ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเกือบทุกคนที่เคยพบเจอกับปัญหาสิวมาก่อน ซึ่งปัญหาแต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป เช่น สิวอุดตัน สิวผด สิวอักเสบ สิวเสี้ยน ซึ่งมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน ทั้งกรรมพันธุ์ ฮอร์โมน หรือแม้แต่พฤติกรรม ที่ทำให้เกิดสิวอุดตันได้ แต่ละคนจะเลือกวิธีการรักษาที่แตกต่างเช่นเดียวกัน เชื่อเลยว่า ใบหน้าที่ไร้สิว ใคร ๆ ก็อยากเป็นแบบนั้น จึงใช้บทความนี้ในการแนะนำวิธีการรักษาสิวอุดตันที่ถูกต้องและเหมาะสม เพื่อให้ทุกคนสามารถเลือกและนำไปใช้ได้
สิวอุดตัน คืออะไร
สิวอุดตัน (Comedones) เป็นสิวที่สามารถพบเจอได้บ่อยที่สุด เมื่อเทียบกับสิวอื่น ๆ ไม่ใช่สิวอักเสบ แต่จะมีลักษณะนูนเหนือผิวหนัง เมื่อสัมผัสจะให้ความรู้สึกไม่เรียบเนียน มักเกิดที่บริเวณหน้าผาก แก้ม และคาง การเป็นสิวอุดตันนั้นรักษายาก แต่เมื่อหายแล้วก็สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้เรื่อย ๆ หากไม่เลือกรักษาแบบถูกวิธี
ลักษณะของสิวอุดตัน
โดยทั่วไปลักษณะของสิวอุดตัน จะสังเกตได้ง่าย คือ มีลักษณะนูนออกมาจากผิวหนัง มีสัมผัสที่แข็ง และมีลักษณะคล้ายสิวเสี้ยนอุดตันเล็ก ๆ ทำให้เกิดความระคายเคือง ซึ่งสิวอุดตันบางประเภทสามารถพัฒนาเป็นสิวอักเสบได้ ดังนั้นจึงต้องพบแพทย์เพื่อทำการรักษาทันที
ชนิดของสิวอุดตัน
สิวอุดตันที่มักพบได้ทั่วไปจะมีอยู่ 3 ประเภท ได้แก่ สิวหัวดำ สิวหัวขาว และ สิวอุดตันไม่มีหัว
สิวหัวดำ
สิวหัวดำ (Blackheads) หรือ สิวอุดตันหัวเปิด (Open Comedone) จะมีลักษณะเป็นสิวหัวดำแข็ง ๆ อยู่ตรงกลาง สามารถเห็นหัวสิวได้จากภายนอก ในระยะเริ่มแรก หัวสิวของสิวอุดตันหัวดำจะเห็นเป็นสีขาวเหลือง ซึ่งเป็นสีของเคราตินและไขมัน แต่เมื่อหัวสิวสัมผัสกับอากาศระยะหนึ่ง หัวสิวจะทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ และเปลี่ยนสีเป็นสีดำในที่สุด
สิวอุดตันหัวขาว
สิวอุดตันหัวขาว (Whiteheads) หรือ สิวอุดตันหัวปิด (Closed Comedone) มีลักษณะเป็นสิวเม็ดเล็ก ๆ หัวขาว ไม่สามารถมองเห็นหัวสิวได้จากภายนอก แต่เมื่อสัมผัสจะรู้สึกว่าเป็นปุ่มนูนขึ้นมา สิวหัวขาวนั้นสามารถกดหัวสิวออกมาได้ เป็นการรักษาวิธีหนึ่งที่นิยมใช้กันเพื่อป้องกันสิวหัวขาวพัฒนากลายเป็นสิวอักเสบ แต่การรักษาโดยการกดสิวนั้นควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะหากทำเองที่บ้านจะมีความเสี่ยงที่สิวจะกลายเป็นสิวอักเสบมากกว่าเดิม และเกิดขึ้นซ้ำ ทั้งยังเสี่ยงต่อการติดเชื้ออีกด้วย
สิวอุดตันไม่มีหัว
สิวอุดตันไม่มีหัว (Microcomedone) จะไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า สิวชนิดนี้สามารถเกิดขึ้นเองได้ตามธรรมชาติ จากฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) พบได้มากในหมู่วัยรุ่น หากมีอาการอักเสบ ก็สามารถพัฒนากลายไปเป็นสิวประเภทอื่นได้
สาเหตุการเกิดสิวอุดตัน
เนื่องจากสิวอุดตัน เกิดจากไขมันส่วนเกินใต้ชั้นผิว ที่ต่อมไขมันเกิดการทำงานและผลิตน้ำมันมากเกินไป ทำให้มีการตกค้างอยู่ในรูขุมขนและจับตัวรวมกับเซลล์ผิวที่ตายแล้ว หรือกลายเป็นสิ่งสกปรกที่ตกค้างในรูขุมขน นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่เป็นปัจจัยทำให้เกิดสิวอุดตัน ได้แก่
- อากาศร้อนมาก ๆ ทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมาปริมาณมากเกินไป
- การทานอาหารที่มีแป้ง ไขมัน น้ำมัน น้ำตาล มากเกินไป
- มลภาวะที่เจอในชีวิตประจำวัน เช่น ฝุ่นละออง ฝุ่นควัน
- ใช้เครื่องสำอางแล้วล้างหน้าไม่สะอาด มีสิ่งสกปรกตกค้าง
- ภาวะผิวหนังมีน้ำมากเกินไปในช่วงก่อนมีประจำเดือน
- การใช้ผลิตภัณฑ์น้ำยาสระผม แล้วเกิดอาการแพ้สารเคมี
- ล้างหน้าน้อยหรือบ่อยจนเกินไป
- พฤติกรรมที่ทำให้เกิดความระคายเคืองบนผิว เช่น การขัดหน้า บีบสิว การลอกหน้าผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี หรือการทำเลเซอร์
- เกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนที่ทำงานมากเกินไป
- ใส่เสื้อผ้าหนา หรือเครื่องแต่งกายอื่น ๆ ที่ทำให้เหงื่อไคล และสิ่งสกปรกสะสมอยู่ที่ผิวต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน
- การสูบบุหรี่ เพิ่มโอกาสในการเกิดสิวอุดตันได้มากขึ้น
- ความเครียด ทำให้ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง
สิวอุดตันขึ้นที่ไหนได้บ้าง
สิวอุดตันเกิดขึ้นได้หลายที่ทั่วร่างกาย ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมและสาเหตุการเกิดสิวอุดตันที่แตกต่างกันไป ดังนี้
สิวอุดตันที่หน้าผาก
สิวอุดตันที่หน้าผาก จะเป็นบริเวณที่พบได้บ่อยที่สุด โดยเฉพาะบริเวณที่เรียกว่า T-Zone ตรงหน้าผาก ซึ่งบริเวณนี้จะมีจำนวนต่อมไขมันมาก จึงมีการผลิตน้ำมันออกมาที่ผิวมากกว่าบริเวณอื่น ทำให้หน้าผากเป็นจุดที่เกิดสิวได้ง่าย โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวผสม รวมไปถึงการอุดตันของสิ่งสกปรกต่าง ๆ
สิวอุดตันที่คาง
สิวอุดตันที่คาง เป็นอีกจุดที่พบได้บ่อย และมักจะมีปัญหาเกิดสิวซ้ำซาก ยิ่งสถานการณ์ปัจจุบันที่ต้องสวมหน้ากากอนามัยทำให้สิวขึ้นบริเวณนี้มากกว่าเดิม โดยสิวอุดตันที่คางจะมีลักษณะเป็นหัวชัดเจน เป็นก้อนแข็ง หากมีสิวอุดตันที่คางแบบไม่ลึกมากก็สามารถกดออกได้ และควรกดสิวกับผู้เชี่ยวชาญ หากกดไม่ถูกวิธีคางเกิดจะเกิดรอยแผลง่ายมาก
สิวอุดตันที่แก้ม
สิวอุดตันที่แก้ม มักเกิดจากการใช้เครื่องสำอางหรือสกินแคร์แล้วทำความสะอาดไม่หมดก่อให้เกิดการอุดตัน รวมถึงการใช้แปรง พัฟ หรือฟองน้ำแต่งหน้าที่ไม่สะอาด ไม่ค่อยเปลี่ยนปลอกหมอน การสวมหน้ากากอนามัย หรือเกิดจากการแพ้สารเคมีต่าง ๆ ควรระมัดระวังและหมั่นทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
สิวอุดตันที่หลัง
สิวอุดตันที่หลัง เกิดจากการอุดตันของรูขุมขน แบคทีเรีย ความมัน เซลล์ผิวที่ตายแล้ว นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากเหงื่อ บางครั้งออกกำลังกายแล้วไม่รีบทำความสะอาดร่างกาย เหงื่อที่ออกในเสื้อทำให้เกิดการหมักหมม และสิวที่หลังยังสามารถเกิดสาเหตุอื่น ๆ ได้ เช่น ฮอร์โมน กรรมพันธุ์ แพ้สารเคมี
การรักษาสิวอุดตัน
แนวทางการรักษาสิวอุดตันมีได้หลากหลายวิธี ตั้งแต่การใช้ยาทา ยากิน ยาฉีด รวมไปถึงการใช้เลเซอร์ บำรุงผิวหน้าหลังการรักษาสิวอุดตัน โดยจะแบ่งวิธีการรักษาตามความรุนแรงของสิวอุดตัน
ทายารักษาสิวอุดตัน
ยาที่ใช้รักษาสิว จะมีส่วนประกอบของเรตินอยด์ (Retinoids acid) ซึ่งเป็นยาทารักษาเฉพาะจุดที่เกิดสิวเพื่อละลายสิวอุดตัน เช่น Isotretinoin, Adapalene มีฤทธิ์ที่ช่วยสลายการอุดตันในต่อมไขมัน และชะลอการหลั่งน้ำมันส่วนเกิน รวมไปถึงสามารถเร่งการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออก แต่ถ้าใช้ในปริมาณมากอาจทำให้เกิดแพ้ได้ และยังมีข้อห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์อีกด้วย
รับประทานยารักษาสิวอุดตัน
สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวอุดตัน และสิวอักเสบร่วมด้วย แพทย์จะพิจารณาจ่ายยาปฏิชีวนะ หรือจ่ายยาปรับฮอร์โมน ในกรณีที่สิวอุดตันเกิดจากฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) เพื่อลดผลกระทบจากฮอร์โมนเพศชายที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดสิว หากเลือกการรับประทานยาจะต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลลัพธ์ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ในสตรีมีครรภ์และให้นมบุตร ยาปฏิชีวนะเหล่านี้ มีผลอาจทำให้ผิวไวต่อแสง จึงควรใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดร่วมด้วย
การฉีดยารักษาสิวอุดตัน
การฉีดยารักษาสิวใช้ยาในกลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroid) ฉีดเข้าไปในผิวหนังบริเวณที่เกิดสิว มักใช้กับปัญหาสิวอุดตันขนาดใหญ่ เช่น สิวซีสต์ สิวหัวช้าง โดยแพทย์จะฉีดยาเข้าชั้นผิวหนังบริเวณที่เป็นสิว แต่จะไม่ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง เพื่อไม่ให้เกิดรอยบุ๋มที่ผิว ไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติแพ้ยาไตรแอมซิโนโลน เป็นวัณโรคหรือติดเชื้อราที่ผิวหนัง โรคเบาหวานชนิดควบคุมอาการไม่ได้ หัวใจวาย หรือความดันโลหิตสูงอย่างรุนแรง แต่ไม่ให้ใช้ติดต่อกันนาน เพราะอาจเกิดผลกระทบกับร่างกายได้
การกดสิวอุดตัน
วิธีกดสิว มักจะเป็นวิธีแรกที่หลายคนเลือกในการกำจัดสิวให้หลุดออก แต่ความจริงแล้วการกดสิวควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญ ใช้เครื่องมือเฉพาะสามารถกดสิวออกได้โดยไม่ทำให้เนื้อเยื่อบอบช้ำ และมั่นใจเรื่องของความสะอาด โดยเฉพาะสิวอุดตัน หากกดไม่ถูกต้องหรือกดเอาหัวสิวออกมาไม่หมด อาจทำให้เกิดการอักเสบ เป็นรอยแดง ทิ้งรอยแผลเป็นไว้ และทำให้เกิดซ้ำได้อีกด้วย ซึ่งเป็นเรื่องยากในการรักษา ยิ่งเป็นบริเวณคางยิ่งเกิดรอยและเป็นแผลได้ง่าย
การจี้ด้วยไฟฟ้า
การจี้ด้วยไฟฟ้า (Electrosurgery) เป็นการรักษาสิวอุดตันในกรณีที่เป็นสิวเยอะมาก ๆ โดยการใช้เครื่องจี้ไฟฟ้าลงบนผิวที่เป็นสิว เพื่อกำจัดสิวอุดตัน โดยจะใช้ที่กดสิวกดเอาสิ่งที่อุดตันออก ช่วยรักษาสิวอุดตันจำนวนมากได้ดีและรวดเร็วมากกว่าการทายาหรือแต้มยาทั่วไป แถมใช้เวลาในการรักษาไม่นาน
การกรอผิว
การกรอผิว (Microdermabrasion) คือการผลัดเซลล์ผิวเก่า เพื่อทำให้สิวอุดตันหลุดออก นอกจากนี้ยังสามารถกรอผิวได้ทุกส่วนของร่างกาย ตั้งแต่ใบหน้า ลำคอ ริ้วรอยที่คอ หรือแม้แต่กระทั่งบริเวณอื่น ๆ ที่มีปัญหาผิวไม่เรียบเนียน สามารถกำจัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดออกได้ นอกจากนั้นยังทำให้ผิวดูกระจ่างใสและสดใสขึ้น
เมื่อทำการรักษาสิวอุดตันแล้ว บางคนอาจจะพบเจอกับปัญหาตามหา ทั้งผิวยังมีริ้วรอย ไม่เรียบเนียน หรืออาจเกิดรอยแผลเป็นและหลุมสิวแทน จึงต้องรักษาด้วยขั้นตอนต่อไป ได้แก่
เลเซอร์สิวอุดตัน
การใช้เทคโนโลยีเลเซอร์รักษาสิวอุดตัน มีทั้งกำจัดสิวอุดตันและรักษาผิวหน้าให้กระจ่างใส โดยมีหลักการคล้ายการใช้เข็มเจาะเพื่อทำให้สามารถกดสิวได้ง่ายขึ้น แต่การใช้เลเซอร์จะเป็นการใช้พลังงานแสงในการเจาะแทน การกดสิวอุดตันก็จะง่ายขึ้น เร็วขึ้น โดยเฉพาะในจุดที่มีสิวอุดตันอยู่ลึกก็จะกดออกมาได้ง่าย ๆ นอกจากนี้ยังสามารถเลเซอร์รอยดำ รอยแดง ให้จางลง หรือที่เรียกกันว่า การทำ Dual Yellow Laser จะ ทำให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสขึ้นได้ด้วย
ในกรณีที่เกิดเป็นหลุมสิวหลังจากเกิดการอักเสบ จะต้องมีการรักษาที่ถูกวิธี เพื่อให้หลุมสิวตื้นขึ้น ใบหน้าดูเรียบเนียนขึ้น คือการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวและการทำ Fractora เทคโนโลยีที่ใช้คลื่นความถี่วิทยุแบบแฟรกชั่นนอล (Fractional radio-frequency) ทำหน้าที่ช่วยรักษาปัญหาของโครงสร้างผิว เช่น หลุมสิว แผลเป็น ช่วยฟื้นฟูผิว ลดริ้วรอยแห่งวัย ทำให้ผิวมีสุขภาพที่ดีขึ้น
การฉีดเมโสหน้าใส หรือ มาเด้คอลลาเจน
การฉีดเมโสหน้าใส คือ การส่งตัวยา หรือสารอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหารเข้มข้นเข้าสู่ผิว เช่น วิตามิน Coenzyme Q10 แร่ธาตุ และกรดอะมิโนโดยใช้เข็มฉีดขนาดเล็ก ประมาณ 27-30 G มีขนาดเล็กกว่าก้านดอกเข็ม เข้าไปยังตำแหน่งต่าง ๆ โดยตรง เพื่อแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูผิวได้อย่างตรงจุด ผลที่ได้จะดูเป็นธรรมชาติ แก้ปัญหาผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมาเด้คอลลาเจนจะช่วยลดการอักเสบ ขับสารพิษที่สะสมออก และช่วยให้ต่อมไขมันทำงานลดลง ช่วยลดสิว ถ้าต้องการให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนควรฉีดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงระยะแรกฉีดเพียงสัปดาห์ละครั้ง เมื่อเริ่มเห็นผลชัดขึ้นสามารถเว้น 2 สัปดาห์ หรือเดือนละครั้งได้
การป้องกันสิวอุดตัน
การป้องกันสิวอุดตัน ทุกคนสามารถทำได้ โดยเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ลดอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล ไขมัน ที่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เกิดสิว ดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ รวมไปถึงไม่ใช้มือสัมผัสใบหน้า เพราะเราไม่รู้ว่ามือของเราสัมผัสสิ่งสกปรกอะไรบ้าง จึงต้องหมั่นรักษาความสะอาดทั้งใบหน้าและเส้นผม ทำความสะอาดปลอกหมอน ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอนอยู่เสมอ หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานานๆ เพราะจะทำให้ผิวแห้งกร้านและทำให้ผิวผลิตน้ำมันมาหล่อเลี้ยงผิวมากเกินไป ปัญหาที่กล่าวมาอาจเป็นต้นเหตุของการเกิดสิวอุดตันได้
สิวอุดตันควรไปหาพบแพทย์ไหม
เมื่อเริ่มสังเกตตัวเองว่ามีสิวอุดตัน สามารถไปพบแพทย์ได้ทันที อย่าปล่อยให้สิวอุเตันพัฒนากลายเป็นสิวอักเสบ จึงต้องพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ประเมินปัญหาและรักษาอย่างถูกวิธี จะทำให้ผลการรักษาและผลลัพธ์หายเร็วขึ้น ลดการเกิดรอยแผลตามมา
การดูแลรักษาสิวอุดตันด้วยตัวเอง
การป้องกันไม่ให้เป็นสิวอุดตัน สามารถเริ่มต้นด้วยการดูแลด้วยตัวเอง จุดสำคัญคือการรักษาความสะอาดของผิวหน้า และไม่ทำให้เกิดการอักเสบเพิ่มเติม
- พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่นอนดึก เพื่อให้เซลล์ผิวได้ฟื้นฟู
- เลี่ยงการเช็ดหน้าหรือนวดหน้าแรงจนเกินไป
- หลีกเลี่ยงการบีบหรือกดสิวด้วยตัวเอง เพราะหากทำผิดวิธีมักจะก่อให้เกิดแผลและหลุมสิวได้
- ควรล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่มีความอ่อนโยนและไม่ควรล้างหน้า หรือขัดถูแรง ๆ
- ควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เพิ่มความชุ่มชื้น ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน
- ลดการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาล ไขมัน
- ดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ ให้เพียงพอต่อร่างกายในแต่ละวัน
- รับประทานผักผลไม้ น้ำผลไม้เป็นประจำ การที่เรากินอาหารจำพวกผัก จะทำให้เราสามารถล้างพิษออกจากร่างกายได้
- ก่อนทายาแต้มสิว ควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง
- ไม่แกะ เกา บีบสิว หรือจับบริเวณใบหน้าบ่อย ๆ
- ไม่ปล่อยให้ฝุ่น มลภาวะ คราบไคล สิ่งสกปรก เกาะอยู่บนผิว ควรทำความสะอาดทันที
- ลดความเครียด ทำจิตใจให้แจ่มใส
สรุป
สิวอุดตันเป็นสิวที่รักษาให้หายได้ แต่ต้องรักษาอย่างถูกวิธีไม่งั้นจะเกิดการอักเสบจนกลายเป็นหลุมสิวได้ ก่อนการรักษาต้องทราบระดับของสิวก่อน เพื่อความถูกต้องและแม่นยำในการรักษาให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจน