รู้หรือไม่? ฉีดฟิลเลอร์ 1 ครั้ง ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ? อายุของฟิลเลอร์ที่ฉีดไปในแต่ละคนอยู่ได้นานไม่เท่ากัน เนื่องมาจากเหตุผล และปัจจัยที่มีผลต่ออายุของฟิลเลอร์โดยตรง การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ก็เป็นสิ่งสำคัญในการคงอยู่ของฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ คืออะไร
ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid ซึ่งเป็นฟิลเลอร์แบบสังเคราะห์ มีคุณสมบัติช่วยกักเก็บน้ำให้แก่ชั้นใต้ผิว ช่วยเพิ่มเส้นใยคอลลาเจนให้กับผิว นำมาใช้ในการเติมเต็มเพื่อทดแทนกรดไฮยาลูรอนที่สลายไปตามตำแหน่งต่างๆ ทั้งบนใบหน้า เช่น ร่องใต้ตาลึก ร่องแก้มลึก คางสั้น ขมับตอบ แก้มตอบ
หรือตำแหน่งอื่นๆ ในร่างกาย เช่น คอ หลังมือ หลัง ซึ่งสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติเสมือนเป็นกรดไฮยาลูรอนของร่างกายเอง ระยะเวลาการสลายของฟิลเลอร์โดยประมาณแล้วจะอยู่ภายใน 1-2 ปี
ทำไมฟิลเลอร์ถึงมีอายุแตกต่างกัน
ฟิลเลอร์แต่ละรุ่นจะมีระยะเวลาของผลลัพธ์ที่แตกต่าง เพราะแต่ละตัวมีปริมาณของ HA ไม่เท่ากันและใช้เทคโนโลยีแตกต่างกัน และเทคนิคของแพทย์ในแต่ละท่านด้วยที่จะสามารถทำให้ฟิลเลอร์ช่วยคงผลลัพธ์ที่ดี ช่วยยกพยุง หรือป้องกันการเกิดความหย่อนคล้อยของ ผิวหน้า
รวมไปถึงการปฏิบัติตัวของเราหลังฉีดฟิลเลอร์ด้วยว่าจะมีผลทำให้ฟิลเลอร์สลายไวหรือไม่ เช่น การตากแดดที่ร้อนมากๆ หรือการเข้าซาวน่า ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่ทำให้อายุของฟิลเลอร์ไม่เท่ากัน
แล้ว ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน กันนะ
ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ? ส่วนใหญ่โดยมาตรฐานของฟิลเลอร์แล้ว จะมีอายุของตัวยาอยู่ได้ 12-18 เดือน คือ เป็นประเภทฟิลเลอร์ ที่ได้รับมาตรฐานการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) และประเทศไทย
เป็นสารที่เลียนแบบสารที่มีตามธรรมชาติ เพื่อช่วยเติมเต็มในชั้นผิวหนังและใต้ผิวหนัง สามารถย่อยสลายได้เอง ตามกระบวนการทางธรรมชาติของร่างกาย โดยไม่ทิ้งสารตกค้าง โดยอายุของฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ? แบ่งได้ตามชนิดของฟิลเลอร์นั่นเองค่ะ
ฟิลเลอร์กรดไฮยาลูโรนิก
ฟิลเลอร์กรดไฮยาลูโรนิกประเภทนี้ เป็นฟิลเลอร์แบบทั่วไป ใช้เพื่อเติมเต็มผิวที่ขาดความกระชับ เหี่ยวย่น โดยสารชนิดนี้จะสามารถจับตัวกับน้ำและพองขึ้นเป็นเจลเพื่อทำให้ผิวกลับมาเต่งตึงอีกครั้ง โดยผลิตขึ้นมาจากการหมักแบคทีเรียและมีการใช้กระบวนการทางเคมีเพื่อยืดระยะเวลาให้อยู่ในร่างกายได้ยาวนานขึ้น เมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะสามารถอยู่ได้นานถึง 6 เดือน – 2 ปี เป็นฟิลเลอร์ที่มีความปลอดภัยมากที่สุดเนื่องจากเป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับการรองรับจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว
แคลเซียมฟิลเลอร์
สารชนิดมาจากแคลเซียม ไฮดรอกซีอะพาไทท์ (Calcium Hydroxyapatite หรือ CaHA) ฟิลเลอร์ชนิดนี้ เข้าสู่ใต้ขั้นผิวแล้วจะเปลี่ยนสภาพเป็นแคลเซียมที่อยู่ภายในกระดูก นำมาใช้ในการเติมเต็มได้อย่างหลากหลายบริเวณ เช่น ใบหน้า หลังมือ รวมไปถึงหน้าอกและสะโพก ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 18 เดือน แต่ฟิลเลอร์ชนิดนี้ยังไม่ได้รับอนุญาตให้นำมาใช้ภายในประเทศไทย เนื่องจากหากเกิดผลข้างเคียงที่ไม่คาดคิดจะทำให้แก้ไขปัญหาได้ยาก หรือเกิดอันตรายกับผู้ที่ได้รับการฉีดฟิลเลอร์ชนิดนี้
กรดโพลี แอล แลคติก (Poly L lactic acid หรือ PLLA)
เป็นฟิลเลอร์ที่มีการคงตัวอยู่ยาวนานที่สุดในบรรดาฟิลเลอร์ที่สามารถสลายได้เอง คุณสมบัติอุ้มน้ำ มีความเข้ากันได้กับเนื้อเยื่อในร่างกายและสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ มักนำมาใช้เป็นวัสดุเย็บแผลที่ละลายได้หรือใช้ดามกระดูก เช่น ไหมละลายและตะปูเกลียวยึดกระดูก การฉีดฟิลเลอร์จากสารชนิดนี้จะต้องฉีดซ้ำเป็นระยะเวลาหลายเดือน และผลลัพธ์จะค่อย ๆ เห็นชัดขึ้นในแต่ละครั้ง โดยสามารถคงอยู่ในร่างกายได้นานถึง 2 ปี
โพลีเมธิลเมธาไครเลต บีทส์ (PMMA)
ฟิลเลอร์ประเภทนี้ได้ถูกจัดให้เป็นฟิลเลอร์ปลอม PMMA เป็นสารสังเคราะห์เช่นเดียวกับ PLLA โดยเข้ากับเนื้อเยื่อในร่างกายได้ โดยจะถูกรู้จักในชื่อของ พาราฟิน (Paraffin) หรือ ซิลิโคน (Silicone) ที่เป็นสารเติมเต็มในรูปแบบพลาสติก แต่จะไม่ย่อยสลายเหมือนกับฟิลเลอร์ชนิดอื่นๆ กระบวนการนำมาใช้เพื่อเติมเต็มนั้น
สาร PMMA จะถูกนำไปทำให้เป็นสารละลายคล้ายเจลแล้วนำไปผสมกับคอลลาเจนจากวัว แล้วนำมาฉีดเติมเต็มเข้าสู่ร่างกาย โดย หากถูกฉีดเข้าไปแล้วจะเป็นอันตรายเมื่อเวลาผ่านไป หากต้องการนำออกต้องมาทำการขูดฟิลเลอร์หรือผ่าตัดนำฟิลเลอร์ออกเท่านั้น ซึ่งไม่รับประกันว่าจะนำออกไปได้ทั้งหมด เพราะอาจมีบางส่วนได้ถูกร่างกายดูดซึมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายแล้ว
ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองในประเทศไทย
ปัจจุบันมีฟิลเลอร์ที่หลากหลายยี่ห้อ หลายหลากรุ่นให้เลือกแตกต่างตามความต้องการ ราคาก็จะแตกต่างกันไป ยี่ห้อที่ได้รับความนิยมและผ่านการรับรองในประเทศไทย ซึ่งก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันไป สำคัญต้องปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาและเลือกให้เหมาะกับปัญหาที่จะแก้ไขหรือฉีด ซึ่งยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน อย. ในประเทศไทย ได้แก่
ระมัดระวัง ฟิลเลอร์ปลอม ให้ดี
แต่สิ่งที่ควรระวังคือ หากเป็นฟิลเลอร์ปลอม หรือ ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งเป็นสารที่ไม่ได้ทำมาจากกรดไฮยาลูรอนิก สารเหล่านี้จะไม่สามารถย่อยสลายไปได้เอง โดยทำมาจาก ซิลิโคนเหลว พาราฟิน เมื่อระยะเวลาผ่านไป ร่างกายจะเกิดต่อต้านสารแปลกปลอมที่เข้าไปดยเริ่มจับเป็นก้อน กลายเป็นซิลิโคนเหลวที่เกาะแน่นกับกระดูก อาจทำให้ใบหน้าเสียรูป
หมอกระเป๋า คือใคร?
หมอกระเป๋า คือ ผู้ช่วยแพทย์ที่เห็นการหัตถการจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อาจจะจดจำเทคนิคต่าง ๆ แล้วนำไปลองฉีดให้เราแบบผิด ๆ ถูก ๆ แน่นอนว่าฟิลเลอร์ที่ฉีดให้เราคงเป็น ฟิลเลอร์ปลอม แน่นอน หากคนฉีดไม่ใช่แพทย์ที่มีใบรับรองจริง ๆ เพราะแพทย์ที่มีใบรับรองจะสามารถสั่งซื้อฟิลเลอร์ของแท้มาฉีดได้ เนื่องจากบริษัทยาจะจำหน่ายฟิลเลอร์แท้ให้แก่หมอที่มีใบอนุญาตเท่านั้น ต่างจากหมอกระเป๋าที่ต้องซื้อฟิลเลอร์ปลอมตามอินเตอร์เน็ต
เคล็ดลับยืนอายุฟิลเลอร์ให้อยู่นาน
ฉีดฟิลเลอร์ ที่ได้มาตรฐาน
เคล็ดลับของการยืดอายุของฟิลเลอร์นั้น สิ่งแรกเลยคือ เราต้องมั่นใจก่อนว่าเรา ฉีดฟิลเลอร์ ด้วยฟิลเลอร์แท้ ที่ได้มาตรฐานการรับรองที่ถูกต้อง และฉีดโดยแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน เพราะหากเป็นฟิลเลอร์ปลอม จะทำให้อยู่ภายในร่างกายอย่างถาวร เมื่อเวลาผ่านไปอาจเกิดการย้วยย้อยและทำให้หน้าผิดรูปได้ ถ้าต้องการนำออกต้องทำการขูดหรือผ่าตัดเท่านั้น
ยี่ห้อฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์นั้นมีหลากหลายยี่ห้อและหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้ตามบริเวณต่างๆ เพราะฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อนั้นไม่สามารถใช้ฟิลเลอร์เพียงรุ่นเดียวได้ โดยส่วนมากรุ่นของฟิลเลอร์นั้นจะแบ่งแยกตามความเข้มข้นของ Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งถ้าเลือกใช้เนื้อฟิลเลอร์ผิดตำแหน่ง อาจทำให้เกิดปัญหาได้ เช่น ถ้าหากทำการ ฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตา ด้วยฟิลเลอร์ที่มีค่าคงที่สูง จะทำให้บริเวณใต้ตาเป็นก้อน ซึ่งฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการฉีดใต้ตาต้องเป็นฟิลเลอร์เนื้อบางเบา กลืนไปกับผิว ไม่ทำให้เป็นก้อน
หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรหลีกเลี่ยงยาบางประเภท
สำหรับหลังการรักษาหรือหลังการ ฉีดฟิลเลอร์ นั้น ตามหลักแล้วไม่ได้มีข้อห้าม ให้งดกลุ่มอาหารแบบใดแบบหนึ่ง เหมือนกับก่อนฉีด ฟิลเลอร์ แต่อยากให้หลีกเลี่ยงยาที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน และยาแก้อักเสบบางชนิด เป็นยาที่ควรหลีกเลี่ยงหลังการฉีดฟิลเลอร์
เพราะการฉีดฟิลเลอร์เป็นการฉีดลงไปในผิวหนังชั้นลึก ถ้าเกิดโดนเส้นเลือดขณะฉีดอาจทำให้เลือดหยุดไหลช้าทำให้ช้ำง่ายกว่าปกติ อาจทำให้เป็นอันตรายกับร่างกายได้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาดังกล่าว อย่างน้อย 1 สัปดาห์
ไม่สัมผัสบริเวณที่ ฉีดฟิลเลอร์
หลังการฉีดฟิลเลอร์ สิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งคือไม่ควรไปสัมผัสบริเวณที่ ฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะเป็นการจับ ลูบ นวด หรือคลึง เพราะอาจทำให้สารที่ฉีดเข้าไปเคลื่อนที่ไปจากบริเวณที่ฉีดเข้าไปได้ อีกทั้งยังทำให้ฟิลเลอร์ที่อยู่ภายในสลายได้ไวขึ้น เพราะฟิลเลอร์นั้นตอบสนองต่อสิ่งเร้าภายนอกได้ง่ายมาก ทั้งแสงแดดหรือความร้อน รวมไปถึงการสัมผัสอย่างบ่อยครั้ง ก็อาจจะทำให้ฟิลเลอร์สลายได้
ทั้งนี้หากหลังฉีดมีอาการคันหรือระคายเคือง ห้ามเกาโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เสี่ยงต่อการอักเสบของผิวและมีผลกระทบต่อฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปหากอาการคันไม่หายไปภายใน 3 วัน ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อความปลอดภัย เพราะอาจจะมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้มีอาการคัน
ข้อจำกัดในการรับประทานอาหารเสริม
หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ ในช่วงสัปดาห์แรกหลังการฉีด ฟิลเลอร์ การรับประทานอาหารเสริมบางชนิด เช่น กิงโกะ น้ำมันพริมโรส กระเทียม โสม และวิตามินอีอาจส่งผลเสียกับการฉีดฟิลเลอร์
แต่มีอาหารกลุ่มหนึ่งที่แนะนำให้รับประทานเสริมเพื่อช่วยในการหายของบาดแผลรวมถึงกระตุ้นในการสร้างคอลลาเจนให้กับใต้ผิวหนังของเรา ได้แก่ อาหารที่มีวิตามินเอและวิตามินซีสูง รวมถึงสับปะรด แครอท มันฝรั่งหวาน สาหร่ายเคลป์ กีวี่ สตอเบอร์รี่ ผลไม้รสเปรี้ยว เพราะอาหารเหล่านี้จะมีส่วนประกอบบางอย่างที่ช่วยทำให้เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเป็นผลดีที่ทำให้บาดแผลจากการฉีดฟิลเลอร์หายไวขึ้น
นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนประกอบของ AHA BHA หรือ Retinoids ก็อาจทำให้เป็นอันตรายกับผิวและบริเวณที่ฉีดสาร ฟิลเลอร์ ได้อีกด้วย ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงก่อนชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย
หลังจาก ฉีดฟิลเลอร์ ให้หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อน
ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มที่มีประสิทธิภาพ การโดนความร้อนในชีวิตประจำวันไม่ทำให้ฟิลเลอร์ละลาย หรือแม้แต่การไปทำเลเซอร์เองก็ตาม แต่ความร้อนทำให้ฟิลเลอร์นั้นเสื่อมสภาพเร็วกว่าอายุจริงของฟิลเลอร์ และอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดไปจากตำแหน่งที่ฉีดไว้ หรือฟิลเลอร์ผิดรูปไปจากเดิม
เพราะฉะนั้นหลังฉีดฟิลเลอร์ ให้หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด และความร้อน ในช่วง 48 ชั่วโมงแรก หลังจากนี้ฟิลเลอร์จะคงที่มากยิ่งขึ้น โดยสามารถป้องกันได้ด้วยการทาครีมกันแดดที่มี SPF 30+ ขึ้นไป
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ นั้นไม่ยากอย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจ และถ้าใคร ที่หลังฉีดฟิลเลอร์ ไปแล้วนั้นอยากให้ผิวดูเต่งตึงขึ้นมากกว่าปกติ และแผลหายเร็วขึ้นก็สามารถรับประทานอาหาร เพื่อช่วยในการหายของบาดแผล
รวมถึงกระตุ้นในการสร้างคอลลาเจนให้กับใต้ผิวหนังของเรา ได้แก่ อาหารที่มีวิตามินเอและวิตามินซีสูง รวมถึงสับปะรด แครอท มันฝรั่งหวาน สาหร่ายเคลป์ กีวี่ สตอเบอร์รี่ ผลไม้รสเปรี้ยว เพราะอาหารเหล่านี้จะมีส่วนประกอบบางอย่างที่ช่วยทำให้เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเป็นผลดีที่ทำให้บาดแผลจากการฉีดฟิลเลอร์หายไวมากขึ้น
ทั้งนี้หลังเข้ารับการรักษาด้วยการฉีดฟิลเลอร์อย่าลืมรับประทานน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 3-4.5 ลิตร ในช่วงวันแรก ๆ เพื่อความชุ่มชื้นและให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดไปอุ้มน้ำและฟูขึ้นเพื่อและงดการดื่มแอลกอลฮอล์หรือสูบบุหรี่หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ด้วย 2-3 วัน
สรุป
ฉีดฟิลเลอร์ 1 ครั้ง ฟิลเลอร์อยู่ได้นาน 12- 18 เดือน ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะมีความแตกต่างกันเพราะแต่ละตัวมีปริมาณของ HA ไม่เท่ากันและใช้เทคโนโลยีแตกต่างกัน ทำให้อายุของฟิลเลอร์ที่ฉีดไปของแต่ละคนอยู่ได้นานไม่เท่ากัน