รักษาหลุมสิวที่ RWC Clinic

รักษาหลุมสิว ให้หายขาด แบบไม่ทำร้ายผิว

บทความนี้จะรวมหลายวิธีการ รักษาหลุมสิว ให้ได้ผลจริง ลดปัญหาหลุมสิวที่กำจัดยาก อีกหลายตัวเลือกดี ๆ จากแพทย์ผิวหนัง เพื่อช่วยให้ผู้ที่สนใจการรักษาหลุมสิว ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เพราะการรักษาหลุมสิวอย่างถูกวิธี จะช่วยทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น และไม่ก่อให้เกิดการทำร้ายผิวซ้ำ หลุมสิวไม่รุนแรงมากเกินจนรักษาให้หายไม่ได้

รวมวิธีแก้ปัญหาหลุมสิวให้หายขาด - RWC-Fractora

สารบัญ การรักษาหลุมสิว

รักษาหลุมสิว คืออะไร

การ รักษาหลุมสิว เป็นการรักษาที่ยากมากที่สุด การรักษาหลุมสิวที่ดี หายเร็ว รักษาให้ได้ผลระยะยาว แบบไม่ทำร้ายผิว หรือเกิดผลข้างเคียงน้อยที่สุด อาจต้องใช้เวลานมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป ขึ้นอยู่กับความลึกและชนิดของหลุมสิว

เนื่องจากคอลลาเจนที่หายไปจากการถูกทำร้ายลึกในชั้นผิว ถูกสร้างเซลล์ขึ้นใหม่มาทดแทน ฉะนั้น การรักษาหลุมสิวเลยต้องมีการกระตุ้น เพื่อเรียกคอลลาเจนให้เนื้อเยื่อกลับขึ้นมา หลุมสิวนั้นจึงดูตื้นขึ้น และผิวกลับมาเรียบเนียนในที่สุด

รักษาหลุม รีวิว1
หลุมสิวตื้นขึ้น รีวิวจริง Fractora - RWC Clinic

หลุมสิว เกิดจากอะไร

หลุมสิว (Atrophic Scars) สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ซึ่งเกิดจากการอักเสบของสิว ที่กินลึกลงไปถึงชั้นหนังแท้ทำให้คอลลาเจนในบริเวณนั้น ๆ ถูกทำลาย เมื่อการอักเสบหายไป แต่กลับไม่มีการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาซ่อมแซม หรือการซ่อมแซมเป็นไปได้ช้าจนในที่สุดก็กลายเป็นพังผืด เป็นหลุมบนผิวหน้าทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียน

ระดับความรุนแรงของหลุมสิว

ลักษณะของหลุมสิวมีหลากหลายประเภทด้วยกัน ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงจะแตกต่างกันไป แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้

ประเภทหลุมสิวfractora

ระดับ Ice pick scar (ระดับรุนแรงที่สุด)

หลุมสิวระดับนี้ จะมีลักษณะเป็นหลุมลึก ปากแคบ รักษาได้ยาก เนื่องจากเป็นหลุมลึก ยากต่อการฟื้นฟู ซึ่งการรักษาหลุมสิว ประเภท Ice pick scar ต้องใช้เวลานาน ซึ่งหลุมระดับนี้ใช้ยาทาก็มักจะเอาไม่อยู่ แต่ทำได้เพียงแค่ช่วยให้รอยหลุมสิวนั้นตื้นขึ้นมาเท่านั้น ต้องพยายามไม่ให้หลุมสิวรุนแรงจนถึงระดับนี้

อ่านเพิ่มเติม หลุมสิว Ice pick ได้ที่นี่ 

รักษาหลุมสิว ระดับปานกลาง
รักษาหลุมสิว ระดับทั่วไป

ระดับ Box scar (ระดับรุนแรงปานกลาง)

หลุมสิวระดับนี้ จะมีลักษณะเป็นบ่อ มีขอบชัดและกว้าง แต่จะมีความตื้นมากกว่าระดับ Ice pick scar แต่มีความลึกแค่ชั้นผิวเท่านั้น ไม่ลงลึกจนถึงชั้นรูขุมขน สามารถใช้วิธีการทายาทา ควบคู่ไปกับการทำทรีตเมนต์

ระดับ Rolling scar (ระดับทั่วไป)

หลุมสิวระดับนี้ มีลักษณะเป็นหลุมสิวแบบตื้น เป็นแอ่งเว้าแค่เล็กน้อย ซึ่งหลุมระดับนี้มักจะเกิดจากการแกะเกาสิวที่อยู่ในระดับที่ไม่ลึกมากนัก และทำการ รักษาหลุมสิว ได้ง่ายกว่าระดับอื่น ๆ

อ่านเพิ่มเติม  เจาะลึกประเภทหลุมสิวมีอะไรบ้าง

วิธีการรักษาหลุมสิวต่าง ๆ

แนะนำ 10 วิธีการรักษาหลุมสิว เลือกให้เหมาะสมกับปัญหา เพื่อให้หน้าเนียนใส ช่วยแก้ปัญหาให้หลุมสิวตื้นขึ้นอย่างตรงจุด

10 วิธีรักษาหลุมสิว ที่ RWC

การรักษาด้วยวิธีธรรมชาติ

การ รักษาหลุมสิว ด้วยสมุนไพรธรรมชาติอาจเห็นผลช้า แต่ข้อดี คือ ไม่ก่อการระคายเคืองผิวเหมือนวิธีใช้สารเคมีอื่น ๆ เหมาะกับคนที่มีหลุมสิวระดับทั่วไป (Rolling scar) ที่หลุมสิวนั้นไม่ได้กินลึกถึงผิวชั้นลึก โดยส่วนประกอบที่สำคัญในการนำมารักษาสิวคือ กรด AHA จากธรรมชาติ ซึ่งกรด AHA นั้น คือ สารกัดที่ได้จากผลไม้ธรรมชาติ เช่น สารสกัดจากมะนาว หรือ มะขามช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า และ รักษาหลุมสิว ให้ดีขึ้น ด้วยการทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น 

ว่านหางจระเข้

ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ ช่วยให้หลุมสิวค่อย ๆ ตื้นขึ้น สมานผิวได้ดี ช่วยกระชับรูขุมขน และมีสารอะลอคตินเอ (Aloctin A) ช่วยป้องกันการอักเสบของผิว

รักษาหลุมสิวด้วยวิธีธรรมชาติ

ใบบัวบก

ช่วยฟื้นฟูผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน มีสารไกลโคไซด์ (Glucosides) ช่วยฟื้นฟูรอยแผล รักษาหลุมสิว ให้จางลงได้

มะละกอสุก

ในมะละกอมีเอนไซม์ชื่อปาเปน (Enzyme Papain) และโคโมปาเปน (Chymopapain) มีคุณสมบัติในการช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ ยังกระตุ้นการสมานแผลโดยออกฤทธิ์ช่วยย่อยสลายคอลลาเจนให้เร็วขึ้นเพื่อที่จะนำไปใช้ในการสร้างเซลล์ใหม่ได้เร็วขึ้น

น้ำมะพร้าวสกัดเย็น

น้ำมะพร้าวสกัดเย็นจะช่วยให้หลุมสิวนุ่มและจางลง เพราะน้ำมันมะพร้าวมีกรดลอริก (Lauric acid) ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียและสารต้านอนุมูลอิสระ

รักษาด้วยครีมสูตรผสมเคมี

การรักษาด้วยครีมสูตรผสมเคมี เพราะแก้ไขหลุมสิวได้อย่างล้ำลึก ดังนี้

รักษาหลุมสิว ด้วยครีมสูตรผสมเคมี

แต้มกรด TCA

การใช้กรด TCA ในการ รักษาหลุมสิว จะช่วยเร่งผิวใหม่ให้เกิดการแบ่งตัวเร็วขึ้น จึงช่วยทำให้รอยหลุมสิวค่อย ๆ ตื้นขึ้น หากเราทำอาทิตย์ละครั้งจะมีระยะเวลาเห็นผลประมาณ 3-6 เดือน

ซึ่งการทานั้นจะเป็นการแต้มเฉพาะรอยหลุมสิวที่เป็นเท่านั้น เพราะการใช้กรด TCA ในการ รักษาหลุมสิว จะทำให้ผิวบริเวณที่ทำการรักษาเป็นสะเก็ดดำๆได้

กรดวิตามินเอ

สำหรับคนที่กลัวการเป็นสะเก็ดและไม่ได้รีบร้อนในการ รักษาหลุมสิว คุณสามารถใช้ยาทาอีกตัวที่ช่วยให้หลุมสิวนั้นดูตื้นขึ้นมาได้ นั่นก็คือ “กรดวิตามินเอ” โดยนำมาทาบนรอยหลุมสิวเพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และยังสามารถทาได้บ่อยกว่ากรด TCA อีกด้วย เพราะสามารถทาได้อาทิตย์ละ 2 ครั้ง

ใช้การทายาในกลุ่มอนุพันธ์ของวิตามินเอ ในการ รักษาหลุมสิว เช่น Retin A เพื่อเป็นการช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว

รักษาด้วยการผลัดเซลล์ผิว

วิธีการรักษาหลุมสิว ด้วยการกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี หรือ MD (Microdermabrasion) เป็นวิธีการนำผง Aluminum oxide, Sodium chloride หรือ Sodium bicarbonate ขนาดเล็กมากกว่า 100 ไมครอน (Micron) มาใช้ในการรักษา

การผลัดเซลล์ผิว - รักษาหลุมสิว - Fractora -RWC

ซึ่งวิธีนี้สามารถใช้ได้กับหลุมสิวทุกประเภท แต่จะเห็นผลดีในหลุมสิวประเภท Rolling scar และต้องเว้นระยะห่างในการทำ เพราะการกรอผิวเพื่อให้ผิวตื้น และการผลัดเซลล์ผิวเก่าจะทำให้ผิวหน้าบางไปด้วย

โดยการรักษาหลุมสิว ด้วยวิธีการกรอผิวแบบนี้แพทย์จะนัด 1-2 สัปดาห์ ต่อการทำ 1 ครั้ง ใช้เวลาในการทำ 6-10 ครั้ง เพื่อให้ได้ผลในการ รักษาหลุมสิว

รักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์

เลเซอร์รักษาหลุมสิว (Laser Resurface) วิธีนี้สามารถใช้ รักษาหลุมสิว ได้ทั้ง 3 ประเภท การรักษาหลุมสิว ด้วยวิธีนี้ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเท่านั้น เพราะอาจเกิดผลข้างเคียง ที่ทำให้ผิวเกิดรอยดำเป็นปี การทำเลเซอร์มีด้วยกันหลายชนิด ดังนี้

Cool touch laser

เป็นการยิงเลเซอร์เข้าไปที่ผิวชั้นกลางให้น้ำในผิวอุ่นเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน วิธีนี้จะไม่รู้สึกเจ็บมาก เพราะแพทย์จะทายาชาเพื่อลดความรู้สึกขณะทำก่อนยิงเลเซอร์ จะพบรอยแดงบนใบหน้าหลังทำ ปรากฏอยู่ประมาณ 1-2 ชั่วโมง วิธีนี้เหมาะกับใช้รักษาหลุมสิว ประเภท Rolling scar ทำติดต่อกัน 5-7 ครั้งจึงจะเห็นผล โดยการรักษาแต่ละครั้งแพทย์ผิวหนังจะนัดห่างกัน 2-4 สัปดาห์

Laser Fraxel

เลเซอร์ชนิดนี้จะใช้คลื่นแสงในช่วงกลางที่มีอนุภาคขนาดเล็กมากยิงเข้าไปเพื่อกระตุ้นให้เซลล์เกิดการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ โดยคลื่นแสงชนิดนี้จะยิงเข้าไป ซึ่งกระบวนการก็คือการทำให้เซลล์ตายและเกิดการสร้างเซลล์ใหม่และผลัดเซลล์ผิวเกิดขึ้น ขณะยิงเลเซอร์ค่อนข้างเจ็บ หลังทำต้องหลีกเลี่ยงแสงแดด การรักษาหลุมสิว ด้วยวิธีนี้ควรทำประมาณ 4-5 ครั้ง โดยทำได้เพียงเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อไม่ให้ผิวนั้นเกิดการอักเสบมากเกินไป

รักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์- รักษาหลุมสิว - Fractora -RWC

Laser fractional CO2

เลเซอร์ชนิดนี้มีความรุนแรงกว่า 2 ชนิดข้างต้น เป็นอีกเลเซอร์ รักษาหลุมสิว ที่ให้ผลลัพธ์ดี มีความรุนแรงมาก เป็นตัวช่วยให้เกิดการกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ผลของเลเซอร์ชนิดนี้สามารถตัดพังผืดแบบแนวดิ่งได้ดี แต่ก็ทำลายผิวชั้นบนไปมากเช่นกัน เรียกได้ว่า ข้อดีข้อเสียพอ ๆ กัน

คนที่คิดจะ รักษาหลุมสิว ด้วยการทำเลเซอร์ชนิดนี้ ต้องทำใจไว้เลยว่า อาจใช้เวลาพักฟื้นยาวนาน ก่อนที่ผิวจะค่อย ๆ เริ่มสร้างตัวขึ้นใหม่อย่างธรรมชาติ แต่ก็ได้ผลดีในการรักษาหลุมสิว 70% การรักษาจะทำประมาณ 4 ครั้ง ห่างกันเดือนละ 1 ครั้ง ระหว่างรักษาให้หลีกเลี่ยงแสงแดด เพราะผิวจะคล้ำดำ เป็นรอยได้ง่าย

รักษาหลุมสิวด้วย IPL

การรักษาหลุมสิวด้วย IPL (Intense pulsed light) จะเป็นการใช้แสงหลายความยาวคลื่นยิงเข้าไปบริเวณที่เกิดหลุมสิว เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน สามารถใช้ได้ดีกับการรักษาหลุมสิว ระดับทั่วไป (Rolling scar)

รักษาหลุมสิวด้วยเเสงเลเซอร์ - รักษาหลุมสิว - Fractora -RWC

ถ้านำไปใช้กับหลุมสิวแบบอื่น อาจเห็นผลช้ามากหรือแทบไม่เห็นผลเลย ทำติดต่อกัน 4 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกัน 1 เดือน

อาการข้างเคียงอาจเกิดรอยแดงคล้ำ และกลายเป็นสะเก็ด การรักษาหลุมสิว วิธีนี้ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะ ถ้าใช้พลังงานแสงสูงเกินไป ผิวจะเกิดรอยไหม้ แต่ถ้าใช้พลังงานแสงต่ำไปการ รักษาหลุมสิว จะไม่มีประสิทธิภาพ

รักษาด้วยเข็มขนาดเล็ก

เป็นการรักษาหลุมสิว แบบใช้เข็มขนาดเล็กมาก ๆ จิ้มลงไปโดยตัวยาผ่านเข้าไปในผิว จึงทำให้ผิวสร้างตัวและฟื้นฟูตัวเองได้เร็วขึ้น หลุมสิวจึงตื้นขึ้น โดยใช้เครื่องมือ Derma Roller ที่มีลักษณะเป็นลูกกลิ้งติดเข็มเล็ก ๆ กลิ้งไปบนใบหน้าเข็มจะเจาะลงไปถึงชั้นหนังแท้

หลังจากนั้นจะเกิดการอักเสบของชั้นผิว ร่างกายจะเกิดกระบวนการซ่อมแซมผิวใหม่ เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่

วิธีนี้ควรทำห่างกัน 2-4 สัปดาห์ และทำติดต่อกัน 5 ครั้ง จะช่วยทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น

Derma roller รักษาหลุมสิว

รักษาด้วยการเลาะพังผืด

อีกหนึ่งการรักษาหลุมสิว คือการเลาะพังผืด หรือการรักษาหลุมสิวด้วยวิธี Subcision เป็นการใช้เข็มสอดเข้าไปที่ใต้หลุมสิว เพื่อเลาะพังผืดที่ดึงรั้งผิวออกไป ทำให้ผิวสามารถซ่อมแซมได้โดยที่ไม่ต้องผลัดผิวชั้นตื้น หลังทำการเลาะพังผืด ควรงดตากแดด และงดใช้เครื่องสำอาง 2-3 วัน

รักษาหลุมสิว ด้วยการเลาะผังผืด
รักษาหลุมสิวด้วยการผ่าตัด

ผลข้างเคียงอาจจะมีอาการเจ็บช้ำบริเวณใบหน้า 1-2 สัปดาห์ ทำได้เดือนละ 1 ครั้ง และจะได้ผลเมื่อทำประมาณ 3-5 ครั้ง แต่วิธีนี้อาจมีผลข้างเคียงทำให้เกิดการติดเชื้อใต้ผิวหนัง เกิดเป็นแผลใหม่ และกลายเป็นแผลเป็นนูนจากการรักษา วิธีการรักษาหลุมสิว วิธีนี้จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก เพราะผลที่ได้อาจไม่คุ้มกับความเจ็บตัว

รักษาด้วยการศัลยกรรมหลุมสิว

ศัลยกรรมผ่าตัดหลุมสิว (Punch Excision & Grafting) เป็นวิธีที่เหมาะกับคนที่รักษาด้วยวิธีอื่น ๆ แล้วไม่หาย วิธีนี้เหมาะกับการ รักษาหลุมสิว ประเภท Ice Pick scar ขนาดไม่เกิน 3 มิลลิเมตร เป็นการตัดหลุมสิวออก

โดยวิธีการรักษาหลุมสิวแบบนี้จะแบ่งย่อยเป็น 4 วิธี คือ Punch excision / Punch elevation / Punch grafting และ Elliptical excision

หลังทำแผลจะแห้งประมาณ 1 สัปดาห์ อาจพบรอยแผลเป็นบาง ๆ ต้องรักษาต่อด้วยการทำเลเซอร์ วิธีนี้เป็นการรักษาหลุมสิว แบบครั้งเดียวแต่ก็ทิ้งรอยแผลเป็นใหม่ไว้ได้ง่ายเช่นกัน

รักษาหลุมสิวด้วยการฉีดฟิลเลอร์

การฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มหลุมสิว เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสำหรับการรักษาหลุมสิวระดับตื้นถึงปานกลาง โดยฟิลเลอร์ที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือ ไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารเติมเต็มชั่วคราวที่สามารถเสื่อมสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย จึงปลอดภัยกว่าการใช้สารเติมเต็มแบบถาวร

การรักษาหลุมสิวด้วยวิธีนี้ค่อนข้างได้ผลดี ประมาณ 30-70% เนื่องจากเป็นการฉีดสารเข้าไปเติมเต็มรอยหลุมโดยตรงและเห็นผลทันที ไม่จำเป็นต้องรอให้ร่างกายสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาเอง อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์มักอยู่ได้ประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี ก่อนที่ไฮยาลูรอนิก แอซิดจะค่อยๆ ถูกย่อยสลายไปตามกระบวนการธรรมชาติ

รักษาหลุมสิวด้วยฟิลเลอร์

วิธีการรักษาคือ การฉีดสารเติมเต็มเข้าไปที่ก้นหลุมเพื่อยกระดับผิวให้ตื้นขึ้น ซึ่งเหมาะสำหรับหลุมสิวประเภท Rolling Scar ที่ไม่มีพังผืดเกาะอยู่ เพราะถ้ามีพังผืดจะเป็นตัวขัดขวางการสร้างคอลลาเจนและทำให้การรักษาไม่ได้ผล หลังการรักษา อาจพบอาการบวมแดงหรือช้ำได้บ้างเล็กน้อย แต่จะค่อยๆ ดีขึ้นเองตามลำดับ

ถึงแม้การฉีดฟิลเลอร์จะให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว แต่ก็เป็นการแก้ปัญหาแบบชั่วคราว ผู้ที่สนใจอาจต้องทำซ้ำเป็นระยะๆ เพื่อคงความเรียบเนียนของผิว และควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อประเมินสภาพผิวและความเหมาะสมก่อนตัดสินใจรักษา เพื่อให้ได้วิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพดีที่สุดค่ะ

อ่านเพิ่มเติม    ฟิลเลอร์ช่วยรักษาหลุมสิว 

รักษาหลุมสิวด้วย Pico Laser

การรักษาหลุมสิวด้วย Pico Laser เป็นเลเซอร์รักษาหลุมสิวอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่กำลังมาแรง ได้รับการพัฒนาให้ระบบทำงานมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมอีกด้วย โดยเปลี่ยนวิธีทำงานของเลเซอร์ด้วยคลื่นแสงความถี่สูง ปล่อยลำแสงเลเซอร์ในช่วงเวลาสั้น มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวชั้นลึก

รักษาหลุมสิวด้วยพิโค เลเซอร์

ช่วยรักษาแผลเป็นจากรอยสิว หลุมสิว กระชับรูขุมขน และให้ผิวกระจ่างใสด้วย ทำให้ขณะยิงเลเซอร์จะรู้สึกระคายเคือง และเจ็บน้อยมาก เห็นผลเร็ว ใช้เวลาในการรักษาน้อยกว่าเครื่องเลเซอร์แบบเดิม ที่สำคัญผลข้างเคียงและระยะเวลาในการพักฟื้นก็น้อยมากๆ

รักษาด้วยคลื่นวิทยุ

การรักษาหลุมสิวด้วย (Radiofrequency – RF) วิธีนี้เป็นการรักษาหลุมสิว โดยการส่งคลื่นวิทยุลงไปที่ชั้นผิวหนังแท้ ทำให้เกิดการทำลายผิวหนัง (Ablation) บริเวณนั้น และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน วิธีนี้อาจรู้สึกเจ็บขณะทำ แต่แพทย์ผิวหนังจะทายาชาเพื่อลดความรู้สึกขณะทำ ก่อนทำการรักษาผลการรักษาจะมีประสิทธิภาพเมื่อทำ 3-4 ครั้ง และควรทำเดือนละ 1 ครั้งเท่านั้น

รักษาหลุมสิวด้วยคลื่นวิทยุ - รักษาหลุมสิว - Fractora -RWC

เครื่องมือที่ใช้ก็มีหลายแบบด้วยกัน อย่างเช่นเครื่อง E-matrix ที่มีประโยชน์ในด้านการยกกระชับใบหน้าด้วย ในปัจจุบันเครื่องนี้สามารถให้ผลในการ รักษาหลุมสิว ได้ดีมาก หรือประมาณ 70% หากทำประมาณ 3-5 ครั้งขึ้นไป อีกทั้งยังมีผลข้างเคียงน้อย แต่ที่สำคัญคือราคาทำค่อนข้างแพง

Fractora เครื่องรักษาหลุมสิวที่ดีที่สุดในตอนนี้

โปรแกรมรักษาหลุมสิว ด้วย FRACTORA  เป็นการใช้เทคโนโลยีในกลุ่มที่ ใช้พลังงานความถี่วิทยุ (Radio frequency) ลงไปใต้ชั้นผิวหนังแท้ แบบ Fractional โดยทำให้เกิด 3 กระบวนการ ได้แก่ Ablation ร่วมกับกระบวนการ Coagulation และกระบวนการ Sub-necrotic heating ในคราวเดียวกัน และก่อให้เกิดกระบวนการการผลัดผิวชั้นบนแบบมีแผล และยังคงกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นใยคอลลาเจนขึ้นมาใหม่

รักษาหลุมสิว fractora สรรพคุณ

และทำให้การจัดเรียงตัวของคอลลาเจนเดิมดียิ่งขึ้น ทำให้ผิวที่หย่อนคล้อยกระชับขึ้น ริ้วรอยเหี่ยวย่นจางลง รวมถึงปัญหาแผลเป็นหรือแผลหลุมสิวนั้นดีขึ้น จึงเป็นการรักษาหลุมสิวที่ดีที่สุดในขณะนี้

การรักษาหลุมสิวด้วยฟิลเลอร์และเลเซอร์ เหมาะกับใครบ้าง

  • เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นหลุมสิวชนิด Rolling และ Box Scar
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความรวดเร็ว ใช้เวลาในการรักษาไม่นาน
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการพักฟื้นเพื่อฟื้นฟูใบหน้า
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการความยุ่งยากในขั้นตอนการดูแลตัวเอง

ข้อควรระวังเกี่ยวกับการรักษาหลุมสิว

ข้อควรระวังเป็นอย่างมากในการรักษาหลุมสิว มีดังนี้

  1. การใช้กรด AHA ควรใช้ครีมกันแดดร่วมด้วยเป็นประจำทุกวัน เนื่องจากกรดชนิดนี้มีความไวต่อแดด
  2. ไม่ควรใช้การใช้กรด AHA ติดต่อกันนานเกินไป เพราะอาจทำให้เซลล์ผิวบางได้ และหากใช้แล้วเกิดระคายเคืองหรือเกิดผื่น ควรหยุดใช้ทันที
  3. การใช้สมุนไพรในการรักษาผิวหน้า ควรล้างสมุนไพรให้สะอาดทุกครั้ง เนื่องจากสมุนไพรบางชนิดมีน้ำยาง อาจระคายเคืองต่อผิวได้

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในช่วงรักษาหลุมสิว

ช่วงที่รักษาหลุมสิวควรหลีกเลี่ยง หรือ เว้นที่ต้องเจอให้มากที่สุด มีดังนี้

สิ่งที่ควรเลี่ยงถ้ายังรักษาหลุมสิวอยู่
  1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับฝุ่นละออง ควันรถ หรือควันโดยตรง เพราะจะมีแบคทีเรีย และคราบสกปรกมาอุดตันที่รูขุมขน ทำให้เกิดสิวอักเสบเพิ่มขึ้นอีก
  2. หลีกเลี่ยง การแคะ แกะ เกา ลูบหน้า เช็ดหน้าแรง ๆ เพราะในแต่ละวันมือของเราเจอสิ่งสกปรก และเชื้อแบคทีเรียมานับไม่ถ้วน
  3. ห้ามใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพราะจะทำให้เกิดสิวอักเสบได้ง่าย และพยายามกำจัดความันใบหน้า โดยใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ เป็นเจล และมีส่วนผมของ Tree Tea Oil ที่ช่วยควบคุมความมัน และลดการเกิดไขมัน
  4. หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์พวก Whithening เพราะหลายคนอาจจะยังเป็นสิว หรือมีอาการผิวติดสเตียรอยด์อยู่ จะทำให้ผิวไวต่อแดดได้

Q&A คำถามที่พบบ่อย

1. รักษาหลุมสิว ด้วย Fractora เจ็บไหม?

การรักษาด้วยวิธีนี้ ไม่เจ็บปวดและไม่มีภาวะแทรกซ้อนเหมือนการรักษาด้วยเลเซอร์แบบเดิม ลำแสง วิธีนี้จะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างผิวหนังที่อ่อนเยาว์ เนียนและแข็งแรงกว่าเดิมขึ้นทดแทนผิวเก่าที่เสีย

2. Fractora สามารถรักษาหลุมสิวระดับไหนได้บ้าง

สามารถรักษาหลุมสิวได้ทุกระดับค่ะ แต่จะเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนในหลุมสิวระดับ Rolling Scar  และ Box Scar ที่มีระดับความลึกไม่มาก ไม่ถึงชั้นระดับรูขุมขน แต่การจะรักษาหลุมสิวในระดับ Ice pick Scar นั้นอาจต้องเข้ารับการรักษาเป็นระยะเวลาหนึ่งอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นหลุมสิวที่มีขนาดลึกมากที่สุดค่ะ

3. อาการข้างเคียงหลังทำมีอะไรบ้าง

สำหรับอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้น หลังการรักษาด้วย FRACTORA อาการ Erythem การแดงขึ้นเรื่อย ๆ น้อยกว่า 24 ชั่วโมง อาการบวม 2-3 วัน อาจพบจุดแดงปรากฏประมาณ 1-3 วัน หลังการรักษา วันที่4 หลังการรักษา อาจพบผิวลอกเป็นขรุย ซึ่งจหลุดออกไปภายใน 1-3 สัปดาห์

รีวิวรักษาหลุมสิว

รีวิวผลลัพธ์จากผู้เข้ารับบริการรักษาหลุมสิวจริงที่ RWC Clinic

รักษาหลุมสิว รีวิว3
รักษาหลุมสิว รีวิว4
รักษาหลุมสิว รีวิว5
รักษาหลุมสิว รีวิว6

สรุป

ขั้นตอนการ รักษาหลุมสิว ที่ดี ควรจะรักษาสิวให้หายก่อน แล้วค่อยมาจัดการกับจุดด่างดำและปัญหาหลุมสิวภายหลัง ที่สำคัญคือ ต้องใจเย็นๆ ต้องรักษาแบบค่อยเป็นค่อยไป แล้วผลลัพธ์ที่ได้จะออกมาดี หากใจร้อนหรือเร่งรีบเกินไปอาจเกิดการทำร้ายผิวให้เสียหายหนักกว่าเดิม และสำหรับเครื่องมือการรักษาหลุมสิว

ได้รับความสนใจจากสื่อหลากหลายช่องทาง เกี่ยวกับเทรนด์การปรับรูปหน้า

CONTACT FOR SPECIAL PRIVILEGES

กดด้านล่างติดเราเพื่อสอบถามรายละเอียดเเละสิทธิ์อื่นๆ

โทร RWC
line rwc
Facebook rwc
โทร RWC
Facebook rwc
line rwc

ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง RWC Clinic

ทีมแพทย์ RWC