ฉีดไขมันหน้า (Fat Grafting) เติมเต็มหน้าเด็กด้วยไขมัน | รีวิว ข้อดี-ข้อเสีย
คุณหมอสรุปให้ ฉีดไขมันหน้า (Fat Grafting)
- ฉีดไขมันหน้า (Fat Grafting) คือ การเติมเต็มใบหน้าด้วยไขมันจากตัวเราเอง โดยดูดไขมันจากส่วนที่ไม่ต้องการ เช่น หน้าท้อง ต้นขา แล้วนำมาฉีดเติมเต็มในจุดที่ขาดบนใบหน้า เพื่อปรับรูปหน้าและฟื้นฟูสภาพผิว
- ใช้ไขมันจากร่างกายตัวเอง จึงมีความเข้ากันได้กับร่างกายสูง ลดความเสี่ยงการแพ้และผลข้างเคียง มีเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cell) ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูคุณภาพผิวได้
- ไขมันที่รอดชีวิตหลังการฉีดจะอยู่ได้เป็นระยะเวลานาน ประมาณ 50-70% ของปริมาณที่ฉีดจะคงอยู่ได้ถาวร ทำให้เป็น “ฟิลเลอร์ที่มีชีวิต” ที่ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติมากกว่าฟิลเลอร์สังเคราะห์
- ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เนื่องจากต้องอาศัยเทคนิคการดูดไขมัน การแยกเซลล์ไขมัน และการฉีดที่ละเอียดอ่อน เพื่อให้ไขมันมีชีวิตรอดและติดได้ดีที่สุด
ปัจจุบันหัตถกาทางด้านรความงามมีความหลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะการฉีดไขมันหน้าที่ได้รับความนิยมอย่างมาก การตัดสินใจเลือกทำจึงต้องอาศัยข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนเพื่อความปลอดภัย ในบทความนี้จะรวบรวมข้อมูลสำคัญที่ควรทราบก่อนการฉีดไขมันหน้า ไม่ว่าจะเป็นข้อดี-ข้อเสีย ใครบ้างที่เหมาะสม ความเจ็บปวด ระยะเวลาที่คงอยู่ ความเสี่ยง และผลข้างเคียง เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจอย่างปลอดภัย เหมาะสม และได้ผลลัพธ์ที่สวยงามค่ะ
- ฉีดไขมันหน้า คืออะไร
- ข้อดีของการฉีดไขมันหน้า
- ข้อเสียของการฉีดไขมันหน้า
- ใครบ้างเหมาะกับการฉีดไขมันหน้า
- ตำแหน่งที่นิยมฉีดไขมันหน้า
- ขั้นตอนการฉีดไขมันหน้า
- ฉีดไขมันหน้าเจ็บหรือไม่
- ไขมันที่ฉีดนำมาฉีดมาจากส่วนใดของร่างกาย
- ฉีดไขมันหน้า ระยะเวลาอยู่ได้นานแค่ไหน
- ฉีดไขมันหน้ากี่วันหายบวม
- ความปลอดภัยของการฉีดไขมันหน้า
- ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดไขมัน
- ต้องฉีดไขมันซ้ำครั้งที่ 2 หรือไม่
- เทียบความต่าง ฉีดไขมันหน้า VS ฉีดฟิลเลอร์
- การเตรียมตัวก่อนฉีดไขมันหน้า
- การดูแลหลังฉีดไขมันหน้า
- ฉีดไขมันที่ไทยกับเกาหลี เหมือนหรือต่างกันอย่างไร
- ฉีดไขมันหน้าที่ไหนดี เกณฑ์การเลือกคลินิก
- ฉีดไขมันหน้ากับการปรับโหงวเฮ้ง
- ราคาฉีดไขมันหน้า
- รีวิวฉีดไขมันหน้า ที่คลินิก RWC
- คำถามที่พบบ่อย ฉีดไขมันหน้า
- ฉีดไขมันหน้าเจ็บไหม?
- หลังฉีดไขมันหน้า หน้าจะบวมมาก ๆ จริงไหม?
- ฉีดไขมันหน้าปลอดภัยไหม ?
- สามารถใช้ไขมันของคนอื่นมาฉีดได้ไหม?
- ใช้เวลาฉีดนานไหม?
- ทำไมไขมันจากการดูดเพื่อลดสัดส่วน ถึงใช้ฉีดไขมันหน้าไม่ได้?
- ฉีดไขมันหน้าแล้วจะเป็นก้อนไหม?
- บทสรุป
ฉีดไขมันหน้า (Fat Grafting) คือ การเติมเต็มใบหน้าด้วยไขมันตัวเอง เรียกอีกอย่างว่า stem cell มีหน้าที่ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว เช่น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ปรับสมดุลการผลัดเซลล์ผิวเติมในส่วนที่ขาดบนใบหน้า หรือเรียกง่าย ๆ คือ การย้ายเซลล์ไขมันที่ไม่ต้องการ
การเติมไขมันหน้าไปจะช่วยเติมเต็มในส่วนที่ขาดแทน เพราะใช้ไขมันจากร่างกายตัวเอง จึงมีความเสี่ยงต่อการแพ้น้อยกว่าการใช้สารสังเคราะห์ หรือ สิ่งแปลกปลอม เพราะไขมันของเราจะมีเซลล์ฟื้นฟูอยู่ และเซลล์ที่อยู่ในไขมันสามารถช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้ดีขึ้นได้
- แผลเล็กและเจ็บน้อย ใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่าการผ่าตัด
- ปลอดภัยจากสารแปลกปลอม เพราะใช้ไขมันจากตัวเราเอง
- ความคงทน ไขมันที่รอดชีวิตหลังจาก 6 เดือนจะอยู่ได้อย่างถาวร แม้ว่าบางส่วนอาจสลายตัวไปในช่วงแรก
- เป็น “ฟิลเลอร์ที่มีชีวิต” สามารถฟื้นฟูความมีชีวิตชีวาของผิวหน้าได้
- ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ เนื่องจากมี stem cell และ growth factor ในเซลล์ไขมันที่ช่วยฟื้นฟูคุณภาพผิว ทำให้ผลลัพธ์ดูกลมกลืนและเป็นธรรมชาติ
- ความเสี่ยงต่ำ มีความเสี่ยงต่อการแพ้หรือผลข้างเคียงน้อยกว่าสารสังเคราะห์อื่น
- ไม่เหมาะกับคนผอมมาก เนื่องจากไม่สามารถดูดไขมันจากคนที่มีน้ำหนักน้อยหรือผอมมากได้
- ไขมันสลายตัวบางส่วน ตามการศึกษาใน Plastic and Reconstructive Surgery ปี 2019 พบว่าใน 6 เดือนแรกไขมันสลายตัว 40-50% และหลัง 1 ปีเหลือประมาณ 50-70% ของปริมาณที่ฉีด
- อาจต้องทำซ้ำ บางคนอาจต้องฉีดซ้ำ 2-3 ครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและตำแหน่งที่ฉีด
| อ่านเพิ่มเติม ฉีดไขมันหน้า อันตรายไหม สวยปลอดภัยจริงหรือ ?
- ผู้ที่มีแก้มผอมหรือแก้มตอบ สามารถแก้ไขได้ด้วยการเติมเต็มเพื่อสร้างความสมดุลให้ใบหน้า
- ผู้ที่ต้องการเติมหน้าผากให้นูน เพื่อเพิ่มมิติและความกลมกลืนกับจมูก
- ผู้ที่มีโครงหน้าเหลี่ยมหรือโหนกแก้มสูง การฉีดไขมันช่วยปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วนมากขึ้น
- ผู้ที่มีริ้วรอยลึกตามวัย เพราะการฉีดไขมันช่วยลดเลือนริ้วรอยได้
- ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนโครงหน้าให้ดูนุ่มนวล ช่วยเปลี่ยนใบหน้าที่ดุดันให้ดูหวานและซอฟท์ขึ้น
- ผู้ที่ไม่ต้องการฉีดฟิลเลอร์หรือสารสังเคราะห์ เหมาะสำหรับผู้ที่กลัวแพ้สารเคมี
- ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดใส่ซิลิโคน การฉีดไขมันให้ผลที่ถาวรและเป็นธรรมชาติทั้งการมองเห็นและการสัมผัส
- ผู้ที่ต้องการปรับปรุงสุขภาพผิว เนื่องจากการฉีดไขมันช่วยฟื้นฟูผิวและกระตุ้นคอลลาเจนได้
ตำแหน่งที่นิยมฉีดไขมันหน้า
การฉีดไขมันหน้าเป็นวิธีเสริมความงามที่ใช้ไขมันของผู้รับการรักษาเอง เพื่อช่วยเพิ่มปริมาตร ลดริ้วรอย และฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้า วิธีนี้ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและยั่งยืน ช่วยปรับรูปหน้าและคุณภาพผิว โดยสามารถฉีดหลายหลายตำแหน่ง โดยมีตำแหน่งยอดนิยมหลายจุดบนใบหน้า มีดังนี้
ฉีดไขมันหน้าผาก
การเติมไขมันที่หน้าผากช่วยแก้ไขปัญหาหน้าผากแบนหรือมีร่องลึก เพิ่มปริมาตรให้หน้าผาก ลดรอยย่น และสร้างความอ่อนเยาว์ ทำให้หน้าผากดูเต่งตึงและเรียบเนียน แต่ต้องระมัดระวังปริมาณเพื่อไม่ให้ดูโหนกเกินไป
ฉีดไขมันใต้ตา
การแก้ไขปัญหาร่องลึกใต้ตา (tear trough) และถุงใต้ตา ช่วยลดความหมองคล้ำ ทำให้ดวงตาดูสดใสและอ่อนเยาว์ อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งนี้ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญสูงจากแพทย์ เนื่องจากเป็นบริเวณที่บอบบางและต้องใช้เทคนิคที่พิถีพิถัน
ฉีดไขมันแก้ม
ตำแหน่งแก้มหากเติมไขมันหน้าไปจะช่วยเพิ่มปริมาตรให้แก้ม แก้ไขปัญหาแก้มตอบ สร้างโครงหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ ใบหน้าดูเต็ม มีมิติ ลดรอยย่นรอบปาก การฉีดตำแหน่งนี้ต้องอาศัยการฉีดในหลายระดับชั้น ตั้งแต่ชั้นลึกถึงตื้น เพื่อให้ได้รูปทรงที่เป็นธรรมชาติ
ฉีดไขมันร่องแก้ม
แก้ไขปัญหาร่องแก้มลึก (nasolabial folds) ซึ่งทำให้ใบหน้าดูแก่ ช่วยลดความลึกของร่องแก้ม ทำให้ใบหน้าดูเต่งตึงและอ่อนเยาว์ขึ้น อาจต้องแก้ไขบริเวณใกล้เคียงด้วยเพื่อผลลัพธ์ที่กลมกลืน
ฉีดไขมันคาง
แก้ไขปัญหาคางสั้น เล็ก หรือถอยร่น โดยเพิ่มความยาวและปริมาตร ทำให้ใบหน้าสมดุลและดูอ่อนเยาว์ขึ้น ผลลัพธ์คือคางที่ชัดเจน ลดปัญหาคางสองชั้น และปรับสมดุลใบหน้าโดยรวม
ฉีดไขมันขมับ
แก้ไขปัญหาขมับตอบหรือบุ๋ม ซึ่งทำให้ใบหน้าดูแก่และผอม เติมเต็มส่วนที่ตอบ ทำให้กรอบหน้าสมบูรณ์และอ่อนเยาว์ขึ้น ช่วยยกกรอบตาให้สดใส
การฉีดไขมันหน้าแต่ละตำแหน่งจะช่วยแก้ไขจุดบกพร่องที่ต่างกัน และเมื่อทำร่วมกันหลายตำแหน่งจะช่วยปรับโครงหน้าโดยรวม ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ มีมิติ และเป็นธรรมชาติมากขึ้น เนื่องจากการฉีดแต่ละตำแหน่งต้องอาศัยเทคนิคเฉพาะที่ต่างกัน
แพทย์ที่ทำการรักษาควรวิเคราะห์ใบหน้าของผู้รับบริการอย่างละเอียด แล้ววางแผนการฉีดไขมันแต่ละตำแหน่งให้เหมาะสม เพื่อปรับโครงหน้าแบบองค์รวม ไม่ใช่แค่ปรับแต่ละจุดแบบแยกส่วน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและกลมกลืม
ซึ่งผลลัพธ์อาจไม่คงที่ในช่วงแรก เพราะไขมันบางส่วนจะถูกดูดซึมไป อาจต้องรอประมาณ 3-6 เดือน เพื่อเห็นผลลัพธ์สุดท้าย หลังไขมันค่อย ๆ เกาะตัวกับเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังอย่างเต็มที่ ซึ่งในบางรายที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจนขึ้น อาจแนะนำให้กลับมาฉีดเพิ่มอีก 1-2 ครั้ง
- การดูดไขมัน – แพทย์จะเลือกบริเวณที่มีไขมันส่วนเกิน เช่น หน้าท้องหรือต้นขา โดยทำความสะอาด ฉีดยาชา และใช้เครื่องดูดไขมันพิเศษดูดไขมันออกมามากกว่าที่ต้องการใช้จริง 3-4 เท่า เพื่อให้มีปริมาณเพียงพอสำหรับการคัดเลือก
- การแยกไขมัน – นำไขมันผ่านกระบวนการปั่นแยกด้วยเครื่องมือพิเศษ เพื่อให้ได้ไขมันที่บริสุทธิ์ ไม่มีสิ่งเจือปน และอุดมไปด้วยสเต็มเซลล์ จากนั้นคัดเลือกเฉพาะเซลล์ไขมันที่สมบูรณ์และมีชีวิต
- การเตรียมใบหน้า – ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน เพื่อฆ่าเชื้อที่ใบหน้า ฉีดหรือทายาชาบริเวณที่จะฉีดไขมัน รอให้ยาชาออกฤทธิ์ และทำเครื่องหมายบริเวณที่จะฉีดตามแผนการรักษา
- การฉีดไขมัน – ใช้เข็มขนาดเล็กและละเอียด ค่อยๆ ฉีดไขมันทีละชั้น ตั้งแต่ชั้นลึกขึ้นมาสู่ผิว เพื่อการกระจายไขมันอย่างเป็นระเบียบและทั่วถึง โดยเน้นฉีดในบริเวณที่ขาด volume และมีร่องลึก
- การติดตามผล – หลังฉีดไขมันหน้า ผู้รับการรักษาควรพักฟื้น 1-2 สัปดาห์ หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดบริเวณที่ฉีด ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม แพทย์จะนัดติดตามผลหลัง 2 สัปดาห์, 1 เดือน และ 3 เดือน
การฉีดไขมันหน้า จะมีความเจ็บปวด แต่เป็นความเจ็บปวดที่สามารถทนได้ และแพทย์จะทำการฉีดยาชา เพื่อบรรเทาอาการปวดให้กับคนไข้ด้วย
ความเจ็บที่เกิดขึ้น จะมี 2 ส่วน คือการดูดไขมัน และการฉีดไขมัน ในส่วนของการดูดไขมัน จะได้รับการฉีดยาชาเฉพาะที่เพื่อลดความเจ็บปวด ซึ่งการดูดไขมันเพื่อใช้เป็น Fat Transfer เพื่อปลูกถ่ายจากอวัยวะหนึ่งไปยังจุดหนึ่ง – ฉีดไขมันหน้า เจ็บไหม
ในส่วนของการฉีดไขมันหน้า เข็มที่ใช้จะเป็นเข็มที่มีขนาดเล็ก จะช่วยให้รู้สึกเจ็บน้อยกว่าการ และละเอียดมากกว่าการใช้เข็มขนาดใหญ่สามารถเกาะกับผิวได้ดี และมีรอยแผลเล็ก เพราะมาจากประสบการณ์จริงจากเคสคนไข้ที่เคยมารับบริการเติมไขมันหน้าที่ RWC Clinic
จุดที่นิยมนำมาฉีดไขมันหน้า ส่วนมากแพทย์จะแนะนำเป็นจุดของ บริเวณหน้าท้อง สะโพก และต้นขา เนื่องจาก 2 ส่วนนี้เป็นบริเวณที่มีไขมันอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้โอกาสการติดของไขมันนั้นมีมากยิ่งขึ้น
การใช้ไขมันจากบริเวณหน้าท้องและต้นขานั้น เป็นไขมันที่อยู่ลึก เซลล์ไขมันมีคุณภาพดี มีอัตราการรอดชีวิตสูงและที่สำคัญเป็นบริเวณที่มีปริมาณไขมันที่มากเพียงพอ ทำให้เราได้ผลพลอยได้จากการดูดไขมัน คือ ได้ลดและกระชับสัดส่วนไปด้วยในตัว เพราะ 2 บริเวณนี้ เป็นจุดสะสมไขมันส่วนเกิน ที่หลายคนก็ต้องการกำจัดไขมันตรงจุดเหล่านี้อยู่แล้ว
ผลพลอยได้ของการดูดไขมันปริมาณที่จำกัดสำหรับนำมาฉีดไขมันหน้า อาจไม่ได้ช่วยลดสัดส่วนได้มากนัก แต่ก็นับเป็นจุดเด่นที่ทำให้ลูกค้าพอใจระดับหนึ่ง เพราะเสมือนทำ 2 อย่างไปพร้อมกัน คือ เติมเต็มใบหน้าและกำจัดไขมันส่วนเกินไปด้วย ซึ่งแต่ละคนจะได้รับการดูดไขมันในปริมาณที่แตกต่างกัน เพราะแพทย์จะประเมินผู้รับบริการแต่ละคนอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจเลือกจุดที่เหมาะสมที่สุดในการดูดไขมัน ซึ่งอาจต่างกันไปตามสรีระและสัดส่วนไขมันของแต่ละบุคคล
ฉีดไขมันหน้า ระยะเวลาอยู่ได้นานแค่ไหน
โอกาสที่เซลล์ไขมันจะรอดชีวิตหลังการปลูกถ่ายอยู่ที่ 30-80% ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ฝีมือแพทย์ คุณภาพไขมันที่มีสเต็มเซลล์มาก หรือการจัดเก็บที่ถูกวิธี
ซึ่งเซลล์ไขมันที่ปลูกถ่ายติดเรียบร้อยแล้วสามารถอยู่ได้เป็นระยะเวลานาน แต่ยังมีโอกาสสลายตัวได้บ้างตามธรรมชาติเมื่อเวลาผ่านไปหลายปี ไม่ได้หมายความว่าต้องกลับมาฉีดซ้ำบ่อย แต่หากต้องการผลลัพธ์ชัดขึ้น อาจกลับมาทำเพิ่มอีกครั้งในอนาคต
ทั้งนี้ หากน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงมาก เซลล์ไขมันที่ปลูกถ่ายไว้อาจมีการเปลี่ยนแปลงขนาดตามไปด้วย
สำหรับอาการบวมหลังฉีดไขมันหน้าส่วนใหญ่เกิดจากแพทย์ฉีดไว้เผื่อการสลายตัวของเซลล์ไขมันบางส่วนในช่วงแรก ไม่ได้เกิดจากภาวะแทรกซ้อน และจะค่อย ๆ ยุบลงเมื่อไขมันเข้าที่ และหลังดูดไขมันต้องสวมชุดกระชับสัดส่วนเป็นเวลา 1-2 เดือน เพื่อป้องกันการเกิดก้อนเลือดหรือเนื้อเยื่อตาย และช่วยให้ผิวหนังยุบตัวและเรียบเนียนเร็วขึ้น
ตัวอย่างระยะการบวมหลังฉีดไขมันหน้า
ไขมันที่ฉีดจะเข้าที่ในเวลาประมาณ 3 – 5 อาทิตย์ โดยจะมีเซลล์ไขมันบางส่วนที่สลายไป โดยอัตราการติดของไขมันนั้นขึ้นอยู่กับการดูแลหลังการฉีดไขมันหน้า หากดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์ จะช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตของเซลล์ไขมันที่ปลูกถ่ายไว้ให้อยู่ได้นาน โดยมีการสลายตัวไปบางส่วนตามธรรมชาติ
การฉีดไขมันหน้า เป็นการแก้ไขจุดบกพร่องที่ค่อนข้างปลอดภัย เนื่องจากเป็นการนำไขมันของคนไข้มาเติมเต็ม 100% ไม่มีสารแปลกปลอมหรือที่เป็นสารสังเคราะห์ แม้การใช้ไขมันตัวเองจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงได้มาก แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดผลข้างเคียงบ้างเล็กน้อย เช่น รอยช้ำบวมในระยะสั้น ๆ เป็นต้นค่ะ
ทั้งนี้ ก็ยังคงมีความเสี่ยงไม่ว่าจะเป็น การติดเชื้อต่าง ๆ ทั้งจากความสะอาดของแผล การปฏิบัติตัวตามข้อห้ามอย่างเคร่งครัด เนื่องจากมีทั้งรอยแผลจากการดูดไขมันและฉีดเติมไขมันหน้า เรื่องความเสี่ยงที่ร้ายแรงที่สุด คือ การฉีดไขมันเข้าเส้นเลือด ที่หากเกิดขึ้นต้องได้รับการช่วยเหลือจากแพทย์ทันที และระบุว่าเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้น้อย
การเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีเครื่องมือและระบบการทำความสะอาดฆ่าเชื้อที่ดี ก็จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อลงได้อีก เพื่อความปลอดภัย ควรเลือกฉีดไขมันหน้ากับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เพราะหากมีภาวะแทรกซ้อนหรืออาการผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้นแพทย์จะทำการแก้ไขปัญหาได้อย่างทันที
สำหรับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังจากการฉีดไขมันหน้าเด็ก สามารถแบ่งออกเป็น 5 แบบ ได้ดังนี้
อาการทั่วไป
- การบวมและช้ำ – เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุดหลังการฉีดไขมัน ผู้ป่วยจะพบว่าบริเวณที่ฉีดมีการบวมและช้ำเป็นสีน้ำเงิน-ม่วง ซึ่งเป็นปฏิกิริยาปกติของร่างกายต่อการบาดเจ็บเล็กน้อย อาการเหล่านี้มักจะค่อยๆ ลดลงและหายไปภายใน 1-2 สัปดาห์ การใช้ยาแก้ปวดและประคบเย็นช่วยบรรเทาอาการได้
- การอักเสบและแดง – บริเวณที่ฉีดอาจมีอาการแดงร้อนเล็กน้อย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการรักษาตัวของร่างกาย อาการนี้มักหายเองภายในไม่กี่วัน หากอาการแดงร้อนรุนแรงหรือไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสอบการติดเชื้อ
- ความรู้สึกไม่สบายและเจ็บ – ผู้ป่วยอาจรู้สึกเจ็บหรือไม่สบายบริเวณที่ฉีด โดยเฉพาะในช่วง 3-5 วันแรก ความเจ็บปวดนี้มักไม่รุนแรงและสามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวดทั่วไป
ความเสี่ยงที่พบน้อยแต่รุนแรง
-
การติดเชื้อ – แม้จะใช้เทคนิคที่ปลอดเชื้อ แต่ยังมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรีย อาการที่ต้องสังเกต ได้แก่ ไข้ อาการแดงร้อนที่รุนแรงขึ้น มีหนองไหล หรือกลิ่นเหม็น หากพบอาการเหล่านี้ ต้องรีบพบแพทย์เพื่อรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ
-
การเกิดก้อนไขมันหรือก้อนแข็ง – ไขมันที่ฉีดเข้าไปอาจจับตัวกันเป็นก้อนแข็ง หรือเกิดเป็น lipoma ซึ่งเป็นก้อนไขมันที่ไม่เป็นอันตราย แต่อาจทำให้รูปร่างไม่สวยงาม ในบางกรณีอาจต้องผ่าตัดเอาออก
-
การอุดตันของหลอดเลือด – เป็นภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายที่สุด หากไขมันเข้าไปในหลอดเลือดโดยไม่ตั้งใจ อาจทำให้เลือดไปเลี้ยงเนื้อเยื่อไม่ได้ นำไปสู่การตายของเนื้อเยื่อ (necrosis) ซึ่งอาจต้องผ่าตัดตัดเนื้อเยื่อที่ตายออก
ผลข้างเคียงเฉพาะพื้นที่
-
ตาบอดชั่วคราวหรือถาวร – เป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงที่สุดเมื่อฉีดไขมันบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะรอบดวงตา หากไขมันเข้าไปในหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงจอประสาทตา อาจทำให้ตาบอดได้ ซึ่งอาจเป็นชั่วคราวหรือถาวร ขึ้นอยู่กับความรุนแรง
-
ความชาบริเวณที่ฉีด – อาจเกิดจากการกดทับเส้นประสาทเล็กๆ ในระหว่างการฉีด อาการชานี้มักหายเองภายใน 2-6 สัปดาห์ แต่ในบางกรณีอาจใช้เวลานานกว่า
-
การเปลี่ยนแปลงของความรู้สึก – บริเวณที่ฉีดอาจมีความรู้สึกผิดปกติ เช่น ไวเกินไปหรือทื่อ ซึ่งมักจะค่อยๆ กลับมาปกติ
ผลข้างเคียงระยะยาว
-
การสลายตัวของไขมันไม่สม่ำเสมอ – ไขมันที่ฉีดเข้าไปอาจสลายตัวไม่เท่ากัน ทำให้ผิวเป็นหลุมเป็นบ่อหรือขรุขระ อาการนี้อาจปรากฏชัดขึ้นหลังจาก 3-6 เดือน และอาจต้องแก้ไขด้วยการฉีดเพิ่มเติมหรือวิธีอื่น
-
การเคลื่อนที่ของไขมัน – ไขมันอาจเคลื่อนที่ไปยังบริเวณอื่นที่ไม่ต้องการ โดยเฉพาะหากไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำหลังการรักษา เช่น การนวดหรือกดทับบริเวณที่ฉีด
-
การดูดซึมของไขมัน – ร่างกายจะดูดซึมไขมันส่วนหนึ่งที่ฉีดเข้าไป โดยทั่วไปจะเหลือประมาณ 50-70% ของปริมาณที่ฉีด ทำให้ผลลัพธ์ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป
-
การเกิดแผลเป็น – ในบางกรณีอาจเกิดแผลเป็นภายในหรือภายนอก โดยเฉพาะหากมีการติดเชื้อหรือการรักษาตัวไม่ดี
ปัญหาที่อาจต้องแก้ไขเพิ่มเติม
-
ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง – หากไขมันที่รอดตายน้อยกว่าที่คาดไว้ ผลลัพธ์อาจไม่เต็ม 100% ผู้ป่วยอาจต้องฉีดเพิ่มอีกครั้งหลังจาก 3-6 เดือน เพื่อให้ได้ปริมาณที่ต้องการ
-
การฉีดมากเกินไป – ในบางกรณี แพทย์อาจฉีดไขมันมากเกินไป ทำให้รูปร่างไม่สวยงาม อาจต้องดูดไขมันส่วนเกินออกด้วยวิธี liposuction ขนาดเล็ก
-
ความไม่สมมาตร – ผลลัพธ์อาจไม่สมมาตรกัน โดยเฉพาะในบริเวณใบหน้า อาจต้องปรับแก้ด้วยการฉีดเพิ่มเติมหรือวิธีอื่น
-
ปฏิกิริยาแพ้ – แม้จะใช้ไขมันของตัวเอง แต่ยังมีความเสี่ยงต่อปฏิกิริยาแพ้จากยาชาหรือสารอื่นที่ใช้ในขั้นตอนการรักษา
ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดเกี่ยวกับความเสี่ยงและวิธีป้องกันก่อนตัดสินใจทำ เพื่อไม่ให้เสี่ยงเกิดปัญหาตามมาทีหลังนะคะ
ต้องฉีดไขมันซ้ำครั้งที่ 2 หรือไม่
หลังฉีดไขมันหน้า อาจมีอาการบวมระยะหนึ่ง ซึ่งบางท่านอาจรู้สึกว่าบวมมาก จนอยากนวดหรือจับบริเวณที่บวมเพื่อให้ยุบเร็วขึ้น กลัวว่าหน้าของตัวเองจะบวมเกินไป จึงคอยไปจับไปนวดตลอดเวลา นั่นเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำมาก ๆ การนวดหน้าแรง ๆ ไม่ทำให้ไขมันสลายเร็วขึ้น แต่อาจทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ หรือเลือดคั่งได้ เพราะเป็นการรบกวนกระบวนการฟื้นตัวตามธรรมชาติของร่างกาย
เนื่องจากการบวมที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติ เพราะแพทย์ส่วนใหญ่จะฉีดไขมันเผื่อไว้ในปริมาณที่มากกว่าปกติ เพื่อชดเชยกับไขมันที่จะสลายไป และการบวมนี้จะค่อย ๆ ยุบลงเอง ไม่จำเป็นต้องนวดเพื่อให้ยุบเร็ว เพราะจะทำให้ไขมันนั้นส่วนหนึ่งอาจจะเคลื่อนที่ และมีบางส่วนที่สลายหายไป ทำให้ผลลัพธ์การฉีดไขมันหน้านั้น ไม่เป็นตามที่คนไข้ต้องการ และเป็นเหตุให้ต้องมาทำการฉีดซ้ำ ครั้งที่ 2
การฉีดไขมันหน้าซ้ำครั้งที่ 2 มีโอกาสที่ไขมันจะติดได้ดีกว่าครั้งแรกก็จริง แต่หากยังทำพฤติกรรมที่มีผลให้เซลล์ไขมันตาย ไขมันที่ฉีดก็จะสลายไปเช่นเดิม ดังนั้น การดูแลหลังฉีดไขมันจึงเป้นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมาก ๆ ผู้รับบริการไม่จำเป็นต้องเข้ารับการฉีดไขมันซ้ำในทันที ให้สังเกตดูผลลัพธ์หลังจากไขมันเข้าที่เต็มที่ 2-3 เดือนไปก่อน ค่อยพิจารณาว่ามีความจำเป็นต้องเติมเพิ่มอีกไหม โดยปรึกษากับแพทย์
เทียบความต่าง ฉีดไขมันหน้า VS ฉีดฟิลเลอร์
การเปรียบเทียบระหว่างการฉีดไขมันหน้าและการฉีดฟิลเลอร์อย่างละเอียด เพื่อให้เข้าใจและเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้น มีดังนี้
หัวข้อ | ฉีดไขมันหน้า | ฉีดฟิลเลอร์ |
---|---|---|
ที่มาของสาร | ใช้ไขมันของผู้รับการรักษาเอง ความเข้ากันได้กับร่างกายสูง ลดโอกาสการแพ้ | ใช้สารสังเคราะห์ เช่น Hyaluronic Acid (HA) เลียนแบบเนื้อเยื่อในร่างกายมนุษย์ |
ความคงทน | ไขมันที่รอดชีวิตอาจอยู่ได้ถาวร ประมาณ 50-70% อยู่ได้นานหลายปี | เป็นวิธีชั่วคราว อยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน แล้วแต่รุ่นฟิลเลอร์ |
กระบวนการ | ซับซ้อนกว่า ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง | ง่ายและรวดเร็ว ใช้เวลา 15-30 นาที |
ปริมาณที่ใช้ | สามารถใช้ปริมาณมากได้ เหมาะสำหรับปรับรูปหน้าในวงกว้าง | ใช้ปริมาณ CC แบบจำกัดแล้วแต่ตำแหน่งการรักษา |
ความเป็นธรรมชาติ | ให้ผลที่ดูเป็นธรรมชาติกว่า | อาจดูเป็นธรรมชาติน้อยกว่าในบางกรณี |
ผลข้างเคียง | อาจบวมนานกว่า 1-2 สัปดาห์ | ผลข้างเคียงน้อยกว่า หายใน 3-7 วัน |
ค่าใช้จ่าย | สูงกว่าในครั้งแรก แต่คุ้มค่าระยะยาว | ต่ำต่อครั้ง แต่ต้องทำซ้ำบ่อย |
การฟื้นตัว | นานกว่า ประมาณ 1-2 สัปดาห์ | ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปทำงานได้ทันที |
การเลือกระหว่างการฉีดไขมันหน้าและการฉีดฟิลเลอร์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งความต้องการของผู้รับการรักษา สภาพผิวและโครงสร้างใบหน้า งบประมาณ และระยะเวลาที่สามารถให้กับการฟื้นตัว ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินและเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล
สิ่งที่ควรปฏิบัติ
- งดยาและอาหารเสริม ที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น Aspirin, Ibuprofen อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนทำ
- งดบริโภคอาหารเสริม ที่มีวิตามิน A, E, C สมุนไพร โสม ใบแปะก๊วย และน้ำมันปลา 2 สัปดาห์ก่อนทำ เพราะมีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด
- เลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 14 วันก่อนทำ เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ
- แจ้งประวัติโรค หากมีโรคประจำตัวที่อาจเป็นอันตรายระหว่างผ่าตัด เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ไทรอยด์
- ไม่จำเป็นต้องหยุดยาคุมกำเนิด (ถ้ามีรับประทาน)
- พักผ่อนให้เพียงพอ และทานอาหารครบ 5 หมู่ ก่อนวันนัดหมาย
ต้องให้ความสำคัญในการสื่อสารข้อมูลสุขภาพและประวัติการรักษาทั้งหมดกับแพทย์อย่างละเอียดและตรงไปตรงมา เพื่อความปลอดภัยของผู้รับบริการ
ข้อปฏิบัติที่สำคัญ
- 4 ชั่วโมงแรกหลังฉีดไขมันหน้า ควรงดการนวดหน้า ทาครีม หรือโลชั่นต่าง ๆ เพื่อให้ไขมันอยู่ตัวและเข้าที่
- พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับอย่างน้อย 8 ชั่วโมง โดยใช้หมอนสูงหนุนศีรษะ 2-3 วัน เพื่อลดอาการบวม ในช่วงแรก
- ทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อและอาการข้างเคียง
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อนหรือเย็นจัด เช่น อากาศร้อนจัด แสงแดด เครื่องซาวน่า เป็นต้น เพราะอาจทำให้ไขมันละลาย
- การทานอาหารที่มีประโยชน์ มีวิตามินสูงเพื่อช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น เช่น ผักผลไม้ โปรตีน และดื่มน้ำให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ของทอด ของหมักดอง น้ำอัดลม
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 3-7 วัน เพื่อให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองได้เต็มที่
- หยุดการออกกำลังกายหนักๆ ชั่วคราว เพื่อไม่ให้เกิดแรงกระแทกต่อบริเวณที่ฉีดไขมัน
- หากสังเกตอาการผิดปกติใดๆ เช่น ปวด บวมมาก มีไข้ ให้รีบกลับไปพบแพทย์ทันที
- งดจับหน้าแรงๆ หรือนวดหน้า 7-10 วันแรก เพื่อไม่ให้ไขมันที่ฉีดเข้าไปเกิดการกระจายตัวหรือสลายไป
- เลี่ยงการใช้เครื่องสำอางและทำทรีตเมนต์ใด ๆ บนใบหน้า ช่วง 1-2 สัปดาห์แรก นอกเหนือไปจากผลิตภัณฑ์พื้นฐานอย่างครีมบำรุงที่อ่อนโยน เพื่อลดการระคายเคืองต่อผิวและไม่ทำให้ไขมันที่ฉีดกระจายตัว
หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวด บวมมาก มีไข้ ให้รีบกลับไปพบแพทย์ทันที การปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดจะช่วยให้กระบวนการฟื้นตัวเป็นไปได้ด้วยดี และส่งเสริมให้เซลล์ไขมันเกาะติดได้แน่นและคงอยู่ได้นานขึ้น
ภาพ : ข่าวสด อ่านเต็ม ๆ ได้ที่นี่
ในอดีต เมื่อพูดถึงการปรับรูปหน้าด้วยไขมันหรือการฉีดไขมันหน้า หลายคนมักคิดถึงประเทศเกาหลีเป็นอันดับแรก แต่ในปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าและการถ่ายทอดเทคนิคทางการแพทย์ แพทย์ไทยที่ได้ไปศึกษาเทคนิคนี้ที่ประเทศเกาหลี ทำให้การฉีดไขมันหน้าในประเทศไทยให้ผลลัพธ์เทียบเท่ากับการบินไปทำที่ประเทศเกาหลี อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แพทย์ทุกท่านที่สามารถฉีดไขมันให้ออกมาสวยและคงทนได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับเทคนิคเฉพาะของแพทย์แต่ละท่าน
ข้อดีของการทำในประเทศไทย
- เทคโนโลยีและเทคนิคก้าวหน้า ทัดเทียมต่างประเทศ
- มาตรฐานสถานพยาบาล ดีขึ้นมาก มีความปลอดภัยสูง
- เครื่องมือทันสมัย เทียบเท่าต่างประเทศ
- ค่าใช้จ่ายย่อมเยา กว่าการไปทำที่ต่างประเทศ
- สะดวกในการติดตาม ไม่ต้องเดินทางไกล
สิ่งสำคัญในการเลือกทำการฉีดไขมันไม่ว่าจะที่ไหน คือ ควรเลือกแพทย์ที่เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์สูงเฉพาะด้าน สามารถแสดงผลงานให้เห็นได้ พร้อมเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด
การเลือกฉีดไขมันหน้า เพื่อผลลัพธ์ที่ดี ต้องเลือกให้ดีถ้าไม่อยากเสี่ยง เลือกคลินิกฉีดที่ดี เลือกจากอะไรบ้าง ดังนี้
-
ใบอนุญาตและการรับรอง
ก่อนตัดสินใจฉีดไขมันหน้า ต้องดูว่าคลินิกต้องได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขอย่างถูกต้อง ตรวจสอบว่ามีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล 11 หลักและต้องไม่หมดอายุ ที่สำคัญแพทย์ผู้ที่ทำการรักษาควรมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมและใบอนุญาตด้านความงามโดยตรง เพื่อดูว่าคลินิกได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์กรที่น่าเชื่อถือในการตัดสินใจมากน้อยแค่ไหน
-
ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ
เกณฑ์การเลือกคลินิกด้านการศึกษา ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของแพทย์ในการทำหัตถการด้านผิวหนังและความงามโดยเฉพาะ มีผลลัพธ์รีวิวก่อน-หลังฉีดไขมันหน้าของคนไข้คนอื่น ๆ ที่เป็นคนไข้จริง ส่งผลให้ผลลัพธ์เพิ่มประสิทธิภาพได้มากยิ่งขึ้น นอกจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเฉพาะทางของแพทย์แล้ว ยังควรสังเกตทักษะการสื่อสารและให้ข้อมูลของแพทย์ด้วย เพราะการได้รับคำแนะนำและคำอธิบายที่ละเอียด ชัด จะช่วยให้ผู้รับบริการตัดสินใจได้ถูกต้องและมั่นใจมากขึ้น
-
เทคโนโลยีและอุปกรณ์
การเลือกใช้เทคโนโลยีที่ในการดูดไขมันและฉีดไขมันหน้า เช่น ระบบ microinjection หรือ nanofat grafting และมีอุปกรณ์ฆ่าเชื้อที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัย และได้รับผลลัพธ์ที่แม่นยำมีประสิทธิภาพ ควรเลือกคลินิกที่มีการใช้เทคนิคสมัยใหม่ล่าสุดที่ได้รับการรับรองประสิทธิภาพแล้ว จากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ โดยสามารถสอบถามหรือขอดูหลักฐานได้จากทางคลินิก รวมถึงวิธีการเก็บรักษาไขมันระหว่างรอฉีด เพื่อรักษาคุณภาพของเซลล์ไขมันให้สามารถนำไปฉีดไขมันหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
เพราะการฉีดไขมันหน้าเป็นหัตถการที่ต้องอาศัยความละเอียดอ่อนสูง นอกจากพิจารณาเกณฑ์ทั่วไปแล้ว การเลือกคลินิกที่บรรยากาศดี สะอาด ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เจ้าหน้าที่พูดจาสุภาพและเป็นมืออาชีพ ก็เป็นอีกหนึ่งเกณฑ์เสริมที่ช่วยให้ผู้รับบริการรู้สึกปลอดภัยและไว้วางใจมากขึ้นได้
การพิจารณาเกณฑ์เหล่านี้อย่างละเอียดจะช่วยให้สามารถเลือกคลินิกที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และเหมาะสมกับความต้องการมากที่สุด สิ่งสำคัญที่ควรตระหนักคือ การฉีดไขมันหน้าถือเป็นหัตถการทางการแพทย์ที่ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ดังนั้นการเลือกสถานพยาบาลกับแพทย์ที่มีความพร้อมและน่าเชื่อถือจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการฉีดไขมันหน้าจะเป็นไปอย่างปลอดภัย ได้มาตรฐาน และให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจนะคะ
ฉีดไขมันหน้ากับการปรับโหงวเฮ้ง
การฉีดไขมันหน้ากับการปรับโหงวเฮ้ง ซึ่ง โหงวเฮ้ง เป็นศาสตร์จีนโบราณที่ทำนายลักษณะนิสัยและชะตาชีวิตจากลักษณะทางกายภาพของใบหน้าและร่างกาย หากมีรูปหน้าที่ดีตามหลักโหงวเฮ้งจะช่วยส่งเสริมให้ชีวิตดียิ่งขึ้นได้
ตำแหน่งที่ได้รับความนิยมในการฉีดไขมันหน้าในการปรับแก้ไขโหงวเฮ้ง คือ “หน้าผาก” โหงวเฮ้งหน้าผาก (กัวลักเกง) หมายถึง หน้าที่การงาน และการทำธุรกิจโดยตรง และหน้าผากที่ดีจะต้องมีลักษณะ กว้าง สูง อูม เรียบไม่ขรุขระ สีดูสว่างผ่องใส
หน้าผากถือเป็นส่วนสำคัญในการปรับแก้ตามหลักโหงวเฮ้ง เช่น ในความเชื่อของจีนถือว่าหน้าผากคือพื้นที่แรกในการรับพลังจากสวรรค์ เป็นตัวแทนของพรสวรรค์ โชคลาภ และความสำเร็จ การมีหน้าผากที่เต็ม กว้าง จึงเป็นมงคลและทำนายถึงอนาคตที่สดใส การฉีดไขมันเพื่อเสริมหน้าผากให้เต็มและเรียบเนียน นอกจากจะช่วยปรับโหงวเฮ้งแล้ว ในแง่ความสวยความงามก็จะช่วยอำพรางริ้วรอย ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และมีมิติมากขึ้นได้อีกด้วย
ทั้งนี้การปรับโครงหน้าด้วยการฉีดไขมันโดยอิงหลักโหงวเฮ้งขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนบุคคล ผู้ที่สนใจควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
โดยทั่วไปราคาของการฉีดไขมันหน้าจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น ประสบการณ์ของแพทย์ ความน่าเชื่อถือของคลินิก หรือปริมาณไขมันที่ใช้ในการแก้ไขปัญหา รวมถึงการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมของอุปกรณ์การฉีด
สำหรับค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาและฟื้นฟูหลังทำเสร็จ โดยเฉลี่ยแล้วการฉีดไขมันหน้าทั่วไปราคาเริ่มต้น 40,000 – 50,000 บาท และการฉีดในปริมาณมากหรือหลายบริเวณจะอยู่ในช่วงราคา 50,000 – 100,000 บาทค่ะ
ข้อควรระวัง
หากเจอราคาที่ถูกเกินไปอาจบ่งบอกถึงคุณภาพหรือมาตรฐานที่ต่ำ ควรระมัดระวังและตรวจสอบให้รอบคอบ ราคาที่สูงไปก็ไม่ได้การันตีผลลัพธ์ที่ดีเสมอไป
ดังนั้น ก่อนตัดสินใจฉีดไขมันหน้า ควรพิจารณาความน่าเชื่อถือ ความเชี่ยวชาญของแพทย์ ผลงานที่เป็นรูปธรรม และการได้รับการรับรองตามมาตรฐานของสถานพยาบาลเป็นหลัก ไม่ยึดติดแค่ตัวเลขราคา การโฆษณาหรือพยายามดึงดูดลูกค้าด้วยราคาถูกเกินปกติ เป็นต้น
คำถามที่พบบ่อย ฉีดไขมันหน้า
หากกำลังกังวลเรื่องของอาการบวมหลังจากการฉีดไขมันหน้า ต้องบอกก่อนเลยว่าอาการบวมที่เกิดขึ้น เกิดจากการบวมด้วยปริมาตรของไขมันที่คุณหมอนั้นได้เติมเข้าไปโดยเผื่อปริมาณการสลายตัวของไขมันไว้เรียบร้อยแล้ว โดยอาการบวมนี้จะหายไปเอง และใบหน้าจะค่อย ๆ เข้าที่และสวยงามมากขึ้น
ไม่ได้ค่ะ การฉีดไขมันหน้าไม่สามารถเอาไขมันสเต็มเซลล์คนอื่น มาฉีดเข้าใบหน้าของตัวเองได้ค่ะ เป็นเพราะสารพันธุกรรมและระบบภูมิคุ้มกันที่ต่างกันของแต่ละคน จะกระตุ้นให้ร่างกายพยายามกำจัดไขมันที่แปลกปลอมนั้นออกไป ไม่เหมาะอย่างยิ่งกับการนำมาฉีดเพื่อปลูกถ่าย เนื่องจากร่างกายของคนเราจะมีสารแอนติบอดี้ (Anti-Body) ที่ต่อต้านสิ่งแปลกปลอมจากภายนอกที่จะเข้าสู่ร่างกาย อาจทำให้เกิดอาการแพ้ หรืออันตรายอื่น ๆ ได้
ประมาณ 2-3 ชั่วโมงค่ะ เนื่องจากการฉีดไขมันหน้า ขึ้นอยู่กับเทคนิคการฉีด การปั่นแยกเซลล์ ความชำนาญของแพทย์และเครื่องมือทางการแพทย์ เพราะเราต้องทำการดูดไขมันจากร่างกายของคนไข้ ในจุดส่วนเกินที่ไม่ต้องการ จากนั้นจึงนำไขมันมาฉีดเข้ากับใบหน้าของคนไข้ เพื่อปรับรูปหน้าและแก้ไขจุดบกพร่องในส่วนต่าง ๆ
ไขมันที่ดูดเพื่อกำจัดไขมันส่วนเกิน กับ ไขมันที่ดูดเพื่อใช้เป็น Fat Transfer มีกระบวนการดูดไขมันที่ใช้เครื่องดูดไขมันที่แตกต่างกัน
การดูดไขมันเพื่อลดสัดส่วนนั้น เป็นการดูดเพื่อทิ้ง ไม่ได้นำไขมันไปใช้ประโยชน์ได้ แต่ส่วนการดูดไขมันเพื่อนำไปฉีดเติมเต็มในส่วนต่าง ๆ นั้น ต้องดูดไขมันด้วยเครื่องดูดไขมันที่ถนอมเซลล์ไขมันที่มีชีวิตไว้ให้มากที่สุด เพื่อให้ผลลัพธ์ในการปลูกถ่ายไขมันนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การฉีดไขมันหน้าอาจทำให้เกิดก้อนได้ ความเสี่ยงนี้จะพบได้มากขึ้นในกรณีการฉีดไขมันที่บริเวณใต้ตา เพราะมีพื้นที่จำกัด มีความบอบบางสูง ควรเลือกแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะทางในการฉีดไขมันใต้ตาโดยเฉพาะ แต่โอกาสเกิดน้อยหากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สาเหตุมักเกิดจากการฉีดปริมาณมากเกินไปในจุดเดียวหรือใช้เทคนิคที่ไม่เหมาะสม ดังนั้นควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์โดยตรงและปฏิบัติตามคำแนะนำหลังฉีดอย่างเคร่งครัด หากเกิดก้อน ส่วนใหญ่จะยุบลงเองภายใน 1-2 เดือน หรือแพทย์อาจใช้เทคนิคนวดเพื่อกระจายไขมัน ในกรณีรุนแรงอาจต้องดูดไขมันออก ผู้รับการรักษาควรสังเกตอาการผิดปกติและแจ้งแพทย์ทันทีหากมีปัญหา
บทสรุป
การฉีดไขมันหน้า คือการเติมเต็มใบหน้าด้วยการใช้ไขมันตัวเอง โดยใช้ไขมัน ไปเติมเต็มในส่วนที่ขาดแทนการฉีดฟิลเลอร์ ไม่มีสารสังเคราะห์หรือ สิ่งแปลกปลอม ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแพ้หรือ ผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นจากการฉีดฟิลเลอร์ สามารถช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้ดีขึ้นได้อีกด้วย
นอกจากนี้ การฉีดไขมันหน้ายังช่วยให้ผิวดูชุ่มชื้นกว่าการฉีดฟิลเลอร์ ช่วยเติมเต็มให้ใบหน้าดูอิ่มเอิบแล้ว ยังมีส่วนช่วยฟื้นบำรุงสภาพผิวให้ดูสุขภาพดี เปล่งปลั่ง มีชีวิตชีวามากกว่าการใช้ฟิลเลอร์อีกด้วย แต่การฉีดไขมันหน้าเป็นหัตถการที่ต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง อาจต้องทำซ้ำ 2-3 ครั้งเพื่อเห็นผลชัดเจน ซึ่งเหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมเพียงพอ ต้องมีการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องหลังทำ
ด้วยข้อดีมากมาย ทำให้ปัจจุบันการฉีดไขมันหน้าจึงได้รับความนิยมสูง หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่สนใจมอบความอ่อนเยาว์ให้ตัวเอง ลองปรึกษาศัลยแพทย์ตกแต่งผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหาทางเลือกที่เหมาะที่สุดสำหรับคุณ ในการเสริมความงามและความมั่นใจได้อย่างปลอดภัยค่ะ