หลุมสิว เป็นปัญหาที่แก้ไขให้หายได้ยาก ซึ่งมีระดับความรุนแรงที่แตกต่างกันไป หลุมสิว ice pick เป็นหลุมสิวที่มีระดับความรุนแรงสูงที่สุด แต่ไม่ว่าระดับไหนก็ต่างมีสาเหตุการเกิดที่เหมือนกัน แต่ขึ้นกับการดูแลและป้องกันว่าจะให้ปัญหาหลุมสิวนั้นไปอยู่จนถึงระดับสูงสุดหรือไม่
สารบัญ
- รู้จัก หลุมสิว ice pick
- วิธีรักษา หลุมสิว ice pick
- การป้องกัน หลุมสิว ice pick
- รักษาด้วยเลเซอร์รักษาหลุมสิว
- รักษาด้วยการฉีดฟิลเลอร์
>> มารู้จักนวัตกรรมรักษาหลุมสิวที่ดีที่สุด ได้ที่นี่ <<
รู้จัก หลุมสิว ice pick
เป็นรอยหลุมจิกลึก มีปากแคบไม่เกิน 0.5 มม. เกิดจากการบีบ กด สิวอุดตันให้หลุดออกซึ่ง หลุมสิว ice pick มีความลึกถึงระดับรูขุมขน มีการทำลายลึกลงไปถึงชั้นผิวแท้ ทำให้ส่วนที่ผลิตคอลลาเจนหายไปด้วย เป็นหลุมสิวที่ความลึกมากที่สุด ทำให้ยากต่อการรักษา โดยไม่สามารถรักษาด้วยธรรมชาติและยาทาแบบปกติ
วิธีรักษา หลุมสิว ice pick
เพราะว่าเป็นหลุมสิวที่มีความรุนแรงมากที่สุด เพราะมีระดับความลึกถึงระดับชั้นผิวหนังแท้ ทำให้ไม่สามารถรักษาด้วยธรรมชาติหรือสมุนไพรและยาทาแบบปกติได้ หลุมสิว ice pick จึงต้องดำเนินการรักษาด้วยเทคโนโลยีทางผิวหนังเท่านั้น ซึ่งมีได้หลากหลายวิธีการ เช่น การเลเซอร์ การฉีดฟิลเลอร์ ฯลฯ
การป้องกัน หลุมสิว ice pick
แน่นอนว่าการป้องกันการเกิดหลุมสิว ไม่ว่าจะระดับไหน นั่นก็คือการป้องกันไม่ให้มีสิว หรือ การป้องกันไม่ให้สิวอักเสบ ซึ่งสาเหตุของการเกิด หลุมสิว ice pick คือการบีบ กด สิวอุดตัน ซึ่งเป็นการทำร้ายผิวหน้าอย่างมาก เพราะว่าการเป็นสิวของมนุษย์เราคือเรื่องธรรมชาติ ดังนั้นการป้องกันไม่ให้เกิดสิว อาจจะทำได้ยาก แต่การรักษาผิวหน้าโดยไม่ไปบีบ กด สิว นั้นเราสามารถทำได้
รักษาด้วยเลเซอร์รักษาหลุมสิว
เลเซอร์รักษาหลุมสิว (Laser Resurface) เป็นวิธีที่สามารถรักษาหลุมสิวได้ทั้ง 3 ประเภท โดยต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเท่านั้น เนื่องจากอาจมีผลข้างเคียงที่ทำให้ผิวเกิดรอยดำได้ มีเลเซอร์หลากหลายชนิดให้เลือกใช้ เช่น
- Cool Touch Laser: ยิงเลเซอร์เข้าไปที่ผิวชั้นกลางเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เหมาะสำหรับรักษาหลุมสิวแบบ Rolling Scar ต้องทำ 5-7 ครั้งเพื่อเห็นผล โดยแต่ละครั้งห่างกัน 2-4 สัปดาห์
- Laser Fraxel: ใช้คลื่นแสงขนาดเล็กเพื่อกระตุ้นการซ่อมแซมและสร้างเซลล์ผิวใหม่ การรักษาค่อนข้างเจ็บและต้องหลีกเลี่ยงแสงแดด ควรทำ 4-5 ครั้ง เดือนละครั้ง เพื่อป้องกันผิวอักเสบ
- Laser Fractional CO2: เลเซอร์ที่รุนแรงและให้ผลลัพธ์ดีที่สุด สามารถตัดพังผืดแนวดิ่ง แต่อาจทำลายผิวชั้นบนได้มาก ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าผิวจะสร้างขึ้นมาใหม่ รักษาได้ผลถึง 70% โดยต้องทำประมาณ 4 ครั้ง ทิ้งช่วงเดือนละครั้ง พร้อมทั้งต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดเพื่อป้องกันผิวคล้ำเป็นรอย
ก่อนเลือกรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อวิเคราะห์สภาพผิวและเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุด พร้อมทั้งศึกษาข้อดีข้อเสียให้ถี่ถ้วน เพื่อเตรียมตัวและดูแลผิวระหว่างรักษาได้อย่างถูกวิธี เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ
รักษาด้วยการฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มหลุมสิว เป็นอีกวิธีที่เหมาะกับการ รักษาหลุมสิว ระดับทั่วไป เหมาะกับการ รักษาหลุมสิว ในระดับตื้นถึงลึกปานกลาง
ฟิลเลอร์ (Filler) นั้นเป็นชื่อที่ใช้เรียกแทน “สารเติมเต็ม” โดยสารที่นิยมนำมาใช้กันมากก็คือ ไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ส่วนใหญ่แล้วการ รักษาหลุมสิว ด้วยวิธีนี้จะค่อนข้างได้ผลประมาณ 30-70% เลยทีเดียว เพราะมันเป็นการฉีดสารเข้าไปเพื่อเติมเต็มรอยหลุมในทันที ไม่จำเป็นต้องรอให้ร่างกายสร้างเนื้อขึ้นมาเอง
แต่การฉีด 1 ครั้งจะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน – 1 ปี เพราะฟิลเลอร์ ไฮยาลูรอนิก แอซิด เป็นสารที่สามารถเสื่อมสลายไปได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่ทิ้งสารติดค้างกับร่างกาย การฉีดฟิลเลอร์แบบชั่วคราวนั้นให้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัย กว่า การฉีดด้วยสารเติมเต็มแบบถาวร
อาการหลังทำอาจพบว่าใบหน้ามีรอยแดงช้ำได้ การรักษาวิธีนี้จะใช้กับหลุมสิวประเภท Rolling scar เพราะไม่มีพังผืดเกาะที่หลุมวิธีนี้ใช้กับหลุมสิวที่มีพังผืดเกาะไม่ได้ผล เพราะพังผืดเป็นตัวกั้นการสร้างคอลลาเจน วิธีการรักษาคือ จะฉีดสารเติมเต็มเข้าไปที่ก้นหลุมเพื่อปิดรอยหลุมให้ตื้นขึ้น
สรุป
เพราะผิวหน้าถูกทำร้ายจาก หลุมสิว ice pick เราจึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้มันจางหายไปจากใบหน้าของเรา ถึงแม้ว่ามันจะหายได้ยาก แต่ไม่ใช่ว่าจะทำให้หายไม่ได้ ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันที่มีการพัฒนามากขึ้น ทำให้สามารถจัดการกับหลุมสิวนี้ได้อย่างอยู่หมัด