การดูดไขมันเป็นการนำไขมันออกจากร่างกายได้อย่างรวดเร็ว แล้วเราสามารถ ดูดไขมันทั้งตัว ได้หรือไม่ เพราะการมีรูปร่างที่ดูดีทันทีโดยไม่เหนื่อย คงเป็นเหมือนฝันสำหรับใครหลายๆ คน แต่คงเคยได้ยินอันตรายต่างๆ อยากรู้ว่าถ้าดูดไขมันทั้งตัวแล้วจะอันตรายหรือไม่
สารบัญ
- การดูดไขมัน คืออะไร
- ดูดไขมันทั้งตัว ทำได้หรือไม่
- ปัจจัยที่ต้องคำนึงเมื่อต้อง ดูดไขมันทั้งตัว
- ดูดไขมันทั้งตัว ส่วนใดได้บ้าง
- ภาวะแทรกซ้อนจากการดูดไขมัน
การดูดไขมันคืออะไร อันตรายหรือไม่ >>อ่านที่นี่<<
การดูดไขมัน คืออะไร
การดูดไขมัน (Liposuction) เป็นกระบวนการผ่าตัดเพื่อกำจัดไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนัง บริเวณที่มักมีปัญหาไขมันเฉพาะจุดและลดยาก เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา เป็นต้น ปัจจุบันนิยมใช้เทคนิค “ทิวเมสเซนต์” (Tumescent) ซึ่งเป็นการฉีดน้ำเกลือผสมยาชาเฉพาะที่เข้าไปในชั้นไขมัน ทำให้ดูดไขมันออกได้ง่ายขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องดมยาสลบ
ขั้นตอนการดูดไขมันเริ่มจากการกรีดผิวหนังเป็นแผลขนาดเล็ก แล้วสอดท่อ (Cannula) เข้าไปในชั้นไขมัน จากนั้นจึงดูดไขมันส่วนเกินออกด้วยเครื่องมือพิเศษ วิธีนี้สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงของรูปร่างได้ทันที แต่ต้องพักฟื้นและสวมใส่ชุดกระชับสัดส่วนหลังทำเป็นเวลา 4-6 สัปดาห์ เพื่อช่วยให้ผิวหนังแนบสนิทและเรียบเนียนขึ้น อย่างไรก็ตาม การดูดไขมันมีความเสี่ยงและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล จึงควรปรึกษาศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมเป็นรายบุคคล
ดูดไขมันทั้งตัว ทำได้หรือไม่
การดูดไขมันทั้งตัวสามารถทำได้ แต่การดูดไขมันทั้งตัวนั้นอาจทำให้เกิดอาการเสียเลือดมาก และอาจมีเซลไขมันหลุดไปตามกระแสโลหิต (fat embolism) และอาจเกิดผลข้างเคียงจากการได้รับยาชาหรือยาสลบมากเกินขนาด แต่ภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้พบได้น้อยมาก มักพบในรายที่ดูดไขมันปริมาณมากเกินไปในคราวเดียวกัน
การดูดไขมันทั้งตัวพร้อมกัน นอกจากจะเสียเลือดมากแล้ว อาจทำให้ผลลัพธ์การดูดไขมันในแต่ละจุดไม่เต็มประสิทธิภาพอีกด้วย หากต้องการดูดไขมันทั้งตัว ต้องขอคำแนะนำและปรึกษาแพทย์ถึงความเหมาะสมด้วย
ในปัจจุบันเทคโนโลยีที่ใช้ในการดูดไขมัน เทคนิครวมถึงวิธีที่ทำให้ไขมันละลาย หรือแตกตัวเพื่อให้ง่ายต่อการดูดไขมัน นั้นมีการพัฒนาอย่างก้าวหน้า โดยแต่ละเครื่องมือก็จะใช้เทคโนโลยีที่ต่างกันไป ไม่ว่าจะ ใช้เทคโนโลยีการสั่น การใช้คลื่นความร้อน หรือการใช้น้ำ เป็นต้น
ดังนั้นการดูดไขมันในปัจจุบัน จึงมีความปลอดภัยที่มากขึ้นกว่าในอดีต ถึงแม้ว่าจะยังไม่สามารถบอกได้ว่าปลอดภัย 100% แต่ก็สามารถลดความเสี่ยง หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับร่างกายได้เยอะพอสมควร
อ่านเพิ่มเติม : ดูดไขมัน อันตรายไหม ?
ปัจจัยที่ต้องคำนึงเมื่อต้อง ดูดไขมันทั้งตัว
น้ำหนักและมวลไขมันของคนไข้
แพทย์จะดูน้ำหนักและปริมาณไขมันของคนไข้ เพื่อประเมินปริมาณยาชาที่ต้องใช้ หากคนไข้มีน้ำหนักที่มากพอ ก็สามารถใช้ยาชาได้เยอะขึ้น ทำให้คนไข้สามารถดูดไขมันทั้งตัวในครั้งเดียวได้ แต่คนไข้บางรายมีน้ำหนักและมวลไขมันที่ไม่สอดคล้องกัน คือมีน้ำหนักน้อย แต่มีไขมันเยอะ แสดงว่าไขมันเยอะกว่าน้ำหนัก
ระยะเวลาในการดูดไขมัน
โดยทั่วไป การดูดไขมัน 1 ครั้ง ไม่ควรใช้เวลาเกิน 4-5 ชั่วโมง เพราะยิ่งดูดนาน ก็จะยิ่งเกิดผลข้างเคียงในระหว่างการดูดไขมันได้ เช่นคนไข้มีอาการอ่อนเพลีย, แพทย์เหนื่อย, หรือคนไข้นอนอยู่กับที่นาน ๆ ไม่ขยับร่างกาย อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นลิ่มเลือดได้
ปริมาณไขมันที่ดูดออกมาได้
การดูดไขมันในแต่ละครั้ง จะมีการกำหนดปริมาณไขมันไว้เป็นพื้นฐานว่า ไม่ควรดูดเกิน 5 ลิตรต่อครั้ง หากดูดไขมันเกิน 5 ลิตรต่อครั้ง จะส่งผลกระทบต่อความสมดุลของน้ำในร่างกาย และความดันในร่างกายได้
ความสมดุลของน้ำในร่างกาย (Electrolyte)
เมื่อน้ำในร่างกายถูกดึงออกไปพร้อม ๆ กับไขมัน การดูดไขมันเกิน 5 ลิตรในแต่ละครั้ง ทำให้เราเสียน้ำในร่างกายมาก จึงทำให้เกิดภาวะไม่สมดุลของน้ำในร่างกาย ส่งผลให้เกิดความผิดปกติต่อหัวใจและเส้นเลือด อาจทำให้มีอาการต่าง ๆ ตามมาได้ เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ, เป็นเหน็บชาตามร่างกาย, คลื่นไส้ อาเจียน, อ่อนเพลีย, สับสน จนถึงขั้นชัก และเสียชีวิตได้
ลำบากขนาดนี้ ลองไปดูการสลายไขมันด้วยความเย็น ดีกว่า !
ดูดไขมันทั้งตัว ส่วนใดได้บ้าง
- บริเวณคอ
- บริเวณต้นแขน
- บริเวณเอว
- บริเวณหน้าท้อง
- บริเวณต้นขา
- บริเวณหัวเข่า
- บริเวณปีกหลัง
- บริเวณหลัง
- บริเวณสะโพก
- บริเวณก้น
ภาวะแทรกซ้อนจากการดูดไขมัน
การกำจัดไขมันส่วนเกิน ด้วยวิธีการดูดไขมัน เป็นการผ่าตัดศัลยกรรมใหญ่ และการผ่าตัดทุกครั้งมีความเสี่ยง จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องเลือกทำการรักษา โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ กับโรงพยาบาลหรือคลินิกที่ได้ปลอดภัยและได้รับมาตรฐาน
โดยสามารถจำแนกภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นได้ตามอาการที่เกิด ดังนี้
1. ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น การเสียเลือดมาก การมีเซลไขมันหลุดไปตามกระแสโลหิต (fat embolism) การได้ยาชาหรือยาสลบมากเกินขนาด ภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้พบได้น้อยมากมักพบในรายที่ดูดไขมันปริมาณมากเกินไปใน คราวเดียวกันการดูดไขมันโดยทั่วไปโอกาสพบน้อย
2. ภาวะแทรกซ้อนทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของความคาดหวังของผู้เข้ารับบริการ มากกว่าผลลัพธ์การดูด ไม่มาก เท่าที่ต้องการ ซึ่งแพทย์ที่มีประสบการณ์จะต้องชี้แจงให้ชัดเจนตั้งแต่ก่อน ผ่าตัดแล้วว่าผลที่ได้จะเป็นเช่นไร
3. ภาวะผิวหนังเป็นคลื่นไม่เรียบ เกิดได้ในการดูดไขมันในชั้นที่ตื้นเกินไปหรือดูดไขมันในบริเวณที่มีไขมันไม่มากอยู่แล้ว ส่วนการมีผิวหนังห้อยย้อยจะเกิดในการดูดไขมันในผู้มีอายุมาก ความยืดหยุ่นผิวหนังไม่ดี ซึ่งภายหลังจากการดูดไขมันจึงต้องสวมชุดกระชับไว้ตลอดเวลา เพื่อให้ผิวนั้นกระชับขึ้นและช่องว่างที่ได้นำไขมันออกไปนั้นเหลือน้อยที่สุด
ดูดไขมันที่ไหนดี ให้ปลอดภัยและห่างไกลภาวะแทรกซ้อน
สรุป
การ ดูดไขมันทั้งตัว พร้อมกัน นอกจากจะเสียเลือดมากแล้ว อาจทำให้ผลลัพธ์การดูดไขมันในแต่ละจุดไม่เต็มประสิทธิภาพ อาจมีเซลไขมันหลุดไปตามกระแสโลหิตและผลข้างเคียงจากการได้รับยาชาหรือยาสลบมากเกินขนาด
ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง RWC Clinic
บทความยอดนิยม
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร
- ฉีดฟิลเลอร์คาง ดีจริงไหม
- ฉีดไขมันหน้าเด็กคืออะไร
- ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์กับหมอขนม