หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าการ ร้อยไหม ไหมขาด เกิดได้หลากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นที่ตัวไหมเอง เป็นเพราะการขาดความเชี่ยวชาญจากแพทย์ผู้ร้อยไหมด้วย หรือเป็นเพราะพฤติกรรมของเราเองที่ทำให้ไหมขาด ดังนั้นควรศึกษาหาสถานที่ร้อยไหมและพฤติกรรมที่ควรทำหลังร้อยไหม
สารบัญ
- ร้อยไหม คืออะไร
- ประเภทของไหม
- ข้อดีของการร้อยไหม
- ข้อเสียของการร้อยไหม
- เกิดจากตัวเส้นไหมเอง
- เกิดจากพฤติกรรมของเรา
- เกิดจากตัวแพทย์เอง
>>> รู้จักนวัตกรรมใหม่แห่งการร้อยไหม ไหมโครงตาข่าย ยกกระชับหน้า <<<
ร้อยไหม คืออะไร
การร้อยไหม คือ เทคโนโลยีที่ช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าที่ไม่กระชับ หย่อนคล้อย ให้กลับมากระชับ เต่งตึง เข้ารูป รวมทั้ง สามารถช่วยในเรื่องของการปรับโครงหน้า หรือแก้ปัญหาเฉพาะจุด เช่น ยกหางคิ้ว หางตา เก็บเหนียงใต้คาง ลดรอยย่นบนหน้าผาก อีกทั้งยังฟื้นฟูสภาพผิวด้วยการนำเส้นไหมชนิดพิเศษมาร้อยเข้าใบบริเวณใต้ผิวหนังเพื่อกระตุ้นการสร้างเส้นเลือดใหม่มีผลทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนรอบๆ เส้นไหม
ซึ่งทิศทางการร้อยของเส้นไหมที่สานกันเป็นร่างแห จะทำให้เกิดแรงตึง แรงยกกระชับในชั้นผิวหนัง ใบหน้าจึงดูเต่งตึง ยกกระชับขึ้นหลังการร้อยไหม โดยเห็นผลครั้งแรกหลังทำภายใน1- 2อาทิตย์ และเห็นผลได้ชัดเจนขึ้นในอีก 1-2 เดือนถัดมา วิธีนี้ไม่ใช่การผ่าตัด จึงไม่มีแผลขนาดใหญ่ อาจมีรอยเข็มเล็กๆ เท่านั้น
ประเภทของไหม
ไหมเรียบ : เส้นไหมจะมีลักษณะเป็นเส้นสั้น ๆ ความยาวไม่เกิน 10 เซนติเมตร เส้นไหมมีความเรียบ ไม่มีเงี่ยงแยกออกมา
ไหมเงี่ยง : เส้นไหมมีลักษณะค่อนข้างใหญ่ มีเงี่ยง จะมีทั้งรุ่นเงี่ยง 1 ทิศทาง, 2 ทิศทาง ตัวเงี่ยงจะช่วยในการล็อคเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ให้ยกกระชับใบหน้าให้ตึงยิ่งขึ้น
ไหมโครงตาข่าย : ไหมโครงตาข่าย Tess Lift Soft เป็นเส้นใยโครงตาข่าย 360 องศา ทำจากวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้โดยกระบวนการธรรมชาติภายในร่างกาย เงี่ยงของไหมโครงตาข่ายจะเกาะติดกับเนื้อเยื่อ
ข้อดีของการร้อยไหม
- ช่วยแก้ไขปัญหารูปหน้า ปรับรูปหน้าเรียว กรอบหน้าชัด ช่วยให้รูปหน้าดูเท่ากันมากขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด แก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อย แก้มตอบ ร่องแก้ม ร่องน้ำหมากได้
- ช่วยให้ผิวแน่น กระชับ อิ่มฟู เนื่องจากไหมสามารถกระตุ้นการสร้างคอลาเจนใต้ชั้นผิวได้
- ใช้ระยะเวลาทำไม่นานมาก และเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำเสร็จ
- ไหมที่ใช้เป็นไหมละลายเกรดวัสดุทางการแพทย์ จะสลายไปเองตามอายุการใช้งาน ปลอดภัย ไม่มีตกค้างอยู่ในร่างกาย
- ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
- ไม่ต้องพักฟื้น ซึ่งแตกต่างจากการผ่าตัดดึงหน้า
ข้อเสียของการร้อยไหม
- การร้อยไหมไม่สามารถให้ผลลัพธ์ที่ถาวร ทำให้ต้องร้อยไหมใหม่เพิ่มอีกหากใบหน้ากลับมาหย่อนคล้อย
- หากมีการร้อยไหมถี่จนเกินไป โดยทิ้งช่วงเร็วกว่าประมาณ 6 เดือน อาจทำให้เกิดพังผืดบริเวณใต้ชั้นผิวได้
- อาจมีอาการบวม ฟกช้ำ ระบมใต้ชั้นผิวหลังหลังร้อยได้ เนื่องจากเงี่ยงไหมไปเกาะกับผิวจะเกิดเป็นแผลขึ้นในช่วงแรกและจะมีการซ่อมแซมและหายเป็นปกติ
- การร้อยไหมไม่สามารถแก้ไขปัญหาร่องแก้มลึกตรงบริเวณปีกจมูกได้ จึงต้องเติมฟิลเลอร์ร่วมด้วยเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
- ในส่วนของการวางตำแหน่งเส้นไหม หากร้อยผิดวิธีวางไหมตื้นเกินไปจะส่งผลเสียทำให้เกิดคลื่นไหม
ร้อยไหม ไหมขาด เกิดจากตัวเส้นไหมเอง
ปัจจัยแรกที่ทำให้ ร้อยไหม ไหมขาด อาจจะเกิดจากเส้นไหมที่ไม่มีคุณภาพ ไหมที่เส้นเล็กเกินไป ทำให้เวลาร้อยแล้วเส้นขาดง่าย หรืออาจจะเป็นไหมหมดอายุ
ปัจจัยต่อมาคือการเลือกใช้ไหมที่ใช้ร้อยไหม ว่ามีความยืดหยุ่นมากแค่ไหน เพราะความยืดหยุ่นมีความสำคัญเช่นกันเพราะไหมต้องเข้าไปอยู่ในหน้าเรา ที่มีการขยับตลอดเวลา ถ้าไหมที่ใช้ร้อยไม่ยืดหยุ่น ก็จะทำให้เรารู้สึกถึงตัวไหม และอาจจะเปราะขาดได้ง่าย ไหมที่มีความเปราะบางและขาดง่ายที่สุดคือไหมชนิด PLLA โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในหน้าคนที่มีการขยับตลอดเวลา แต่ไหมชนิด PLLA ก็มีความยืดหยุ่นมากเช่นเดียวกัน
ร้อยไหม ไหมขาด เกิดจากพฤติกรรมของเรา
อย่างที่สามในการที่จะเกิดการ ร้อยไหม ไหมขาด ได้คือ คนไข้อาจจะอ้าปากกว้างเกินไปหรือมีการขยับสีหน้ามากจนทำให้ไหมขาด เนื่องจากบางครั้งเราแสดงอาการหัวเราะ หรือยิ้มตึงมากเกินไป ทำให้มีโอกาสที่ไหมจะตึงรั้ง จนขาดได้ในที่สุด แต่ไม่ได้เป็นอันตรายใดๆ เพียงแต่ผลลัพธ์อาจจะออกมาไม่ดีเท่าที่ควร โดยหลังร้อยไหมในช่วงแรกไม่ควรอ้าปากกว้างๆ เช่น การอ้าปากทำฟัน หรือแปรงฟันด้วยความรุนแรง ในระยะ 1 เดือน
ร้อยไหม ไหมขาด เกิดจากตัวแพทย์เอง
ปัจจัยสุดท้ายคือแพทย์เลือกใช้ไหมผิดประเภทในจุดที่ทำการร้อยไหม หากแพทย์ตัดสินใจในการเลือกไหมผิดประเภทจะทำให้ ร้อยไหม ไหมขาด ได้ และเทคนิคการร้อยก็สำคัญไม่น้อยไปกว่าตัวเส้นไหม โดยทั่วไปเทคนิคการร้อยไหมขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นคนออกแบบว่าจะร้อยจากทิศทาง ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแพทย์ รูปหน้าของคนไข้ และ การตกลงระหว่างแพทย์และเราที่ออกแบบรูปหน้าว่าอยากได้ในรูปแบบใด
สรุป
ร้อยไหม ไหมขาด เกิดจากเส้นไหมที่ไม่มีคุณภาพ ไหมที่เส้นเล็กเกินไป ไหมที่ใช้ร้อยมีความยืดหยุ่นไหม และอย่างสุดท้ายคือพฤติกรรมของเราว่ามีการขยับหน้าหรือขยับปากมากน้อยเพียงใด