เรื่องใหญ่กวนใจหนุ่มสาว ปัญหาหลุมสิว เกิดง่ายหายยาก

ปัญหาหลุมสิว ปก

ปัญหาใหญ่ที่กวนใจใครหลาย ๆ คน หลุมสิวเกิดง่ายแต่หายยาก ปัญหาหลุมสิว บ้างลุกลามไปถึงผิวลึกลงไปจนอาจถึงเนื้อใน ทำให้เนื้อเกิดเป็นหลุม กว่าจะรักษาให้หายดีได้ ต้องรักษาแบบค่อยเป็นค่อยไป แล้วผลลัพธ์ที่ได้จะออกมาดี เพราะหากใจร้อนหรือเร่งรีบจนเกินไปอาจเกิดการทำร้ายผิวได้

สารบัญ

มารู้จักนวัตกรรมรักษาหลุมสิวที่ดีที่สุด ได้ที่นี่

หลุมสิวคืออะไร

หลุมสิว คือ สิวอักเสบ สิวหัวช้าง ทำให้คอลลาเจนในผิวถูกทำลาย และถึงสิวอักเสบจะหายแล้ว แต่มันก็จะกลายเป็นแผลเป็น ทำให้เกิดพังผืดมารั้งผิวหนังไว้จนทำให้กลายเป็นหลุมสิว

หลุมสิวเกิดจาก

  • สิวหัวช้างเม็ดโต
  • ผิวหนังติดเชื้อแบคทีเรียลุกลาม
  • สิวอักเสบรุนแรง

สิวเหล่านี้ถ้าขึ้นมานาน หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง จะทำให้ใต้ชั้นผิวหนังบริเวณนั้น ๆ เกิดเป็นหนอง เป็นโพรงขึ้นมา ถ้าหากรักษาผิดวิธี อาทิ หลายคนชอบไปบีบ แคะ แกะ เกา บ้างปล่อยให้หายเอง จนเป็นแผล ผิวก็จะยุบตัวลง ทำให้คอลลาเจนภายในผิวลดลง จนกลายเป็นพังผืดขึ้นมาใต้รอยแผล กลายเป็นหลุมสิว

หลุมสิว ระดับ

ระดับความรุนแรงของหลุมสิว

  1. ระดับ Ice pick scar (ระดับรุนแรงที่สุด) หลุมสิวระดับนี้จะเป็นหลุมลึก มีปากแคบ รักษาได้ยากมาก เพราะแนวหลุมเป็นไปในทางลึก กว่าผิวจะฟื้นฟูจนเต็มคงต้องใช้เวลานานในการรักษา ซึ่งหลุมระดับนี้ใช้ยาทาก็มักจะเอาไม่อยู่ แต่ทำได้แค่ช่วยให้รอยมันตื้นขึ้นมาเท่านั้น
  2. ระดับ Box scar (ระดับรุนแรงปานกลาง) หลุมสิวระดับนี้จะมีลักษณะเป็นบ่อ มีขอบชัดเจนและมีขอบกว้างกว่าระดับ Ice pick scar แต่จะมีความตื้นกว่า เพราะมันจะกินความลึกแค่ชั้นผิวเท่านั้น ไม่ได้กินไปจนถึงชั้นรูขุมขน หลุมสิวระดับนี้ รักษาหลุมสิว นั้นสามารถใช้วิธีการทายาทา ควบคู่ไปกับการทำทรีตเมนต์ เลเซอร์ ซึ่งรอยหลุมอาจจะเหลือร่องรอยจุดด่างดำอยู่บ้าง แต่ก็ค่อนข้างจะให้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจหลังการรักษา
  3. ระดับ Rolling scar (ระดับทั่วไป) หลุมสิวระดับนี้เป็นลักษณะแบบตื้น ๆ เป็นแบบเว้าลงไป กินพื้นที่แค่ส่วนบนของผิวเพียงเล็กน้อย ซึ่งหลุมระดับนี้มักจะเกิดจากการแกะเกาสิวที่อยู่ในระดับที่ไม่ลึกมาก และสามารถรักษาหลุมสิว ได้ง่ายกว่าระดับอื่น ๆ

วิธีรักษาหลุมสิว

บอกลาปัญหาหลุมสิวกวนใจด้วย 5 วิธีการรักษา ดังนี้

  1. ทาครีมที่มีส่วนผสมธรรมชาติ

หากใครที่อยากรักษาหลุมสิว แต่ก็กลัวการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจทำให้หน้าพังกว่าเดิม ให้เริ่มจากการใช้ครีมที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติค่ะ หรือจะใช้เป็นสูตร DIY ที่นำวัตถุดิบธรรมชาติแต่ละอย่างมาใช้โดยเฉพาะ ส่วนผสมธรรมชาติ เช่น ว่านหางจระเข้ ที่มีสาร Aloctin A มาช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ จึงทำให้หลุมสิวค่อย ๆ ตื้นขึ้น

  1. ทาครีมที่มีส่วนผสมเคมี

หากลองวิธีรักษาตามธรรมชาติแล้วหายช้า ลองมาใช้ครีมที่มีส่วนผสมเคมีอย่าง Retin-A  เพราะใช้แล้วจะช่วยในเรื่องการผลัดเซลล์ผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นได้นั่นเอง แต่ครีมที่มีส่วนผสมของอนุพันธ์วิตามินเออย่าง Retin-A อาจจะค่อนข้างออกฤทธิ์แรงกับผิวหน้า แต่ในระหว่างที่ทา ก็ควรหลีกเลี่ยงแสง

3. ผลัดเซลล์ผิว

นอกจากการใช้ครีมช่วยในการรักษาหลุมสิวแล้ว เราจำเป็นที่จะต้องผลัดเซลล์ผิวด้วยเช่นกัน เพราะการผลัดเซลล์ผิว จะช่วยกำจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออก ทำให้เผยผิวใหม่ที่เรียบเนียนขึ้น หลุมสิวตื้นขึ้นได้นั่นเอง อาจจะลองใช้เป็นโทนเนอร์ ครีม หรือมาส์กหน้า ที่มีคุณสมบัติช่วยในการผลัดเซลล์ผิว และใช้เป็นประจำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ก็จะช่วยผลัดเซลล์ผิว ให้หลุมสิวตื้นขึ้นได้เช่นกัน

  1. ฉีดฟิลเลอร์

อีกหนึ่งวิธีที่ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น ก็คือ การฉีดฟิลเลอร์ (Filler) นั้นเป็นชื่อที่ใช้เรียกแทน “สารเติมเต็ม” โดยสารที่นิยมนำมาใช้กันมากก็คือ ไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ส่วนใหญ่แล้วการ รักษาหลุมสิว ด้วยวิธีนี้จะค่อนข้างได้ผลประมาณ 30-70% เลยทีเดียว  เพราะมันเป็นการฉีดสารเข้าไปเพื่อเติมเต็มรอยหลุมในทันที ไม่จำเป็นต้องรอให้ร่างกายสร้างเนื้อขึ้นมาเอง

การรักษาวิธีนี้จะใช้กับหลุมสิวประเภท Rolling scar เพราะไม่มีพังผืดเกาะที่หลุมวิธีนี้ใช้กับหลุมสิวที่มีพังผืดเกาะไม่ได้ผล เพราะพังผืดเป็นตัวกั้นการสร้างคอลลาเจน

ฟิลเลอร์จมูก เท่าไร

5.เลเซอร์หลุมสิว

สำหรับคนที่รู้สึกว่าการใช้ครีมและผลัดเซลล์ผิวแล้วหลุมสิวหายช้าไป การเลเซอร์ถือเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยรักษาหลุมสิวได้เร็วขึ้น ซึ่งมีให้เลือกหลายแบบ เช่น

  • Cool Touch Laser: ยิงเลเซอร์ไปที่ผิวชั้นกลางเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เหมาะสำหรับหลุมสิวแบบ Rolling Scar ไม่ค่อยเจ็บเพราะมีการทายาชา ทำ 5-7 ครั้ง ห่างกัน 2-4 สัปดาห์จึงเห็นผล
  • Laser Fraxel: ใช้แสงเลเซอร์กระตุ้นให้เซลล์ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ทำให้เกิดการสร้างเซลล์ใหม่และผลัดเซลล์ผิว ค่อนข้างเจ็บและต้องหลีกเลี่ยงแดดหลังทำ ควรทำ 4-5 ครั้ง เดือนละครั้งเพื่อป้องกันผิวอักเสบ
  • Laser Fractional CO2: เลเซอร์ที่รุนแรงและให้ผลลัพธ์ดีที่สุด สามารถตัดพังผืดแนวดิ่ง แต่ก็ทำลายผิวชั้นบนมากเช่นกัน ต้องเตรียมใจพักฟื้นนานกว่าผิวจะสร้างใหม่ ได้ผลถึง 70% ควรทำ 4 ครั้ง เดือนละครั้ง ระหว่างนั้นต้องหลีกเลี่ยงแดดเพื่อไม่ให้ผิวคล้ำเป็นรอย
  • Intense Pulsed Light (IPL): ใช้แสงหลายความยาวคลื่นกระตุ้นคอลลาเจนบริเวณหลุมสิว เหมาะสำหรับหลุมสิวทั่วไป (Rolling Scar) แต่ไม่ค่อยได้ผลกับแบบอื่น ทำ 4 ครั้ง ห่างกันเดือนละครั้ง อาจมีผลข้างเคียงอย่างผิวแดง คล้ำ และเป็นสะเก็ด ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะพลังงานแสงที่ไม่พอดีจะทำให้เกิดรอยไหม้หรือรักษาไม่ได้ผล

ข้อควรระวังเกี่ยวกับการรักษาหลุมสิว

  1. ใช้ครีมกันแดดทุกวันเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรด AHA เพราะทำให้ผิวไวต่อแสงแดด
  2. อย่าใช้กรด AHA ติดต่อกันนานเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวบางลง หากระคายเคืองหรือเป็นผื่น ให้หยุดใช้ทันที
  3. ล้างสมุนไพรให้สะอาดทุกครั้งก่อนนำมาใช้กับผิวหน้า เพื่อป้องกันการระคายเคืองจากน้ำยางในสมุนไพรบางชนิด

ไม่ว่าจะเลือกวิธีไหนในการรักษาหลุมสิว ควรศึกษาให้ดีและปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น และช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างปลอดภัยและได้ผลดีที่สุดค่ะ

แก้ปัญหาหลุมสิวด้วยโปรแกรม Fractora

Fractora เครื่องรักษาหลุมสิวที่ดีที่สุดในตอนนี้ โปรแกรมรักษาหลุมสิว ด้วย Fractora เป็นการใช้เทคโนโลยีในกลุ่มที่ ใช้พลังงานความถี่วิทยุ (Radio frequency) ความถี่ 1 MHz โดยหลักการทำงานของเครื่อง คือการปล่อยความร้อน (อุณหภูมิ 40-100 องศา) จากพลังงานความถี่วิทยุ แบบ 2 ขั้ว (Biporlar)  ส่งพลังงานผ่านเข็มขนาดเล็ก (Pin) ลงไปใต้ชั้นผิวหนังแท้ แบบ Fractional

กระบวนการ Ablation ร่วมกับกระบวนการ Coagulation และกระบวนการ Sub-necrotic heating ก่อให้เกิดกระบวนการการผลัดผิวชั้นบนแบบมีแผล และยังคงกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นใยคอลลาเจนขึ้นมาใหม่

ทำให้การจัดเรียงตัวของคอลลาเจนเดิมดียิ่งขึ้น ทำให้ผิวที่หย่อนคล้อยกระชับขึ้น ริ้วรอยเหี่ยวย่นจางลง รวมถึงปัญหาแผลเป็นหรือแผลหลุมสิวนั้นดีขึ้น จึงเป็นการรักษาหลุมสิวที่ดีที่สุดในขณะนี้

สรุป

ปัญหาหลุมสิว นั้นเกิดจากหลากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการแกะ แคะ เกา หรือการบีบสิวด้วยมือที่สกปรก จนทำให้เกิดเป็นหลุม เป็นแผล และวิธีการรักษาก็มีหลายวิธีเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการและความพึงพอใจในการเลือกการรักษา แต่สำคัญที่สุดคือ ต้องใจเย็น  รักษาแบบค่อยเป็นค่อยไป แล้วผลลัพธ์ที่ได้จะออกมาดี หากใจร้อนหรือเร่งรีบเกินไปอาจเกิดการทำร้ายผิวให้เสียหายหนักกว่าเดิม

บทความแนะนำสำหรับผู้สนใจ หลุมสิว

ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง RWC Clinic

ทีมแพทย์ RWC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า