การร้อยไหม เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีช่วยยกกระชับผิวให้เต่งตึงและดูอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด โดยใช้การร้อยไหมละลายสอดเข้าไปใต้ผิวเพื่อกระตุ้นให้เนื้อเยื่อให้กระชับตัวขึ้นเป็นวิธียกกระชับผิวที่ใช้ได้ทั้งกับผิวหน้าและผิวกาย เพียงแต่นิยมใช้กับผิวหน้ามากกว่า ช่วยแก้ปัญหาผิวหนังบนใบหน้าหย่อนคล้อย ริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณแก้ม ร่องจมูก ขากรรไกร หน้าผาก
สารบัญ
รู้จักการร้อยไหมโครงตาข่าย แบบใหม่ ส่งตรงจากเกาหลี >> ไหมโครงตาข่าย <<
การร้อยไหม คืออะไร
การร้อยไหม จะใช้ไหมละลายจำนวนหลายเส้นร้อยเข้าไปในใต้ผิวหนัง การทำเช่นนี้ส่งผลให้เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อใต้ผิวและมีการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่บริเวณรอบเส้นไหม ทำให้ผิวหน้าถูกดึงรั้งจนเต่งตึง ทั้งยังช่วยให้เลือดไหลเวียนมาเลี้ยงผิวหนังบริเวณดังกล่าวมากขึ้นอีกด้วย
ไหมที่ใช้ในกระบวนการ ร้อยไหม มีให้เลือกหลายชนิด แต่ที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือไหมละลาย PDO ทำจากโพลีไดออกซาโนน (Polydioxanone) ซึ่งใช้ในการเย็บแผลผ่าตัดเส้นเลือดหัวใจ มักไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้และได้รับการรับรองความปลอดภัยจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และไม่ต้องเป็นกังวลว่าเส้นไหมเหล่านี้จะติดอยู่ใต้ผิวหนัง เพราะไหมจะค่อย ๆ สลายตัวไปเองภายใน 8 เดือน
เป็นวิธีการที่ใช้สำหรับปรับรูปใบหน้าให้เรียวสวย เพื่อใช้ในการการยกกระชับ เก็บเหนียง ปรับรูปหน้าทำให้ใบหน้าเรียว (V-Shape) หลังจากรับ การร้อยไหม แล้ว ร่างกายจะค่อยๆ กำจัดไหมออกไปภายใน 6 เดือน ระยะเวลาที่ไหมยังอยู่ในใบหน้า จะช่วยกระตุ้นเซลล์ภายในผิว สร้างเส้นใยคอลลาเจนให้มาพันรอบแนวเส้นไหม ส่งผลทำให้ผิวมีการดึงรั้ง ผิวจึงเต่งตึงเรียบกระชับ และปรับรูปให้หน้าเรียวขึ้น ช่วยทำให้เลือดไหลเวียนไปยังบริเวณใบหน้าได้ดีขึ้น การร้อยไหม จึงเป็นการฟื้นฟูสภาพผิว พร้อมกับยกกระชับให้ใบหน้าเรียว ยกกระชับขึ้นไปในตัว
การร้อยไหม อันตรายไหม
การร้อยไหม ถือเป็นหนึ่งในวิธีการยกกระชับใบหน้าที่ปลอดภัยวิธีหนึ่ง แต่ก็สามารถเกิดผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อนได้ประมาณร้อยละ 15-20 ซึ่งส่วนใหญ่ไม่รุนแรงและแก้ไขได้ ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ มีดังนี้
- ใบหน้าไม่เท่ากัน : คนไข้อาจมีใบหน้าไม่สมมาตรกันอยุู่แล้วหรือเกิดความไม่เท่ากันของใบหน้าจากการ ร้อยไหม ได้ แพทย์จึงอาจให้ผู้ป่วยส่องกระจกไปด้วยในระหว่างทำเพื่อสังเกตความผิดปกติดังกล่าวที่อาจเกิดขึ้น
- การติดเชื้อจากการร้อยไหม : เป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นได้น้อย เพราะแพทย์มักใช้กระบวนการฆ่าเชื้อเพื่อความปลอดภัยเสมอ
- การอักเสบของเนื้อเยื่อ : เนื่องจากไหมจะถูกร้อยลงไปที่บริเวณผิวหนังชั้นค่อนข้างลึก จึงเสี่ยงทำให้เกิดกลุ่มเนื้อเยื่อที่อักเสบขึ้นได้
- ไหมหลุดออกมา : หลังจากสอดเส้นไหมเข้าไปใต้ผิวหนัง แพทย์จะตัดปลายไหมส่วนเกินออก เพราะหากไหมยื่นออกมา คนไข้อาจเสี่ยงเกิดการติดเชื้อและการอักเสบของเนื้อเยื่อตามมา
- ไหมแตกหัก : เส้นไหมอาจเกิดการแตกหักในระหว่างขั้นตอนการสอดเข้าไปใต้ผิวหนังหรือขณะดึงรัดเส้นไหม
การร้อยไหม เจ็บไหม
หลังจาก การร้อยไหม จะมีความรู้สึกเจ็บและไม่สบายใบหน้า นอกจากนี้ อาจมีอาการบวม ฟกช้ำซึ่งผลข้างเคียงเหล่านี้มักหายไปเองเมื่อผ่านไปหลายวัน แต่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษหากเกิดการติดเชื้อ เพราะอาจเกิดเชื้อดื้อยาและยากต่อการรักษา
โดยการติดเชื้อนั้น สามารเกิดได้จากการใช้อุปกรณ์ที่ไม่สะอาด หรือ ขั้นตอนที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม ซึ่งบางรายอาจมีรอยย่นของผิวหนังหลังการทำ ซึ่งนั้นคือ ผลข้างเคียงที่ไม่พึ่งประสงค์จากการร้อยไหม ดังนั้น จึงควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับผลข้างเคียงจาก การร้อยไหม แต่ละชนิดอย่างละเอียด
ข้อดีของ การร้อยไหม
- การร้อยไหมจะเห็นผลทันทีหลังทำ
- ช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าที่หย่อนคล้อย ซึ่งหลังจากการร้อยไหมสามารถอยู่ได้นาน
- ทำให้รูปใบหน้าเรียวเป็นรูปทรงวีเชฟ
- ไหมจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการหดตัวของคอลลาเจนใต้ผิว ซึ่งจะทำให้ผิวเกิดการกระชับตึงขึ้นในทันที
- ขณะที่ไหมละลายอยู่ใต้ผิวหนัง จะทำให้เกิดการกระตุ้นสร้างเส้นเลือดใหม่ ทำให้ผิวเกิดการไหลเวียนเลือดที่ดีขึ้น
- ทำให้ผิวเต่งตึงยกกระชับมากขึ้น และได้ผลต่อเนื่องนาน
ข้อเสียของ การร้อยไหม
- หลังจากร้อยไหม อาจมีอาการบวมแดง และรอยช้ำตามแนวการสอดไหม
- หากไหมไม่ได้คุณภาพ อาจทำให้ไหมไม่ละลาย และจับตัวกันเป็นก้อน หรือมีหนองขึ้นตามไหม
- การร้อยไหมยังไม่มีหลักฐาน ทางการแพทย์ที่ยืนยันว่าผิวหนัง จะสามารถคงสภาพการกระชับได้นานแค่ไหน และผิวจะหย่อนกลับสู่สภาพเดิมในระยะเวลาต่อมา
- ผลข้างเคียงการร้อยไหมที่ไม่ได้มาตรฐานคือ เห็นและคลำปมไหมได้ และเห็นปลายไหมโผล่ชัดเจนการร้อยไหม ไม่สามารถแก้ไขหรือเอาออกได้ เนื่องจากถูกพังผืดยึดเอาไว้ หากไปดึงออกมาก็จะทำให้ผิวบุ๋ม
สรุป
การร้อยไหม คือ การใช้ไหมละลายสอดเข้าไปใต้ผิวเพื่อกระตุ้นเนื้อเยื่อให้กระชับ เมื่อเวลาผ่านไป 6-18 เดือนเส้นไหมก็จะละลายไปโดยไม่เป็นอันตราย หากร้อยด้วยเทคนิคที่ถูกต้องก็จะเกิดเป็นเส้นไยอิลาสตินช่วยประคองผิว ทำให้ผิวยกกระชับ เต่งตึงขึ้น สามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย แต่นิยมใช้กับหน้ามากกว่า