ฉีดฟิลเลอร์ราคา เท่าไหร่? ราคาแต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร

ราคาฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ เปรียบเทียบ

ราคา Juvederm Filler

ฟิลเลอร์ Juvederm จากสหรัฐอเมริกา แบรนด์ฟิลเลอร์ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมในระดับสากล เนื่องจากมีคุณสมบัติคงอยู่ได้นาน สามารถอยู่ได้หลายเดือนหลังจากฉีด และยังมีปริมาณกรดไฮยารูโรนิคในความเข้มข้นสูง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ตัวยาอุ้มน้ำและฟูได้มาก ผลลัพธ์หลังการรักษาที่เกิดขึ้นให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ

ราคาอยู่ช่วงประมาณ 13,000 – 18,000 บาท ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้และสถานพยาบาล

ราคา Restylane Filler

ฟิลเลอร์ Restylane ผลิตโดยบริษัท Galderma ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ชั้นนำจากประเทศสวีเดน และยังเป็นแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมแพร่หลายในวงการแพทย์ มีคุณสมบัติพิเศษในการอุ้มน้ำ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

มีราคาอยู่ในช่วง 12,000 – 18,000 บาท ขึ้นอยู่กับชนิดฟิลเลอร์ ปริมาณ และสถานพยาบาล

ฟิลเลอร์ e.p.t.q จากประเทศเกาหลีใต้ เป็นแบรนด์ฟิลเลอร์จากเกาหลีใต้ ที่เริ่มนิยมขึ้นเรื่อย ๆ เพราะมีราคาที่เข้าถึงง่าย เพราะราคาไม่แพง ทุกคนสามารถจับต้องได้ มีคุณสมบัติของการเติมเต็มร่องลึก ลดริ้วรอย และปรับรูปหน้า เพื่อแก้ไขปัญหาบนใบหน้า

ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการรับรองจาก U.S. FDA องค์กรกำกับดูแลอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา และผ่านการตรวจสอบโดย EDQM องค์กรตรวจสอบยาของสหภาพยุโรป มั่นใจได้ในคุณภาพและความปลอดภัย

ราคาเริ่มต้นประมาณ 8,000 – 10,000 บาท ต่อ 1 cc. แตกต่างกันไปตามสถานพยาบาลและปริมาณที่ใช้

ราคา Revolax Filler

Revolax เป็นฟิลเลอร์จากเกาหลีใต้ แต่ได้รับความนิยมในอังกฤษและยุโรป บางคนจึงเรียกว่าฟิลเลอร์อังกฤษ โดดเด่นด้วยคุณสมบัติเข้ากันได้ดีกับร่างกาย ลดโอกาสแพ้ มีความยืดหยุ่นสูง รักษาความชุ่มชื้นผิวได้ดี และให้ผลลัพธ์ที่ดูกลมกลืนเป็นธรรมชาติ

ราคาอยู่ที่ 10,000 – 15,000 บาท ต่อ 1 cc. ขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลและปริมาณที่ใช้

ราคา Variofill Filler

ฟิลเลอร์ Variofill เป็นโปรแกรมฟิลเลอร์จากประเทศเยอรมัน ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์เฉพาะในการเติมเต็มและปรับรูปทรงบริเวณสะโพกและก้นโดยเฉพาะ เป็นรุ่นที่ปลอดภัย มีความเข้มข้นของกรดไฮยารูโรนิคสูงถึง 33 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร ช่วยปรับรูปทรงให้กระชับได้ดี ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับการเสริมสะโพกและบั้นท้ายด้วยซิลิโคน

ราคาเริ่มต้นที่ 29,000 บาท สูงกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป เพราะเป็นฟิลเลอร์ชนิดพิเศษสำหรับฉีดบริเวณสะโพกและบั้นท้าย ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ราคาอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับแพทย์และปริมาณที่ใช้

ราคาฉีดฟิลเลอร์ตามตำแหน่งบนใบหน้า

สำหรับราคาฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละตำแหน่งจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัญหา ปริมาณที่ใช้ ยี่ห้อฟิลเลอร์ รุ่นฟิลเลอร์ และคุณภาพของฟิลเลอร์ โดยทั่วไปราคาจะอยู่ระหว่าง 10,000 – 50,000 บาทต่อครั้ง โดยสามารถประมาณการณ์ราคา ดังนี้

ราคาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มักใช้เพื่อแก้ปัญหาใดบ้าง เช่น รอยคล้ำ ถุงใต้ตา ร่องใต้ตาลึกจะนิยมฉีด 1-3 cc มักมีราคาประมาณ 15,000 – 25,000 บาท เนื่องจากเป็นบริเวณที่ต้องการความละเอียดและต้องระมัดระวังสูง ปริมาณที่ใช้จะไม่มากนัก แต่ต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์ หากฉีดไม่ถูกวิธี อาจทำให้เกิดก้อนฟิลเลอร์ ผิวไม่เรียบ หรือเกิดอาการบวมช้ำรุนแรง ดังนั้น แนะนำให้เลือกแพทย์ที่มีความชำนาญเป็นพิเศษสำหรับการฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตา

ราคาฉีดฟิลเลอร์ปาก

การฉีดฟิลเลอร์ปาก ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น อยู่ได้นาน จะนิยมฉีด 1-2 cc ราคาอยู่ที่ประมาณ 12,000 – 20,000 บาท ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้และรูปทรงที่ต้องการ การเพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปาก เช่น อวบอิ่ม เรียวเล็ก ยกมุมปาก ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นมีข้อจำกัดเช่นกัน จะไม่เหมาะกับผู้ที่มีริมฝีปากบางมาก หรือกับผู้มีปากที่ไม่สมมาตร เพราะอาจต้องแก้ไขเยอะกว่าปกติ

ราคาฉีดฟิลเลอร์คาง

การฉีดฟิลเลอร์คาง มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาคาง เช่น ปรับรูปคางให้ได้สัดส่วน แก้ไขคางที่ไม่สมมาตร เสริมคางให้ดูเรียวเล็ก เป็นต้น ซึ่งจะนิยมฉีด 1-2 cc และราคาฉีดฟิลเลอร์คางประมาณ 20,000 – 35,000 บาท เนื่องจากต้องใช้ฟิลเลอร์เนื้อแข็งกว่าบริเวณอื่นเพื่อเพิ่มมิติให้ใบหน้า หากฉีดกับแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญอาจจะทำให้ฟิลเลอร์ย้ายตำแหน่ง คางอาจดูไม่สมมาตร หรือคางอาจบวมเป็นก้อนแข็งได้ จึงต้องเลือกทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจริง

ราคาฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

ราคาฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม จะนิยมฉีด 2-4 cc มักจะฉีดเพื่อแก้ไขปัญหาร่องแก้มลึก ใบหน้าเริ่มหย่อนคล้อย ต้องการยกกระชับผิว ซึ่งราคาจะอยู่ที่ประมาณ 18,000 – 30,000 บาท ขึ้นอยู่กับความลึกของร่องแก้มและปริมาณที่ต้องใช้ในการเติมเต็ม

นอกจากนี้ ยังมีข้อควรระวังในการฉีด เช่น อาจเกิดอาการบวมช้ำในช่วงแรก แต่จะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 1-2 สัปดาห์ ควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์เพื่อลดความเสี่ยง อยากเพิ่มประสิทธิภาพให้ผลลัพธ์สามารถพิจารณาทำควบคู่ไปกับการดูแลผิวหน้าวิธีอื่น ๆ เช่น ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแบบองค์รวม

ราคาฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก จะนิยมฉีด 2-6 cc มีราคาประมาณ 15,000 – 70,000 บาท ใช้เพื่อเพิ่มมิติให้หน้าผากหรือแก้ไขรอยบุ๋มต่าง ๆ การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเป็นเทคนิคที่ค่อนข้างใหม่ ยังไม่แพร่หลายเท่าการฉีดบริเวณอื่น ควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์จริงในเรื่องนี้ ซึ่งข้อจำกัดของการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก หากฉีดมากเกินไป อาจทำให้หน้าผากดูไม่เป็นธรรมชาติ หรือมีติ่งเนื้อเกินมา ต้องฉีดด้วยความระมัดระวัง

อย่างไรก็ตาม ราคาและปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ข้างต้นเป็นเพียงการประมาณการณ์ ราคาจริงอาจแตกต่างกันไปตามสถานพยาบาลและปัจจัยอื่น ๆ ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับข้อมูลที่แม่นยำและเหมาะสมกับความต้องการนะคะ

ปัจจัยที่มีผลต่อราคาฉีดฟิลเลอร์

ราคาการฉีดฟิลเลอร์อาจแตกต่างกันได้หลายปัจจัย ไม่เพียงแค่ชนิดและปริมาณของฟิลเลอร์ที่ใช้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงคุณภาพการบริการและความเชี่ยวชาญของผู้ให้บริการด้วย ซึ่งปัจจัยหลัก  ๆ ที่มีผลต่อราคาการฉีดฟิลเลอร์ มีดังนี้ 

ประสบการณ์ ความชำนาญ และเทคนิคของแพทย์ 

ถึงจะใช้ฟิลเลอร์รุ่นเดียวกัน ราคาก็อาจต่างกันได้ ขึ้นอยู่กับฝีมือและประสบการณ์ของแพทย์ผู้ทำ โดยแพทย์เชี่ยวชาญโดยตรง เข้าใจกายวิภาคในการวางฟิลเลอร์ให้ถูกต้องในแต่ละชั้นผิว รวมถึงเลือกชนิดของฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับตำแหน่งที่ต้องการแก้ไข รวมถึงการวางยาในตำแหน่งที่ดี เพื่อป้องกันอาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดฟิลเลอร์ หมอที่ดีมักอัปเดตความรู้และเทคนิคตลอดเวลาไม่ว่าจะทั้งในประเทศและต่างประเทศอยู่เสมอ

การบริการของแต่ละคลินิก สถานที่ตั้งคลินิก 

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ แต่ละคลินิกอาจะมีขั้นตอนและกระบวนการในการดูแลลูกค้าแตกต่างกันไป ตั้งแต่ การดูแลคนไข้ขณะรอหมอ การทำความสะอาดใบหน้า การทายาชา ซึ่งในส่วนนี้อาจมีต้นทุนที่แตกต่างกันไปในแต่ละคลินิก รวมถึงการติดตามผลการรักษา การให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองที่บ้าน ก็มีผลต่อราคาเช่นเดียวกัน

• ฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร กับทุกเรื่องที่ต้องรู้ก่อนฉีด

ข้อควรตรวจสอบก่อนฉีดฟิลเลอร์

ถึงทุกคนจะอยากสวยงามในราคาประหยัด แต่ความปลอดภัยของการฉีดฟิลเลอร์ต้องมาเป็นอันดับแรก เพราะฉะนั้นควรคำนึงความสวยที่ควบคู่ไปกับความปลอดภัยด้วยเช่นกัน ดังนั้น จึงนำข้อพิจารณามาเพื่อให้การฉีดฟิลเลอร์ของเรานั้นปลอดภัย

แพทย์ต้องมีประสบการณ์การทำหัตถการ

แพทย์ผู้ที่จะฉีด ฟิลเลอร์ ให้แก่เราควรจะเป็นแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการฉีดฟิลเลอร์ มีความรู้ทางกายวิภาค มีเทคนิคการฉีดต้องถูกต้องเหมาะสม มีการประเมินรูปร่างผู้ใช้บริการว่าบริเวณใดต้องฉีดมากน้อยเพียงใด ฉีดสารในชั้นผิวหนังที่ถูกต้อง ด้วยปริมาณที่เหมาะสม และแพทย์ท่านนั้นมีใบอนุญาตการประกอบการหรือไม่

แพทย์ที่ทำการรักษาควรเป็นแพทย์ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย และมีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์มาอย่างยาวนานไม่ต่ำกว่า 5 ปี

คลินิกต้องได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตการประกอบการ

สถานที่ที่เข้าไปรับบริการ เป็นสถานพยาบาลที่เป็นไปตามมาตรฐาน มีใบอนุญาตและได้รับการรับการอนุญาตอย่างถูกต้อง

คลินิกต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลและใบอนุญาตให้ดำเนินสถานพยาบาลตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล สถานที่ตั้งของคลินิกนั้นต้องเข้าถึงง่าย สะดวก ไม่ลับตาคน ศึกษารีวิวของคลินิกต่างๆ อย่างระมัดระวังและมีวิจารณญาณ ศึกษารีวิวของคลินิกต่างๆ อย่างระมัดระวังและมีวิจารณญาณ รวมถึงมีการติดตามผลลัพธ์หลังหัตถการ

นอกจากนี้ ควรศึกษารีวิวคลินิกให้ละเอียด เพื่อเพิ่มข้อมูลในการตัดสินใจมากขึ้น เช่น ควรหาข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ มีความเป็นกลาง อ่านรีวิวจากหลาย ๆเว็บไซต์ โดยพิจารณาทั้งด้านบวกและด้านลบ

เลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ ได้รับมาตรฐานจาก อย.ไทย

ควรหาข้อมูล เกี่ยวกับฟิลเลอร์ชนิดต่าง ๆ ต้องแน่ใจว่าเป็นฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid ที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หรือไม่เป็นฟิลเลอร์ราคาถูกที่มีจำหน่ายตามเว็บไซต์ทั่วไปหรือนำเข้าอย่างผิดกฎหมาย

เพราะเสี่ยงที่จะเป็นฟิลเลอร์ปลอม หมดอายุ ไม่ได้คุณภาพ สามารถพิจารณาข้อสังเกตเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟิลเลอร์แท้ได้ เช่น ผู้ผลิตต้องจดทะเบียนและได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ฉลากและเอกสารกำกับยาต้องเป็นภาษาไทย ระบุชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิตกับผู้นำเข้า เป็นต้น

บทสรุป

จากเนื้อหาทั้งหมดที่ได้กล่าวมา ก็เป็นปัจจัยหลักของการที่ทำให้แต่ละคลินิก ฉีดฟิลเลอร์ราคา ไม่เท่ากัน ซึ่งผู้เข้าการรักษาจึงต้องไตร่ตรองให้ดี การเลือกฉีดฟิลเลอร์ราคาถูก แต่ไม่ได้มาตรฐาน อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ต้องเสียค่ารักษาเพิ่มเติมมากกว่าหลายเท่า

โดยฉีดฟิลเลอร์ราคาทั่วไปโดยแพทย์ที่ฝีมือดีและเป็นฟิลเลอร์แท้ ราคาจะอยู่ในช่วง 8,900 – 20,000 บาทขึ้นไป แล้วแต่ยี่ห้อและความเชี่ยวชาญของแพทย์ที่ฉีด อย่างใดก็ตามต้องคำนึงถึงความสำคัญของการเลือกสถานพยาบาลและแพทย์ที่ได้มาตรฐาน รวมถึงการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมากกว่าราคาที่เห็นค่ะ