หลายคนเคยได้ยินมาว่าปัญหาหลุมสิวเป็นปัญหาที่รักษาได้ยาก และคิดว่า หลุมสิว รักษาได้ไหม ต้องขอบอกตรงนี้เลยว่าปัญหาหลุมสิวไม่ได้ยากเกินแก้ไข เพียงแต่ต้องใช้เวลาในการรักษา เพราะหลุมสิวเป็นแผลเป็นที่กัดกินลึกไปถึงชั้นผิวหนังแท้ ตัวเราต้องอดทนและให้เวลาในการรักษา แล้วจะได้ผิวสวยใสเรียบเนียนกลับคืนมา
สารบัญ
มารู้จักนวัตกรรมรักษาหลุมสิวที่ดีที่สุด ได้ที่นี่
หลุมสิว คืออะไร
หลุมสิวเกิดจากการที่สิวอักเสบ มีการหลั่งสารเอนไซม์ออกมาทำลายคอลลาเจนบริเวณผิวหนัง ทำให้ผิวหนังบุ๋มลงไป หรืออีกกรณีคือเกิดจากการเป็นสิวหรือแผลเป็นบริเวณที่เดิมซ้ำ ๆ เกิดเป็นพังผืดใต้แผล ประกอบกับมีการทำลายคอลลาเจนร่วมด้วย จึงทำให้พังผืดดึงรั้งหลุมสิวให้ลึกลงไปอีก มีการอักเสบลึกลงไปถึงผิวชั้นใน ทำให้คอลลาเจนบนผิวลดลงและถูกทำลาย ผิวจึงต้องสร้างพังผืดขึ้นมาเพื่อรักษาตัวเอง
อ่านเพิ่มเติม : เป็นหลุมสิวที่จมูก ต้องทำอย่างไร ?
ประเภทหลุมสิว มีอะไรบ้าง
เรียกว่าเป็นการบ่งบอกระดับความรุนแรงของ ปัญหา หลุมสิว โดยส่วนใหญ่จะดูจากความลึกตื้นของหลุมสิวนั้นว่ามีมากน้อยเท่าไร มีความชัดเจน มีความกว้างมากแค่ไหน โดยแบ่งเป็น 3 ระดับ ดังนี้
- Rolling Scar เป็นหลุมสิวแบบตื้น ๆ เป็นแอ่งเว้าลงไป กินพื้นที่แค่ส่วนบนของผิวเพียงเล็กน้อย
- Box Scar มีลักษณะเป็นบ่อ มีขอบชัดเจนและมีขอบเขตกว้าง มีทั้งที่เป็นแผลลึกและตื้น
- Ice Pick Scar เป็นหลุมลึก ปากแผลแคบ รักษาได้ยากมาก เพราะแนวหลุมเป็นไปในทางลึก กว่าผิวจะฟื้นฟูจนเต็ม ต้องใช้เวลานานในการรักษา
อ่านเพิ่มเติม : ประเภทหลุมสิว มีอะไรบ้าง
หลุมสิว รักษาได้ไหม
คำตอบของคำถามนี้ คือ หลุมสิวสามารถรักษาได้ ซึ่งการรักษานั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 3 แบบใหญ่ ๆ คือ การรักษาด้วยการทายา, การรักษาด้วยการรับประทานยา และการรักษาด้วยเครื่องมือแพทย์ การรักษาแต่ละแบบอาจถูกนำมาใช้ในกรณีที่มีหลุมลึก หรืออาจใช้ร่วมกันบ้าง
ซึ่งวิธีการรรักษาที่ดีที่สุดคือการป้องกัน ด้วยการดูแลผิวหน้าไม่ให้เป็นสิว และไม่ควรแกะบีบสิวจนเกิดการอักเสบ ยิ่งทำให้สิวยิ่งอักเสบลุกลามมากยิ่งขึ้น จากสิวอักเสบธรรมดาก็จะพัฒนาเป็นสิวกินเนื้อ และถ้าหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีด้วยแล้วล่ะก็ อาจจะไปกระตุ้นให้สิวมีอาการหนักขึ้นกลายเป็นหลุมสิวในที่สุด
การรักษาหลุมสิว มีอะไรบ้าง
การทาครีมรักษาหลุมสิว
การรักษาผิวให้อยู่ในสมดุลผิวมีความชุ่มชื้นไม่แห้งจนเกินไปและไม่มันจนเกินไปจะช่วยให้กระบวนการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวดำเนินไปได้ตามปกติจะช่วยให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น โดยเลือกใช้ครีมที่มีส่วนผสมของ Retinol หรือกลุ่มอนุพันธ์ของวิตามินเอ ซึ่งจะช่วยทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้นได้ แต่อาจจะยังไม่สามารถหายเนียนได้ตามปกติ ต้องดูแลผิวควบคู่ไปกับการรักษาหลุมสิวด้วยวิธีอื่นด้วย
การทายาผลัดเซลล์ผิว
การแต้มกรด เป็นการรักษาหลุมสิวแบบเก่าด้วยการใช้ยาในกลุ่มนี้ได้แก่ TCA (Trichloroacetic Acid) โดยจะแต้มยาแล้วนำมาแต้มที่หลุมสิว เมื่อเวลาผ่านไปจะเกิดเป็นสะเก็ดบางๆ ผิวจะถูกกระตุ้นให้การสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น แต่มีข้อเสียคือ การแต้มกรดนั้นไม่สามารถควบคุมการกระจายตัวของยาได้อย่างแม่นยำ ถ้ายาซึมลึกเกินไปก็กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ไม่ดีเกิดเป็นแผลใหม่
การใช้เข็ม
เข็ม Dermaroller เป็นลูกกลิ้งที่มีเข็มเล็กๆ ติดอยู่ วิธีนี้ช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้นได้จากการที่เข็มเล็กๆ ลงไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว แต่ไม่สามารถควบคุมความลึกของเข็มที่ลงไปในผิว ซึ่งการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนนั้นเข็มต้องกระตุ้นที่ชั้นหนังแท้ที่อยู่ตื้นมาก
การใช้เข็มกระตุ้นเลยอาจจะจิ้มเลยชั้นนี้ออกไปได้ ผลในการทำแต่ละครั้งจึงมีความแตกต่างกันมาก และยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อตามมา
การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว
การฟิลเลอร์หลุมสิว เป็นวิธีที่นิยมในการแก้ไขปัญหาหลุมสิว เพื่อเข้าไปเติมเต็มร่องรอยให้หลุมสิวตื้นขึ้นจนทำให้หน้าเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ เหมาะกับคนที่เป็นหลุมสิวไม่นานจนเกินไป เป็นหลุมสิวที่ยังไม่มีผังผืดมาเกาะมากนักเพราะถ้ามีผังผืดมาเกาะมากสารฟิลเลอร์ก็ไม่สามารถเข้าไปถึงชั้นผิวที่เหมาะสมได้
เลเซอร์หลุมสิว Fractora
Fractora คือ ใช้เทคโนโลยีเลเซอร์สำหรับแก้ปัญหารอยสิวด้วยพลังงานแสง ในลักษณะ Fractional RF และช่วงความยาวคลื่นที่เหมาะสม โดยจะทำการยิงลำแสงเลเซอร์ลงไปบนผิวหนังที่ต้องการลบรอยสิว เพื่อกำจัดผิวหนังชั้นนอก และกระตุ้นผิวหนังให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ส่งผลให้หลุมสิวและผิวบริเวณที่ทำแลดูเรียบเนียน และรอยต่าง ๆ ดูจางลง
Fractora ส่งผ่านพลังงาน ลงสู่ผิว เจาะเข้าไปที่ชั้นหนังแท้ เพื่อตัดพังผืดที่ดึงรั้งหลุมสิว ก่อนที่จะปล่อยคลื่นพลังงานความร้อนจากปลายหัวเข็ม โดยความร้อนนี้จะยิงลึกถึงจุดที่ลึกที่สุดของชั้นหนังแท้ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนดันผิวจากด้านล่างขึ้นสู่ด้านบน เพื่อเติมเต็มหลุมสิว
สรุป
หลุมสิว รักษาได้ไหม ถ้าหากเกิดเป็นหลุมสิวขึ้นมา ก็สามารถรักษาได้ตามอาการ ด้วยวิธีการต่างๆ ตามที่ได้ยกมาข้างต้น จะเห็นได้ว่ามีวิธีรักษามากมายเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการและความสะดวกของเรา ซึ่งทางที่ดีที่สุดคือการป้องกันไม่ให้เกิดสิว เพื่อไม่ให้มีหลุมสิวเพิ่มขึ้นอีก