รีแพร์ คืนสุขภาพที่ดีให้น้องสาว ด้วยเลเซอร์กระชับช่องคลอด
รีแพร์ (Repair) คือ การทำรีแพร์ในรูปแบบของการใช้เลเซอร์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่มาใช้ในการกระชับช่องคลอดจาก USA เป็นการใช้พลังงานคลื่นความถี่ RF หรือ Radio Frequency ด้วยวิธีการปล่อยพลังงานอ่อนในรูปของคลื่นวิทยุ ความถี่ที่ปลอดภัย จากกระแสไฟฟ้า เป็นการกระชับช่องคลอดโดยไม่ต้องทำการผ่าตัด
ในบทความนี้จะรวมทุกปัญหาที่เกี่ยวกับการทำ รีแพร์ กระชับช่องคลอดโดยไม่ต้องผ่าตัด พร้อมทั้งวิธีการวิธีการดูแลก่อนหลังการทำรีแพร์ เพื่อให้คนที่สนใจการทำกระชับช่องคลอดช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้น และช่วยเลือกสิ่งที่ดีที่สุดและคืนความมั่นใจให้กับน้องสาวของคุณได้
รีแพร์ คืออะไร?
รีแพร์ คือ การตกแต่งซ่อมแซมกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อภายในช่องคลอดที่หย่อนยาน ให้กระชับยิ่งขึ้น เพื่อให้ขนาดหรือเส้นผ่าศูนย์กลางของช่องคลอดเล็กลงและเกิดการหดรัดที่ดีกว่าเดิม ตลอดแนวความลึกของช่องคลอด รวมถึงการตกแต่งเนื้อเยื่อและผิวหนังบริเวณปากช่องคลอดด้วย
การรีแพร์ สามารถแบ่งการรักษาออกเป็น 2 วิธี ได้แก่
- การผ่าตัดรีแพร์ จะรักษาโดยการการนำแผ่นพยุงตาข่ายพิเศษ (Mesh) แปะหรือฝังในผนังช่องคลอด ทำให้การผ่าตัดประสบความสำเร็จมากขึ้น สามารถแก้ไขปัญหาช่องคลอดหย่อนยานได้ถึง 95% และหลังทำผู้ป่วยจะไม่รู้สึกว่ามีแผ่นพยุงอยู่ในช่องคลอด
- การเลเซอร์รีแพร์ ปัจจุบันมีการนำเลเซอร์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่มาใช้ในการกระชับช่องคลอดที่หย่อนยาน ทั้งนำมาใช้แทนการผ่าตัดทั่วไป และการใช้เลเซอร์กระชับช่องคลอดโดยไม่ผ่าตัด
สาเหตุของการเกิดปัญหาช่องคลอดหลวมที่ต้อง รีแพร์
ปัญหาช่องคลอดหลวมเกิดจากภาวะอุ้งเชิงกรานหรือกระบังลมหย่อนคล้อย ซึ่งมีสาเหตุได้จากหลายปัจจัย เช่น
- การมีเพศสัมพันธ์มาเป็นเวลานาน
- การตั้งครรภ์และการคลอดบุตรทางช่องคลอด โดยเฉพาะการคลอดบุตรหลายครั้ง หรือทารกมีขนาดใหญ่
- การคลอดที่ไม่ได้ใช้เทคนิคที่ถูกต้องเหมาะสม
- ความเสื่อมของเนื้อเยื่อตามอายุที่มากขึ้น
- ภาวะอ้วนหรือผอมมากเกินไป
- การต้องออกแรงเกร็งหรือเบ่งบริเวณช่องท้องเป็นประจำ เช่น การยกของหนัก
- โรคประจำตัวบางชนิด เช่น ไอเรื้อรัง ท้องผูกเรื้อรัง หรือมีก้อนในช่องท้อง ซึ่งเพิ่มแรงดันในอุ้งเชิงกราน
- การเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน (วัยทอง) ที่ฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง
ปัญหาหลวมคล้อยของช่องคลอดและกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานเหล่านี้ สามารถแก้ไขได้ด้วยการทำรีแพร์ เพื่อเพิ่มความกระชับให้แก่ช่องคลอด ทำให้กลับมาทำหน้าที่ได้ตามปกติ มีสุขภาพและสุขภาพทางเพศที่ดีดังเดิมค่ะ
อ่านเพิ่มเติม >>> ป้องกันปัญหาจิ๋มตด สาเหตุลมในช่องคลอด
ทว่าใช่ทุกปัญหาที่กล่าวมานั้น จะสามารถรักษาให้หายได้ด้วยการทำรีแพร์ เพราะการทำ รีแพร์ เพื่อกระชับช่องคลอดแบบไม่ผ่าตัดนั้น สามารถทำให้ปัญหาช่องคลอดหลวมดีขึ้นได้เท่านั้น ไม่ได้ทำให้ปัญหาสุขภาพกายอย่างอื่นดีขึ้นแต่อย่างใด
ภาวะอุ้มเชิงกรานหย่อน หรือ ช่องคลอดหลวม
ภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อน ถือเป็นสาเหตุหนึ่งที่นำมาซึ่งอาการทางช่องคลอดของสาว ๆ ได้ และการ กระชับช่องคลอด จะเป็นสิ่งที่สามารถช่วยให้ปัญหาภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อนนั้นดีขึ้น ทางการแพทย์นั้นแบ่งภาวะอุ้มเชิงกรานหย่อนแบ่งเป็น 3 รูปแบบ ดังนี้
- การหย่อนคล้อยของผนังช่องคลอดส่วนหน้า ซึ่งจะมีกระเพาะปัสสาวะหย่อนตาม หรือ กระเพาะปัสสาวะหย่อน (Cystocele) ทำให้เกิดอาการปวดหน่วงในอุ้งเชิงกราน หรือมีก้อนจุกที่ปากช่องคลอด ในกรณีนี้ แพทย์จะทำการแก้ไขด้วยการผ่าตัดรีแพร์ผนังช่องคลอดส่วนหน้า (Anterior Vaginal Repair)
- การหย่อนคล้อยของผนังช่องคลอดส่วนหลัง ซึ่งจะมีลำไส้ส่วนทวารหนักหย่อนตาม หรือ ลำไส้หย่อน (Rectocele) ทำให้เกิดอาการปวดหน่วงในอุ้งเชิงกราน หรือมีก้อนจุกที่ปากช่องคลอด รวมถึงท้องผูก เพราะผนังที่ยื่นเป็นถุงเข้าไปทางช่องคลอดจะทำให้การขับถ่ายผิดปกติ ในกรณีนี้ แพทย์จะทำการแก้ไขด้วยการผ่าตัดรีแพร์ผนังช่องคลอดส่วนหลัง (Posterior Vaginal Repair)
- หากผนังช่องคลอดทั้งส่วนหน้าและส่วนหลังมีความหย่อนคล้อย แพทย์จะทำการแก้ไขด้วยการผ่าตัดรีแพร์ผนังช่องคลอดทั้งส่วนหน้าและส่วนหลัง (A-P Repair หรือ Anterior-Posterior Vaginal Repair)
เมื่อตรวจพบว่า รูปแบบของภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อน เป็นรูปแบบไหน ก็สามารถทำการกระชับช่องคลอด ในผนังด้านนั้น ๆ เพื่อแก้ปัญหาช่องคลอดหย่อนคล้อยให้ตรงจุด หากอยู่ในระดับที่หนักมากต้องใช้การรักษาด้วยการผ่าตัดอย่างเดียว
การทำรีแพร์แบบไม่ผ่าตัด มีข้อจำกัดอยู่ที่สามารถรักษาปัญหาช่องคลอดหลวมได้แค่ ระดับเริ่มต้นที่มีความย้อนคล้อยไม่มากเท่านั้น หากมีความหย่อนคล้อยที่มากกว่านั้น อาจจะต้องเปลี่ยนวิธีการรักษา เป็นการผ่าตัดเพื่อกระชับช่องคลอดแทนการทำรีแพร์
อ่านเพิ่มเติม >>> ภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อน แก้อย่างไร
1. Kegel exercise (การบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน)
การบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน หรือ การขมิบช่องคลอด เป็นวิธีกระชับน้องสาวที่ดีและปลอดภัยที่สุด สามารถขมิบได้ทุกโอกาส ทุกเวลา ทุกสถานที่ จะนั่ง จะนอน จะยืน ได้ทั้งหมด และทำได้บ่อยตามที่ต้องการ แต่ข้อเสียคืออาจจะเห็นผลค่อนข้างช้า และต้องทำเป็นประจำ โดยต้องมีวินัยและอาศัยความต่อเนื่องนั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม >>> วิธีการการขมิบช่วยกระชับช่องคลอดที่ถูกต้อง
2. การรับประทานอาหารเสริม
การรับประทานอาหารเสริมช่วยในเรื่องของช่องคลอด เป็นวิธียอดฮิตเนื่องจากเป็นวิธีที่ง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องพบแพทย์ หาซื้อง่าย มีขายกันตั้งแต่ตลาดนัดรวมถึงตาม Internet แต่ทาง อย.ก็ออกมาเตือนถึงอันตรายบ่อยเช่นกัน
สำคัญ กระแสโฆษณายั่วยวนตามสื่อต่าง ๆ ที่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง ใช้แล้วดีมี อย. เป็นสมุนไพรก็คงจะปลอดภัย ไม่น่ามีผลข้างเคียงอะไรอะไร ในขณะที่แพทย์ยืนยันว่า “ไม่มีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้อกฟู รูฟิตได้จริง” ไม่มียาใดที่กินแล้วสวย ขาว อวบ อึ๋มในพริบตา มีแต่การดูแลรักษาสุขภาพตนเองให้เหมาะสมเท่านั้น และต้องอยู่ในคำแนะนำของแพทย์โดยตรง
อ่านเพิ่มเติม >>> วิธีการกระชับน้องสาวแบบเร่งด่วน!
3. ใช้สมุนไพรช่วยรีแพร์
หญ้าฮี๋ยุ่ม (หญ้ารีแพร์) เป็นหญ้าตระกูลไผ่ กลายเป็นหญ้ายอดฮิตเนื่องจากเป็นสมุนไพรไทย ปลอดภัย โดยวิธีการใช้ที่ถูกต้องและเกิดผลอย่างรวดเร็ว คือ การใช้วิธีรมควัน โดยทำได้ด้วยการนำหญ้ารีแพร์ ไปตากแดดให้แห้ง
จากนั้นนำหญ้าประมาณหนึ่งกำมือมาเผาร่วมกับไม้ผุหรือถ่านจนเกิดควัน แล้วนำมาวางใต้เก้าอี้ที่เจาะรูเป็นวงกลมให้หญิงที่ผ่านการคลอดบุตรหรือหญิงที่ต้องการยกกระชับช่องคลอดและมดลูกมานั่งลงบนเก้าอี้ได้เลย
วิธีการบริหารที่ทำให้ช่องคลอดของสตรีทุกวัย สามารถกลับมามีความกระชับดังเดิมได้ด้วยหญ้ารีแพร์ และสามารถทำได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งหมอ คือการฝึกขมิบ ควบคู่กับการออกกำลังกล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกรานต้องหมั่นฝึกต่อไปเรื่อย ๆ จะทำให้ช่องคลอดของสตรีทุกวัย มีสภาพฟิตตลอดเวลา
ดังนั้น ในกรณีรมควันหญ้ารีแพร์จึงอาจจะดูยุ่งยากไปสักหน่อยในบางท่านที่ไม่มีเวลา ดังนั้นวิธีนี้จึงเป็นที่นิยมสำหรับหญิงหลังคลอดและท่านที่มีเวลามากพอนั่นเอง
4. เครื่องกระชับช่องคลอด
เครื่องกระชับช่องคลอด หรือเครื่องช่วยขมิบ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอ่อนแรง ไม่สามารถขมิบช่องคลอดได้ โดยเครื่องช่วยขมิบจะเข้าไปกระตุ้นกล้ามเนื้อช่องคลอดด้วยไฟฟ้าหลังคลอดประมาณ 6 สัปดาห์ เพื่อป้องกันปัญหาปัสสาวะเล็ดในอนาคต เนื่องจากหญิงวัยหมดประจำเดือนกว่า 80% จะเจอปัญหานี้ และการกระตุ้นดังกล่าว จะใช้เวลาครึ่งชั่วโมงต่อครั้ง สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ทำทั้งหมดประมาณ 15 ครั้ง เพื่อให้กล้ามเนื้อกลับสู่สภาพเดิมโดยเร็ว ไม่หย่อนยาน
วิธีการใช้ สอดใส่เครื่องมือกระตุ้นกล้ามเนื้อเข้าไปในช่องคลอด โดยใช้ไฟฟ้าเป็นตัวกระตุ้นเพื่อให้เกิดความหดเกร็งของกล้ามเนื้อช่องคลอดเป็นระยะ ๆ
ซึ่งความถี่ในการกระตุ้นสามารถปรับได้ตามความเหมาะสม (ป้องกันการติดเชื้อโดยไม่ใช้อุปกรณ์ร่วมกัน) เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่ไม่อยากผ่าตัด และค่าใช้จ่ายไม่สูง ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยควรอยู่ภายใต้การดูแลของทีมสุขภาพเท่านั้น
- ผู้ที่มีปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ เช่น มีอาการเจ็บปวด ไม่มีความรู้สึกทางเพศ หรือไม่สามารถถึงจุดสุดยอดได้ เนื่องจากช่องคลอดที่หย่อนยานหรือแคมที่ใหญ่ผิดปกติ การทำรีแพร์จะช่วยให้โครงสร้างของอวัยวะเพศกลับมาแข็งแรง ผิวพรรณกระชับ เพิ่มความรู้สึก และทำให้มีเพศสัมพันธ์ที่เต็มอิ่มสมบูรณ์มากขึ้น
- ผู้ที่มีอาการเจ็บบริเวณจุดซ่อนเร้นจากภาวะ Labial Hypertrophy หรือการที่แคมใหญ่มีขนาดใหญ่ผิดปกติ จนรบกวนต่อกิจกรรมประจำวันหรือการมีเพศสัมพันธ์ การทำรีแพร์โดยการตัดแต่งแคมให้ได้สัดส่วน จะช่วยให้อาการเจ็บลดลง ความมั่นใจเพิ่มขึ้น และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข
- ผู้ที่มีการไหลเวียนเลือดบริเวณอวัยวะเพศน้อย ทำให้การรับรู้ความรู้สึกทางเพศลดลงหรือช้าลง การทำรีแพร์โดยใช้พลังงานเลเซอร์หรือวิทยุความถี่ จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพิ่มการไหลเวียนเลือด ทำให้ผิวหนังกระชับ ความรู้สึกไวขึ้น และตอบสนองได้ดีกว่าเดิม
- ผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อช่องคลอดหย่อนยาน อันเนื่องจากการคลอดบุตร การสูญเสียน้ำหนัก หรือความเสื่อมตามวัย การทำรีแพร์จะช่วยกระชับกล้ามเนื้อ เพิ่มความตึงตัว ลดการหย่อนยานของผนังช่องคลอด ส่งผลให้อวัยวะเพศรู้สึกตอดรัดมากขึ้นในขณะมีเพศสัมพันธ์
- ผู้ที่มีริ้วรอยและการสูญเสียความยืดหยุ่นบริเวณภายนอกของจุดซ่อนเร้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนหรือวัยที่มากขึ้น การทำรีแพร์จะทำให้ผิวหนังเรียบเนียน กระชับ เต่งตึงขึ้น ลดริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ภายนอกอวัยวะเพศดูอ่อนเยาว์และมีสุขภาพดี
- ผู้ที่มีอาการปัสสาวะเล็ดโดยไม่ตั้งใจเวลาไอ จาม หรือออกแรง เช่น กระโดด เคลื่อนไหวหนัก ซึ่งสาเหตุมักมาจากกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานและหูรูดปัสสาวะที่อ่อนแอลง การทำรีแพร์บริเวณนี้จะกระชับกล้ามเนื้อ เสริมความแข็งแรงให้หูรูด ป้องกันการรั่วไหลของปัสสาวะ ทำให้ควบคุมการขับถ่ายได้ดีขึ้น
คุณแม่หลังคลอด สนใจทำรีแพร์ อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ข้อดี-ข้อเสีย ของการทำ รีแพร์ แบบไม่ผ่าตัด
การทำรีแพร์ แบบไม่ผ่าตัด มีข้อดีและข้อเสีย ดังนี้
ข้อเสีย
- หากอุปกรณ์ไม่ได้ทำความสะอาดก่อนเข้าไปสัมผัสหรือสอดใส่ช่องคลอด อาจทำให้เกิดปัญหาการติดเชื้อที่ผิวหนังได้
- ต้องทำหลายครั้ง อย่างน้อย 3-4 ครั้งขึ้นไปจึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ได้ประสิทธิภาพที่สุด
- ราคาค่อนข้างสูง
ผลลัพธ์หลังการทำ รีแพร์แบบไม่ผ่าตัด
ทั้งนี้ ผลลัพธ์หลังการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ซึ่งหลังทำเลเซอร์รีแพร์ จะมีผลลัพธ์ดังนี้
- รักษาอาการปัสสาวะเล็ด
- กระชับช่องคลอด โดยการกระตุ้นสร้างคอลลาเจน
- แก้ไขปัญหาช่องคลอดหลวม
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้ช่องคลอด
- ทำให้ผิวบริเวณอวัยวะเพศภายนอกเต่งตึงขึ้น
- เพิ่มน้ำหล่อลื่นภายในช่องคลอด ในผู้ที่มีปัญหาช่องคลอดแห้ง
เครื่อง Forma-V คืออะไร
เครื่องเลเซอร์รีแพร์ ตัวช่วยกระชับช่องคลอด FORMA-V นวัตกรรมใหม่ล่าสุดของการทำ รีแพร์ ที่มีประสิทธิภาพสูง เทคโนโลยีสุดล้ำที่ได้คิดค้นขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ผู้มีปัญหา ช่องคลอดหลวม ย่อนคล้อย คุณสมบัติพิเศษของ FORMA-V คือสามารถตรงเข้ากระชับผิวได้ลึกถึงระดับชั้นใต้ผิวหนัง นอกจากผลลัพธ์ที่เห็นผลทันทีหลังการรักษาแล้ว คลื่นวิทยุที่ส่งเข้าไปในชั้นผิวหนังยังทำให้เกิดกระบวนการจัดเรียงตัวใหม่ของคอลลาเจน ทำให้ช่องคลอดกระชับขึ้นในระยะยาว ช่วยลดการสูญเสียเลือดและลดความบอบช้ำของเนื้อเยื่อลงได้อย่างมาก เจ็บน้อยกว่าและฟื้นตัวเร็วกว่า
คุณสมบัติของเครื่อง FORMA-V คือ การถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเข้าไปกระชับช่องคลอดพร้อม ๆ กับให้ความรู้สึกอ่อนโยน ทำให้ไม่เจ็บแสบผิวเป็นการใช้พลังงานคลื่นความถี่ RF หรือ Radio Frequency ในการเพิ่มความกระชับโดยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวบริเวณภายในจุดซ่อนเร้นโดยไม่ทำให้เจ็บ เพียงแค่จะรู้สึกอุ่น ๆ โดยหัวเลเซอร์ยังมีขนาดเพียง 2 x 1.5 เซนติเมตร เท่านั้น เพียงแค่รู้สึกอุ่น ๆ หลังจากทำจะสามารถรู้สึกถึงความกระชับได้ทันที และลดอาการ ช่องคลอดหลวม ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ โดยที่ไม่ทำให้เกิดรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องงดกิจกรรมทางเพศอีกด้วย
ต้องทำการรักษากี่ครั้งจึงจะเห็นผล
การทำรีแพร์ ส่วนใหญ่ทำการรักษาประมาณ 2-3 ครั้ง ทุก ๆ 4 สัปดาห์ ทั้งนี้จำนวนครั้งของการรักษาขึ้นอยู่กับปัญหา ความกังวลและความคาดหวังของผู้เข้ารับการรักษาในแต่ละราย และขึ้นอยู แพทย์ผู้ให้การรักษาจะประเมินและวางแผนการรักษาให้คุณได้ดีที่สุดโดยผู้เข้ารับการรักษาเกือบทุกรายแจ้งว่าเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกของการรักษา
ระยะเวลาในการรักษาด้วย เครื่อง Forma-V
การกระชับช่องคลอดด้วยวิธีนี้ ใช้เวลาทำเพียงไม่นาน ประมาณ 30-40 ต่อครั้ง โดยจะเว้นช่วง 1 – 2 เดือน ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้ให้การรักษา ที่ประเมินและวางแผนการรักษาสำหรับคุณไว้เรียบร้อยแล้ว
เมื่อทำไปแล้วครั้งแรกจะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงคือ ช่องคลอดชุ่มชื้นขึ้น อวัยวะเพศเริ่มขาวขึ้น ซึ่งกระบวนการสร้างคอลลาเจนจะเกิดขึ้นต่อเนื่องประมาณ 2 เดือน
การดูแลตัวเองหลังทำ รีแพร์ ด้วยเครื่อง Forma-V
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนจัด ๆ หรือแช่อ่างน้ำร้อนอย่างน้อย 2 วันหลังเข้ารับการรักษา
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสผิวด้านในบริเวณที่ทำการรักษาหรืองดมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 1-2 วัน
- หากมีอาการผิดปกติเช่น แสบร้อน มีการติดเชื้อ บวม แดงผิดปกติ หรืออาการไม่พึงประสงค์ให้รีบติดต่อ แพทย์ผู้ทำการรักษา
- แนะนำให้ผู้เข้ารับการรักษาเตรียมแผ่นอนามัย/ผ้าอนามัย ที่เคยใช้ปกติและไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม หรือสูตรเย็นใส่รองผิวหลังเข้ารับการรักษา
ราคาของการทำรีแพร์ ขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง
1. คลินิกต้องมีความน่าเชื่อถือและมีมาตรฐาน
คลินิกที่เปิดให้บริการการทำรีแพร์ ต้องได้รับอนุญาตให้ประกอบการจากกระทรวงสาธารณสุขอย่างถูกต้อง พร้อมติดแบบแสดงรูปถ่าย และรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพมีการบริการที่ดีเยี่ยมตั้งแต่ก่อนเข้ารับบริการจนถึงหลังทำ โดยต้องมีพนักงานที่มีความรู้ มีความเต็มใจที่จะบริการ มีรีวิวจากคนไข้ที่เคยทำ มีช่องทางติดต่ออย่างละเอียดถี่ถ้วนที่สามารถติดต่อได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และติดต่อได้จริง
2. แพทย์ที่มีประสบการณ์เฉพาะทาง
วางแผนการทำได้ตามความเหมาะสม ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ และคงอยู่ได้นานอีกทั้งเพื่อความปลอดภัยต่อตัวคนไข้เองด้วยเนื่องจากแพทย์ที่มีประสบการณ์จะสามารถวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม สามารถวิเคราะห์ใบหน้าได้อย่างละเอียดและประเมินอย่างเหมาะสมกับปัญหา มีความชำนาญ
3. มีอุปกรณ์และเครื่องมือที่ทันสมัย
ถ้าเป็นการผ่าตัดรีแพร์ เครื่องมือต้องมีความสะอาด ทันสมัย มีการฆ่าเชื้อก่อนทำการรักษาให้กับคนไข้ รวมไปถึงมีเครื่องมือที่คอยรองรับความปลอดภัยเมื่อเกิดข้อผิดพลาดเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ถ้าหากเป็นการรักษาด้วยการใช้เครื่องมือ เช่น การเลเซอร์รีแพร์ ก็ต้องได้รับการรองรับมาตรฐานจากองค์การอาหารและยาจากประเทศไทย
อ่านเพิ่มเติม >>> ทำรีแพร์ ที่ไหนดี ?
Q&A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับรีแพร์
1. ควรเริ่มทำรีแพร์ตอนไหน
ใครที่มีปัญหาเรื่องช่องคลอดหลวม ปัสสาวะเล็ด ปัญหาลมออก ช่องคลอดแห้ง มดลูกหย่อน หรือผิวเหี่ยวหย่อน สามารถเข้าไปปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักรีแพร์ได้เลยค่ะ
2. หลังคลอดบุตร สามารถทำรีแพร์ได้ไหม
ทำได้ค่ะ เพื่อช่วยให้สุขภาพของช่องคลอดนั้นกลับเป็นเหมือนตอนก่อนคลอด เนื่องจากเพราะหลังจากคลอดลูก อาจจะมีภาวะช่องคลอดหลวมหรือภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อนคล้อย ซึ่งจะส่งผลให้มีปัญหาปัสสาวะเล็ดหรือลมรั่วออกมาได้
สรุป
ทางเลือกในการทำ รีแพร์ เพื่อกระชับช่องคลอดในยุคปัจจุบันนั้นดีมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเทคโนโลยีกระชับช่องคลอด มีการพัฒนาที่ก้าวไกลขึ้น ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด ต้องพักฟื้นหลาย ๆ เดือนอีกต่อไป การทำเลเซอร์รีแพร์เพื่อแก้ไขปัญหาช่องคลอดหลวม ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับผู้ที่กลัวการผ่าตัดหรือมีโรคประจำตัว ก็สามารถทำการรักษาด้วยการทำเลเซอร์กระชับนี้ได้ เพราะมีความปลอดภัยสูงและไม่ต้องดมยาสลบ