่ต้องกังวลเรื่องวัสดุเสริม และไม่เสียเวลาในการพักฟื้น
ได้รับความสนใจจากสื่อหลากหลายช่องทาง เกี่ยวกับเทรนด์การปรับรูปหน้า
ลงสื่อออนไลน์หลากหลายช่องทาง อาทิ Zolitic / Bright today / อมรินทร์ / 77ข่าวเด็ด / สมาร์ท SME Channel / SMEชี้ช่องรวย / NEW18 / สยามรัฐ / บิสเนสทูเดย์ / ThaiQuote
อันดับ 1 คลินิกฉีดฟิลเลอร์จาก Thaitopclinic
1 ในคลินิกฉีดฟิลเลอร์ชื่อดังจาก Wongnai