ฟิลเลอร์คาง หมอขนม
ฟิลเลอร์คาง

ฟิลเลอร์คาง รวมเรื่องต้องรู้ก่อนฉีด เพื่อคางเรียวสวยอย่างปลอดภัย

ฉีดฟิลเลอร์คาง คือ หนึ่งในเทรนด์ความงาม ที่ได้รับความสนใจจากผู้ที่ต้องการปรับใบหน้าให้ดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งตำแหน่งคางคือหนึ่งในจุดเด่นบนใบหน้า ที่ส่งผลมากต่อความสวยงามโดยรวม การมีคางที่ได้รูปทรงสวย จะช่วยปรับสัดส่วนของใบหน้าให้ดูโดดเด่น น่าสนใจมากขึ้น ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์คางอาจมีทั้งข้อดี-ข้อเสีย และความเสี่ยงบางประการที่จำเป็นต้องรู้ก่อนตัดสินใจ เพื่อให้ผู้อ่านตระหนักถึงความสำคัญในการทำความเข้าใจก่อนฉีด และให้ผลลัพธ์ออกมาดีมีประสิทธิภาพ

สำหรับบทความนี้ จะพาไปทำความรู้จัก ฟิลเลอร์คาง ใครที่อยากปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวย การฉีดฟิลเลอร์บริเวณคางสามารถช่วยแก้ไขรูปทรงคาง แก้ปัญหาคางยาว/สั้นเกินไป ให้ได้สัดส่วนที่ลงตัว แต่ถึงจะให้ผลลัพธ์ดี ก็ยังมีความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่ต้องระวัง ดังนั้น ก่อนตัดสินใจ เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ฟิลเลอร์คางเหมาะกับใคร มีขั้นตอนอย่างไร พร้อมเคล็ดลับการเลือกแพทย์และคลินิกที่ดี เพื่อให้ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ตรงตามความการค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์คาง
เลือกอ่านตามหัวข้อ

ฟิลเลอร์คาง คืออะไร

ฟิลเลอร์คาง คือ

ฟิลเลอร์คาง (Chin filler) คือ การเติมเต็มคางด้วยสาร Hyaluronic acid (HA) หรือ ไฮยาลูรอนิค แอซิด เข้าไปที่ชั้นใต้ผิวบริเวณคางเพื่อเสริมให้ได้รูปทรง มีมิติ และปรับรูปหน้าให้ดูสมมาตรยิ่งขึ้น โดย HA คือสารเลียนแบบสารในร่างกายของมนุษย์ ซึ่งเป็นโมเลกุลของน้ำตาลชนิดหนึ่ง เรียกว่า polysaccharide ที่มีอยู่ในเนื้อเยื่อของร่างกาย การฉีดฟิลเลอร์คางนั้นไม่เป็นอันตราย เพราะสามารถสร้างขึ้นได้เองตามธรรมชาติ 100% กรณีที่ใช้ฟิลเลอร์แท้

ฟิลเลอร์คาง ดีไหม

การฉีดฟิลเลอร์คาง จะสามารถช่วยปรับความยาวของคาง เพิ่มมิติให้ใบหน้า แก้ไขปัญหาคางที่ไม่สมส่วน คางบุ๋ม หรือคางไม่เท่ากันที่ทำให้หน้าดูสั้น ดูกลม ไม่เป็นที่พอใจ ฟิลเลอร์ที่ฉีดบริเวณคางจึงช่วยให้คางดูเรียวยาวขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และไม่ใช้เวลานาน

ฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร กับทุกเรื่องที่ต้องรู้ก่อนฉีด ในปี 2024

ข้อดีและข้อเสีย การฉีดฟิลเลอร์คาง

การฉีดฟิลเลอร์คาง ถือเป็นหนึ่งในวิธีปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวยที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน แต่ก่อนที่จะตัดสินใจฉีด แนะนำให้วิเคราะห์ข้อดีและข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์คาง เพื่อให้รู้ว่ามันเหมาะสมกับความต้องการหรือไม่ และจะช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างรอบคอบมากขึ้น

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์คาง

ข้อดีการฉีดฟิลเลอร์คาง
  • ใบหน้าดูเรียวยาวขึ้นโดยใช้เวลาไม่นาน
  • ไม่เจ็บตัว ไม่ต้องผ่าตัด
  • ไม่ต้องพักฟื้น หน้าเรียวขึ้นหลังทำทันที
  • ปรับรูปทรงของคางได้ตามเหมาะสม
  • หากไม่พอใจ สามารถฉีดสลายหรือฉีดเพิ่มตามความเหมาะสมได้

ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์คาง

ข้อเสียการฉีดฟิลเลอร์คาง
  • ฉีดฟิลเลอร์คางผลลัพธ์ไม่คงอยู่ถาวร ประมาณ 1-2 ปีเท่านั้น ขึ้นอยู่กับการดูแลของแต่ละบุคคล
  • หากฉีดฟิลเลอร์ในเนื้อคางชั้นตื้นเกินไป โดยที่แม้จะใช้ฟิลเลอร์แท้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปอาจทำให้เนื้อคางผิดรูปได้ เพราะเกิดจากการเคลื่อนตัวของเนื้อฟิลเลอร์หรือเกิดพังผืด เนื่องจากร่างกายมีปฏิกิริยาต่อสารฟิลเลอร์ (แต่ถ้าฉีดฟิลเลอร์คาง ด้วยเทคนิคที่ถูกต้องจะไม่พบปัญหานี้)
  • ความเสี่ยงในการติดเชื้อ เพราะต้องใช้เข็มแทงผ่านผิวหนัง จึงมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้เสมอ โดยเฉพาะหากทำในสถานที่ที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่สะอาด หรือแพทย์ไม่ระมัดระวังเรื่องความปลอดเชื้อ อาจทำให้เกิดหนอง แผลอักเสบ ที่ต้องรักษานานขึ้นได้
  • ภาวะแทรกซ้อนในกรณีที่แพทย์ฉีดผิดตำแหน่ง  เช่น ฉีดเข้าเส้นเลือด อาจทำให้ฟิลเลอร์ไปอุดตันหลอดเลือด เกิดลิ่มเลือด ขาดเลือดไปเลี้ยงบริเวณนั้น ทำให้เนื้อเยื่อตายเกิดแผลเป็นได้ แม้โอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก แต่ก็เป็นภาวะแทรกซ้อนที่ค่อนข้างรุนแรง
  • ค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะการฉีดฟิลเลอร์หนึ่งครั้ง มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และยิ่งต้องทำซ้ำ อาจทำให้ยิ่งสะสมค่าใช้จ่ายมากขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าต้องการคงผลลัพธ์ตลอดไป

ฟิลเลอร์คาง ช่วยปัญหาอะไรบ้าง 

ปัญหาที่ควรฉีดฟิลเลอร์คาง คือปัญหาที่เกิดขึ้นได้กับหลาย ๆ คน ต่อไปนี้ โดยต้องหาวิธีแก้ไขให้ตรงจุด 

  • ปัญหาคางสั้น

ฟิลเลอร์คางฉีดแก้คางสั้น

เกิดจากรูปทรงที่คางมีลักษณะปลายคางสั้นจนมองไม่เห็นชัด มักมาการถ่ายทอดทางพันธุกรรมที่มีโครงสร้างกระดูกกรามหรือขากรรไกรสั้น ส่งผลให้ส่วนเว้าส่วนโค้งของรูปหน้าผิด ใบหน้าดูกลม ดูขาดมิติ และไม่สมมาตร

  • ปัญหาคางตัด

ฟิลเลอร์คางฉีดแก้คางตัด

เวลาสังเกตจะไม่เห็นรูปคางชัดเจน เกิดจากรูปกระดูกหรือกล้ามเนื้อบริเวณปลายคาง มีองศาระนาบไปกับพื้น ลักษณะแบบตัด ส่งผลให้คางดูทื่อ ไม่เรียวยาว และใบหน้าดูเป็นเหลี่ยม โดยมีผลต่ออารมณ์ให้ใบหน้าดูขึงขัง ไม่สดใส ความอ่อนหวานดูลดลง

  • ปัญหาคางบุ๋ม

ฉีดฟิลเลอร์คางแก้คางบุ๋ม

ลักษณะคางบุ๋ม จะสังเกตเห็นลักษณะคางที่ปลายยุบเข้าไป ทำให้เกิดเป็นร่อง บางคนตื้น บางคนลึก มักเกิดจากโครงสร้างกระดูกหรือกล้ามเนื้อบริเวณคางที่ทำให้คางบุ๋มเข้าไปคล้ายลักษณะของก้นลูกแอปเปิ้ล ส่งผลให้โดยรวมใบหน้าดูไม่ธรรมชาติ ขาดมิติ

  • ปัญหาคางยื่น

ฉีดฟิลเลอร์คางแก้คางยื่น

คางยื่น จะสังเกตได้ชัดเจนเวลาหันข้าง ซึ่งเกิดจากกระดูกปลายคางหรือขากรรไกรมีความยาวผิดปกติ ส่งผลให้รูปคางยื่นออกมา ทำให้สัดส่วนของใบหน้าไม่สมดุล ปัญหาคางยื่นไม่เพียงส่งผลต่อรูปลักษณ์ภายนอกอย่างเดียว แต่ยังส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันและสุขภาพอีกด้วย

ฟิลเลอร์คาง เหมาะกับใคร

การฉีดฟิลเลอร์คางเหมาะสำหรับผู้ที่มีความต้องการ ต่อไปนี้

  • ผู้ที่มีคางสั้น แต่ไม่มาก คางที่ดูไม่โดดเด่น หรือปลายคางไม่ชัด โดยหากมีขนาดความยาวของคางที่สั้นเกินไป จะทำให้รูปหน้าขาดความสมดุล ขาดมิติ การเสริมเติมเต็มด้วยฟิลเลอร์ จะช่วยให้ได้รูปคางที่ยาวเหมาะสม เข้ากับสัดส่วนใบหน้ามากขึ้น
คางสั้นฉีดฟิลเลอร์คางแก้
  • ผู้ที่มีคางเบี้ยว หรือไม่สมมาตร ในกรณีที่มีความผิดปกติของกระดูกขากรรไกรหรือกล้ามเนื้อบริเวณคาง ทำให้ได้รูปคางที่บิดเบี้ยว ไม่เท่ากันทั้งสองข้าง การอัดฟิลเลอร์เฉพาะจุดเข้าไปจะช่วยปรับให้รูปคางสมมาตรขึ้น ได้ดั่งใจกว่าเดิม
คางเบี้ยวฉีดฟิลเลอร์คางแก้
  • ผู้ที่มีรอยตะกุยบนคาง หรือมีรอยบุ๋มตรงกลางคาง ที่อาจเกิดจากแต่กำเนิดหรือเป็นรอยผ่าตัดเก่า โดยการฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มรอยบุ๋มนั้น จะทำให้ผิวคางเรียบเนียนขึ้น ไม่มีตำหนิให้เห็น
รอยตะกุยบนคางฉีดฟิลเลอร์แก้
  • ผู้ที่ต้องการกรอบหน้ารูปตัววี (V-shape) เพราะการฉีดฟิลเลอร์บริเวณปลายคาง จะช่วยให้สันกรามดูชัดขึ้น ขอบกรามเรียวเล็กลง ช่วยให้รูปหน้าเป็นรูปทรงตัววี ที่ดูเพรียวสวยได้รูปมากขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด
รูปหน้าตัววี (V-shape) ด้วยการฉีดฟิลเลอร์คาง
  • ผู้ที่เคยเสริมคางด้วยซิลิโคนมาก่อน โดยคนที่เคยทำศัลยกรรมเสริมคางด้วยซิลิโคน แต่ไม่พอใจกับผลลัพธ์ เช่น รูปทรงไม่สวย คางเบี้ยว หรือมีก้อนแข็ง หากไม่อยากผ่าตัดแก้ไขใหม่ การฉีดฟิลเลอร์เฉพาะจุด จะช่วยอำพรางจุดบกพร่องดังกล่าว และปรับให้คางดูดีขึ้นได้ โดยไม่ต้องดมยาสลบ
ฉีดฟิลเลอร์คางอำพรางการเสริมด้วยซิลิโคน

ฉีดฟิลเลอร์คาง ไม่เหมาะกับใคร

การฉีดฟิลเลอร์คาง ไม่ใช่การเสริมความงามแบบถาวร และเป็นหัตถการที่ไม่ได้เหมาะกับทุกคน ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น มาดูกันว่า ใครบ้างที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์คาง ดังนี้

ฉีดฟิลเลอร์คาง ไม่เหมาะกับใคร
  • สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร เพราะยังไม่มีการศึกษาถึงความปลอดภัยในการฉีดฟิลเลอร์คางให้กลุ่มนี้มากพอ จึงควรเลี่ยงเพื่อความปลอดภัยของทั้งแม่และเด็ก
  • ผู้ที่มีอายุน้อยเกินไป โดยไม่แนะนำให้ทำในผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ฉีดฟิลเลอร์คาง เพราะโครงสร้างใบหน้ายังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้อีกเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่
  • คนที่แพ้สารประกอบในฟิลเลอร์ หากทราบว่าตัวเองมีประวัติการแพ้สารบางอย่าง เช่น กรดไฮยารูโรนิก ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปฏิกิริยาแพ้รุนแรง
  • ผู้ที่คาดหวังสูงเกินไป ควรทำความเข้าใจไว้ก่อนว่า การฉีดฟิลเลอร์สามารถปรับรูปคางให้ดีขึ้นได้ในระดับหนึ่ง แต่อาจให้ผลไม่เทียบเท่ากับการศัลยกรรมเสริมคาง ดังนั้น เพื่อป้องกันความรู้สึกผิดหวังภายหลัง จึงควรสอบถามข้อมูลจากแพทย์ให้ละเอียด และปรับความคาดหวังให้สอดคล้องกับความเป็นจริงก่อนตัดสินใจทำ
  • ผู้ที่มีความผิดปกติของกระดูกขากรรไกร หรือมีปัญหาโครงสร้างใบหน้ารุนแรง เช่น ภาวะขากรรไกรยื่น ขากรรไกรบน-ล่างไม่สมดุล ความผิดปกติแต่กำเนิดของกะโหลกศีรษะและใบหน้า การฉีดฟิลเลอร์คางอาจไม่สามารถช่วยปัญหานี้ได้ เพราะต้องพึ่งการผ่าตัดแก้ไขเท่านั้น
  • คนที่มีปัญหาสุขภาพ อย่างโรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ โรคเลือดออกง่าย ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือผู้ที่กำลังใช้ยาบางชนิด เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เพราะอาจมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ หรือเลือดออกมากหลังทำ

ฟิลเลอร์คาง อันตรายไหม

ฉีดฟิลเลอร์คาง อันตรายไหม

ฟิลเลอร์คางไม่เป็นอันตราย หากได้รับการรักษากับแพทย์ที่เชี่ยวชาญอย่างแท้จริง และต้องใช้ฟิลเลอร์แท้ในการฉีดเท่านั้น เพราะสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้าง ไม่เป็นอันตรายการแพ้สารประกอบในฟิลเลอร์ แม้ว่าสารประกอบส่วนใหญ่ในฟิลเลอร์จะสังเคราะห์ให้เข้ากับร่างกาย แต่บางรายก็มีโอกาสที่จะเกิดอาการแพ้ได้ โดยเฉพาะการแพ้กรดไฮยารูโรนิก ซึ่งมักแสดงอาการแพ้หลังฉีดไปหลายวัน ถ้ารุนแรงอาจถึงขั้นช็อค หายใจไม่ออก ให้รีบติดต่อแพทย์และเข้ารับการรักษาทันที

ฟิลเลอร์คาง อันตรายไหม

แต่ถ้าฉีด ฟิลเลอร์ปลอม ที่ผิดกฏหมาย อาจทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงและแก้ไขได้ ยากหากเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา เพื่อให้ผู้อ่านตระหนักถึงความสำคัญของการเลือกแพทย์และผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือ รวมถึงแพทย์ที่ไม่มีคุณภาพ ไม่ใช่แพทย์จริง อาจเกิดอันตรายขึ้นได้ หากเกิดอาการผิดปกติขึ้น เช่น ปวดบวมมาก ร้อน บวมแดงเป็นปื้น มีไข้ มีหนอง เป็นก้อนแข็ง เป็นฝ้า หรือผิวหนังเปลี่ยนสี ให้สงสัยไว้ก่อนเลยว่า อาจเป็นเพราะฉีดฟิลเลอร์ปลอม ซึ่งต้องไปพบแพทย์โดยด่วน
ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด ปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ (สามารถนำชื่อไปเช็กที่เว็บแพทยสภาได้) และรักษากับคลินิกที่ผ่านมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่มีคุณภาพ

ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด ปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ (สามารถนำชื่อไปเช็กที่เว็บแพทยสภาได้) และรักษากับคลินิกที่ผ่านมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่มีคุณภาพ

วิธีสังเกตฟิลเลอร์แท้

  • ดูที่บรรจุภัณฑ์และฉลาก ฟิลเลอร์แท้ต้องมีบรรจุภัณฑ์และฉลากที่ได้มาตรฐาน ระบุชื่อผลิตภัณฑ์ ส่วนประกอบ ปริมาณ วันผลิต วันหมดอายุ และเลขที่ผลิตชัดเจน รวมถึงชื่อและที่อยู่ของบริษัทผู้ผลิต หากข้อมูลไม่ครบถ้วน หรือดูเหมือนปลอมแปลง ก็ควรสงสัยไว้ก่อน
ฟิลเลอร์คาง ดูบรรจุภัณฑ์และฉลาก
  • สังเกตลักษณะของเนื้อฟิลเลอร์ โดยฟิลเลอร์แท้ควรมีเนื้อเนียนละเอียด มีความหนืดพอสมควร ไม่แยกชั้นหรือตกตะกอน สีต้องสม่ำเสมอตามมาตรฐานของยี่ห้อนั้น ๆ เช่น ใส หรือขาวขุ่น ไม่ควรมีสิ่งแปลกปลอมเจือปน
สังเกตเนื้อฟิลเลอร์
  • สังเกตความสม่ำเสมอของปริมาณ เพราะฟิลเลอร์แท้ที่ผลิตจากโรงงานมาตรฐาน จะต้องมีการควบคุมคุณภาพและปริมาณอย่างเข้มงวด และเมื่อดูด้วยตาเปล่า ปริมาณของเหลวในหลอดหรือกระบอกฉีดแต่ละชิ้น จะอยู่ในปริมาณที่เท่ากันทุกหลอด
สังเกตปริมาณและความสม่ำเสมอ
  • ตรวจสอบราคา โดยฟิลเลอร์แท้จากแบรนด์ที่มีชื่อเสียง มักราคาสูงกว่าฟิลเลอร์ทั่วไปอยู่แล้ว เพราะต้องผ่านขั้นตอนการผลิตและทดสอบที่เข้มงวด ใช้ส่วนผสมคุณภาพดี ดังนั้นหากราคาถูกจนผิดสังเกต ควรตรวจสอบแหล่งที่มาให้แน่ใจก่อน
เช็คราคาฟิลเลอร์คางแท้
  • ระวังราคาถูกเกินจริง ซึ่งหากได้รับข้อเสนอฉีดฟิลเลอร์คางในราคาที่ถูกเกินจริง เช่น ต่ำกว่าท้องตลาดทั่วไปมาก อาจต้องพิจารณาให้ดีว่าเป็นฟิลเลอร์แท้หรือไม่ เพราะต้นทุนของฟิลเลอร์คุณภาพดี ผ่านมาตรฐานสากล จะย่อมสูงกว่าฟิลเลอร์ปลอมหรือเกรดต่ำแน่นอน
ระวังฟิลเลอร์ที่ราคาถูกเกินจริง

ฉีดฟิลเลอร์คางแล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร

ฟิลเลอร์คางฉีดแล้วเป็นก้อน

ปัญหาฉีดฟิลเลอร์คางแล้วเป็นก้อน ทำให้หลายคนเกิดความสงสัย และกังวลว่าฉีดแล้วจะเป็นก้อนไหม ทำไมถึงเป็นก้อน เกิดจากอะไร โดยปัญหาหลักที่พบได้ อาจเกิดจาก

  • ความเชี่ยวชาญของแพทย์ โดยเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกฉีดฟิลเลอร์คาง เพราะหากแพทย์ไม่มีประสบการณ์มากพอ อาจทำให้เกิดปัญหาการวางตัวยาผิดชั้น หรือวางตัวยาไม่เป็นธรรมชาติ ทำให้เกิดเป็นก้อนขึ้นมาได้ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ให้ดีก่อน พิจารณาสภาพใบหน้าของตน และฟังความเห็นของแพทย์ร่วมด้วย เพื่อป้องกันปัญหานี้
  • การเลือกตัวยา ยาที่นำมาฉีดต้องตรวจสอบแล้วว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ ไม่ใช่ฟิลเลอร์ปลอมที่ถูกหิ้วเข้ามา โดยฟิลเลอร์แท้ต้องสามารถตรวจสอบกับทางบริษัทยาที่นำเข้ามาได้ เพราะมีเลข Lot เลขลงทะเบียนชัดเจนและตรงกัน แต่ถ้าฉีดฟิลเลอร์ปลอมจะทำให้รู้สึกเป็นก้อนแข็ง ๆ เวลาจับหรือคลำโดน ไม่สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ ต้องขูด หรือผ่าออกเท่านั้น

วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์คาง

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์คาง

หลังจากฉีดฟิลเลอร์คาง ต่อมาคือการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี เพื่อช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด ลดอาการบวมช้ำ และป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อน โดยมีข้อแนะนำการปฏิบัติตัว ตามนี้ 

  • ประคบเย็นบ่อย ๆ ในช่วง 2-3 วันแรก หลังฉีดฟิลเลอร์คาง แนะนำให้ประคบเย็นบริเวณคางเป็นระยะ ๆ ครั้งละ 10-15 นาที วันละหลาย ๆ ครั้ง เพื่อลดอาการบวมช้ำ และระงับปวดได้ดี
  • พักการแต่งหน้าระยะหนึ่ง โดยเฉพาะรอบคาง อย่างน้อย 1-2 วัน เพื่อให้แผลที่เข็มทิ่มแห้งสนิท ลดการระคายเคืองและการอักเสบติดเชื้อ
  • เลี่ยงการสัมผัสแรงๆ ในช่วงสัปดาห์แรก พยายามอย่ากดทับ นวด หรือสัมผัสรุนแรงบริเวณคางที่ฉีด เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์คางเคลื่อนย้ายจากตำแหน่งเดิม
  • ทานอาหารอ่อนๆ เลี่ยงการรับประทานอาหารแข็ง เหนียว หรือต้องเคี้ยวมากในช่วงแรก เพราะการเคี้ยวหนัก อาจส่งผลให้ฟิลเลอร์กระจายตัวไม่สม่ำเสมอ
  • ระวังแสงแดด หลีกเลี่ยงการโดนแดดจัดหลังฉีดฟิลเลอร์คาง เพราะจะยิ่งไปกระตุ้นให้ผิวไวต่อการระคายเคือง บวม และแดงมากขึ้น หากต้องออกแดด ให้ทาครีมกันแดดเสมอ
  • งดออกกำลังกายหักโหม ควรพักออกกำลังที่หนักหน่วงหรือกระแทกแรงๆ 3-5 วัน เพราะอาจไปเพิ่มความเสี่ยงต่อการฟกช้ำ บวมมากขึ้น และทำให้ฟิลเลอร์กระจายไปจากตำแหน่งที่ฉีดได้
  • งดแอลกอฮอล์และบุหรี่ ในช่วงก่อนและหลังฉีดอย่างน้อย 1-2 อาทิตย์ เพราะอาจไปขัดขวางกระบวนการสมานแผลและฟื้นฟูผิว ทำให้หายช้าลง
  • ไม่ควรแกะเกาหรือบีบแผล แม้จะคัน แสบ หรือมีตุ่มเล็กๆ แต่ต้องอดทน อย่าแกะแกน บีบ หรือเกา เพราะจะยิ่งไปกระตุ้นการอักเสบ เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น
  • สังเกตอาการผิดปกติ โดยหลังฉีดควรสังเกตอาการของตัวเองอย่างใกล้ชิด หากพบอาการแปลกๆ อย่าง ปวดบวมมาก บวมแดงร้อนเกิน 5 วัน มีไข้ มีผื่น แพ้ หรือหน้าเบี้ยว ต้องรีบกลับไปพบแพทย์โดยเร็ว
  • ไปตรวจตามนัด สำคัญคือต้องกลับไปพบแพทย์ตามนัด เพื่อเช็คผลลัพธ์และภาวะแทรกซ้อนต่างๆ รวมถึงปรึกษาเรื่องการดูแลผิวระยะยาว เพื่อคงความสวยงามหลังฉีดฟิลเลอร์คางให้ยาวนานที่สุด

การปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์คางอย่างเหมาะสม จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย โดยมีภาวะแทรกซ้อนน้อยที่สุด แต่ถ้ามีข้อสงสัยใดๆ ก็ไม่ควรลังเลที่จะสอบถามแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม เพื่อให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างราบรื่น และได้ใบหน้าที่สวยเป็นธรรมชาติอย่างที่ต้องการ

ฟิลเลอร์คาง กับเสริมคาง แบบไหนดีกว่ากัน

ฉีดฟิลเลอร์คาง กับ เสริมคาง อันไหนดีกว่า

เมื่อเปรียบเทียบระหว่างการฉีด ฟิลเลอร์คาง และการเสริมคางด้วยซิลิโคน จะเห็นว่ามีทั้งข้อดีและข้อแตกต่างที่ควรพิจารณา โดยการฉีดฟิลเลอร์คางจะเหมาะกับคนที่ต้องการแก้ไขรูปคางแบบชั่วคราว ในขณะที่การเสริมคางให้ผลลัพธ์ที่ถาวรกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงและระยะพักฟื้นที่มากกว่าเช่นกัน สรุปข้อดีและข้อแตกต่างได้ ดังนี้ค่ะ

ข้อดีฟิลเลอร์คาง

  • เห็นผลไว ใช้เวลาน้อย ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น
  • ราคาถูกกว่าเสริมคาง แต่อาจต้องทำซ้ำบ่อยกว่า
  • ไม่มีแผล ไม่มีรอยแผลเป็นหลังทำ
  • สามารถปรับแก้ได้ หากไม่พอใจผลลัพธ์
  • เหมาะกับการปรับเปลี่ยนรูปคางเพียงเล็กน้อย

ข้อเสียฟิลเลอร์คาง

  • ผลอยู่ได้ไม่ถาวร ประมาณ 1-2 ปี ต้องทำซ้ำเรื่อยๆ
  • ใช้การกับแก้ปัญหาคางบางรูปแบบเท่านั้น เช่น ริ้วรอย ไม่เหมาะกับปัญหาโครงสร้างคาง
  • มีความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้บ้าง เช่น การอักเสบติดเชื้อ หากทำกับแพทย์ไม่มีความชำนาญ

ข้อดีเสริมคาง

  • ผลลัพธ์คงทนถาวร ไม่ต้องทำซ้ำบ่อย
  • ปรับเปลี่ยนรูปคางได้ละเอียด ทั้งความยาว ความกว้าง และมิติต่างๆ
  • สามารถแก้ไขปัญหาคางหลายรูปแบบ ทั้งคางสั้น คางเล็ก คางไม่สมมาตร
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงรูปคางค่อนข้างมาก

ข้อเสียเสริมคาง

  • ราคาสูงกว่า และใช้ระยะเวลาพักฟื้นนานกว่า
  • ต้องผ่าตัด มีแผล และอาจมีรอยแผลเป็นได้บ้าง
  • กระบวนการทำนานกว่า เจ็บและบวมมากกว่า
  • ความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนมีมากกว่า หากผ่าตัดโดยแพทย์ไม่เชี่ยวชาญ
  • หากไม่พอใจผลลัพธ์ แก้ไขทำใหม่ได้ยากกว่า

อย่างไรก็ตาม การฉีดฟิลเลอร์คาง เหมาะกับคนที่ต้องการแก้ไขรูปคางแบบชั่วคราว ใช้เวลาน้อย ไม่เจ็บ ส่วนการเสริมคางจะเหมาะกับคนที่ต้องการเปลี่ยนรูปคางถาวร สามารถปรับได้ละเอียดกว่า แต่ต้องแลกกับค่าใช้จ่าย เวลาพักฟื้น และความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยที่มากขึ้น

สุดท้าย การเลือกว่าจะฉีดฟิลเลอร์ หรือเสริมคาง นั้นควรขึ้นอยู่กับเป้าหมายของแต่ละคน ร่วมกับการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินสภาพปัญหา และความเหมาะสมเป็นรายบุคคลค่ะ

เจาะลึกข้อมูลเพิ่มเติม : เปรียบเทียบ ฉีดฟิลเลอร์คางกับศัลยกรรมคางด้วยซิลิโคน

เสริมคางแล้วฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม

เสริมคาง ฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม

หลังเสริมคางแล้วสามารถฉีดฟิลเลอร์ได้ แต่ควรเว้นระยะเวลาอย่างน้อย 6-12 เดือน หลังการเสริมคาง เพื่อให้แผลหายสนิท ถึงจะสามารถฉีดฟิลเลอร์คางเพื่อปรับแก้รูปได้ แต่การฉีดฟิลเลอร์ทับซิลิโคนที่เสริมคาง ควรปรึกษาแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางอย่างละเอียดก่อนทำ โดยมีข้อควรระวัง ต่อไปนี้

  • ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้น เพราะต้องอาศัยความชำนาญสูงในการประเมินตำแหน่ง ปริมาณ และเทคนิคการฉีดที่เหมาะสม ไม่ให้ฟิลเลอร์คางไปเบียดหรือกดทับซิลิโคน จนทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายหรือผิดรูปได้
  • เลือกใช้ฟิลเลอร์คางชนิดที่เข้ากันได้ดีกับซิลิโคน เช่น ฟิลเลอร์ชนิดกรดไฮยารูโรนิค (HA) เพราะให้ผลลัพธ์ที่เนียนนุ่ม ละมุนละไม กลมกลืนกับเนื้อเยื่อเดิม ไม่ทำปฏิกิริยากับซิลิโคน แต่ให้หลีกเลี่ยงฟิลเลอร์ชนิดกระตุ้นคอลลาเจน เพราะอาจทำให้เกิดเนื้อเยื่อพังผืดหุ้มรอบแคปซูลได้
  • ระมัดระวังในขั้นตอนฉีดฟิลเลอร์คาง โดยล้างทำความสะอาดบริเวณที่จะฉีดอย่างถี่ถ้วน ใช้เข็มขนาดเล็กและความยาวพอเหมาะ ไม่ปักลึกเกินไปจนโดนซิลิโคน และฉีดช้าๆ ทีละน้อย เพื่อให้กระจายสม่ำเสมอ ลดการระคายเคือง บาดผิวซิลิโคน หรือเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  • ฉีดในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มากเกินไป เพราะการมีฟิลเลอร์ปริมาณมากอัดอยู่ในชั้นผิวหนังที่มีซิลิโคน อาจทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ เกิดเป็นก้อนคับแน่นได้ง่าย
  • ห้ามนวดหรือบีบจับแรงๆ หลังฉีดฟิลเลอร์คางเด็ดขาด โดยต้องใช้สัมผัสอย่างอ่อนโยนบริเวณที่ฉีด เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์และซิลิโคนเคลื่อนออกจากตำแหน่ง
  • สังเกตอาการผิดปกติใดๆ อย่างใกล้ชิด เพราะหากมีอาการปวด บวมแดง ร้อนมาก หรือมีก้อนแข็งผิดสังเกต ให้รีบกลับไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ หรือมีปฏิกิริยาระหว่างฟิลเลอร์และซิลิโคนก็เป็นได้
  • งดแต่งหน้า งดโดนน้ำ หรือแช่น้ำบริเวณคาง 5-7 วันหลังฉีด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และไม่ให้เครื่องสำอาง น้ำ หรือความชื้นมากระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยากับฟิลเลอร์และซิลิโคน

ด้วยข้อระวังเหล่านี้ การฉีดฟิลเลอร์คางทับซิลิโคนที่เสริมคาง จะช่วยให้การปรับแต่งรูปหน้าทำได้อย่างแนบเนียน กลมกลืน ปลอดภัย และสวยงามเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของแพทย์ และการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องของเราเองด้วยค่ะ

ฟิลเลอร์คาง ทำไมบางทีฉีดมาแล้วยิ้มเป็นก้อน ดูไม่เป็นธรรมชาติ

ฟิลเลอร์คาง ฉีดแล้วยิ้มเป็นก้อน

ปัญหาฟิลเลอร์คางที่ฉีดแล้วยิ้มเป็นก้อน ดูไม่ธรรมชาตินั้น อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้

  • ฉีดปริมาณมากเกินไป จนทำให้เนื้อฟิลเลอร์ไปเบียดเนื้อเยื่อเดิม เกิดเป็นก้อนเฉพาะจุดได้ โดยเฉพาะเวลาขยับหน้าหรือยิ้ม ก้อนฟิลเลอร์คางที่อัดแน่นจะโผล่ให้เห็นชัดเจน ดูไม่เป็นธรรมชาติ
  • ฉีดฟิลเลอร์ผิดชั้น หรือฉีดชั้นที่ตื้นเกินไป เพราะไม่ได้อยู่ในชั้นของกล้ามเนื้อหรือไขมัน อาจทำให้มองเห็นเป็นลักษณะก้อนนูนได้ชัดเวลายิ้ม เพราะชั้นผิวถูกดันขึ้นมา ไม่กลมกลืนกับเนื้อเยื่อ
  • เทคนิคฉีดฟิลเลอร์คางไม่ถูกต้อง เพราะการฉีดฟิลเลอร์คางให้ได้รูปสวยเป็นธรรมชาตินั้น จำเป็นต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์ผู้ฉีดเป็นอย่างมาก ทั้งการคำนวณปริมาณ การเลือกตำแหน่งที่ฉีด และการกระจายให้ทั่วสม่ำเสมอ ซึ่งหากทำไม่ถูกต้อง จะสังเกตเห็นผิวนูนเป็นก้อนชัดเจน
  • คุณภาพของฟิลเลอร์ไม่ดีพอ มีคุณภาพต่ำ เช่น มีความเข้มข้นของเนื้อสารไม่สม่ำเสมอ หรือมีส่วนประกอบที่ไม่บริสุทธิ์ ส่งผลให้เกิดการจับตัวเป็นก้อน หรือแทรกซึมเข้าเนื้อเยื่อไม่ดี เวลายิ้มหรือเคลื่อนไหวจะเห็นเป็นตุ่มนูนชัดเจน

เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเหล่านี้ สำคัญคือต้องเลือกทำกับแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านฟิลเลอร์โดยเฉพาะ ใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพดีที่ผ่านการรับรอง อย. และผ่านการวางแผนอย่างรอบคอบ ตั้งแต่พิจารณาปริมาณ ตำแหน่ง ความลึกในการฉีด ให้เหมาะสมกับสภาพผิวและกายวิภาคของแต่ละบุคคล โดยเพื่อให้ปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่สวยดูดี เป็นธรรมชาติ

ฟิลเลอร์คาง ยี่ห้อไหนดี

ที่ RWC Clinic เราใช้ฟิลเลอร์คาง ในการฉีด 2 ยี่ห้อ คือ Juvederm และ Restylane เพื่อให้ดูเหมือนเสริมกระดูก และเพิ่มความยาวของคางได้อย่างเป็นธรรมชาติ ดังนี้

  • ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma (อเมริกา) ฟิลเลอร์คางเนื้อแข็ง ความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับลักษณะคางที่ลีบแหลม ขาดความอวบอิ่ม ไม่สวยงาม โดยไปช่วยเพิ่มความนูนอิ่ม ทำให้คางดูอวบมนได้รูปสวย เติมคางให้มีมิติขึ้น และดูเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นานสุดถึง 18 เดือน
ฟิลเลอร์คางฉีดยี่ห้อ Juvederm voluma
  • ฟิลเลอร์ Juvederm Volux (อเมริกา) ฟิลเลอร์คางเนื้อแข็ง ความคงตัวสูง ขึ้นรูปได้ง่าย ปั้นทรงสวย ช่วยปรับโครงสร้างใบหน้าได้ดีที่สุด เหมาะสำหรับคางที่สั้น ไม่ชัด ไร้มิติ โดยฉีดเป็นจุดตามแนวขอบคางเพื่อเสริมความชัดเจน เพื่อรูปทรงที่ดูเป็นธรรมชาติ อยู่ได้ 18-24 เดือน หรือ 1–2 ปี
ฟิลเลอร์คางฉีดยี่ห้อ Juvederm Volux
  • ฟิลเลอร์ Restylane Perlane lyft (สวีเดน) ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับเสริมทดแทนกระดูก แก้ปัญหาคางที่เริ่มหย่อนคล้อยและมีริ้วรอยชัดเจน โดยไปช่วยเพิ่มปริมาตร ความเด้งตึง ให้คางดูเรียบเนียนกระชับขึ้น สามารถจัดรูปทรงคางแต่ยังคงความเป็นธรรมชาติได้ สามารถคงรูปได้ดี อยู่ได้นาน 12 เดือน หรือ 1 ปี
ฟิลเลอร์คางฉีดยี่ห้อ Restylane perlane lyft

ซึ่งการเลือกฟิลเลอร์คางให้ดี มีคุณภาพ จำเป็นที่ต้องผ่านการรับรองจาก อย. ในประเทศ โดยมีเลข อย. กำกับ ระบุส่วนประกอบที่ชัดเจน ไม่มีสารอันตราย รวมถึงเป็นผลิตภัณฑ์จากแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ช่วยให้ผู้อ่านคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีได้ด้วยตนเอง

ฟิลเลอร์คาง ฉีดเท่าไหร่ ใช้กี่ cc

ฉีดฟิลเลอร์คาง ใช้กี่ cc

การฉีดฟิลเลอร์แต่ละตำแหน่งนั้น จะใช้ปริมาณที่ไม่เท่ากันกัน อย่างการฉีดฟิลเลอร์คาง จะใช้ที่ปริมาณ 1 – 2 cc ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล เพื่อการแก้ไขที่เหมาะสม โดยให้แพทย์เป็นผู้ประเมิน ซึ่งถ้าต้องการปรับแก้รูปทรงหลังฉีด อาจใช้ปริมาณที่มากกว่านี้ได้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ที่ทำการรักษา

โดยฟิลเลอร์คางสามารถฉีดซ้ำได้ แต่ควรเว้นระยะในการฉีดซ้ำ 6-12 เดือน เพื่อคงประสิทธิภาพของฟิลเลอร์ไว้ ไม่ปล่อยให้คางกลับไปเป็นแบบเดิม

ฉีดฟิลเลอร์คาง ราคา

ราคาฉีดฟิลเลอร์คาง

ทั่วไป ราคาของการฉีดฟิลเลอร์คาง มักขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแพทย์ที่ทำการรักษา ซึ่งแต่ละคลินิกอาจแตกต่างกันไป เริ่มต้นที่ราคา 9,000 บาท ไปจนถึง 20,000 บาท ต่อ 1 ซีซี

โดยราคาที่ต่างกันมักขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย อย่างแบรนด์ฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดคาง และปริมาณที่ใช้ เพราะต้องดูจากปัญหาของแต่ละบุคคล ถ้าพบราคาที่ถูกหรือแพงเกินไปแบบไม่สมเหตุสมผล อาจสามารถสังเกตและหลีกเลี่ยงได้เลย ว่าไม่ปลอดภัยอย่างแน่นอน

ก่อน – หลังฉีดฟิลเลอร์คาง มีข้อห้ามและเตรียมตัวอย่างไร

การฉีดฟิลเลอร์คาง แม้จะเป็นหัตถการที่ไม่ซับซ้อน แต่ก็ยังจำเป็นต้องมีการเตรียมตัวและการดูแลที่เหมาะสมทั้งก่อนและหลังการทำ รวมถึงต้องทราบถึงข้อห้ามต่าง ๆ เพื่อลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ ก่อน – หลังฉีดฟิลเลอร์คาง มีข้อห้ามและเตรียมตัวอย่างไร ดังนี้ค่ะ

ข้อห้ามก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง

ข้อห้ามก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง
  1. ผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อนฉีดฟิลเลอร์คางทุกครั้ง
  2. เลี่ยงอาหารเสริมหรือยาบางชนิด เช่น ยาแก้ปวด กลุ่ม NSAIDs, aspirin และ Ibuprofen อย่างน้อย 24 ชม.
  3. งดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนฉีด 24 ชม.
  4. งดการเลเซอร์ร้อนบริเวณที่ฉีด 3 วัน
  5. หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบ
  6. งดการแว็ก หรือโกนผิวบริเวณที่ฉีด

ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์คาง

ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์คาง
  1. ห้ามนวด กด บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์คาง
  2. ห้ามเท้าคาง นอนคว่ำ และหลีกเลี่ยงการกดทับบริเวณคาง เพราะอาจทำให้ตำแหน่งของฟิลเลอร์เคลื่อนที่ได้ รูปทรงอาจผิดรูป
  3. หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู
  4. งดทำเลเซอร์ร้อน อย่างน้อย 1 เดือน
  5. ควรงดสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 1 สัปดาห์

อ่านเนื้อหาเพิ่มเติม : ข้อห้าม หลังฉีดฟิลเลอร์คาง มีอะไรบ้าง ?

Q&A คำถามที่พบบ่อย ฉีดฟิลเลอร์คาง

  • ฉีดฟิลเลอร์คางเจ็บไหม ?

เมื่อเทียบกับหัตถการอื่น การฉีดฟิลเลอร์คางถือว่าไม่เจ็บเลยค่ะ แต่ความเจ็บของแต่ละบุคคลไม่เท่ากัน ดังนั้น จึงขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลด้วยค่ะ

  • ฟิลเลอร์คางอยู่ได้นานกี่เดือน ?

หลังฉีดฟิลเลอร์คางแล้ว ผลลัพธ์จะอยู่ได้ 1 – 2 ปี ขึ้นอยู่การดูแล และสภาพผิวของแต่ละบุคคลค่ะ

  • หลังฉีดฟิลเลอร์คาง บวมนานแค่ไหน ?

อาการบวมช้ำหลังฉีดฟิลเลอร์คาง ระยะเวลาหายบวมโดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 3-7 วัน กว่าจะยุบและกลับสู่สภาพปกติ ขึ้นอยู่กับการสภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วย

  • หลังฉีดฟิลเลอร์คาง ทำหัตถการอื่นได้ไหม  ? เช่น เลเซอร์

หลังจากฉีดฟิลเลอร์คาง แนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงการทำหัตถการอื่น ๆ บริเวณใกล้เคียงในช่วง 2-4 สัปดาห์แรก แต่ถ้าเป็นทรีตเมนต์ผิวหน้าทั่วไป อย่างการฉีดโบท็อกซ์ หรือฟิลเลอร์ตัวอื่นเพิ่ม ก็สามารถทำได้ค่ะ แต่ต้องเว้นระยะห่างจากตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์คาง และรอให้ผิวแข็งแรงขึ้นก่อน ประมาณ 2-4 สัปดาห์เช่นกัน

  • ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์ มีอะไรบ้าง ?

อาการข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์คาง ทั่วไปจะมีอาการบวมแดง ช้ำ ในบริเวณที่ฉีด 3-4 วัน แนะนำให้เลี่ยงการสัมผัส แกะ นวด หรือเท้าคาง เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการผิดรูป

  • ฟิลเลอร์คาง ช่วยส่งเสริมโหงวเฮ้งเรื่องใด ?

ในทางนรลักษณ์ศาสตร์ ผู้ที่มีรูปคางที่เอิบอิ่ม เนื้อนูนเต็ม มักเป็นผู้ที่มีความมุ่งมั่น อดทนต่อความยากลำบากได้ดี และเป็นผู้ที่อ่อนโยนต่อความรัก 

  • ฟิลเลอร์คาง สลายได้ไหม ?

หากฉีดฟิลเลอร์คางที่มีคุณภาพ เป็นฟิลเลอร์แท้ สามารถฉีดสลายได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าเป็นฟิลเลอร์ปลอมจะไม่สามารถฉีดสลายได้ ต้องขูดออกหรือผ่าตัดออกเท่านั้น

  • ฉีดฟิลเลอร์คาง กี่เดือนเห็นผล ?

การฉีดฟิลเลอร์คาง จะเห็นผลลัพธ์หลังทำทันที คางดูเรียวยาว และมีมิติมากขึ้น แต่จะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน และดูกลมกลืนไปกับผิวมากที่สุด ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลด้วย

รีวิวฉีดฟิลเลอร์คาง

รีวิวผลลัพธ์จริงจากผู้เข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์คางของ RWC Clinic

ภาพรีวิว

ฟิลเลอร์คาง รีวิว1
ฟิลเลอร์คาง รีวิว6

คลิปรีวิว

ฉีดฟิลเลอร์คาง ที่ไหนดี

การเลือกสถานที่ฉีดฟิลเลอร์คาง ให้ปลอดภัยนั้น มีหลักเกณฑ์ที่ควรพิจารณาดังนี้

  • เลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน สถานที่ฉีดฟิลเลอร์คาง ควรเป็นสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย มีใบรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ผ่านมาตรฐานความสะอาด และมีเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐานสากล เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้รับบริการ
  • เลือกแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านฟิลเลอร์โดยเฉพาะ โดยเลือกทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ความงาม หรือศัลยกรรมตกแต่งโดยตรง หรือที่ผ่านการอบรมเฉพาะทางการฉีดฟิลเลอร์มาเป็นอย่างดี เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังฉีดฟิลเลอร์คาง และเพื่อผลลัพธ์ที่สวยเป็นธรรมชาติ
  • เลือกคลินิกที่ใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์แบรนด์คุณภาพ เพราะฟิลเลอร์ที่ดีต้องผ่านการรับรองความปลอดภัย มีการขึ้นทะเบียนถูกต้อง ไม่ใช่สินค้าเถื่อนหรือปลอม ที่อาจมีส่วนผสมอันตรายแอบแฝงอยู่ แนะนำให้สอบถามแพทย์ถึงแหล่งที่มาของฟิลเลอร์ที่จะใช้ด้วยทุกครั้ง
  • เลือกคลินิกที่ให้คำปรึกษาและดูแลอย่างใกล้ชิด ด้วยบริการแบบเป็นส่วนตัว มีการพูดคุยซักประวัติ และให้คำแนะนำอย่างละเอียดทุกขั้นตอน ตั้งแต่ก่อนฉีด ขณะฉีด และมีการเช็คอาการ ติดตามผลหลังฉีดฟิลเลอร์คางอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่าผลลัพธ์จะเป็นไปตามต้องการ และไม่เกิดผลข้างเคียงใด ๆ ตามมา
  • เลือกคลินิกที่ราคาสมเหตุสมผล ไม่ถูกจนน่าสงสัย ควรเลือกคลินิกที่คิดราคาสมเหตุสมผล ซึ่งสอดคล้องกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการที่ได้รับ หากราคาถูกเกินไป อาจต้องระวังเรื่องการใช้ฟิลเลอร์เกรดต่ำ หรือไม่ได้มาตรฐาน 
  • เลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ ได้รับการันตีจากผู้ที่เคยใช้บริการจริง อีกหนึ่งวิธีคือการอ่านรีวิว หาข้อมูลจากประสบการณ์ของผู้ที่เคยไปฉีดฟิลเลอร์คางกับคลินิกนั้น ๆ มาก่อน และขอดูผลงานจริงของคลินิก เพื่อสร้างความมั่นใจ โดยต้องเป็นคลินิกที่ผ่านการยอมรับเรื่องความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือด้วย

ซึ่งถ้าพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่กล่าวไปนี้ เราเชื่อว่าจะช่วยคุณเลือกสถานที่ฉีดฟิลเลอร์คางได้อย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ คุ้มกับการลงทุนเพื่อความงามอย่างแท้จริงค่ะ

บทสรุป

สรุปแล้ว ฟิลเลอร์คาง (Chin filler) คือ การฉีดสาร HA เข้าไปเติมเต็มที่บริเวณคางเพื่อแก้ปัญหาคางสั้น หน้ากลมไม่เข้ากับรูป เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ไขคางแบบเร่งด่วน โดยไม่ต้องผ่าตัด สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ แต่ผลลัพธ์ไม่คงอยู่ถาวร ประมาณ 6 – 12 เดือน ซึ่งสามารถฉีดซ้ำและฉีดสลายได้หากไม่พอใจในผลลัพธ์ 

หากใครกำลังสนใจอยากฉีดฟิลเลอร์คางดูสักครั้ง สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ RWC Clinic รับรองเรื่องของความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ท่านพึงพอใจได้อย่างมีคุณภาพ

ได้รับความสนใจจากสื่อหลากหลายช่องทาง เกี่ยวกับเทรนด์การปรับรูปหน้า

ฉีดฟิลเลอร์

CONTACT FOR SPECIAL PRIVILEGES

กดด้านล่างติดเราเพื่อสอบถามรายละเอียดเเละสิทธิ์อื่นๆ

โทร RWC
line rwc
Facebook rwc
โทร RWC
Facebook rwc
line rwc

ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง RWC Clinic

ทีมแพทย์ RWC