เมื่อเจอโปรโมชั่นฉีดฟิลเลอร์ราคาถูก เพื่อดึงดูดเรา ขอให้พึงระวังไว้ว่าอาจเป็น ฟิลเลอร์ปลอม เพราะผู้ให้บริการบางรายอาจใช้กลยุทธ์นี้เพื่อล่อลวงผู้ใช้บริการให้ไปใช้บริการด้วยราคา แต่ผลลัพธ์อาจจะไม่ได้ตรงความคาดหวัง หรือเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ตามมา ดังนั้น ควรมีวิจารณญาณและตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดให้ดี ก่อนจะเข้ารับการหัตถการใด ๆ ก็ตาม
การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจฉีดจึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้เข้าใจความแตกต่างระหว่างฟิลเลอร์แท้และฟิลเลอร์ปลอม รวมทั้งป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับสุขภาพและความงามของคุณในระยะยาว
ฟิลเลอร์ปลอม คืออะไร
ฟิลเลอร์ปลอม คือ สารที่ใช้ในการมาเลียนแบบฟิลเลอร์นั้นมีหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ซิลิโคนเหลว ไบโอพลาสติก พาราฟิน ถือว่าเป็น ฟิลเลอร์ปลอม ตัวอย่างเช่น ซิลิโคนเหลว เป็นสารโพลิเมอร์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตสิ่งของที่ทำมาจากพลาสติก หากเข้าสู่ร่างกายของเราก็จะไม่สามารถดูดซึมได้ เมื่อระยะเวลาผ่านไป ร่างกายจะเกิดต่อต้านสารแปลกปลอมที่เข้าไป และเกิดอาการแพ้
หลังฉีดฟิลเลอร์ปลอมเข้าไป ในระยะแรกอาจจะยังไม่ออกอาการมาก ในระยะแรกร่างกายอาจไม่แสดงอาการผิดปกติใด ๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปร่างกายจะจับได้ว่ามีสารแปลกปลอมเข้ามาเพราะมันไม่สลาย โดยเริ่มจับเป็นก้อน กลายเป็นซิลิโคนเหลวที่เกาะแน่นกับกระดูก อาจทำให้ใบหน้าเสียรูปไปเลยก็ได้
ฟิลเลอร์ปลอม เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นอย่างผิดกฎหมาย ไม่ได้รับการรับรองคุณภาพและความปลอดภัย มักมีส่วนผสมที่อันตราย เช่น ซิลิโคน น้ำมัน หรือสารปนเปื้อนอื่นๆ โดยฟิลเลอร์ประเภทนี้จะมีราคาถูกมาก อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรง เช่น การติดเชื้อ เนื้อเยื่อตาย หรือการอักเสบเรื้อรัง เป็นต้น
ฟิลเลอร์หิ้ว เป็นผลิตภัณฑ์แท้ที่นำเข้าจากต่างประเทศอย่างไม่เป็นทางการ ผ่านการรับรองคุณภาพและความปลอดภัยจากประเทศผู้ผลิต มีส่วนผสมที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ เช่น กรดไฮยาลูโรนิก ราคาอาจถูกกว่าการซื้อผ่านช่องทางที่เป็นทางการ แต่แพงกว่าฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้วมีความเสี่ยงน้อยกว่าฟิลเลอร์ปลอม แต่อาจมีปัญหาเรื่องการเก็บรักษาและการขนส่ง
อย่างไรก็ตาม ทั้งฟิลเลอร์ปลอมและฟิลเลอร์หิ้วต่างเป็นสิ่งผิดกฎหมายและไม่ปลอดภัยสำหรับการใช้งาน วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือการรับบริการจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้องเท่านั้น
ฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐานมักผลิตจาก Hyaluronic acid และสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติภายใน 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับปริมาณและชนิดที่ใช้ หากพบว่าฟิลเลอร์ไม่ยุบหรือสลายตัวตามเวลาที่ควร อาจเป็นสัญญาณของฟิลเลอร์ปลอม โดยเฉพาะเมื่อบริเวณที่ฉีดสัมผัสความร้อนแล้วเกิดการไหล ย้อย หรือบวมผิดรูป
ฟิลเลอร์ปลอมมักไม่สามารถสลายตัวได้ ทำให้ติดค้างอยู่ในร่างกายและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการใช้ฟิลเลอร์ปลอมหรือไม่ได้มาตรฐานตั้งแต่ต้น เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจตามมาในภายหลัง
อาการเมื่อฉีดฟิลเลอร์ปลอมระยะสั้น
- บวมแดงมากกว่าปกติ – ผิวหนังบริเวณที่ฉีดจะบวมและแดงมากกว่าการฉีดฟิลเลอร์ปกติ อาจคงอยู่นานกว่า 1-2 วัน
- เจ็บปวดรุนแรง – ความเจ็บปวดจะมากกว่าการฉีดฟิลเลอร์ทั่วไป และอาจไม่ทุเลาแม้ผ่านไปหลายวัน
- คลำพบก้อนแข็งใต้ผิวหนัง – กิดจากการจับตัวของสารที่ฉีดเข้าไป ทำให้รู้สึกเป็นก้อนแข็งเมื่อสัมผัส
- ผิวหนังเปลี่ยนสี มีรอยช้ำหรือจ้ำเลือด – อาจเกิดจากการอักเสบหรือการบาดเจ็บของเส้นเลือดฝอย
- อาการแพ้ – ร่างกายอาจตอบสนองต่อสารแปลกปลอม ทำให้เกิดอาการคัน ผื่นแดง หรือบวม ซึ่ง อาการแพ้ที่กล่าวมาไม่ใช่แค่ปฏิกิริยาต่อฟิลเลอร์ปลอมเท่านั้น แต่อาจพบอาการคล้ายกันได้ในกรณีของการติดเชื้อจากการฉีดด้วยเข็มหรืออุปกรณ์ที่ไม่สะอาดด้วย
อาการเมื่อฉีดฟิลเลอร์ปลอมระยะยาว
- การติดเชื้อ – เกิดจากการปนเปื้อนเชื้อโรคในสารฟิลเลอร์หรือการฉีดที่ไม่สะอาด อาจลุกลามเป็นฝีหนอง
- เนื้อเยื่อเน่าตาย – เกิดจากการอุดตันของเส้นเลือด ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นขาดเลือดและตายในที่สุด
- การเคลื่อนย้ายของสารฟิลเลอร์ – สารอาจเคลื่อนตัวไปยังบริเวณอื่น ทำให้เกิดความผิดรูปของใบหน้า
- การเกิดก้อนเนื้อ – ร่างกายอาจสร้างเนื้อเยื่อห่อหุ้มสารแปลกปลอม ทำให้เกิดเป็นก้อนหรือถุงน้ำบริเวณที่ฉีด
- ปัญหาระบบภูมิคุ้มกัน – อาจกระตุ้นให้เกิดโรคภูมิต้านทานเนื้อเยื่อตนเอง หรือทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ
การแก้ไขปัญหาหลังการฉีดฟิลเลอร์ปลอมนั้นขึ้นอยู่กับชนิดของสารที่ใช้ สำหรับฟิลเลอร์ที่ทำจากกรดไฮยาลูโรนิก แพทย์อาจใช้เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดสฉีดเข้าไปเพื่อย่อยสลายสารฟิลเลอร์ ซึ่งวิธีนี้ค่อนข้างปลอดภัยและได้ผลดี
สำหรับฟิลเลอร์ชนิดอื่น ๆ โดยเฉพาะฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ทราบส่วนประกอบแน่ชัด แพทย์อาจจำเป็นต้องใช้วิธีขูดหรือผ่าตัดเพื่อนำสารออกจากร่างกาย ซึ่งเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนกว่าและอาจมีความเสี่ยงสูง
ถึงแม้ว่าการตรวจสอบฟิลเลอร์ว่าเป็นฟิลเลอร์แท้หรือ ฟิลเลอร์ปลอม จะค่อนข้างดูยาก เพราะของเลียนแบบนั้นก็ทำออกมาได้เหมือนกับของแท้มาก แม้กระทั่งแพทย์เองยังดูแทบไม่ออก โดยมีวิธีตรวจสอบฟิลเลอร์ดังนี้
- มีเลขทะเบียน อย. และมีภาษาไทยกำกับ – ฟิลเลอร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นั้น ใช้สารไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic acid) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์ มีความปลอดภัยสูง
- มีเลข LOT บนหน้ากล่องเข็มด้านใน – สามารถดูเลขที่หรืออักษรแสดงครั้งที่ผลิต หรือ Lot No. ที่กล่องของฟิลเลอร์ แล้วนำโทรไปตรวจสอบได้
- มีการบรรจุเข็มภายในกล่องในจำนวนที่ถูกต้อง – ภายในกล่องฟิลเลอร์ของแท้ 1 กล่องนั้นจะประกอบด้วยเข็มจำนวน 2 อัน พร้อมระบุวันหมดอายุอย่างชัดเจน
- ต้องมีเอกสารกำกับ – เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญของฟิลเลอร์ที่มีประโยชน์และให้ความปลอดภัยแก่ผู้รับบริการ จะมีฉลากหรือเอกสารกำกับทุกกล่อง มีบาร์โค้ดชัดเจนที่ด้านข้างตัวกล่อง ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยให้ผู้รับบริการสามารถติดตามและตรวจสอบย้อนกลับได้ เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดตามกฎหมาย
- เลข LOT บนกล่องและด้านในต้องตรงกันฟิลเลอร์ของแท้ – เลข LOT บนกล่องและซองด้านใน จะต้องปรากฏเป็นตัวเลขชุดเดียวกันทั้งสองที่
โปรดระวังบุคคลที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือที่เรียกว่าหมอเถื่อน ซึ่งอาจเป็นผู้ช่วยในคลินิกเสริมความงาม ที่ไม่ได้ผ่านการศึกษาหรือการฝึกฝนอย่างเป็นระบบ แต่เรียนรู้วิธีฉีดผิด ๆ ถูก ๆ จากการสังเกตการทำงานของแพทย์เท่านั้น
แน่นอนว่าฟิลเลอร์ที่ฉีดให้เราคงเป็น ฟิลเลอร์ปลอม หากคนฉีดไม่ใช่แพทย์ที่มีใบรับรองจริงๆ เพราะแพทย์ที่มีใบรับรองจะสามารถสั่งซื้อฟิลเลอร์ของแท้มาฉีดได้ เนื่องจากบริษัทยาจะจำหน่ายฟิลเลอร์แท้ให้แก่หมอที่มีใบอนุญาตเท่านั้น ต่างจากหมอกระเป๋าที่ต้องซื้อฟิลเลอร์ปลอมตามอินเตอร์เน็ต
สรุป
ฟิลเลอร์ปลอม คือ ฟิลเลอร์ที่ไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ผลิตมาจาก ซิลิโคนเหลว พาราฟิน และสารอื่น ๆ ที่ไม่ปลอดภัย เมื่อถูกฉีดเข้าสู่ร่างกายจะเกิดการตกค้างในชั้นผิวหนัง ทำให้เกิดการอักเสบ แพ้ ติดเชื้อ และเนื้อเยื่อพังผืดตามมา บางครั้งฟิลเลอร์อาจจับตัวเป็นก้อน ทำให้ผิวผิดรูปและมีอาการปวดร่วมด้วย
การแก้ไขฟิลเลอร์ปลอม ต้องอาศัยการผ่าตัดหรือขูดออกเท่านั้น ไม่สามารถใช้ยาหรือวิธีอื่นในการสลายได้ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น แนะนำควรใช้เฉพาะฟิลเลอร์แท้ที่ได้รับการรับรองจาก อย. เช่น สารไฮยาลูโรนิก แอซิด และทำกับแพทย์ในสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือเท่านั้น
สามารถตรวจเช็คเลขทะเบียน กล่องบรรจุภัณฑ์ และเอกสารกำกับยา เพื่อให้แน่ใจว่าฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นของแท้ ไม่ใช่ฟิลเลอร์เถื่อนหรือฟิลเลอร์หิ้วที่มีความเสี่ยงสูงได้ค่ะ