Hifu แก้ปัญหาผิวหย่อน ช่วยยกกระชับหน้าให้เรียว หน้าดูเด็กลง
HIFU เป็นการยิงเข้าไปทำให้ผิวหนังในชั้น SMAS หดตัว โดยใช้พลังงานคลื่นอัลตร้าซาวด์ความถี่สูง เพื่อกระตุ้นให้สร้างคอลลาเจนและสร้างเนื้อเยื่อใหม่ใต้ผิวหนัง ส่งผลให้ผิวหน้าดูยกกระชับและอ่อนเยาว์ลง สำหรับคนที่กลัวเข็ม หรือกลัวการผ่าตัด จึงเป็นตัวเลือกที่ดีในการตัดสินใจทำหัตถการนี้
ไฮฟู่ HIFU ( High Intensity Focus Ultrasound ) หรือ Smas Lift เป็นการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูง ส่งเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนัง ถึงผิวหนังชั้น SMAS ให้เกิดการหดตัว คล้ายกับการเย็บที่เนื้อ กระตุ้นให้สร้างคอลลาเจนหรือสร้างเนื้อเยื่อใหม่ใต้ผิวหนัง โดยคลื่นอัลตร้าซาวด์นี้ไม่ส่งผลกระทบต่อผิวชั้นนอก และไม่ส่งผลต่อระบบการทำงานของร่างกาย โดยความลึกของ Hifu จะปล่อยพลังงาน อยู่ที่ช่วง 3.0 mm – 4.5 mm แต่ถ้าเป็นการลงระดับพลังงานที่ตัวนั้นจะมีตั้งแต่ 7 mm, 13 mm เป็นต้น เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานตำแหน่งต่าง ๆ
Hifu สามารถช่วยยกกระชับและลดริ้วรอยได้หลายบริเวณ เช่น
- ช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของผิว
- แก้ไขปัญหาริ้วรอยบนผิวหน้า และรอบดวงตา
- ช่วยลดปัญหาชั้นไขมันใต้คาง ลดเหนียงได้
- ช่วยยกกระชับผิว บริเวณใบหน้า ลำคอ และรูปร่าง ให้ดูเต่งตึง
Hifu ตัวช่วยในเรื่องการยกกระชับผิว บริเวณใบหน้า ลำคอ ต้นแขน และต้นขา สามารถเห็นผลลัพธ์หลังทำทันทีตั้งแต่ครั้งแรก ยิ่งสำหรับคนที่กลัวเข็ม กลัวการผ่าตัด จึงเป็นตัวเลือกที่ดี มีความปลอดภัยสูงและการดูแลหลังทำ hifu ก็ไม่ยุ่งยากเหมือนกับการยกกระชับด้วยวิธีอื่นด้วย ซึ่งปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน อาจจะต้องให้แพทย์ช่วยประเมิน และแนะนำวิธีที่ดีที่สุด เพื่อผลลัพธ์ที่น่าพอใจ
การรักษาด้วยวิธีการทำ hifu นั้น เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ที่มีปัญหาหย่อนคล้อย ผิวหน้าไม่กระชับ กรอบหน้าไม่ชัดและมีเหนียง สามารถแก้ไขได้ด้วยการทำ Hifu และสามารถใช้ได้ทุกจุดบนร่างกาย ตั้งแต่ ใบหน้า ลำคอ รวมไปถึงเรือนร่างอีกด้วย
Hifu ควรทำตอนอายุเท่าไหร่
เมื่ออายุเข้าสู่ 20 ปีเป็นต้นไป โดยปกติแล้วนั่นใบหน้าของคนส่วนมากถึง 90% จะเริ่มมีการหย่อนคล้อย จากการที่อีลาสติน (Elastin) และคอลลาเจน (Collagen) เริ่มยืดออก ทำให้เริ่มมีร่องร่องแก้ม ร่องใต้ตา และหากปล่อยไป ผิวหน้าจะเริ่มหย่อนคล้อยลงเรื่อย ๆ เราควรเริ่มดูแล รักษาด้วยวิธีการทำHifu ทำให้ใบหน้าของเรากระชับอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่อายุยังไม่มาก เพื่อป้องกัน และไม่ต้องเสียเงินมากตอนที่ปัญหามากเเล้ว
การเริ่มทำ Hifu ตั้งแต่อายุน้อยจะสามารถช่วยป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร เช่น ร่องใต้ตา ร่องมุมปาก เกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้ดูโทรม ดูมีอายุ อายุ 20 กว่า ๆ ก็สามารถเริ่มทำ Hifu ได้แล้วค่ะ
ดังนั้น เราควรทำให้ใบหน้าของเรากระชับอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่อายุน้อย ๆ นะคะ
ข้อดีของการทำ Hifu
การทำ Hifu เป็นการยกกระชับผิวหน้าที่ไม่เจ็บ ไม่บวม ไม่ช้ำ ไม่มีรอยเข็ม ไม่ต้องพักฟื้นนาน และไม่มีแผลใด ๆ เมื่อทำเสร็จแล้วสาว ๆ ยังสามารถไปทำงานหรือธุระต่อได้ทันที โดยไม่มีใครรู้ว่าเพิ่งไปทำสวยมา และยังสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติอีกด้วย
ข้อเสียของการทำ Hifu
ในบางคนอาจจะมีการเมื่อยตึงที่ใบหน้า หรืออาจมีอาการแดงของผิวหนัง ซึ่งไม่เป็นปัญหาใหญ่มากนัก อาจจะแดงเพียงแค่ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น แต่อย่าลืมว่า การทำ Hifu ควรใช้บริการกับคลินิก หรือโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยหลังทำนะคะ
หลังทำการรักษาด้วย Hifu เห็นผลทันที 10-20% ชั้นผิวจะหดตัวจากความร้อนที่ Focus ลงใต้ผิว หลักการคล้ายกับเนื้อที่เราวางลงบนกระทะร้อนๆ เนื้อจะหด แต่นวัตรกรรมการยกกระชับด้วยการทำ hifu นี้จะไม่ทำให้ผิวชั้นบนร้อน หรือไหม้ โดยความร้อนที่ใช้ยิงลงชั้นใต้ผิว จะอยู่ที่ 60°C-70°C
การทำการยกกระชับ ด้วยการทำ Hifu เห็นผลลัพธ์ได้อย่างเต็มที่ เวลาผ่านไป 1-2 เดือน และอยู่ได้นานถึง 6-8 เดือน และสามารถมีระยะเวลาคงอยู่ได้ถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและการดูแลหลังทำ
ทำเสร็จแล้วสามารถไปทำงานหรือธุระต่อได้ทันที ไม่มีแผล ไม่ต้องพักหน้า ไม่มีใครรู้ว่าไปทำสวยมา แนะนำให้พบแพทย์ก่อนเข้ารับการรักษา เพื่อประเมินใบหน้าว่าในการทำทำHifu ต้องใช้กี่ช็อตจึงจะเหมาะสม
Hifu อันตรายหรือไม่
โดยปกติแล้ว หลักการทำงานของการทำการรักษา ด้วยวิธีการทำ Hifu เป็นการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ที่พัฒนามาจากการอัลตร้าซาวด์ดูครรภ์ทางการแพทย์ หรือเเม้กระทั้งรักษาเนื้อร้ายในร่างกายอย่างมะเร็ง ซึ่งมีความปลอดภัยสูงและเกิดการไม่ทำร้ายผิวหนังบริเวณชั้นนอก เพราะไม่ได้อยู่ในรูปแบบของเลเซอร์และไม่ใช่คลื่นแสง จึงทำให้คลื่นนี้ไม่เป็นอันตรายต่อสายตา จึงสามารถเน้นบริเวณใต้ตาและรอบดวงตาให้ยกกระชับได้โดยตรง การทำ Hifu เป็นการส่งคลื่นเสียงที่มีความปลอดภัยสูง ส่งเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนัง ชั้น SMAS ที่ช่วยในการกระตุ้นให้สร้างคอลลาเจน เป็นการดึงหน้า ที่ส่งผลให้ผิวดูยกกระชับและอ่อนเยาว์มากขึ้น โดยคลื่นอัลตร้าซาวด์นี้ ไม่ส่งผลกระทบต่อผิวชั้นนอก และไม่ส่งผลต่อระบบการทำงานของร่างกายค่ะ
เจ็บค่ะ เพราะการทำไฮฟู่ที่ได้ประสิทธิภาพนั้น ขณะทำจะมีความรู้สึกปวดตึงในบริเวณที่ทำการรักษา หรือใต้ชั้นผิวแสดงถึงการยิงคลื่นเสียงเข้าถึงชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ SMAS เพื่อความยกกระชับ และอาการหลังทำ hifu คือบวมเล็กน้อยก่อนจะค่อย ๆ ยุบบวมไปเอง
หากทำการยกกระชับด้วยการทำ Hifu และไม่รู้สึกเจ็บ จะได้ผลหรือไม่ ไม่ต้องกังวลในจุดนี้ว่าเป็นการรักษาโดยเครื่องที่ไม่ได้มาตรฐาน เพราะ เครื่องจะได้มาตรฐานไม่ได้ขึ้นอยู่กับความรู้สึกเจ็บหรือไม่เจ็บ แต่อยู่ที่ว่าจะใช้เครื่องแบบไหนและยี่ห้ออะไร การทำ Hifu อาจะได้ผลไม่ชัดเจนเท่าไหร่ อาจจะต้องฉีด Filler ร่วมด้วยจะเห็นผลที่ชัดเจนมากขึ้นค่ะ
Hifu สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม
การยกกระชับใบหน้า ในแต่ละครั้งเราไม่จำเป็นต้องเลือกทำได้อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทำแค่ Hifu อย่างเดียว สามารถทำ Hifu ร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ได้ เช่น ฟิลเลอร์ ฉีดเมโสแฟต ร้อยไหม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและไวยิ่งขึ้น
HIFu ulthera และ thermage ต่างกันอย่างไร
Ulthera (อัลเทอร่า) นวัตกรรมที่ช่วยแก้ไขปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย โดยการใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์แบบเฉพาะเจาะจง ที่ยกกระชับผิวได้ถึงระดับชั้นผิว SMAS (ชั้นที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า) ผสมผสานกับเทคโนโลยี See&Treat ซึ่งเป็นหน้าจอแสดงชั้นผิวเเบบ Real time ทำให้แพทย์รักษาได้แม่นยำ ตรงจุด และมีประสิทธิภาพในการยกกระชับใบหน้า,คิ้ว และ ลำคอ
เทอร์มาจ หรือ Thermage เทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นวิทยุ (Radio Frequency) โดยหัวยิงสามารถส่งพลังงานในลักษณะเป็นก้อนใหญ่ ๆ ลงลึกได้ถึงชั้นหนังแท้ และชั้นไขมันใต้ชั้นผิว เทอร์มาจจึงสามารถยกกระชับหน้า รอบดวงตา และลำตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การทำ Hifu จะมีค่าพลังงานที่เสถียร แต่อาจจะไม่เท่าอัลเทอร่า เนื่องจากจะมีจุด Focus ที่เล็กกว่า จึงทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้เพียงแค่ 5-6 เดือนเท่านั้น การทำ Ulthera สามารถอยู่ได้ถึง 1 ปี เพราะว่าจุด Focus ของหัว Ulthera มีขนาดที่ใหญ่กว่า พลังงานที่ยิงนั้นมีความเสถียรมากมากกว่า
การ Thermage จะเป็นการส่งคลื่นวิทยุความถี่สูงแล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนเข้าไปที่ชั้นผิวหนัง Dermis ซึ่งเป็นชั้นที่อยู่ของคอลลาเจน ทำให้มีประสิทธิภาพในการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน เกลียวเส้นใยคอลลาเจนให้แข็งแรง ส่งผลให้ผิวหน้าแน่นขึ้น ชั้นไขมันบางลง กรอบหน้าชัดขึ้น
แต่ประสิทธิภาพในการไปถึงชั้นลึกสุดของผิวหนังยังไม่มากพอเท่าการทำ Ulthera เพราะเป็นการส่งคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ลงไปถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการผ่าตัดยกกระชับใบหน้า ช่วยยกกระชับใบหน้าได้ดีกว่า
อ่านเพิ่มเติม : Thermage Ulthera Hifu ต่างกันอย่างไร ?
การเตรียมตัวก่อนการรักษาด้วยการทำ Hifu
- ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอ
- งดสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์
- รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพราะจะช่วยในการสร้างคอลลาเจนให้กับเซลล์ใหม่ให้เป็นไปได้ด้วยดียิ่งขึ้น
การดูแลตัวเองหลังทำ Hifu
- สามารถทาครีมบำรุงผิวหน้าได้ตามปกติ แต่แนะนำให้ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ๆ เสริมจากเดิมเพื่อป้องกันแสงแดด
- หลีกเลี่ยงการออกแดดกลางแจ้งสัก 1-2 สัปดาห์ เพื่อส่งเสริมการฟื้นฟูของคอลลาเจนใต้ผิว
- หากมีอาการเมื่อยหรือตึงผิวก็สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
- ไม่ควรนวดหรือถูใบหน้าแรง ๆ
- ไม่สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเป็นการทำลายการสร้างคอลลาเจนที่ชั้นใต้ผิวหนัง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ hifu
สำหรับการทำ Hifu ของแต่ละคลินิกแน่นอนราคาจะไม่เท่ากันอยู่แล้ว แต่ก็ไม่แตกต่างกันมาก เพราะ Hifu มีมาตรฐานราคาเดิมอยู่แล้ว หากเจอราคาที่ถูกเกินไปให้ตรวจสอบและระมัดระวังให้ดี เพราะอาจเป็นเครื่องปลอมหรือไม่ได้มาตรฐานค่ะ
ไฮฟู่ไม่สามารถอยู่ได้ถาวร โดยทั่วไปจะอยู่ได้ 5-6 เดือนและสามารถมีระยะเวลาถึง 1 ปีขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลหลังทำค่ะ
ทำได้ค่ะ แต่ก่อนทำต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ ให้แพทย์ประเมินเพื่อให้เห็นผลมากที่สุด และปลอดภัยมากที่สุด
สามารถทำใหม่ได้ทุก ๆ 6 เดือนค่ะ เพราะคงสภาพผลการรักษา และป้องกันความหย่อนคล้อยที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตค่ะ
สรุป
Hifu เป็นการใช้พลังงานคลื่นอัลตร้าซาวด์ความถี่สูง ยิงเข้าไปทำให้ผิวหนังในชั้น SMAS หดตัว พร้อมกับกระตุ้นให้สร้างคอลลาเจนและสร้างเนื้อเยื่อใหม่ใต้ผิวหนัง ส่งผลให้ผิวหน้าดูยกกระชับและอ่อนเยาว์ลง โดยสามารถทำควบคู่กับหัตถการอื่นได้เพื่อผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น
ผู้นำยุคใหม่ด้านการใช้เครื่องเลเซอร์
หมอขนม-พญ.ภัทรชนน อัศววรฤทธิ์ ได้เกียรติรับเชิญไปบรรยายในงานใหญ่ระดับเอเชีย “IMCAS Asia 2022” เพื่อส่งมอบความรู้เกี่ยวกับการใช้เครื่องเลเซอร์ High Intensity Focus Ultrasound ให้แก่แพทย์ความงามด้วยกัน ซึ่งภายในงานมีคุณหมอจากทั่วโลกทั้งในไทยและต่างชาติ เข้ารับฟังแบบออฟไลน์ (Offline) และออนไลน์ (Online) กว่า 1,000 ท่าน
ได้รับความสนใจจากสื่อหลากหลายช่องทาง เกี่ยวกับเทรนด์การปรับรูปหน้า
อันดับ 1 คลินิกฉีดฟิลเลอร์จาก Thaitopclinic
1 ในคลินิกฉีดฟิลเลอร์ชื่อดังจาก Wongnai