การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นจุดที่หลายๆคนกังวลมาก เพราะ เป็นจุดที่ค่อนข้างเสี่ยง ต้องทำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้น ส่วนใหญ่คนไข้ที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มักจะกังวลและสงสัยว่า ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้กี่ cc ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตารุ่นไหนดี ที่จะทำให้ใต้ตาออกมาสวยเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อนแข็ง
สารบัญ
- ฟิลเลอร์ คืออะไร
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตารุ่นไหน กี่ CC.
- ข้อดี-และข้อเสียจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแค่ 1 CC ได้หรือไม่
ใครอยากรู้จักฟิลเลอร์อย่างละเอียด อ่านตรงนี้ก่อน
ฟิลเลอร์ คืออะไร
ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิคแอซิด มีคุณสมบัติช่วยกักเก็บน้ำให้แก่ชั้นใต้ผิว ช่วยเพิ่มเส้นใยคอลลาเจนให้กับผิว นำมาใช้ในการแก้ไขส่วนที่บกพร่อง ตำแหน่งต่างๆทั้งบนใบหน้า เช่น ร่องใต้ตาลึก(ร่องน้ำตา) ร่องแก้มลึก คางสั้น ขมับตอบ แก้มตอบ และตำแหน่งอื่นๆ ในร่างกาย เช่น คอ หลังมือ หลัง ซึ่งสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ระยะเวลาการสลายของฟิลเลอร์โดยประมาณแล้วจะอยู่ภายใน 1-2 ปี
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถทำให้ใบหน้าของเราดูเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ยังทำให้ริ้วรอยร่องลึกที่เคยเป็นดูตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งยังเป็นการเติมเส้นใยคอลลาเจนที่หายไป ทำให้ใบหน้ากลับมาเต่งตึง แลดูอ่นเยาว์มากขึ้น การฉีดฟิลเลอร์ยังทำให้ถุงใต้ตาดูลดลง และผิวบริเวณนี้ดูเรียบเนียนขึ้น จนดูเหมือนถุงใต้ตาดีขึ้น
อ่านเพิ่มเติม 7 ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตารุ่นไหน กี่ CC.
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้กี่ cc ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ในการฉีดแต่ละครั้งนั้น อยู่ที่ปัญหาใต้ตาของแต่ละบุคลด้วย โดยปัญหาทั่วไปจะใช้ปริมาณฟิลเลอร์อยู่ที่ 1-3 CC. หากคนไข้อายุ 50 ปีขึ้นไป กระดูกกลางหน้าทรุดลงเยอะ หรือมีปัญหาใต้ตาลึกมากๆ จากการยุบตัวของกระดูกเบ้าตา อาจจะต้องใช้ฟิลเลอร์ 4 CC.หรือมากกว่านั้น ในการรักษาเพื่อให้เห็นผลการเปลี่ยนแปลงของปัญหาใต้ตาได้อย่างชัดเจน
อยากรู้ว่าฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเห็นผล บทความนี้ต้องอ่าน
โดยปกติแล้วฟิลเลอร์ที่หมอเลือกใช้จะเป็นฟิลเลอร์ แบรนด์ Juvederm เพราะเป็นฟิลเลอร์อันดับ 1 จากอเมริกา จะเป็นในรุ่นของ Juvederm รุ่น Voluma หรือ Volift สำหรับวางในตำแหน่งทดแทนไขมันชั้นลึกหรือแทนที่กระดูกหน้าแก้ม และ รุ่น Vobella สำหรับการฉีดเพื่อเก็บรายละเอียดรอบๆตา
เนื่องจาก Juvederm เป็นฟิลเลอร์ที่มียาชาผสมอยู่ภายในหลอด สามารถลดความรู้สึกเจ็บขณะฉีด ให้คนไข้รู้สึกสบายยิ่งขึ้น และมีระยะเวลาอยู่นานกว่า 18-24 เดือน
ข้อดี-และข้อเสียจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นการแก้ปัญหาใต้ตาที่ดีที่สุด ได้ผลลัพธ์ทันที และชัดเจนที่สุด ช่วยลดรอยเหี่ยวย่น ทำให้ใต้ตาดูอวบอิ่มสดใสมากขึ้นกว่าเดิม สามารถอยู่ได้ประมาณอย่างน้อย 6-8 เดือน หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับชนิดและรุ่นของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ และยังเป็นสารที่สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ 100% โดยไม่ทิ้งสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
ข้อเสียจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
หากเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านมาตรฐานการรับรอง และเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความชำนาญทางด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ ก็สบายใจได้ในเรื่องของความปลอดภัย
แต่หากเป็นฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ฟิลเลอร์ปลอม จะมีผลเสียในเรื่องของการสลายตัวของฟิลเลอร์ที่ไม่ 100% นั่นเอง และที่ร้ายแรงที่สุด การฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตามีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการตาบอดได้ เนื่องจากบริเวณใต้ตามีเส้นเลือดจำนวนมาก ดังนั้น การเลือกแพทย์ที่จะฉีดฟิลเลอร์ให้กับเรานั้น จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแค่ 1 CC ได้หรือไม่
ถึงแม้ว่าฟิลเลอร์ 1 CC จะมีปริมาณที่น้อย แต่ฟิลเลอร์ปริมาณนี้ก็สามารถเปลี่ยนแปลงใบหน้าได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยฟิลเลอร์นั้นจะเข้าไปทำหน้าที่เติมส่วนที่ขาดหายไปให้ใบหน้าสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ช่วยสร้างมิติให้กับใบหน้าซึ่งทำให้ใบหน้าดูสมดุลมากยิ่งขึ้น
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการปรับรูปหน้าเพียงเล็กน้อย ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องใบหน้าแต่อยากเสริมให้ดูดีมากยิ่งขึ้น หรือสำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัดแต่ก็อยากจะสวยอยากดูดีขึ้น สามารถมาปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยว่าสามารถแก้ไขปัญหาด้วยฟิลเลอร์ 1 CC ได้หรือไม่
สรุป ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้กี่ cc
ควรฉีดยี่ห้อ Juvederm รุ่น Voluma หรือ Volift เนื่องจากลักษณะโมเลกุลมีความนุ่มมาก เหมาะที่จะใช้เติมใต้ตาจะทำให้ใต้ตาไม่แข็ง ไม่เป็นก้อน เนียนละมุนเป็นธรรมชาติ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้กี่ cc โดยปกติปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้สำหรับฉีดใต้ตานั้นเริ่มต้นที่ 1-4 cc.