โปรแกรม รักษา หลุมสิว ด้วย FRACTORA เป็นการใช้เทคโนโลยีในกลุ่มที่ใช้พลังงานความถี่วิทยุ (Radio frequency) ก่อให้เกิดกระบวนการการผลัดผิวชั้นบนแบบมีแผล และยังคงกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นใยคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ และทำให้การจัดเรียงตัวของคอลลาเจนเดิมดียิ่งขึ้น
สารบัญ
- Fractora รักษาหลุมสิว คืออะไร
- ความรู้สึกระหว่างทำการรักษาหลุมสิว
- ขั้นตอนการรักษาหลุมสิว
- Fractora รักษาอะไรได้บ้าง
- อาการที่ปรากฏหลังทำการรักษาหลุมสิว
- การดูแลหลังทำการรักษาหลุมสิว
มารู้จักนวัตกรรมรักษาหลุมสิวที่ดีที่สุด ได้ที่นี่
Fractora รักษา หลุมสิว คืออะไร ?
FRACTORA เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของเทคโนโลยี Fractional RF ซึ่งมีการส่งผ่านพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ ความถี่ 1 MHz โดยหลักการทำงานของเครื่อง คือการปล่อยความร้อน (อุณหภูมิ 40-100 องศา) จากพลังงานความถี่วิทยุ แบบ 2 ขั้ว (Biporlar) ส่งพลังงานผ่านเข็มขนาดเล็ก (pin) ลงไปใต้ชั้นผิวหนังแท้ แบบ Fractional ทำให้เกิด 3 กระบวนการ ในคราวเดียวกัน ได้แก่ ablation ร่วมกับกระบวนการ coagulation และกระบวนการ Sub-necrotic heating
และที่ปลายเข็มขนาดเล็ก (pin) จะมีตัวควบคุมค่าพลังงาน (feedback Control) เพื่อควบคุมอุณหภูมิตามที่ตั้งค่าพลังงานให้เท่ากันทุกเล่ม ทำให้แพทย์สามารถควบคุมพลังงานที่ปล่อยลงไปในชั้นผิวตามที่ต้องการ โดยที่ตัวเครื่อง FRACTORA มีหน้าจอการตั้งค่า โชว์ให้มองเห็นอย่างชัดเจน
FRACTORA ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (US FDA) ทำให้เครื่องมีความปลอดภัยสูงและทรงประสิทธิภาพในการรักษา ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อการสร้างคอลลาเจนใหม่และการจัดเรียงตัวคอลลเจนเดิมดีให้ขึ้น จึงถูกนำมาใช้ในโปรแกรมการ รักษาหลุมสิว ทำให้ผิวที่หย่อนคล้อยกระชับขึ้น ริ้วรอยเหี่ยวย่นจางลง รวมถึงปัญหาแผลเป็นหรือแผลหลุมสิวนั้นดีขึ้น จึงเป็นการ รักษาหลุมสิว ที่ดีที่สุดในขณะนี้
ความรู้สึกระหว่างทำการ รักษา หลุมสิว
ผู้ที่เข้าโปรแกรม รักษา หลุมสิว ด้วย FRACTORA ด้วยเครื่องเป็นเทคโนโลยีความถี่วิทยุ ที่ปล่อยความร้อน 40-100 องศา จึงอาจจะรู้สึกร้อนระหว่างทำการรักษา เป็นความรู้สึกถึงปฏิกิริยาความร้อนที่ส่งผ่าน FRACTORA pin ผ่านสู่ผิว
แพทย์จะทายาชาลงบนผิวก่อนทำการรักษาเพื่อให้ไม่รู้สึกแสบร้อนมากนักและจะใช้ลมเย็นเป่าบริเวณที่รักษาไปด้วย หลังรักษาด้วยเลเซอร์แล้วอาจรู้สึกแสบร้อนใบหน้าเล็กน้อยคล้ายเมื่อถูกแดดเผา ซึ่งจะดีขึ้นภายใน 1–3 ชั่วโมง
Fractora รักษาอะไรได้บ้าง
- ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น
- ลบเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ
- กระชับผิวหน้า
- รอยแผลเป็นจากสิว
- กระชับรูขุมขน
- ช่วยลดปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ.เพิ่มคุณภาพผิว ให้ผิวดูเด็กลง
อาการที่ปรากฏหลังทำการรักษาหลุมสิว
- ต้องเข้าถึงคำแนะนำก่อนและหลังการรักษาด้วย FRACTORA รวมถึงความรู้สึกขณะทำการรักษาด้วย FRACTORA อย่างละเอียด เพื่อให้เข้าใจตรงกัน
- อาการข้างเคียงที่เกิดขึ้น หลังการรักษาด้วย FRACTORA อาการแดงขึ้นเรื่อยๆ น้อยกว่า 24 ชั่วโมง อาการบวม 2-3 วัน อาจพบจุดแดงปรากฏประมาณ 1-3 วัน หลังการรักษา วันที่4 หลังการรักษา อาจพบผิวลอกเป็นขุย ซึ่งจะหลุดออกไปภายใน 1-3 สัปดาห์
- อาการบวมหลังการรักษาด้วย FRACTORA ในบางราย อาจพบได้ 2-3 สัปดาห์
- อาการเจ็บจะคงอยู่ประมาณ 1-2 ชัวโมง หลังการรักษาด้วย FRACTORA
- อาจพบสะเก็ดละเอียดขนาดเล็ก คงอยู่บริเวณผิวที่ทำการรักษาด้วย FRACTORA หลังการรักษา 7-10 วัน
- อาการบวมอาจคงอยู่ประมาณ 1-3 สัปดาห์ ในกรณีที่ใช้ Tulmescent
- กระบวนการซ่อมแซมผิวใหม่ที่จะเกิดขึ้นหลังทำการรักษาด้วย FRACTORA นั้นแตกต่างกันไปแต่ละบุคคล
- ผลการยกกระชับหลังจากการจัดเรียงตัวใหม่ของคอลลาเจน จะให้ผลสูงสุดหลังการรักษาด้วย FRACTORA 6-12 สัปดาห์
การดูแลหลังทำการรักษาหลุมสิว
หลังการ รักษาหลุมสิว ด้วย FRACTORA ควรทาครีมบำรุงผิว (Moisturizer) และครีมกันแดดที่มีค่า SPF30 ขึ้นไป ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด เพื่อป้องกันผิวใหม่ถูกทำลายจากการสัมผัสแสงUV โดยเซลล์ผิวเก่าที่ยังไม่ถูกผลักให้ลอกหลุดไปนั้นจะปรากฏภายหลังการรักษา 1-3 วัน และจะหลุดออกเองตามธรรมชาติ ภายใน 3-7 วัน ภายหลังการรักษา
- สามารถประคบเย็นบริเวณผิวที่ทำการรักษาเพื่อลดความร้อน ให้ผิวรู้สึกสบายขึ้น
- สามารถล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าได้ภายหลังจากทำการรักษาไปแล้ว 6 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดหรือสถานที่ร้อนจัดในสัปดาห์แรกหลังจากการรักษา
- หากมีสะเก็ดเกิดขึ้น ไม่ควรแกะหรือเกา ควรปล่อยให้หลุดลอกเองตามธรรมชาติ
- หากต้องการล้างบริเวณที่ทำการรักษา ควรล้างอย่างเบามือ
- เลือกใช้โฟมล้างหน้าแบบ mild cleanser หลีกเลี่ยงการใช้โฟมล้างหน้ากลุ่ม Scrub
- ควรทาครีมให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว และครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปเคลือบผิวตลอดเวลา
- หลังเข้ารับการรรักษา 24 ชั่วโมง สามารถแต่งหน้าได้
สรุป รักษา หลุมสิว
การ รักษา หลุมสิว ด้วยเครื่อง FRACTORA เป็นการใช้คลื่นความถี่วิทยุ ปล่อยความร้อนเพื่อเข้าไปกระตุ้น กระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่และทำให้การเรียงตัวคอลลเจนเดิมดีขึ้น ทำให้ผิวหน้านั้นเรียบเนียน และยกกระชับผิวจากเดิม รอยแผลเป็นและรอยหลุมสิวตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด