ผู้ที่มีปัญหาสิวซ้ำซาก สิวอุดตันหัวปิด หัวเปิด สิวผด ซึ่งสิวนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งเป็นหนึ่งในชนิดของสิวชนิดไม่อักเสบ และในบทความนี้ RWC จะมาอธิบายความรู้เบื้องต้นของสิวอุดตันหัวปิด พร้อมวิธีการดูแลและป้องกันเบื้องต้นค่ะ
สิวอุดตันหัวปิด คืออะไร
สิวอุดตันหัวปิด (Closed Comedone) หรือที่เรียกว่า สิวอุดตันหัวขาว (Whiteheads) โดยสิวชนิดนี้ จะมีลักษณะเป็นสิวเม็ดเล็ก ๆ หัวสีขาว ไม่สามารถมองเห็นหัวสิวได้จากภายนอก แต่เมื่อสัมผัสจะรู้สึกว่าเป็นปุ่มนูนขึ้นมา
สาเหตุปัญหาสิวอุดตันหัวปิด
สาเหตุปัญหาสิวอุดตันหัวปิด เกิดจากไขมันส่วนเกินใต้ชั้นผิว โดยต่อมไขมันเกิดการทำงานและผลิตน้ำมันมากเกินไป ทำให้มีการตกค้างอยู่ในรูขุมขนและจับตัวรวมกับเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ซึ่งสาเหตุหลักก็มาจากสภาพอากาศร้อนมาก ๆ มลภาวะฝุ่นละออง ฝุ่นควัน เครื่องสำอางแล้วล้างหน้าไม่สะอาด มีสิ่งสกปรกตกค้าง หรือพฤติกรรมที่ทำให้เกิดความระคายเคืองบนผิวนั่นเอง
การดูแลและป้องกันเบื้องต้น
การป้องกันสิวอุดตันหัวปิดสามารถทำได้เพียงเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต การรับประทานอาหาร ดังนี้
- ลดอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล ไขมัน
- ดื่มน้ำสะอาด อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หรือนปริมาณที่ร่างกายต้องการ
- การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่นอนดึก
- ไม่เครียดจนเกินไป ทำจิตใจให้แจ่มใสอยู่เสมอ
- ไม่แกะ เกา บีบสิว หรือจับบริเวณใบหน้าบ่อย ๆ
- ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสมกับสภาพผิว หรือผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยน
- หมั่นรักษาความสะอาดทั้งใบหน้าและเส้นผม
- ทำความสะอาดปลอกหมอน ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอนอยู่เสมอ
การรักษา สิวอุดตันหัวปิด มีอะไรบ้าง
สิวอุดตันหัวปิด สามารถกดหัวสิวออกมาได้ ซึ่งวิธีนี้เป็นการรักษาที่นิยมใช้กันเพื่อป้องกันไม่ให้พัฒนากลายเป็นสิวอักเสบ การรักษาโดยการกดสิวนั้นควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะหากกดเองจะมีความเสี่ยงที่สิวจะกลายเป็นสิวอักเสบมากกว่า และอาจทำให้สิวเกิดขึ้นซ้ำ ทั้งยังเสี่ยงต่อการติดเชื้ออีกด้วย
การรักษาสิวอุดตันหัวปิด มีวิธีการรักษา ดังนี้
การเลือกใช้ยา
การทายา
ยาที่ใช้รักษาสิว ส่วนมากจะมีส่วนประกอบของเรตินอยด์ โดยรักษาเฉพาะจุดที่เกิดสิวเพื่อละลายสิวอุดตตัน และสามารถเร่งการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกมาได้ ซึ่งการทายาอาจจะต้องเข้ารับคำว่าแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากยาทาบางชนิด หากใช้ในปริมาณมากอาจทำให้เกิดแพ้ได้
การรับประทานยา
การรักษาในรูปแบบนี้ เพื่อความปลอดภัยและอยู่ในการควบคุมของแพทย์ ต้องจ่ายยาและประเมิน การจ่ายยาปฏิชีวนะ ยาปรับฮอร์โมน ในกรณีที่สิวอุดตันเกิดจากฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) เพื่อลดผลกระทบจากฮอร์โมน หากเลือกการรับประทานยาจะต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลลัพธ์ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ในสตรีมีครรภ์และให้นมบุตร
การฉีดยารักษา
การฉีดยารักษาสิว แพทย์จะทำใช้ยาในกลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroid) ฉีดเข้าไปในผิวหนังบริเวณที่เป็นสิว มักใช้กับปัญหาสิวอุดตันขนาดใหญ่ เช่น สิวซีสต์ สิวหัวช้าง
วิธีนี้อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติแพ้ยา (ไตรแอมซิโนโลน) วัณโรค ติดเชื้อราที่ผิวหนัง โรคเบาหวานชนิดควบคุมอาการไม่ได้ หัวใจวาย หรือความดันโลหิตสูงอย่างรุนแรง
การเลือกใช้ยา
วิธีนี้เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในการกำจัดสิวให้หลุดออก ควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญ ใช้เครื่องมือเฉพาะสามารถกดสิวออกได้โดยไม่ทำให้เนื้อเยื่อบอบช้ำ และมั่นใจเรื่องของความสะอาด
การใช้เลเซอร์
การใช้เลเซอร์ หรือ Dual Yellow Laser จะเป็นการใช้พลังงานแสงในการเจาะกดสิวแทน โดยเฉพาะในจุดที่มีสิวอุดตันอยู่ลึกก็จะกดออกมาได้ง่าย นอกจากกดสิวแล้ว เลเซอร์ยังสามารถเลเซอร์รอยดำ รอยแดงให้จางลง และช่วยในเรื่องใบหน้ากระจ่างใสได้อีกด้วย
สรุป
สำหรับการรักษา สิวอุดตันหัวปิด มีหลากหลายวิธีให้เลือกรักษา ตั้งแต่การใช้ยาทา ยากิน ยาฉีด รวมไปถึงการใช้เลเซอร์ บำรุงผิวหน้าหลังการรักษาสิวอุดตัน โดยจะแบ่งวิธีการรักษาตามความรุนแรงของสิวอุดตันนั่นเองค่ะ หรือใครที่ต้องการรักษาแบบเร่งด่วนไม่อยากเสียเวลา การใช้เลเซอร์ หรือ Dual Yellow Laser ก็เป็นหนึ่งตัวเลือกที่ดี นอกจากเรื่องสิวยังช่วยในเรื่องกระตุ้นคอลลาเจนและหน้าใสค่ะ