RWC Clinic สรุปให้
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด ประเภทของปัญหา และงบที่มี ไม่ได้มียี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งที่เหมาะกับทุกคน
- ยี่ห้อหลักที่ผ่าน อย.ไทย แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ พรีเมียมจากยุโรป-อเมริกา (Juvederm, Restylane, Belotero) และราคาย่อมเยาจากเกาหลี (Neuramis, Yvoire, Flore)
- เทคโนโลยีการผลิตแตกต่างกัน Juvederm ใช้ Vycross (ยืดหยุ่นสูง) Restylane ใช้ NASHA (เป็นธรรมชาติ) Belotero ใช้ CPM (เรียบเนียน)
- การเลือกใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดีตามบริเวณที่ต้องการดูแล เช่น ใต้ตาต้องการเนื้อนิ่ม ร่องแก้มใช้เนื้อกลาง คางหรือขมับใช้เนื้อแข็ง
- ปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์เพื่อประเมินปัญหา เลือกยี่ห้อกับรุ่นที่เหมาะสม และตรวจเช็คฟิลเลอร์แท้
ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? คำถามนี้เกิดขึ้นกับหลายคนที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปหน้าและเติมเต็มร่องลึก การตัดสินใจเลือกต้องอาศัยข้อมูลที่ถูกต้อง เพราะฟิลเลอร์แต่ละชนิดถูกออกแบบมาแก้ไขประเภทของปัญหาที่แตกต่างกัน
บทความนี้ RWC Clinic ได้รวบรวมข้อมูลฟิลเลอร์ยี่ห้อต่าง ๆ ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ไทย พร้อมเปรียบเทียบคุณสมบัติและแนวทางการใช้งานในแต่ละส่วนของใบหน้า เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจว่า ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตัวเองค่ะ
- RWC Clinic สรุปให้
- ฟิลเลอร์มียี่ห้ออะไรบ้าง ? ที่ผ่านการรับรองในประเทศไทย
- ตอบคำถาม ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดีที่สุด ? จากคุณสมบัติเฉพาะของแต่ละแบรนด์
- เลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? สำหรับแต่ละบริเวณบนใบหน้า
- เกณฑ์การเลือกชนิดและยี่ห้อฟิลเลอร์ร่วมกับแพทย์
- การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์
- สรุป ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ?
1. กลุ่มฟิลเลอร์จากยุโรปและอเมริกา
กลุ่มนี้เป็นแบรนด์ที่มีประวัติยาวนานในอุตสาหกรรมความงาม มีการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาตลอด ทำให้เป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์ เช่น
- Juvederm จากสหรัฐอเมริกา (Allergan)
- Restylane จากสวีเดน (Galderma)
- Belotero จากสวิตเซอร์แลนด์ (Merz)
- Definisse จากอิตาลี (Menari)
- Teoxane จากสวิตเซอร์แลนด์
ฟิลเลอร์กลุ่มนี้จะมีข้อมูลการศึกษาวิจัยรองรับจำนวนมาก มีรุ่นย่อยหลากหลายสำหรับแก้ไขปัญหาผิวที่แตกต่างกัน และให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน แต่ก็มีราคาที่สูงกว่ากลุ่มอื่น
2. กลุ่มฟิลเลอร์จากเกาหลีและเอเชีย
กลุ่มนี้มีราคาที่เข้าถึงง่าย ทำให้เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการทดลองฉีดครั้งแรกและมีข้อจำกัดด้านค่าใช้จ่าย แต่ก็ยังคงมีมาตรฐานการผลิตที่เชื่อถืออยู่ ได้แก่
- Neuramis จาก Medytox
- Yvoire จาก LG Chem
- Flore จาก Daewoong Pharmaceutical
- ยี่ห้ออื่น ๆ เช่น E.P.T.Q, Hyafilia, Volifil, Revolax และ Neobelle
การจะตัดสินใจว่าฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดีสำหรับเรานั้น ควรพิจารณาจากเป้าหมายและคำแนะนำของแพทย์ สิ่งที่ต้องเช็คเสมอคือฟิลเลอร์ที่ใช้ในสถานพยาบาลจะต้องมีเลขทะเบียน อย. ที่สามารถตรวจสอบได้ พร้อมกับเอกสารกำกับภาษาไทยที่ชัดเจน เพื่อรับประกันคุณภาพและความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล
ตอบคำถาม ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดีที่สุด ? จากคุณสมบัติเฉพาะของแต่ละแบรนด์
ถ้าถามว่า ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดีที่สุด ? ไม่มีคำตอบที่ตายตัวค่ะ เพราะฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อก็ถูกผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยีและมีวัตถุประสงค์การใช้งานที่ต่างกัน ทำให้มีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่เข้ากับการใช้งานในบริเวณต่าง ๆ และการแก้ไขปัญหาผิวที่แตกต่างกัน
1. ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm มีที่มาจากสหรัฐอเมริกา พัฒนาโดยบริษัท Allergan คือผู้ผลิตรายเดียวกับ Botox เทคโนโลยีการผลิตของฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้มีพื้นฐานจาก Vycross Technology และ Hylacross Technology ทำให้เนื้อเจลมีความยืดหยุ่นสูง ผสานเข้ากับเนื้อเยื่อผิวได้เรียบเนียน และทนทานต่อการขยับของใบหน้า
คุณสมบัติของเนื้อเจลที่อุ้มน้ำได้ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว สำหรับ Juvederm แต่ละรุ่นถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้
รุ่น | คุณสมบัติเนื้อฟิลเลอร์ | บริการที่ใช้ | ระยะเวลาผลลัพธ์ (โดยประมาณ) |
---|---|---|---|
Juvederm Volite | เนื้อละเอียด | งานผิว เพิ่มความชุ่มชื้น | 8-12 เดือน |
Juvederm Volift | เนื้อนิ่มปานกลาง | เติมร่องแก้มและปาก | 12-18 เดือน |
Juvederm Voluma | เนื้อแข็ง | ยกกรอบหน้าและแก้มตอบ | 18 เดือน |
Juvederm Volux | เนื้อแข็งมาก | ปรับโครงสร้างคางและขมับ | 18-24 เดือน |
ด้วยคุณสมบัติด้านความยืดหยุ่นเนื้อเจลของ Juvederm เหมาะกับคนที่ต้องการความยืดหยุ่น ฉีดบริเวณที่เคลื่อนไหวบ่อย และต้องการผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน
2. ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane มีประวัติยาวนาน โดยเริ่มต้นพัฒนาในประเทศสวีเดน และเป็นแบรนด์แรกที่ได้รับอนุมัติจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) สำหรับการใช้งานด้านความงาม
Restylane ใช้เทคโนโลยีการผลิตสองแบบคือ NASHA และ OBT เพื่อสร้างสมดุลให้เนื้อฟิลเลอร์มีเม็ดละเอียด สามารถกลมกลืนกับชั้นผิวได้เรียบเนียน คุณสมบัติของฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้ยังช่วยลดโอกาสการเกิดอาการแพ้ ทำให้เป็นทางเลือกสำหรับคนที่มีผิวบอบบาง แต่ละรุ่นก็มีการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้
รุ่น | คุณสมบัติเนื้อฟิลเลอร์ | บริการที่ใช้ | ระยะเวลาผลลัพธ์ (โดยประมาณ) |
---|---|---|---|
Restylane Vital Light | เนื้อละเอียด | ใต้ตาและงานผิว | 6 - 12 เดือน |
Restylane Classic | เนื้อกลาง | ร่องแก้มและปาก | 12 เดือน |
Restylane Defyne | เนื้อแข็ง | ร่องลึก | 18 เดือน |
Restylane Lyft | เนื้อแน่น มีความคงตัว | คางและขมับ | 12 - 24 เดือน |
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane ตอบโจทย์คนที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ และต้องการปรับรูปทรงใบหน้าในจุดที่ต้องการความละเอียดค่ะ
3. ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero พัฒนาขึ้นในสวิตเซอร์แลนด์โดย Merz Pharmaceuticals ถูกออกแบบมาเพื่อความเรียบเนียนและให้ผลลัพธ์ที่กลมกลืนไปกับผิว หัวใจของผลิตภัณฑ์คือเทคโนโลยี CPM (Cohesive Polydensified Matrix) ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ ที่ช่วยให้โครงสร้าง Hyaluronic Acid เชื่อมโยงกันอย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้เนื้อฟิลเลอร์มีความเรียบเนียนและผสานเข้ากับเนื้อเยื่อผิวอย่างไร้รอยต่อ
เอกลักษณ์ของฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero คือเนื้อสัมผัสที่เรียบเนียน ไม่ก่อให้เกิดก้อนแม้จะฉีดในผิวชั้นตื้น ทำให้สามารถใช้แก้ไขริ้วรอยละเอียดหรือเติมเต็มในบริเวณที่ต้องการความประณีต ตอบโจทย์คนที่ต้องการผลลัพธ์ที่เรียบเนียน ลดความกังวลเรื่องการเกิดก้อน ดูเป็นธรรมชาติ มีหลายรุ่นต่างให้เลือกใช้ตามลักษณะของปัญหา ได้แก่
รุ่น | คุณสมบัติเนื้อฟิลเลอร์ | บริการที่ใช้ | ระยะเวลาผลลัพธ์ (โดยประมาณ) |
---|---|---|---|
Belotero Soft | เนื้อนิ่ม ละเอียด | ริ้วรอยตื้นและใต้ตา | 6 - 12 เดือน |
Belotero Intense | เนื้อแน่นปานกลาง ยืดหยุ่น | ร่องแก้มและร่องน้ำหมาก | 12 - 15 เดือน |
Belotero Volume | เนื้อแข็ง ขึ้นรูปได้ดี | ปรับรูปหน้า เช่น คาง ขมับ | 15 - 18 เดือน |
Belotero Revive | เนื้อเหลว เพิ่มความชุ่มชื้น | Skin Booster เพื่อคุณภาพผิว | 6 - 9 เดือน |
4. ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Neuramis
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Neuramis มาจากเกาหลีใต้ พัฒนาโดย Medytox บริษัทผู้ผลิต Neuronox (โบท็อกซ์เกาหลี) ตัวผลิตภัณฑ์ใช้เทคโนโลยี SHAPE ที่ช่วยให้เนื้อฟิลเลอร์คงรูปได้ดีหลังการฉีด และผ่านกระบวนการทำให้มีสารเคมีตกค้างน้อย
Neuramis มีจุดเด่นด้านราคาที่เข้าถึงง่ายและคุณภาพที่ได้มาตรฐาน ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการทดลองฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรก มีงบที่จำกัด หรือต้องการเติมฟิลเลอร์ต่อเนื่อง และมีหลายรุ่นสำหรับใช้ในบริเวณที่ต่างกัน ได้แก่
รุ่น | คุณสมบัติเนื้อฟิลเลอร์ | บริการที่ใช้ | ระยะเวลาผลลัพธ์ (โดยประมาณ) |
---|---|---|---|
Neuramis Deep | เนื้อแน่นปานกลาง | ร่องแก้มและแก้มตอบ | 6-8 เดือน |
Neuramis Deep Lidocaine | เนื้อแน่นปานกลาง ผสมยาชา | ร่องแก้มและแก้มตอบ | 6-8 เดือน |
Neuramis Volume Lidocaine | เนื้อแน่น มีความคงตัวสูง ผสมยาชา | ปรับรูปหน้าชั้นลึก | 6-9 เดือน |
5. ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Yvoire
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Yvoire พัฒนาและผลิตโดย LG Chem บริษัทเคมีภัณฑ์ขนาดใหญ่ของเกาหลีใต้ที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับ Hyaluronic Acid มานาน ผลิตภัณฑ์นี้ใช้เทคโนโลยี HICE ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่น ยึดเกาะได้แน่น และลดโอกาสการจับตัวเป็นก้อนหลังการฉีด
ผลิตภัณฑ์นี้มีความคงทนของผลลัพธ์ที่น่าพอใจเมื่อเทียบกับราคา ทำให้ฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้ตอบโจทย์ผู้ที่มองหาผลิตภัณฑ์คุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้ และไม่ต้องการผลลัพธ์ที่คงอยู่นานเกิน Yvoire มีรุ่นให้เลือกใช้ตามจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน ดังนี้
รุ่น | คุณสมบัติเนื้อฟิลเลอร์ | บริการที่ใช้ | ระยะเวลาผลลัพธ์ (โดยประมาณ) |
---|---|---|---|
Yvoire Classic | เนื้อกลาง มีความยืดหยุ่น | ปรับรูปทั่วไป เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา ปาก | 6-9 เดือน |
Yvoire Classic Plus | เนื้อแข็ง สำหรับเติมร่องลึก | ร่องแก้มลึก และร่องน้ำหมาก | 6-9 เดือน |
Yvoire Volume | เนื้อแน่น คงรูปได้ดี | เติมเต็มบริเวณคางและขมับ | 9-12 เดือน |
ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี
บริเวณใต้ตามีผิวที่บางและอ่อนไหว ความหนาเพียงประมาณ 0.5 มิลลิเมตร การเลือกฟิลเลอร์ใต้ตาต้องพิจารณาเนื้อผลิตภัณฑ์ที่นิ่มกับละเอียด เพื่อให้ผลลัพธ์ดูเรียบเนียน ไม่เกิดเป็นก้อน และกลมกลืนกับเนื้อเยื่อตามธรรมชาติ ฟิลเลอร์แต่ละรุ่นก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เช่น
- Restylane Vital Light ออกแบบมาสำหรับผิวบางโดยเฉพาะ มีเนื้อละเอียด ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
- Juvederm Volite ช่วยเรื่องการอุ้มน้ำและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
- Belotero Soft มีจุดเด่นเรื่องการกระจายตัวที่เรียบเนียน กลมกลืนไปกับผิวได้ดี
เทคนิคการฉีดสำหรับใต้ตาก็มีความเฉพาะตัว โดยแพทย์จะใช้วิธีการฉีดแบบหลายชั้น (Multi-layer) คือการฉีดฟิลเลอร์ที่มีเนื้อแน่นกว่าในชั้นลึกเพื่อช่วยพยุงโครงสร้าง และใช้ชนิดเนื้อนิ่มในชั้นตื้นเพื่อปรับผิวให้เรียบเนียน
ฟิลเลอร์ร่องแก้มยี่ห้อไหนดี
ร่องแก้ม (Nasolabial Fold) คือเส้นข้างจมูกที่เกิดจากการเคลื่อนไหวใบหน้าซ้ำ ๆ ทั้งการยิ้ม การพูด และการแสดงอารมณ์ ฟิลเลอร์ร่องแก้มควรมีความยืดหยุ่นสูงเพื่อรองรับการขยับ มีความคงตัวไม่เคลื่อนที่ และสามารถยกพยุงผิวได้ โดยแต่ละรุ่นก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย ได้แก่
- Juvederm Volift มีความยืดหยุ่นสูงด้วยเทคโนโลยี Vycross ทำให้รองรับการเคลื่อนไหวของใบหน้าได้ดี คงรูปทรงและให้ความเป็นธรรมชาติ
- Restylane Classic มีจุดเด่นที่ความสมดุลระหว่างเนื้อที่นิ่มและความคงตัว เป็นรุ่นที่มีการเลือกใช้งานมานาน
- Belotero Intense ให้ความเรียบเนียน ไม่ทำให้เกิดก้อนเมื่อยิ้มหรือแสดงสีหน้า ตอบโจทย์คนที่ต้องใช้ใบหน้าในการสื่อสารบ่อยครั้ง
- Neuramis Deep ให้คุณภาพที่ดีในราคาที่เข้าถึงได้ เหมาะสำหรับคนที่มีงบจำกัด
ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี
การฉีดฟิลเลอร์บริเวณริมฝีปากต้องใช้ความประณีต เพราะเป็นจุดที่เคลื่อนไหวอยู่เสมอในการสื่อสาร การรับประทานอาหาร และการแสดงอารมณ์ เนื้อฟิลเลอร์ปากจะต้องมีความยืดหยุ่นสูง สามารถยืดหดตามการขยับ มีความนิ่ม และกระจายตัวสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้รบกวนการใช้งาน ฟิลเลอร์รุ่นที่พัฒนามาเพื่อริมฝีปากโดยเฉพาะ ได้แก่
- Juvederm Ultra ออกแบบมาเฉพาะสำหรับปาก มีความยืดหยุ่นสูงสุดและได้รับการรับรองจาก FDA เฉพาะสำหรับริมฝีปาก
- Restylane Kysse คือรุ่นใหม่ที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะสำหรับปาก ใช้เทคโนโลยี XpresHAn เพื่อให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติขึ้น
- Juvederm Volift ใช้ได้ทั้งการเติมเต็มและปรับรูปทรงริมฝีปาก
ควรหลีกเลี่ยงฟิลเลอร์ที่มีเนื้อแข็งเกินไป เพราะจะทำให้ปากรู้สึกตึงและเคลื่อนไหวไม่เป็นธรรมชาติ รวมถึงการเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการปรับรูปทรงปาก จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจค่ะ
ฟิลเลอร์คางยี่ห้อไหนดี
การปรับรูปคางด้วยฟิลเลอร์สามารถเปลี่ยนแปลงรูปหน้าได้ ทำให้ใบหน้าดูมีมิติและสมส่วนขึ้น บริเวณคางไม่มีการเคลื่อนไหวมาก จะต้องการฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูงและให้แรงยกพยุงได้ดี ได้แก่
- Juvederm Volux มีเนื้อแข็ง ให้ความคงทนสูง ผลลัพธ์คงอยู่ประมาณ 18-24 เดือน เหมาะสำหรับปรับโครงสร้างคางที่ต้องการความชัด
- Restylane Lyft มีคุณสมบัติเรื่องความคงตัว สามารถปรับรูปทรงโครงสร้างได้
- Belotero Volume สร้างสมดุลระหว่างความแข็งกับความยืดหยุ่น ช่วยให้การปั้นทรงมีความหลากหลายและกลมกลืน
- Neuramis Volume มีเนื้อแข็งพอสำหรับการปรับรูปคาง ตอบโจทย์การใช้งานในอีกรูปแบบหนึ่งและมีราคาที่เข้าถึงง่าย
ฟิลเลอร์ขมับยี่ห้อไหนดี
การเลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดีในการเติมขมับนั้น ควรพิจารณาจากคุณสมบัติของสารเติมเต็มชนิดนั้น ๆ สารที่ใช้บริเวณนี้ควรให้การเติมเต็มได้ปริมาตรที่สูง สามารถฉีดในชั้นผิวลึกเพื่อยกพยุงโครงสร้าง มีความคงตัว ไม่เคลื่อนที่หลังฉีด และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน ฟิลเลอร์ขมับมีให้เลือกหลายรุ่น แต่ละรุ่นมีลักษณะที่แตกต่างกัน เช่น
- Juvederm Voluma ถูกพัฒนามาเพื่อการเพิ่มความอิ่มฟูโดยตรง มีความสามารถในการยกพยุงผิวชั้นลึก
- Restylane Lyft มีเนื้อเจลที่คงตัวสูง ช่วยเสริมโครงสร้างในชั้นลึก
- Belotero Volume ให้การปั้นทรงและคงรูปได้นาน ใช้ในการปรับรูปทรงที่ต้องการความละเอียด
ฟิลเลอร์หน้าผากยี่ห้อไหนดี
บริเวณหน้าผากมีการเคลื่อนไหวจากการแสดงสีหน้าอยู่เสมอ การเติมเต็มริ้วรอยจะต้องใช้ฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง เพื่อให้ผลลัพธ์ดูเรียบเนียนและไม่เป็นก้อน โดยสารเติมเต็มแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติตอบโจทย์ต่างกัน ได้แก่
- Juvederm Voluma มีความยืดหยุ่นและคงตัวที่สมดุล
- Restylane Defyne ช่วยเติมเต็มร่องลึกบนหน้าผาก
- Belotero Volume ให้ความเรียบเนียน ไม่ปรากฏเป็นก้อนเมื่อขยับใบหน้า
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากต้องอาศัยความระมัดระวังและประสบการณ์ของแพทย์ ควรหลีกเลี่ยงสารเติมเต็มที่มีเนื้อแข็งเกินไป และอาจพิจารณาใช้ Botox ร่วมด้วยเพื่อลดการขยับของกล้ามเนื้อ ช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานขึ้น
ฟิลเลอร์แก้มตอบยี่ห้อไหนดี
การใช้ฟิลเลอร์ในการเติมเต็มแก้มตอบ เพื่อเพิ่มปริมาตรและช่วยให้ใบหน้าดูกระชับขึ้น สารเติมเต็มแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติต่างกัน เช่น
- Juvederm Voluma ช่วยเพิ่มปริมาตรได้มากและให้ผลลัพธ์การยกกระชับ
- Restylane Lyft มีคุณสมบัติในการเติมเต็มพร้อมกับช่วยยกกระชับผิว
- Belotero Volume เนื้อเจลมีความยืดหยุ่น สามารถปั้นทรงได้หลากหลาย
- Neuramis Volume/Deep เนื้อเจลมีความคงตัวในระดับที่เพียงพอสำหรับแก้มและมีราคาที่เข้าถึงง่าย
ฟิลเลอร์ยกหน้ายี่ห้อไหนดี
การยกกระชับใบหน้าด้วยฟิลเลอร์จำเป็นต้องเลือกยี่ห้อที่มีคุณสมบัติสอดคล้องกับเทคนิคการรักษา ได้แก่
- Juvederm Volux ให้แรงยกสูงและให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน
- Restylane Lyft มีคุณสมบัติในการยกกระชับใบหน้า
- Belotero Volume ใช้สร้างจุดพยุงโครงสร้างใบหน้าได้ดี
ส่วนเทคนิคอย่าง Vector Lifting จะเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีเนื้อแข็งและมีความหนาแน่นสูง ฉีดลงเป็นจุดเพื่อสร้างแนวพยุงใบหน้า เทคนิคนี้ต้องอาศัยแพทย์ที่มีความเข้าใจโครงสร้างกายวิภาคบนใบหน้าอย่างดีค่ะ
ฟิลเลอร์จมูกยี่ห้อไหนดี
การเลือกใช้ฟิลเลอร์สำหรับปรับรูปทรงจมูก ต้องพิจารณาความคงตัวและความเข้ากันได้ของเนื้อสาร เพื่อให้ได้รูปทรงที่ต้องการ สำหรับรุ่นที่มีคุณสมบัติน่าสนใจ มีดังนี้
- Juvederm Volux เนื้อแข็ง ให้ความคมชัดและขึ้นสันได้ดี
- Restylane Lyft คงรูปได้ดี ช่วยในการปรับทรงจมูก
- Belotero Volume เนื้อเรียบเนียน ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
บริเวณจมูกคือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง การฉีดต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงเท่านั้น ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้ฟิลเลอร์ที่ราคาต่ำกว่าปกติหรือไม่มีแหล่งที่ชัดเจน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นค่ะ
ข้อมูลที่แพทย์จะประเมินก่อนเลือก ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ?
ในขั้นตอนการปรึกษา แพทย์จะทำการวิเคราะห์ข้อมูลหลายด้านเพื่อวางแผนการรักษาให้เข้ากับแต่ละบุคคล โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่
- โครงสร้างใบหน้าและคุณภาพผิว แพทย์จะทำการวิเคราะห์รูปหน้าโดยรวมกับสัดส่วนต่าง ๆ ความหนาและคุณภาพผิวในแต่ละบริเวณ โครงสร้างกระดูกใต้ผิวหนังกับการกระจายไขมัน ความยืดหยู่นและสภาพกล้ามเนื้อใบหน้า
- ปัญหาที่ต้องการแก้ไข เช่น ระดับความลึกของริ้วรอย การสูญเสียปริมาตรบนใบหน้า (Volume Loss) ของใบหน้าที่เกิดจากอายุหรือปัจจัยอื่น การทรุดตัวของผิว (Sagging) และความต้องการยกกระชับ ความไม่สมมาตรของใบหน้าที่อาจต้องการปรับแก้
- ความคาดหวังและไลฟ์สไตล์ แจ้งระยะเวลาของผลลัพธ์ที่ต้องการ กิจกรรมประจำวัน และลักษณะงาน เพราะมีผลต่อการเลือกประเภทฟิลเลอร์กับะการวางแผนรักษา
- ประวัติสุขภาพ การแจ้งข้อมูลโรคประจำตัวและยาที่ใช้ประจำ เพราะอาจมีผลต่อการเลือกฟิลเลอร์หรือกระบวนการรักษา ประวัติการแพ้ฟิลเลอร์ สารเคมี หรือผลิตภัณฑ์ความงาม ประสบการณ์การฉีดฟิลเลอร์ครั้งก่อน ๆ ทั้งผลลัพธ์และปัญหาที่เกิดขึ้น ระยะเวลาฟื้นตัวที่สามารถทำได้ตามสถานการณ์หรือตารางงาน
การตัดสินใจเลือกใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ควรมาจากการได้รับข้อมูลที่เปิดเผยและรอบด้าน เพื่อให้เราเข้าใจผลิตภัณฑ์ที่จะใช้กับใบหน้าของตัวเองอย่างชัดเจน กระบวนการนี้เปิดโอกาสให้เราได้ไตร่ตรองและเลือกสิ่งที่เข้ากับความต้องการมากที่สุดค่ะ
สิ่งที่ควรทำและสิ่งที่ควรเลี่ยงในการประกอบการตัดสินใจ
สิ่งที่ควรทำ | สิ่งที่ควรเลี่ยง |
---|---|
เลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานและมีใบอนุญาต | ตัดสินใจจากราคาที่ถูกโดยไม่เช็คคุณภาพ |
ขอดูผลงานเก่าของแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาของเรา | เชื่อรีวิวหรือโฆษณาโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม |
ตรวจเช็คผลิตภัณฑ์ว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ ก่อนรับบริการทุกครั้ง | รับบริการกับผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ |
เก็บข้อมูลการรับบริการไว้เพื่อติดตามผล | เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีข้อมูลรับรองที่น่าเชื่อถือ |
ข้อควรปฏิบัติก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์
ช่วง 2 สัปดาห์ก่อนฉีด
- ปรึกษาแพทย์เรื่องยาและวิตามิน ควรแจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาและวิตามินที่รับประทานเป็นประจำ เพื่อพิจารณางดใช้กลุ่มยาที่กระทบต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น Aspirin, Ibuprofen, วิตามิน E และน้ำมันปลา ในช่วงเวลานี้ยังสามารถสอบถามข้อสงสัยต่าง ๆ รวมถึงเรื่องฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดีที่เข้ากับสภาพผิวของเราได้
- ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต งดเว้นการดื่มแอลกอฮอล์ ลดการสูบบุหรี่ พยายามพักผ่อนให้เพียงพอวันละ 7-8 ชั่วโมง และดื่มน้ำสะอาด 2-3 ลิตรต่อวันเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
ช่วง 1 สัปดาห์ก่อนฉีด
- ดูแลผิว ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปเป็นประจำ หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ผิวสัมผัสความร้อนสูง เช่น การเข้าซาวน่าหรืออบไอน้ำ และงดการทำทรีตเมนต์ที่อาจสร้างความระคายเคืองให้ผิว
- เลือกรับประทานอาหาร เน้นผักผลไม้ที่มีวิตามิน C เพื่อช่วยในกระบวนการสร้างคอลลาเจน และรับประทานโปรตีนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มจัดหรือหวานจัดที่ทำให้ร่างกายบวมน้ำ
ช่วง 3 วันสุดท้ายและวันนัดหมาย
- งดการออกกำลังกายหนักและกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการอักเสบ
- พักผ่อนให้เต็มที่และหลีกเลี่ยงความเครียด
- ในวันนัดหมาย ควรรับประทานอาหารมื้อเบา ๆ มาก่อน ทำความสะอาดใบหน้าและงดแต่งหน้าจัด
- เดินทางไปถึงคลินิกก่อนเวลานัด 15-30 นาที
ข้อปฏิบัติหลังการฉีดฟิลเลอร์
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง (ใน 24-48 ชั่วโมงแรก) | สิ่งที่ควรทำหลังการฉีดฟิลเลอร์ |
---|---|
ควรหลีกเลี่ยงการนวดหรือกดบริเวณที่ฉีด | การประคบเย็นเบา ๆ 10-15 นาทีถ้ามีบวม |
การออกกำลังกายหนัก หรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก | ดื่มน้ำเพียงพอเพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูตัว |
การอาบน้ำร้อนหรือเข้า Sauna | นอนหลับพักผ่อนเพียงพอ |
การนอนคว่ำหรือนอนข้างที่บริเวณที่ฉีด | รับประทานยาแก้ปวด (Paracetamol) ถ้ามีอาการปวด |
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ | |
หลีกเลี่ยงยาแก้อักเสบในช่วงแรก |
สรุป ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ?
การเลือก ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี นั้นไม่มีคำตอบตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาผิวของแต่ละคน บริเวณที่ต้องการเติมเต็ม และงบที่มี สิ่งที่ต้องพิจารณาเสมอคือการเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย. และเข้ารับบริการกับแพทย์ในคลินิกที่ได้มาตรฐานค่ะ
ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติกับเทคโนโลยีการผลิตที่ต่างกัน ทำให้มีเนื้อสัมผัส ระยะเวลาของผลลัพธ์ และระดับราคาที่แตกต่างกัน สามารถเปรียบเทียบข้อมูลเบื้องต้นได้ดังนี้
ยี่ห้อ | ประเทศ | เทคโนโลยี | ระยะเวลา | ระดับราคา | จุดเด่น |
---|---|---|---|---|---|
Juvederm | สหรัฐอเมริกา | Vycross/Hylacross | 8-24 เดือน | สูง | มีความยืดหยุ่น อุ้มน้ำ |
Restylane | สวีเดน | NASHA/OBT | 6-24 เดือน | สูง | ให้ความธรรมชาติ แพ้น้อย |
Belotero | สวิตเซอร์แลนด์ | CPM | 6-18 เดือน | สูง | เรียบเนียน ไม่เป็นก้อน |
Neuramis | เกาหลี | SHAPE | 6-9 เดือน | สูง | ราคาดี มีความคงตัว |
Yvoire | เกาหลี | HICE | 6-12 เดือน | สูง | คุ้มค่า มีความยืดหยุ่น |
การตัดสินใจเลือกใช้ฟิลเลอร์ควรเริ่มต้นจากการปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินสภาพผิวและวางแผนการรักษาที่ตรงจุด ที่ RWC Clinic ทีมแพทย์ของเราพร้อมให้คำแนะนำว่า ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ที่จะตอบโจทย์ความต้องการของคุณ และให้บริการด้วยผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ประเทศไทยค่ะ