RWC Clinic สรุปให้
- หลังฉีดฟิลเลอร์ อาจมีอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์เล็กน้อยใน 2-3 วันแรก ให้ประคบเย็นเบา ๆ ตามคำแนะนำของแพทย์ช่วยลดอาการบวม
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด ไม่จับ บีบ นวด เกา หรือแกะเกา เพื่อป้องกันฟิลเลอร์เคลื่อนที่
- งดแอลกอฮอล์ บุหรี่ และสารกระตุ้นเลือดอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ
- หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ อาบน้ำร้อน อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง
- งดออกกำลังกายหนัก กิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง
- ล้างหน้าได้หลังฉีดฟิลเลอร์ 3 ชั่วโมง ด้วยผลิตภัณฑ์อ่อนโยน ไม่ขัดถู
- ใช้ครีมบำรุงได้ตามปกติ แต่งดผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดหรือสารที่ระคายเคือง
- งดอาหารรสจัด เผ็ด เค็ม หวานจัด อาหารหมักดอง และอาหารดิบ อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- ถ้าพบอาการผิดปกติ เช่น บวมมาก ปวดรุนแรง ผิวซีดหรือคล้ำผิดปกติ ให้รีบปรึกษาแพทย์ทันที
การดูแลตัวเอง หลังฉีดฟิลเลอร์ ที่ถูกวิธี จะช่วยให้สารเติมเต็ม (ฟิลเลอร์) เข้าที่ได้ดีขึ้น ลดโอกาสเกิดอาการบวมช้ำ และส่งผลให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานขึ้น
บทความนี้จาก RWC Clinic ได้รวบรวมข้อแนะนำและข้อควรระวังหลังทำหัตถการ เพื่อให้สารเติมเต็มเข้าที่ ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง และช่วยรักษาสภาพของผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้นค่ะ
- RWC Clinic สรุปให้
- อาการที่เกิดขึ้นได้หลังฉีดฟิลเลอร์
- ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์เพื่อลดบวมและให้ฟิลเลอร์เข้าที่
- ข้อห้ามและกิจกรรมที่ควรหลีกเลี่ยงหลังฉีดฟิลเลอร์
- การดูแลผิวหน้าและกิจวัตรประจำวันหลังฉีดฟิลเลอร์
- การดูแลเฉพาะจุดหลังฉีดฟิลเลอร์แต่ละบริเวณ
- หลังฉีดฟิลเลอร์ อาการผิดปกติที่ควรปรึกษาแพทย์ทันที
- สรุป
อาการที่เกิดขึ้นได้หลังฉีดฟิลเลอร์
อาการส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้น หลังฉีดฟิลเลอร์ คือการตอบสนองปกติของร่างกายและจะค่อย ๆ หายเองภายในไม่กี่วัน ได้แก่
- อาการบวม คืออาการที่พบได้บ่อย โดยทั่วไปจะบวมมากในช่วง 2-3 วันแรก และจะค่อย ๆ ยุบลง ภายใน 1-2 สัปดาห์ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีด
- รอยช้ำหรือจ้ำเลือด เกิดจากเข็มฉีดไปโดนเส้นเลือดฝอย สามารถหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์
- รอยแดง บริเวณรอยเข็มอาจมีอาการแดงเล็กน้อย สามารถหายได้ใน 1-2 วัน
- ความรู้สึกตึงหรือแน่น เกิดจากฟิลเลอร์ที่เพิ่งฉีดยังไม่กระจายตัว จะค่อย ๆ หายไปเมื่อฟิลเลอร์กระจายตัวและเข้าที่แล้ว
- ความไวต่อการสัมผัส บริเวณที่ฉีดอาจรู้สึกไวต่อการสัมผัสมากกว่าปกติใน 1-2 วันแรก
หลังฉีดฟิลเลอร์จะเห็นผลลัพธ์ได้เต็มที่เมื่อฟิลเลอร์เข้าที่แล้วในช่วง 2-3 สัปดาห์ และสามารถอยู่ได้ประมาณ 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของสารเติมเต็มและตำแหน่งที่ฉีดค่ะ
อ่านเพิ่มเติม: ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเข้าที่ ? กี่วันเห็นผล พร้อมวิธีดูแล
- ใช้ความเย็นประคบบริเวณที่ทำประมาณ 10-15 นาที สลับกับการพัก ทุก 1-2 ชั่วโมงในวันแรก เพื่อช่วยลดอาการบวมและรอยช้ำ
- ควรดื่มน้ำสะอาดประมาณ 1.5-2 ลิตรต่อวัน เพื่อให้สารไฮยาลูโรนิค แอซิด อุ้มน้ำและฟูขึ้นเต็มที่
- ในคืนแรกควรนอนหงาย หนุนศีรษะให้สูงกว่าลำตัวเล็กน้อย เพื่อลดอาการบวมและป้องกันฟิลเลอร์เคลื่อนที่
- ในช่วง 2-3 วันแรก หลีกเลี่ยงการแสดงสีหน้าเยอะ เพื่อให้ฟิลเลอร์คงอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ
- การทำความสะอาดผิวหน้าหลังฉีดฟิลเลอร์ ควรทำอย่างเบามือ ใช้น้ำอุณหภูมิปกติ และงดการขัดถูผิวแรง ๆ
- ถ้าแพทย์มีการจ่ายยาสำหรับลดปวดหรือลดการอักเสบ ควรรับประทานตามคำแนะนำ
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงใน 24 ชั่วโมงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด ไม่ควรบีบ นวด แกะ เกา หรือกดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่หรือกระจายตัวไม่สม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องสัมผัสความร้อน เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ อาบน้ำร้อน หรือแช่น้ำร้อน และการอยู่กลางแดดจัดเป็นเวลานาน
- งดดื่มแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์มีฤทธิ์ขยายหลอดเลือด อาจทำให้เกิดรอยช้ำได้ง่ายและเพิ่มอาการบวม
- งดยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน อาจทำให้เกิดการช้ำและบวมมากขึ้น ยกเว้นกรณีที่แพทย์สั่งให้ทานเป็นประจำ
- งดออกกำลังกายหนัก กิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดหรือมีการกระแทก อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่หรือกระจายตัวไม่สม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า ในวันแรกหลังฉีดควรงดการแต่งหน้า เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อจากรอยเข็ม
- งดสูบบุหรี่ เพราะสารในบุหรี่บางชนิดมีคุณสมบัติขยายหลอดเลือด ขัดขวางการสมานแผล ทำให้รอยเข็มหายช้า
- หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ทั้งเผ็ด เค็ม หวานจัด เพราะอาจกระตุ้นการอักเสบและทำให้บวมมากขึ้น | หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง ?
กิจกรรมที่ควรงดใน 1-2 สัปดาห์แรก
- งดเลเซอร์หรือทรีตเมนต์ที่ใช้ความร้อน เช่น RF, HIFU, IPL ควรเว้นระยะอย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังฉีดฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงการนวดหน้าแรง ๆ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ไปยังบริเวณที่ไม่ต้องการ
- หลีกเลี่ยงการทำทรีตเมนต์ผิวหน้าอื่น ๆ เช่น การลอกผิว หรือทรีตเมนต์ที่ใช้ความร้อน ควรรอให้ฟิลเลอร์เข้าที่ก่อน
- งดใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของสารผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA, BHA, เรตินอยด์ ประมาณ 3-7 วัน
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีฤทธิ์กระตุ้นการอักเสบ เช่น อาหารรสจัด อาหารหมักดอง อาหารดิบ เพราะอาจส่งผลต่อการยุบบวม
- หลีกเลี่ยงการเดินทางโดยเครื่องบิน ความกดดันในเครื่องบินอาจส่งผลต่อการกระจายตัวของฟิลเลอร์ในช่วงแรก
หลังฉีดฟิลเลอร์ล้างหน้าได้ไหม?
หลังฉีดสารเติมเต็ม สามารถเริ่มล้างหน้าได้เมื่อผ่านไปประมาณ 3 ชั่วโมง โดยมีขั้นตอนดังนี้
- ควรทำความสะอาดผิวหน้าด้วยความเบามือและนุ่มนวล
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยนที่ไม่มีแอลกอฮอล์ หรือสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
- ใช้น้ำอุณหภูมิปกติในการล้างหน้า หลีกเลี่ยงน้ำร้อน
- จากนั้นใช้ผ้าสะอาดซับผิวเบา ๆ จนแห้ง ไม่ขัดหรือถูบนใบหน้า
หลังฉีดฟิลเลอร์ทาครีมได้ไหม?
หลังจากทำความสะอาดผิวเรียบร้อยแล้ว สามารถทาครีมบำรุงผิวได้ตามปกติค่ะ แต่ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก แนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เน้นให้ความชุ่มชื้นและช่วยปลอบประโลมผิว ควรงดผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA, BHA, Retinol และวิตามินซีเข้มข้นสูง ควบคู่กับการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปเป็นประจำจะช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี ขั้นตอนทั้งหมดนี้ควรทำด้วยความนุ่มนวล หลีกเลี่ยงการนวดหรือออกแรงกดบริเวณที่ฉีดค่ะ
ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
- หลีกเลี่ยงการเม้มปาก ถูปากแรง ๆ หรือดูดหลอดใน 48 ชั่วโมงแรก
- งดการจูบหรือกิจกรรมที่มีการกดปากเป็นเวลา 2-3 วัน
- งดรับประทานอาหารร้อนจัด เผ็ด หรืออาหารที่ต้องอ้าปากกว้าง
- ไม่ควรดึงลอกปาก ถ้าริมฝีปากแห้ง ให้ทาลิปบาล์มที่มีความชุ่มชื้น
- ถ้ามีอาการชาที่ริมฝีปาก เป็นเรื่องปกติที่เกิดจากยาชา จะหายไปภายในไม่กี่ชั่วโมง
ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- หลีกเลี่ยงการขยี้ตา ถูตาแรง ๆ ในช่วง 1 สัปดาห์แรก
- นอนหนุนหมอนสูงในคืนแรก เพื่อลดการบวมใต้ตา
- หลีกเลี่ยงการสวมคอนแทคเลนส์ใน 24 ชั่วโมงแรก
- ประคบเย็นเบา ๆ รอบ ๆ บริเวณใต้ตา ไม่ใช่บนเปลือกตาโดยตรง
- งดการใช้ผลิตภัณฑ์รอบดวงตาที่มีส่วนผสมเข้มข้น เช่น เรตินอล ในช่วง 3-7 วันแรก ควบคู่ไปกับการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาตามคำแนะนำของแพทย์
ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
- หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงด้านที่ฉีดฟิลเลอร์ในช่วงคืนแรก
- งดการนวดหรือกดบริเวณร่องแก้มอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- ไม่ควรแสดงสีหน้าที่มากเกิน เช่น การยิ้มหรือหัวเราะอย่างมากใน 1-2 วันแรก
- ระวังการเคี้ยวอาหารที่แข็งหรือต้องอ้าปากกว้าง เพราะอาจกระทบกับบริเวณร่องแก้ม และปฏิบัติตามข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์คาง
- หลีกเลี่ยงการเอามือเท้าคาง หรือการกดบริเวณคางในช่วง 1 สัปดาห์แรก
- ระวังการเคี้ยวอาหารที่แข็งหรือต้องออกแรงเคี้ยวมากใน 24-48 ชั่วโมงแรก
- ถ้ามีการฉีดบริเวณขากรรไกร ควรระวังการอ้าปากกว้างหรือพูดมากในช่วงแรก
- หลีกเลี่ยงการโกนหนวดหรือขนบริเวณที่ฉีดใน 24 ชั่วโมงแรก (สำหรับผู้ชาย) และควรทราบข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์คางเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ
- หลีกเลี่ยงการนอนตะแคง หรือกดนวดขมับใน 1 สัปดาห์แรก
- ระวังการสวมแว่นตา หมวก หรืออุปกรณ์ที่กดทับบริเวณขมับ
- ไม่ควรแสดงสีหน้าที่ต้องใช้กล้ามเนื้อบริเวณขมับมากเกินไปใน 24-48 ชั่วโมงแรก และศึกษาวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับเพิ่มเติม
- อาการทางผิวหนัง ผิวเปลี่ยนเป็นสีขาวซีด สีคล้ำ หรือมีรอยช้ำผิดปกติ เกิดฟิลเลอร์เป็นก้อนแข็งที่ไม่ยุบ มีตุ่มหนองร่วมกับอาการคันและแสบร้อน
- ความรู้สึกเจ็บปวด รู้สึกปวดรุนแรงจนยาแก้ปวดทั่วไปบรรเทาไม่ได้ หรือมีอาการบวมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
- ระบบประสาทและอื่น ๆ การมองเห็นเปลี่ยนแปลงไป ปวดศีรษะอย่างรุนแรง รู้สึกชา หรือมีอาการคล้ายจะเป็นลม
ถ้าพบความผิดปกติเหล่านี้หลังทำหัตถการ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อให้ได้รับการดูแลอย่างรวดเร็วและถูกต้องค่ะ
อ่านเพิ่มเติม: ฟิลเลอร์อันตรายไหม ? ข้อดี-ข้อเสีย และสิ่งที่ต้องรู้ก่อนฉีด
สรุป
การดูแลตัวเอง หลังฉีดฟิลเลอร์ ที่ถูกวิธี ทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็วและอยู่ได้นานขึ้น การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ทั้งการประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม การหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด การงดแอลกอฮอล์กับบุหรี่ การดื่มน้ำให้เพียงพอ การดูแลเฉพาะจุดตามบริเวณที่ฉีดจะช่วยลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้
การเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรอง และเข้ารับบริการกับสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานอย่าง RWC Clinic ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจค่ะ หลังทำหัตถการควรสังเกตอาการตัวเองอยู่เสมอ ถ้าพบความผิดปกติหรือมีข้อสงสัย ควรรีบติดต่อคลินิกเพื่อรับคำแนะนำจากแพทย์ทันที