อยากคืนผิวสวย สว่างกระจ่างใส ดูสุขภาพดีอีกครั้ง ต้องเลือกมาฉีด ไซโตแคร์ กับ ฟิลเลอร์ ตรงเข้าแก้ไขปัญหาสุขภาพผิว ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้น หมองคล้ำ ทำให้มีริ้วรอย และปรับปรุงให้มีความชุ่มชื้น สดใสขึ้นได้ เชื่อว่าตอนนี้ยังมีความแคลบเคลืองใจว่าทั้งสองอย่างนี้ต่างกันอย่างไร จะมาให้คำตอบอย่างชัดเจนที่นี่
ไซโตแคร์ กับ ฟิลเลอร์ ต่างกันอย่างไร
ในแง่ของการช่วยฟื้นฟูคุณภาพและเติมเต็มผิวนั้นทั้ง ไซโตแคร์ กับ ฟิลเลอร์ สามารถช่วยได้ใกล้เคียงกัน ไซโตแคร์นั้นเป็นเหมือนกับการกระตุ้นคอลลาเจน ให้อุ้มน้ำมากขึ้น เพียงแต่ความคงทนของผลลัพธ์นั้นจะอยู่ได้น้อยกว่าฟิลเลอร์ โดยจะอยู่ได้มากสุด 1 เดือนเท่านั้น
แต่ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มไฮยาลูรอนิกแอซิด ที่สามารถอยู่ภายในร่างกายของเราได้นานถึงปี จึงเข้าใจได้ว่าทั้งสองอย่างมีประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกัน แต่เพียงระยะการคงอยู่ของฟิลเลอร์นั้นยาวนานกว่าไซโตแคร์มากถึง 10 เท่าต่อการฉีดหนึ่งครั้ง ลดการบาดเจ็บจากการฉีดบ่อยครั้งได้ด้วย
ไซโตแคร์ กับ ฟิลเลอร์ คืออะไร
ฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid มีคุณสมบัติช่วยกักเก็บน้ำให้แก่ชั้นใต้ผิว ช่วยเพิ่มเส้นใยคอลลาเจนให้กับผิว นำมาใช้ในการเติมเต็มเพื่อทดแทนกรดไฮยาลูรอนและคอลลาเจนที่สลายไปตามตำแหน่งต่างๆ ทั้งบนใบหน้า เช่น ร่องใต้ตาลึก ร่องแก้มลึก คางสั้น ขมับตอบ แก้มตอบ หรือตำแหน่งอื่นๆ ในร่างกาย เช่น คอ หลังมือ หลัง ซึ่งสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ใช้ระยะเวลาการสลายของฟิลเลอร์โดยประมาณแล้วจะอยู่ภายใน 1-2 ปี
ไซโตแคร์ (Cytocare)
ไซโตแคร์ คือ สารฉีดบำรุงผิวเข้มข้นซึ่งประกอบไปด้วยสารที่มีประโยชน์ต่อผิวหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นกรดไฮยาลูรอนิก กรดอะมิโนเปปไทด์ Co-Q19 กรดนิวคลิอิกและอาหารผิวที่มากถึง 53 ชนิด ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ด้วยเหตุนี้เองทำให้ ไซโตแคร์จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในวงการเสริมความงาม เพราะใช้เวลาน้อย มีสารอาหารที่ครบ และช่วยฟื้นฟูผิวได้ในเวลาอันรวดเร็ว
เปรียบเทียบข้อดี ไซโตแคร์ กับ ฟิลเลอร์
ข้อดีของฟิลเลอร์
- ช่วยให้ผิวหนังมีความอิ่มน้ำ ดูเรียบเนียนขึ้น
- ผิวดูอ่อนเยาว์ แลดูมีสุขภาพผิวดี
- ช่วยเติมเต็มจุดบกพร่องต่างๆ เช่น ปัญหาร่องใต้ตา แก้มตอบ และร่องแก้ม
- ช่วยปรับรูปหน้า เสริมในส่วนที่ต้องการ เช่น เสริมคาง แก้มส้ม
- ใช้เวลาในการรักษาไม่นาน
- เห็นผลลัพธ์ที่ได้ หลังจากทำการรักษาเสร็จ
การฉีดฟิลเลอร์จะให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วทันใจ ใช้เวลาน้อย สามารถยกกระชับหรือปรับโครงสร้างใบหน้าให้ได้รูป หรือเติมจุดที่ดูสูงวัยแลดูหย่อนคล้อยตามจุดต่างๆ ทั้งใบหน้าและรูปร่างให้ดูอ่อนเยาว์ได้ตามต้องการ รวมทั้งช่วยเสริมโหงวเฮ้งตามความเชื่อได้อีกด้วย
ข้อดีของไซโตแคร์
- กระตุ้นกระบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่เหมือนผิวเด็ก
- ฟื้นฟูผิวที่ขาดน้ำหมองคล้ำสีผิวไม่สม่ำเสมอริ้วรอยแห่งวัยให้เปล่งปลั่งกระชับเรียบเนียน
- ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน
- เร่งผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพปกป้องผิวจากแสงแดดฝุ่นควัน
- เพิ่มความอิ่มน้ำของผิวอย่างลำลึกจนคุณสัมผัสได้
- ช่วยในการฟื้นฟูรอยเเผลเป็นรอยดำจากสิวซ่อมเเซมผิวบริเวณที่มีรอยแผลทำให้รอยแผลหายไวขึ้น
- ป้องกันการเกิดออกซิเดชั่นต้านอนุมูลอิสระโครงสร้างผิวแข็งแรง
การฉีดไซโตแคร์ นอกจากจะช่วยทำให้ผิวที่คล้ำเสียลดลงแล้ว ก็ยังทำให้ผิวกระจ่างใสดูมีออร่ากว่าที่เคย เนื่องจากสารดังกล่าวจะช่วยสร้างคอลลาเจนให้เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังเป็นตัวเร่งในการขจัดเซลล์ผิวที่เสียจากการเกิดสิวบนใบหน้า ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น ไซโตแคร์จะช่วยเข้าไปรักษาสมดุลภายในผิวหนังเห็นผลภายใน 5-7 วัน อย่างไรก็ตามการฉีดไซโตแคร์บริเวณร่องแก้มและใต้ตาจะอยู่ได้ประมาณไม่นาน จากนั้นจะต้องทำการฉีดใหม่อีกครั้ง
ข้อควรระวังในการฉีด ไซโตแคร์ กับ ฟิลเลอร์
ปัจจุบันมีสารที่มีลักษณะคล้ายฟิลเลอร์ออกมามากมาย ซึ่งไม่ได้ตามมาตรฐาน อย. และยังเสี่ยงกับผลข้างเคียงที่จะเกิด ดังนั้นควรใช้บริการจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อสามารถแก้ปัญหาได้ดีสมความตั้งใจ อีกทั้งสถานให้บริการรวมทั้งสารที่ใช้และอุปกรณ์เครื่องมือควรมีมาตรฐานที่เชื่อถือได้ เป็นการป้องกันอันตรายและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นตามมาได้ นอกจากนี้ห้ามฉีดฟิลเลอร์ในสตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร และผู้ที่มีปัญหาเลือดออกแล้วหยุดยาก
ส่วนไซโตแคร์ อาจจะต้องมองไปที่ความเหมาะสมของผู้ฉีด ซึ่งการฉีดไซโตแคร์นั้นไม่เหมาะกับผู้ที่มีอาการแพ้กรดไฮยาลูโรนิก รวมทั้งสตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร และเพื่อความปลอดภัยของผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคระบบหลอดเลือดผิดปกติ โรคหัวใจ โรคเบาหวาน อีกทั้งผู้ที่กำลังรักษาด้วยยาหลายชนิด ควรปรึกษาและแจ้งแพทย์ก่อนการทำ Cytocare เพื่อวางแผนการรักษาและได้คำปรึกษาที่ถูกต้องอีกด้วย
สรุป
ไซโตแคร์ กับ ฟิลเลอร์ ถ้าเทียบประสิทธิภาพกันจริงๆ แล้วมีความใกล้เคียงกันในเรื่องของการฟื้นฟู บำรุง เติมเต็มผิวให้ดูชุ่มชื้น สุขภาพดี ราวกลับไปเป็นวัยเยาว์อีกครรั้ง แต่ในด้านของการคงอยู่ของสารเติมเต็มนั้นแตกต่างกันอย่างมาก เพราะฟิลเลอร์นั้นอยู่ได้ยาวนานเป็นปี ต่างจากไซโตแคร์ที่อยู่ได้เพียงไม่ถึง 3 เดือน