รอยสิว เป็นปัญหาที่กวนใจของสาว ๆ มาตลอด รักษาให้หาย ดูจางลงทันทีด้วย เลเซอร์ลบรอยสิว สำหรับคนที่เป็นสิว โดยเฉพาะในรายที่เป็นหนัก ๆ มักจะตามมาด้วยปัญหารอยดำ รอยแดง และหลุมสิว หลังจากที่รักษาสิวหายแล้ว ซึ่งทำให้ขาดความมั่นใจ ไม่กล้าเผยใบหน้าที่แท้จริง และต้องปกปิดด้วยเครื่องสำอาง
ชนิดของเลเซอร์ที่ใช้ในการรักษารอยสิว
Ablative Laser
Ablative คือ เลเซอร์ที่ทำให้ผิวลอก ใช้ในการรักษารอยสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผลลัพธ์ชัดเจน เลเซอร์ชนิดนี้จะยิงทำลายเนื้อเยื่อเหล่านั้น ตัวอย่างเลเซอร์ประเภทนี้ที่พบได้บ่อย เช่น YAG และ CO2 โดยจะทำให้ทำลายรอยแผลเป็นบริเวณผิวหน้าและทำให้เส้นใยคอลลาเจนบริเวณใต้ผิวหน้าหนาแน่นขึ้น การทำเลเซอร์ชนิดนี้จะต้องใช้เวลาพักฟื้นหลังทำนาน แต่แลกกับผลลัพธ์ที่เห็นผลชัดเจน
Non-Ablative Laser
Non-Ablative คือ เลเซอร์ที่ไม่ทำให้ผิวลอก เลเซอร์ชนิดนี้จะไม่ทำลายเนื้อเยื่อของผิวแต่จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและทำให้ผิวแน่นขึ้น เลเซอร์ชนิดนี้จะใช้เวลาในการรักษาตัวหลังการทำน้อยกว่า แต่ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนน้อยกว่าเลเซอร์ชนิดแรก ต้องทำหลายครั้งจึงจะรักษาจนเห็นผลลัพธ์ชัดเจน
ทำไมต้อง เลเซอร์ลบรอยสิว
เลเซอร์ลบรอยสิว เป็นหนึ่งในนวัตกรรมทางการแพทย์ที่อาศัยเครื่องมือด้านการรักษาด้วยเทคโนโลยีการเลเซอร์ ซึ่งมีคุณสมบัติเน้นการรักษารอยสิวโดยเฉพาะ มีประสิทธิภาพในการทำงานเพื่อลบรอยสิวที่ขึ้นชื่อว่าหายยาก ปกติเราจะพบรอยดำและรอยแดงตามมาเกือบทุกครั้ง
และการรักษารอยสิวบางครั้งต้องใช้เวลาในการบำรุงรักษาและดูแลเป็นเวลานานกว่ารอยสิวจะจางหายไป แต่เมื่อมีเทคโนโลยี เลเซอร์ลบรอยสิว ก็สามารถจัดการปัญหานี้ได้อย่างง่ายดาย เพราะสามารถช่วยให้รอยดำ รอยแดงจากสิวดีขึ้นภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพในการช่วยลดเลือนริ้วรอยจากสาเหตุอื่น ๆ ส่งผลให้ใบหน้าแลดูอ่อนกว่าวัย
เลเซอร์ลบรอยสิว มีอะไรบ้าง
V-Beam Laser
เป็นเลเซอร์ที่มีความสามารถในการจับเม็ดสีแดง โดยส่งผ่านแสงเพื่อไปทำลายเส้นเลือดจึงใช้ในการดูแลรักษาโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของเส้นเลือด สามารถลดรอยแดงได้ เหมาะกับรอยแดงสิวทำให้รอยสิวจางลงได้เร็ว และแสงยังผ่านไปบริเวณผิวชั้นใน เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนด้วย แต่ในด้านของรอยดำจะไม่ค่อยมีประสิทธิผลสักเท่าไร
Q-switch laser
เป็นเลเซอร์ที่มีความสามารถในการจับเม็ดสีดำ หรือ เมลานิน (Melanin) เหมาะกับรอยดำสิว โดยเฉพาะรอยดำที่เกิดหลังจากการอักเสบจะได้ผลดีกว่าตัวอื่น ปล่อยพลังงานแสงออกมาเพื่อทำให้เซลล์เม็ดสีแตกตัว หลังจากนั้นเม็ดเลือดขาวจะดูดซึม หรือย่อยสลายเม็ดสีที่ผิดปกติ และจะถูกกำจัดโดยการขับเป็นของเสียออกจากร่างกายโดยไม่เกิดผลข้างเคียง ทำให้รอยดำสิวจางลงได้เร็ว แต่ในด้านของรอยแดงจะได้ผลน้อยกว่า V-beam laser
IPL (Intense pulse light)
การทำ IPL เป็นการใช้แสงที่ความถี่ต่าง ๆ ในการรักษารอยสิวเท่านั้น แต่ประสิทธิภาพนั้นเทียบเท่ากับ เลเซอร์ลบรอยสิว โดยมีฟิลเตอร์หลายๆขนาดเพื่อใช้ตัดแสงให้ได้ความยาวคลื่นที่จำเพาะ ตรงกับที่เราต้องการเพื่อใช้ในการรักษาคนไข้ โดย IPL สามารถรักษาได้ค่อนข้างหลากหลาย(ขึ้นกับการปรับเปลี่ยนฟิลเตอร์) ได้แก่ ฆ่าเชื้อสิว รักษารอยแดงสิว รอยดำสิว และทำให้หน้าดูขาวใสขึ้น
Dual Yellow Laser
นวัตกรรมเลเซอร์หน้าใสที่ช่วยแก้ไขปัญหาผิวหน้าอย่างครบวงจร ทั้งฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวหน้าหมองคล้ำไม่กระจ่างใส สีผิวไม่สม่ำเสมอ หลุมสิว เป็นเครื่องเลเซอร์ที่มีการพัฒนามากขึ้นเพื่อการรักษาที่ดีมากยิ่งขึ้น โดยมีแสงเลเซอร์ออกมา 2 ชนิด ได้แก่ แสงสีเหลือง ที่มีความยาวคลื่น 578 นาโนเมตร ที่เหมาะสำหรับการรักษารอยโรคต่าง ๆ ที่มีสีแดง เช่น ปานแดง รอยแผลเป็นสีแดง และแสงสีเขียว ความยาวคลื่นที่ 511 นาโนเมตร เหมาะกับการรักษาปัญหาที่มีสาเหตุมาจากความผิดปกติของเม็ดสี เช่น ฝ้า กระ
เมื่อรวมพลังงานแสงเลเซอร์ของทั้งสองสีเข้าด้วยกัน จะทำให้เพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะได้เลเซอร์ที่มีพลังงานสูงมากพอที่จะกำจัดตุ่มเนื้องอกบางชนิดได้ เช่น ติ่งเนื้อ ไฝ เนื้องอกใต้ตา ลดการกระตุ้นเส้นเลือดเป็นปัจจัยในการเกิดฝ้า ช่วยลดโอกาสการเกิดฝ้า กระ ต่าง ๆ มากขึ้น
เลเซอร์ลบรอยสิว ต้องทำประมาณกี่ครั้งถึงจะเห็นผล
รอยสิวเป็นที่มีรอยดำ นั้นจะจางลงตามธรรมชาติเรื่อย ๆ แต่ใช้เวลานานมาก อาจนานเป็นปีหรือหลายปีเลยทีเดียว ขึ้นอยู่กับรอยสิวด้วยว่าเข้มมากน้อยแค่ไหน และปัจจัยด้านวัยที่เพิ่มขึ้นก็ส่งผลด้วยเช่นกัน ถ้าเป็นในผู้ใหญ่รอยดำก็จะจางช้ากว่าในเด็ก เพราะฉะนั้นการป้องกันก่อนที่จะเกิดรอยดำจะดีที่สุด
ซึ่งการรักษารอยสิวสามารถรักษาโดยการทายา ทาครีม เข้าคอร์สรักษารอยสิวกับคลินิกความงาม รวมทั้งการทำ IPL หรือ เลเซอร์ที่ใช้รักษารอยดำได้ จะได้ผลดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น สีผิว การดูแลตัวเอง หลังจากทำเลเซอร์แล้วถ้ายังไม่จางลง จะทำซ้ำอีกครั้งในช่วง 1-2 เดือน ที่นิยมใช้ในปัจจุบันเป็นแบบ Non-Ablative Laser แต่วิธีนี้ต้องใช้เวลาประมาณ 3 เดือน คือ ทำทุก 2 สัปดาห์ประมาณ 6 ครั้ง
อ่านเพิ่มเติม : รวมวิธีลบรอยสิว
สรุป
เลเซอร์ลบรอยสิว นวัตกรรมแห่งการดูแลผิว แก้ไขปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ รอยดำ รอยแดง ฝ้า กระ หลุมสิว รอยสิวฝังลึกที่จัดการได้ยากสามารถจบปัญหาได้ด้วยการใช้เลเซอร์เข้าไปช่วยทำลายเม็ดสี เพื่อทำให้รอยสิวต่าง ๆ จางลง และกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน