ฟิลเลอร์ Juvederm หรือฟิลเลอร์อเมริกา ที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลก โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบในด้านการปรับรูปหน้า การฉีดสารเติมเต็ม (HA) หากกำลังคิดจะปรับรูปหน้าด้วยการฉีดฟิลเลอร์อยู่แล้ว ห้ามเลื่อนผ่านบทความนี้เลย
สารบัญ
- ฟิลเลอร์ Juvederm ราคาเท่าไร
- ทำความรู้จักฟิลเลอร์ Juvederm แต่ละรุ่น
- ฟิลเลอร์ Juvederm ใช้ฉีดตรงไหนได้บ้าง
- เหตุผลที่ฟิลเลอร์ Juvederm เป็นอันดับหนึ่งในใจแพทย์ทั่วโลก
- ฟิลเลอร์ Juvederm อันตรายไหม
- ฟิลเลอร์ Juvederm อย.ไทย ฟิลเลอร์ปลอมดูอย่างไร
- ผลลัพธ์หลังการฉีดรักษาฟิลเลอร์ Juvederm
- ข้อปฏิบัติก่อนและหลัง การฉีดฟิลเลอร์ Juvederm
ฟิลเลอร์ Juvederm ราคาเท่าไร
ฟิลเลอร์ Juvederm ราคาเท่าไหร่นั้น แน่นอนว่าขึ้นอยู่กับว่าฟิลเลอร์ที่ใช้เป็น ฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองจากอย.ไทย อย่างแท้จริงหรือเปล่า หรือเป็นยาฟิลเลอร์ปลอม ที่ลักลอบนำเข้าแบบผิดกฎหมาย หรือตัวยาอาจไม่ใช่ไฮยารูลอนิกแอซิดจริง ๆ ราคาก็อาจจะถูกลง แต่อันตรายที่ได้รับเพิ่มสูงขึ้น เพื่อประกอบการตัดสินใจของผู้เข้ารับบริการรักษาด้วยฟิลเลอร์ สำหรับราคานี้อ้างอิงจากเว็บไซต์กลางทั่วโลกว่าโดยเฉลี่ยแล้ว
ราคาฟิลเลอร์ Juvederm ที่แพทย์ทั่วโลกฉีดรักษากันนั้นจะอยู่ที่ราคา 450-600 USD หรือ หากคิดเป็นเงินไทยก็ตกประมาณ 15,000-20,000 บาท ซึ่งเรทราคานี้เป็นราคาที่มาจากศูนย์การจัดจำหน่ายยาทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นประเทศในโซนเอเชีย ยุโรป หรืออเมริกาก็ตาม ดังนั้นสำหรับผู้เข้ารับบริการก็ควรตระหนักถึงราคาจุดนี้ให้ถี่ถ้วน
ปัจจัยสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่เป็นตัวกำหนดราคาของฟิลเลอร์ Juvederm หรือฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ก็ตาม นั่นก็คือประสบการณ์หรือความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้ทำการรักษานั่นเอง
สำหรับแพทย์ผู้ที่มีประสบการณ์ในการปรับรูปหน้า และให้ความใส่ใจกับงานที่ทำ ก็จะทำให้ค่ารักษาของการฉีดฟิลเลอร์นั้นเพิ่มสูงขึ้น เช่น คลินิกความงามแห่งหนึ่งในประเทศฝรั่งเศสที่มียอดการใช้ฟิลเลอร์ Juvederm สูง คิดค่ารักษาพยาบาล 900 USD ต่อการใช้ฟิลเลอร์ 1 cc ซึ่งเป็นคลินิกที่มีเซเลปบนพรมแดงเมืองคานส์ที่มีชื่อเสียงเข้ารับการรักษาเป็นจำนวนมาก
1. ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma
สำหรับ ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma จะเป็นรุ่นฟิลเลอร์ที่แพทย์ทั่วโลกใช้กันมากที่สุด เพราะว่ารุ่นนี้จะมีค่าความเข้มข้นของไฮยารูลอนิกแอซิดสูงที่สุด ใช้ทดแทนการฉีดรักษาได้ทุกจุดบริเวณใบหน้า ยกเว้นในส่วนที่เป็น ใต้ตา และริมฝีปาก ที่ตัวยาอาจจะดูแข็งไปสำหรับตำแหน่งนี้ การแก้ไขด้วยฟิลเลอร์ Juvederm รุ่นนี้สามารถให้ผลลัพธ์หลังการรักษาได้ยาวนานถึง 24 เดือนทีเดียว
2. ฟิลเลอร์ Juvederm Volift
ฟิลเลอร์ Juvederm รุ่น Volift ถือเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในด้านของการเติมริมฝีปากให้ได้รูปคมชัด สวยงาม รวมถึงมีปริมาตรและความชุ่มชื้นที่มากขึ้น โดยหลังการฉีดรักษาด้วยฟิลเลอร์รุ่นนี้ สามารถอยู่ได้นานถึง 18 เดือน ความเข้มข้นของไฮยารูลอนิกแอซิดของฟิลเลอร์รุ่นนี้ จะเป็นรองรุ่นฟิลเลอร์ Juvederm Voluma อยู่เล็กน้อย แต่ถ้าหากใครมีผิวที่บางมากๆ การเติมเต็มด้วยฟิลเลอร์รุ่นนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์ด้านความเป็นธรรมชาติได้ดีมากเลยทีเดียว
3. ฟิลเลอร์ Juvederm Volbella
ฟิลเลอร์ Juvederm รุ่น Volbella เป็นรุ่นยอดฮิตที่แพทย์ความงามทั่วโลกใช้เพื่อเติมเต็มแก้ไขปัญหา ร่องใต้ตาลึก ใต้ตาคล้ำ เพราะเป็นรุ่นที่มีค่าความเข้มข้นของไฮยารูลอนิกแอซิด รองลงมาจากรุ่น Volift ถ้าหากผู้เข้ารับการรักษาต้องการฉีดเพื่อแก้ไขฟิลเลอร์ใต้ตานี้แล้ว แน่นอนว่าแพทย์ที่ให้การรักษาจะหยิบรุ่นนี้มาใช้
นอกจากการเติมเต็มบริเวณใต้ตา หากใครต้องการมีเนื้อปากที่อวบอิ่มมากขึ้นโดยที่ไม่เน้นเรื่องของความคมขอบปาก ก็สามารถใช้ฟิลเลอร์ Juvederm Volbella นี้ในการรักษาได้เช่นเดียวกัน หลังการฉีดฟิลเลอร์ตัวยาสามารถคงสภาพใต้ผิวได้นานถึง 15 เดือนหลังรับการรักษา
4. ฟิลเลอร์ Juvederm Volite
ถือเป็นฟิลเลอร์น้องใหม่ของประเทศไทย ที่มีคุณสมบัติแปลกไปจากฟิลเลอร์รุ่นอื่นๆ ในค่ายของ Juvederm เนื่องมาจากฟิลเลอร์ Juvederm Volite นี้ไม่ได้โดดเด่นในด้านของการปรับรูปหน้า แต่มีความสามารถในการปรับปรุงคุณภาพผิวของเรา ให้ดูอิ่มน้ำ ยืดหยุ่นมากขึ้น เรียบเนียนมากยิ่งขึ้น
ใครที่มองหาการรักษาคุณภาพผิว หรือแม้แต่การรักษาหลุมสิวด้วยการฉีดฟิลเลอร์เอง ก็สามารถใช้ฟิลเลอร์ Juvederm Volite นี้ในการแก้ไขปัญหาได้เช่นเดียวกัน ตัวยานี้สามารถอยู่ได้นานถึง 9-12 เดือนหลังรับการรักษา
5. ฟิลเลอร์ Juvederm Ultra XC
เป็นกลุ่มฟิลเลอร์ Juvederm ที่เป็นเทคโนโลยีการผลิตแบบเก่า Hylacross โดดเด่นในเรื่องของการฟูขึ้นของตัวยา เนื่องมาจากความเข้มข้นของวไฮยารูลอนิกแอซิดนั้นสูง แต่ว่าอายุขอองตัวยาหลังการฉีดรักษาจะอยู่ได้สั้นกว่าเทคโนโลยีการผลิตแบบใหม่ในกลุ่ม Vycross ที่พัฒนาให้ตัวยานั้นอยู่ได้นานมากขึ้น
6. ฟิลเลอร์ Juvederm Ultra plus XC
ฟิลเลอร์รุ่นนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มฟิลเลอร์ Hylacross เนื่องจากความเข้มข้นของไฮยารูลฃอนิกแอซิดที่สูงแล้ว ยังมีแรงยกของตัวยาที่เพิ่มขึ้น จึงเป็นที่นิยมอย่างมากในการเติมเต็มตำแหน่งที่ต้องการขึ้นฟูของฟิลเลอร์ โดยหลังการฉีดฟิลเลอร์ รุ่น Ultra plus XC นี้สามารถอยู่ในชั้นใต้ผิวเราได้นาน 12 เดือนเลยทีเดียว
ฟิลเลอร์ Juvederm ใช้ฉีดตรงไหนได้บ้าง
ฟิลเลอร์ Juvederm มีหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้เป็นอย่างมาก ตามที่ได้กล่าวถึงในหัวข้อด้านบน ทำให้แพทย์สามารถใช้ในการแก้ไขปัญหาให้กับคนไข้ ได้อย่างตรงตามความต้องการ ทุกจุดของบริเวณใบหน้า แบบไม่มีข้อยกเว้น นอกจากนี้ยังสามารถไล่ระดับตั้งแต่ชั้นลึก จนถึงผิวชั้นตื้นได้ทุกรุ่น สามารถเปลี่ยนแปลงรุ่นให้เหมาะสมตามสภาพผิวของคนไข้แต่ละบุคคลได้
นอกเหนือจากการฉีดฟิลเลอร์บริเวณใบหน้า ด้วยฟิลเลอร์ Juvederm แล้ว ก็ยังสามารถนำไปฉีดเพื่อปรับปรุงโครงสร้างและคุณภาพผิวในจุดอื่น ๆ ได้อีก เช่น การฉีดแก้ไขผิวบริเวณลำคอ หลังมือ หลังเท้า เนินอก บริเวณอวัยวะเพศภายนอกของผู้หญิง เป็นต้น
อ่านเพิ่มเติม : ยี่ห้อฟิลเลอร์ ในประเทศไทย มีอะไรบ้างที่ผ่าน อย. ไทย
เหตุผลที่ฟิลเลอร์ Juvederm เป็นอันดับหนึ่งในใจแพทย์ทั่วโลก
ฟิลเลอร์ Juvederm มีข้อดีอยู่หลากหลายประการ ทำให้แพทย์ส่วนใหญ่ทั่วโลกไว้วางใจและเลือกใช้เพื่อให้ผลลัพธ์หลังการรักษาเกิดกับคนไข้ได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด โดยมีเหตุผลรองรับดังต่อไปนี้
- ฟิลเลอร์ Juvederm มีเทคโนโลยีการผลิตที่ช่วยยืดอายุ ให้ตัวยาในสภาวะปกตินั้นย่อยสลายได้ยาก มีอายุอยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นๆ แต่หากเกิดภาวะที่ต้องการรักษาเมื่อเกิดปัญหาจากฟิลเลอร์ เช่น ฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด หรือ ผู้รับการรักษาด้วยฟิลเลอร์จูวิเดิร์มไป แต่อยากนำออก ฟิลเลอร์ Juvederm สามารถตอบสนองได้ดีด้วยการฉีดสลายด้วยเอนไซม์ไฮยารูโรนิเดส ทำให้สามารถสลายตัวยาเมื่อเกิดปัญหาขึ้นให้กับคนไข้ได้อย่างรวดเร็ว และคนไข้ไม่จำเป็นที่จะต้องผ่าตัดเอาออก นี่จึงเป็นข้อดีที่ทำให้แพทย์ให้การยอมรับและเลือกใช้งาน
- ฟิลเลอร์ Juvederm มีการผสมยาชามาจากโรงงานผลิตทุกรุ่นเรียบร้อย ทำให้ผู้เข้ารับการรักษารู้สึกสบาย แม้กระทั่งผู้ที่กังวลในเรื่องความเจ็บ ขณะรักษาก็สามารถสบายใจได้
- ฟิลเลอร์ Juvederm มีผลการทดลองในห้องปฏิบัติการมากมายถึงประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม รวมถึงการทดลองในสัตว์ทดลองและมนุษย์ ว่ามีความปลอดภัยสูง ไม่มีอันตรายหากใช้ทำการรักษาอย่างถูกต้อง ถูกวิธี โดยจำนวนผลการทดลองถือว่ามีมาสนับสนุนผลการรักษาอย่างต่อเนื่องเรื่อย ๆ เป็นอันดับต้น ๆ ของยี่ห้อฟิลเลอร์ในท้องตลาดทั่วโลก
- ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ Juvederm มีการสนับสนุนแพทย์เข้าร่วมประชุมวิชาการระดับโลก กับแพทย์ต่างชาติที่เป็นผู้คิดค้นวิธีการฉีดรักษาต่าง ๆ ในชื่อ Allergan medical institute ทำให้แพทย์ที่เลือกใช้ ฟิลเลอร์ Juvederm ได้รับการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องผลลัพธ์หลังการรักษาสำหรับคนไข้ก็จะออกมาดีขึ้นเรื่อย ๆ และอัปเดตตลอดเวลาทั่วโลก
ฟิลเลอร์ Juvederm อันตรายไหม
สำหรับตัวยาฟิลเลอร์ Juvederm ไม่ได้มีอันตรายที่น่ากลัว หากเป็นตัวยาแท้ ที่ผลิตอย่างถูกต้องจากบริษัท ปกติการฉีดฟิลเลอร์ต้องทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการปรับรูปหน้าเท่านั้น ก็จะลดความเสี่ยงในแง่ของอันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ลงไปได้
ดังนั้นก่อนทำการรักษาด้วยการฉีดฟิลเลอร์ ผู้ที่สนใจก็ควรทราบในแง่ของอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าฟิลเลอร์ Juvederm สามารถเกิดอันตรายเท่านั้น แต่หมายถึง ทุก ๆ การฉีดสารเติมเต็มสามารถเกิดอันตรายแบบเดียวกันได้ สำหรับอันตรายจากการฉีดสารเติมเต็มที่เกิดได้ มีดังนี้
- ฟิลเลอร์อุดตันเข้าสู่เส้นเลือด ทำให้เกิดการเนื้อตาย หรือตาบอดได้ แก้ไขโดยการเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการรักษา ใช้เข็มปลายทู่ที่มีคุณภาพที่ดีในการรักษาจะลดความเสี่ยงประการนี้ลงไปได้
- ฟิลเลอร์ บวมอักเสบ ติดเชื้อ โดยปกติประการนี้มักเกิดจากการดูแลหลังการรักษาไม่ดี หรือ ไม่ได้ทำการรักษาในสถานพยาบาลอย่างถูกต้อง สำหรับการฉีดฟิลเลอร์เถื่อน ฟิลเลอร์หมอกระเป๋า จะมีโอกาสเกิดการติดเชื้อได้ง่าย
- ฟิลเลอร์เป็นก้อน ยิ้มไม่เป็นธรรมชาติ การแก้ไขโดยการฉีดฟิลเลอร์ประเภทที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อน บางจุดนี้ ผู้เข้ารับการรักษาต้องเลือกแพทย์ที่มีความสามารถในการฉีดฟิลเลอร์ รวมถึงรู้คุณสมบัติของตัวยาที่จะใช้ในการรักษาอย่างถูกต้อง
การฉีดฟิลเลอร์ หรือแม้แต่สารเติมเต็มประเภทอื่น ๆ สามารถเกิดอันตรายได้เช่นเดียวกัน หากแพทย์ที่ทำการรักษาไม่เชี่ยวชาญมากพอ ไม่รู้รายละเอียดของรุ่นยาที่ถูกต้อง หรือไม่ทราบวิธีการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้จากการฉีดฟิลเลอร์
อ่านเพิ่มเติม อาการแพ้ฟิลเลอร์ มีอะไรบ้าง อันตรายไหม?
ฟิลเลอร์ Juvederm อย.ไทย จุดจับผิดกับฟิลเลอร์ปลอม
ฟิลเลอร์แท้ อย.ไทย ที่เราพูด ๆ กันนั้น หมายถึงฟิลเลอร์ที่นำเข้ามาประเทศไทยอย่างถูกต้อง ผ่านและได้รับการตรวจสอบอย่างถูกต้องจากองค์การอาหารและยาแห่งประเทศไทย ว่าสามารถใช้เพื่อทำการรักษาได้ มีประสิทธิภาพและปลอดภัย แต่ก็มีบางสถานพยาบาล มีการลักลอบนำเข้ามาแบบไม่ถูกต้องเป็นยาที่ตรวจสอบไม่ได้ว่ามีที่มาจากไหน และไม่ได้ข้อสรุปว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ที่เป็นสารไฮยารูลอนิกแอซิดหรือไม่ ซึ่งวิธีการตรวจสอบฟิลเลอร์แท้ที่ถูกต้องทำได้ ตามวิธีดังต่อไปนี้
- สังเกตดูที่ฉลากกำกับยาจะต้องเป็นเอกสารกำกับยาที่ข้างกล่องเป็นภาษาไทย
- ตรวจสอบได้กับบริษัทที่เป็นตัวแทนในการจัดจำหน่ายฟิลเลอร์ Juvederm โดยผู้ที่รับผิดชอบในการจัดส่ง คือ DKSH หรือตรวจสอบกับบริษัทยา Allergan
- ชื่อยาบางรุ่นเมื่อเข้าประเทศไทยมาแล้ว จะได้ทะเบียนอย.ไทยอีกชื่อ ได้แก่ รุ่นฟิลเลอร์ Juvederm Ultra XC และ ฟิลเลอร์ Juvederm Ultra plus XC ซึ่งในต่างประเทศจะเป็นชื่อรุ่น Ultra 3 และ Ultra 4
วิดีโอ : วิธีสังเกตฟิลเลอร์แท้ และฟิลเลอร์ปลอม
ผลลัพธ์หลังการฉีดรักษาฟิลเลอร์ Juvederm
หลังการฉีดรักษาฟิลเลอร์จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทันที ทั้งนี้ขึ้นกับปริมาตรฟิลเลอร์ที่เติมเข้าไป หรือปัญหาเดิมที่คนไข้มีอยู่ ข้อได้เปรียบของฟิลเลอร์ Juvederm นอกจากจะอยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์แบรนด์อื่น ๆ แล้ว ยังมีความเข้มข้นของไฮยารูลอนิกแอซิดที่สูง ทำให้ตัวยาอุ้มน้ำและฟูได้มาก ผลลัพธ์หลังการรักษาที่เกิดขึ้นจึงเป็นที่น่าพอใจ และถูกเลือกใช้โดยแพทย์ผิวหนังและความงามทั่วโลก
สำหรับการฉีดฟิลเลอร์นั้นระยะที่คนไข้ต้องเข้าพักฟื้นจะไม่มีเลย ไม่จำเป็นต้องเก็บตัว คนไข้ที่รับการรักษาสามารถเข้าสังคมและทำงานได้ปกติทันที โดยไม่เป็นที่ผิดสังเกต ของบุคคลรอบตัว นี่จึงเป็นผลลัพธ์หลังการรักษาที่ทรงเสน่ห์ของการฉีดฟิลเลอร์ เมื่อเปรียบเทียบกับการทำศัลยกรรมอื่น ๆ ที่ต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นที่ยาวนาน มีรอยแผลเห็นได้ หรือ เป็นที่จับผิดของบุคคลอื่นในสังคม
ข้อปฏิบัติก่อนและหลัง การฉีดฟิลเลอร์ Juvederm
ก่อนการฉีดรักษาด้วยฟิลเลอร์ Juvederm
- แจ้งโรคประจำตัว หรือยาที่ใช้ประจำให้แพทย์ที่ทำการรักษาทราบ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์
- หากรับประทานอาหารเสริมกลุ่มที่ทำให้เลือดออกง่าย เช่น น้ำมันปลา วิตามินอี ใบแปะก๊วย แนะนำให้หยุดรับประทานก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์ ประมาณ 3-7 วัน เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยฟกช้ำ
- งดออกกำลังกายก่อนทำการฉีดรักษาฟิลเลอร์ ใน 2-3 ชั่วโมง
หลังการฉีดรักษาด้วยฟิลเลอร์ Juvederm
- งดแต่งหน้า ในช่วงระยะเวลา 12 ชั่วโมงแรก หรือ จนกว่าแผลรอยเข็มบริเวณใบหน้าจะหายสนิท
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่กระตุ้นการอักเสบ เช่น ของหมักดอง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในช่วง 3-7 วัน
- งดการทำทรีทเม้นท์ นวดหน้า หรือสัมผัสความร้อนในบริเวณที่ทำการรักษาด้วยฟิลเลอร์ ในช่วง 2 สัปดาห์
- งดเข้าอบไอน้ำ (Stream) ซาวหน้า โยคะร้อน เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังการรักษา
- แนะนำให้ดื่มน้ำสะอาดปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
- หากมีอาการผิดปกติให้รีบเข้าพบแพทย์ที่ทำการรักษาฟิลเลอร์ Juvederm
สรุป
ฟิลเลอร์ Juvederm ถือเป็นสารเติมเต็มกลุ่มไฮยารูลอนิกแอซิด ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากแพทย์ทั่วโลก เนื่องมาจากมีผลรองรับทางงานวิจัยอย่างมากมาย ถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของตัวยา ทำให้ผู้ที่รับการฉีดฟิลเลอร์ไปสามารถมั่นใจได้มากกว่าแค่เรื่องของความสวยงาม แต่ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นในระยะยาวก็จะดีไปด้วย
การฉีดสารเติมเต็ม ฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ไหน ยี่ห้อใด ก็ควรทำการรักษาโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง และเลือกใช้ยาแท้ ถูกต้องที่ได้มาตรฐาน
Pingback: รู้ลึกรู้จริงเรื่องฟิลเลอร์ ตอน ฟิลเลอร์ Juvederm By dr.kanom
Pingback: ฉีดฟิลเลอร์ ราคาเท่าไหร่ ดูจากอะไรให้คุ้มค่าและปลอดภัย