ฉีดวิตามินผิว ฟื้นฟูคุณภาพ ปรับระดับผิวให้ขาวกระจ่างใสปลอดภัย
บทความนี้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการ ฉีดวิตามินผิว เป็นการพาวิตามินเข้าสู่ร่างกายโดยตรง เพื่อซ่อมแซมผิวที่ขาดการบำรุงวิตามอนจากการรับประทานอาหาร ในกลุ่มผู้ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง พักผ่อนน้อย หรือออกกำลังกายมาหนัก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูร่างกายในระยะเวลารวดเร็ว
สารบัญ
ฉีดวิตามินผิว คืออะไร
การ ฉีดวิตามินผิว หลายคนอาจรู้จักในชื่อของ “IV Vitamin therapy” หรือเรียกอีกอย่างว่า “IV Vitamin drip” คำว่า IV นั้น ย่อมาจาก Intravenous ซึ่งมีความหมายว่า หลอดเลือดดำ การให้วิตามินในรูปแบบนี้จึงหมายถึงการฉีดวิตามินหรือสารน้ำผ่านทางเส้นเลือดดำเข้าสู่ร่างกายโดยตรงนั่นเอง
มีความแตกต่างจากการรับวิตามินรูปแบบอื่น ๆ ที่ต้องอาศัยกระบวนการย่อย ดูดซึม หรือการคัดกรองต่าง ๆ เพื่อนำวิตามินเข้าสู่ร่างกาย ตัวอย่างเช่น การรับวิตามินด้วยการรับประทาน ไม่ว่าจะเป็นจากผัก ผลไม้ หรือจากผลิตภัณฑ์อาหารเสริม จะต้องผ่านการทำงานของกระเพาะและระบบย่อยอาหาร ซึ่งร่างกายจะสามารถดูดซึมวิตามินได้เพียงประมาณ 50% ในขณะที่การฉีดวิตามินผ่านทางหลอดเลือดดำ ร่างกายจะสามารถดูดซึมวิตามินได้มากถึง 90%
การฉีดวิตามิน เหมาะกับใคร?
ทุกคนสามารถทำการฉีดวิตามินผิวได้หากต้องการ เพราะปกติแล้วคนเราก็รับวิตามินจากการจากการรับประทานอาหาร โดยเฉพาะผักและผลไม้อยู่แล้ว
แต่การฉีดวิตามินด้วยวิธีฉีดนี้เป็นเพียงทางเลือก สำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูร่างกายในระยะเวลารวดเร็ว เช่น ในกลุ่มผู้ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง พักผ่อนน้อย หรือออกกำลังกายมาหนัก มีภาวะเจตแล็ก (Jet lag) เครียด หรืออีกกลุ่มที่เหมาะคือผู้ต้องการวิตามินแต่ไม่สะดวกจะรับวิตามินด้วยการรับประทานอาหาร
“พร้อมเปลี่ยนผิวคล้ำเสีย ให้กลับมาขาวกระจ่างใส
สุขภาพดีแบบเร่งด่วน”
การฉีดวิตามินผิว เหมาะกับผิวแบบใด ?
การฉีดวิตามินผิว สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว เช่น ผิวมัน ผิวแห้ง และผิวผสม ไม่มีข้อจำกัดสำหรับการบำรุงผิว โดยวิตามินซี วิตามินบี วิตามินอี คอลลาเจน และอโรเวล่าเจล ซึ่งสารสกัดธรรมชาติเข้มข้นเหล่านี้ จะช่วยซ่อมแซมฟื้นฟูเซลล์ผิวที่อ่อนแอให้กลับมาแข็งแรงเหมือนมีชีวิตใหม่ และยังมีหน้าที่ไปช่วยยับยั้งการอ็อกซิเดชั่นของเอ็มไซน์ในร่างกายเรา ซึ่งกระบวนการนี้จะไปช่วยยับยั้งเม็ดสีเมลานินบนเซลล์ผิวโดยตรง
ด่วน! เช็กราคาโปรโมชั่นฉีดวิตามินผิววันนี้ >>> คลิกที่นี่
ประโยชน์ของการฉีดวิตามินผิว มีอะไรบ้าง
- ช่วยบรรเทาอาการหวัด และโรคภูมิแพ้ เนื่องจากกระตุ้นการทำงานของระบบ
- ภูมิคุ้มกันให้มีมากขึ้น
- เพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว
- ช่วยเสริมสร้างการทำงานของสารต้านสารอนุมูลอิสระ
- ทำให้ร่างกายสดชื่น ลดอาการอ่อนเพลีย
- ช่วยซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น กระดูก ฟัน ผิวหนัง
- ช่วยควบคุมระดับไขมันในร่างกายให้เป็นปกติ
ฉีดวิตามินผิว ทำให้ผิวขาวได้จริงหรือ ?
หลายคนสงสัยว่าการฉีดวิตามินผิวขาวจริงไหม สำหรับการ ฉีดวิตามินผิว ที่ใช้ในการเสริมความงามนั้น ไม่ว่าจะเป็นส่วนประกอบของ Vit C, Vit B, NAC, Amino, Antioxidant หรือ Collagen ล้วนเป็นสารที่ให้ประโยชน์กับผิวของเรา โดยที่ NAC (N-Acetyl Cysteine) เป็นโครงสร้างที่ออกฤทธิ์ทางชีวภาพและช่วยให้ร่างกายสังเคราะห์ Glutathione ออกมาตามธรรมชาติได้ดียิ่งขึ้น และยังช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระได้อีกด้วย
ซึ่งการฉีดสารต่าง ๆ เหล่านี้ จะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไปตามปัญหาและสภาพผิวของแต่ละบุคคล จุดเด่น คือ จะช่วยสร้างคอลลาเจนและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระ ปกป้องผิวทำให้เซลล์แข็งแรง เมื่อเซลล์แข็งแรง ผิวก็จะมีคุณภาพดีขึ้นจากภายในสู่ภายนอก ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล การฉีดวิตามินผิวจะช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นโดยอาศัยกลไกทางอ้อม
ฉีดวิตามินผิว กี่ครั้งจึงจะเห็นผล
ในการ ฉีดวิตามินผิว เป็นการกระตุ้นผิวให้แลดูเปล่งปลั่ง จะมีสารบางตัวที่สามารถเปลี่ยนสีผิวเราให้ดูขาวกระจ่างใสขึ้น เป็นสารจำพวกวิตามินซี กลุ่มสารที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสี และสารต้านอนุมูลอิสระ ระยะเวลาที่จะเห็นผลอยู่ที่ประมาณ 3 สัปดาห์ แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความถี่ในการฉีด ในช่วงแรกอาจจะฉีดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เมื่อผิวเริ่มมีสุขภาพดีขึ้นแล้วก็สามารถทิ้งช่วงได้เป็นเดือนละ 1 ครั้งก็ได้ แต่หากอยากรักษาผลลัพธ์ไว้ ควรมาฉีดอย่างต่อเนื่อง
หยุดฉีดวิตามินผิว แล้วผิวจะกลับมาคล้ำหรือไม่ ?
ข้อดีหลัก ๆ คือ การ ฉีดวิตามินผิว ไม่ได้ทำให้ผิวบางลงแต่อย่างใด เพราะมันไปยับยั้งการเปลี่ยนสีของเมลานินในเซลล์ผิวได้โดยตรง บำรุงจากภายใน เมื่อผิวไม่บางลงเราก็สามารถบำรุงผิวไปพร้อมกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น วิตามินซี วิตามินบี วิตามินอี ครีมกันแดด ได้ตามสะดวก และแม้ว่าจะหยุดฉีดแล้ว ก็ไม่ทำให้ผิวคล้ำขึ้นแต่อย่างใด
หลังฉีดวิตามินผิว จะเริ่มเห็นผลลัพธ์เมื่อไหร่
ฉีดวิตามินผิว ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสี ทำให้ผิวขาว เนียนใส เห็นผลจริงดูมีออร่า ซึ่งจะเริ่มเห็นผลการเปลี่ยนแปลงหลังจากรับบริการตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด เช่น ผิวดูสดใส ลดความหมองคล้ำลง ร่างกายกระชุ่มกระชวย รอยแผลต่าง ๆ บนร่างกายหายได้เร็วขึ้นเรื่อยๆ และจะเริ่มเห็นผลการเปลี่ยนแปลงของสภาพผิวอย่างชัดเจนขึ้น ครั้งต่อ ๆ ไป ซึ่งเมื่อฟื้นฟูผิวสดใสจนเป็นที่พอใจแล้วก็ไม่จำเป็นต้องฉีดเป็นประจำ สามารถฉีดได้เป็นครั้งคราว
ฉีดวิตามินผิว อันตรายหรือไม่ ?
การ ฉีดวิตามินผิว อันตรายไหม? ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่ต้องระวังเป็นอย่างมากในคนที่อยาก ฉีดวิตามินผิว ให้ผิวขาวใส ก็คือ อันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการไป ฉีดวิตามินผิว ที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจพบว่ามีสถานพยาบาลบางแห่งทำการฉีดสาร Glutathione เข้าสู่ร่างกายให้คนไข้โดยตรง เพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสีผิวที่รวดเร็ว แต่ตัวยาดังกล่าวยังไม่ผ่านการขึ้นทะเบียนกับ อย. ซึ่งการฉีดยาเข้าสู่ร่างกายผ่านทางเส้นเลือดดำโดยตรงอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงและอาการแพ้ได้
อาการแพ้นั้นสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและรุนแรง ทำให้เกิดผื่นขึ้น ความดันต่ำ หรือภาวะช็อกได้ครับ การ ฉีดวิตามินผิว ใสที่มีส่วนประกอบหลักเป็นวิตามินซี ควรหลีกเลี่ยงในหญิงตั้งครรภ์, คนไข้ที่ป่วยเป็นโรคตับ/โรคไต, คนไข้ที่มีภาวะพร่องเอนไซม์ (G6PD Deficiency) คนไข้ที่มีภาวะเหล็กเกิน เพราะ วิตามินซีจะเข้าไปทำให้ร่างกายเกิดการดูดซึมธาตุเหล็กได้มากขึ้นอีก ทำให้เกิดความไม่สมดุลของแร่ธาตุได้
ทางที่ดีควรเลือกคลินิก ฉีดวิตามินผิว ที่น่าเชื่อถือที่ดูแลโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ มีมาตรฐานและใช้ของแท้ที่ปลอดภัยเท่านั้น
อ่านเพิ่มเติม ฉีดวิตามินผิวที่ไหนดี
การเตรียมตัวก่อนฉีดวิตามินผิว
- ตรวจสอบประวัติคลินิก อ่านรีวิว และสอบถามจนเชื่อได้ว่าเป็นคลินิกที่มีหมอหรือพยาบาลที่เชี่ยวชาญจริง
- อย่าเชื่อโฆษณาชวนเชื่อเกินจริง ควรเตรียมตัวศึกษาข้อดี-ข้อเสียอย่างละเอียด
- เตรียมร่างกายให้แข็งแรง ด้วยการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- หากมีประวัติการแพ้ยา หรือมีโรคประจำตัวควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทำหัตถการ
- เตรียมร่างกายให้แข็งแรง ด้วยการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- เข้าปรึกษาแพทย์ เพื่อทำการประเมินสภาพผิว และปรับสูตรตัวยาที่เหมาะสม ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบยาแท้ที่ใช้ เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกับทางแพทย์ได้โดยตรง
ขั้นตอนการฉีดวิตามิน
เพื่อความปลอดภัย การ ฉีดวิตามินผิว แต่ละครั้งจำเป็นต้องมีการเข้าพบแพทย์ก่อนฉีด และมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
- เข้ารับการตรวจเบื้องต้น โดยจำเป็นจะต้องตรวจความดันโลหิต ชีพจร อุณหภูมิกาย น้ำหนัก และส่วนสูง เพื่อใช้ในการคำนวณปริมาณและความเข้มข้นของสารน้ำ รวมถึงอัตราความเร็วในการให้วิตามิน
- พบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ แพทย์จะซักถามประวัติการเจ็บป่วย ประวัติการแพ้ยา ตลอดจนความกังวลด้านสุขภาพ เพื่อที่จะพิจารณาการให้วิตามินที่เหมาะสม
- เจาะเลือด เพื่อประเมินสภาวะของร่างกายว่าสามารถรับวิตามินในรูปแบบของการฉีดได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ รวมไปถึงช่วยในการปรับความเข้มข้น ความถี่ และจำนวนครั้งในการรับวิตามินให้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
- หลังจากทำการตรวจเบื้องต้นแล้ว แพทย์จะวางแผนการให้วิตามินที่เหมาะสมตามแต่ละบุคคล โดยจะให้สารน้ำที่ผสมวิตามินเข้มข้นทางหลอดเลือดดำบริเวณข้อพับแขนหรือหลังฝ่ามือ คล้ายการให้น้ำเกลือ ในประมาณเวลา 20-60 นาที
ผลลัพธ์หลังฉีดวิตามินผิว
การ ฉีดวิตามินผิว เพื่อปรับสภาพผิวใสเปล่งประกายออร่า ขาวอมชมพู เป็นการเพิ่มความขาว และความสว่างทั่วร่างกาย ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการฟื้นฟูเซลล์ผิวหมองคล้ำที่เสื่อมสภาพเข้าไปในร่างกายทางเส้นเลือด ซึ่งจะเห็นผลได้ชัดเจนกว่า เพราะเมื่อฉีดวิตามินผิว เข้าในร่างกายจะสามารถออกฤทธิ์ได้ทันทีทั่วร่างกาย พร้อมกระตุ้นการสร้างคลอลาเจน ช่วยระบบการหมุนเวียนโลหิต และปกป้องสภาพเซลล์ผิวภายนอกให้แข็งแรงทนต่อมลภาวะได้ดีขึ้น
การดูแลตัวเองหลังฉีดวิตามินผิว
การ ฉีดวิตามินผิว เป็นการบำรุงผิว สามารถช่วยฟื้นฟูสภาพผิวคล้ำเสีย ให้ดูขาวใสสุขภาพดีมากกว่าเดิม และยังสามารถลดการสร้างเซลล์เม็ดสีที่ผิดปกติ การพักเพื่อฟื้นฟูผิวก็เป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำ เพราะนอกจากจะทำให้เราฟื้นตัวเร็วแล้ว ยังทำให้การที่เราได้รับวิตามินบำรุงผิวมาได้ผลมากขึ้นอีกด้วย มีวิธีไหนที่ช่วยเราได้บ้าง ตามมาดูกันได้เลย
1. หลังการ ฉีดวิตามินผิว ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดที่ร้อนจัด ในสภาพอากาศที่มักจะร้อนจัดของประเทศไทย แดดถือเป็นอีกศัตรูตัวฉกาจของผิวเรา เพราะฉะนั้นหลังจากการ ฉีดวิตามินผิว นั้น เราควรที่จะดูแล และปกป้องผิวจากแดดมากเป็นพิเศษ ซึ่งถ้าเราไม่สามารถหลบแดดได้จริงๆ ในระหว่างวัน ก็ควรที่จะทาครีมกันแดดเพื่อกันไว้ก่อน โดยแนะนำเป็นแบบ SPF50 PA+++ การโดนแดด จะทำให้ผิวที่กำลังจะขาวขึ้นนั้นไม่กลับมาคล้ำอีกครั้งได้
2. หลังการ ฉีดวิตามินผิว ควรงดดื่มงดสูบ งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะว่าสารเคมีต่างๆ ที่เราได้รับเข้าร่างการ จะไปทำลายสารที่เราได้รับจากการ ฉีดวิตามินผิว ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อการฟื้นฟูผิว การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่มีผล ทำให้หน้าหมองคล้ำ และมีริ้วรอยมากขึ้น
3. รักษาความชุ่มชื้น ช่วยบำรุงผิวหลังการ ฉีดวิตามินผิว เติมวิตามินเข้มข้นไปที่ผิวโดยตรง ช่วยให้ผิวใส ดูสุขภาพดี โดยจะเน้นหนักไปที่ความกระจ่างใส มากกว่าการปรับสีขาว เสริมด้วยการสร้างภูมิคุ้มกันผิว และซ่อมแซมเซลล์ผิวที่ถูกทำร้ายด้วย
ข้อควรระวังในการฉีดวิตามิน
แม้วิตามินจะมีประโยชน์ และมีความสำคัญต่อร่างกาย แต่ใช่ว่าการรับวิตามินจะไม่มีผลข้างเคียงหรือข้อควรระวังใดๆ เลย ข้อที่ต้องคำนึงถึงใหญ่ๆ ได้แก่ หากได้รับวิตามินในปริมาณมากไปจนเกินความต้องการของร่างกาย ก็ย่อมทำให้เกิดอันตรายและมีปัญหาตามมาในระยะยาวได้
ส่วนอีกข้อควรระวังที่สำคัญของการ ฉีดวิตามินผิว คือ การเลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เนื่องจากการ ฉีดวิตามินผิว นั้นใช้การพาสารน้ำเข้าสู่กระแสเลือดโดยตรง ดังนั้นหากคลินิกหรือสถานพยาบาลไม่ได้มาตรฐาน หรือผู้ทำการ ฉีดวิตามินผิว ขาดความเชี่ยวชาญ ก็อาจก่อให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินได้ เช่น เกิดอาการแพ้สำหรับผู้ที่มีประวัติแพ้ยาบางตัว เป็นต้น
เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินได้ เช่น เกิดอาการแพ้สำหรับผู้ที่มีประวัติแพ้ยาบางตัว เป็นต้น
การฉีดวิตามิน ไม่เหมาะกับใคร
หากคุณเป็นคนที่มีประวัติสุขภาพหรืออาการดังต่อไปนี้ ควรหลีกเลี่ยงการ ฉีดวิตามินผิว หรือหากต้องการฉีดจริง ๆ ต้องแจ้งอาการให้แพทย์ทราบโดยละเอียด เพื่อพิจารณาความเหมาะสมก่อนทุกครั้ง
• หญิงที่ตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เนื่องจากการรับวิตามินบางชนิดมากเกินไปอาจส่งผลต่อทารกได้ ดังนั้นจึงต้องให้แพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด
• มีประวัติการแพ้ยาหรือวิตามิน หรือเคยมีลักษณะอาการของการแพ้ การให้วิตามินในรูปแบบของการฉีด เป็นการให้วิตามินผ่านทางหลอดเลือดและกระแสเลือด ดังนั้นในคนที่มีอาการแพ้ยาหรือวิตามินต่าง ๆ ส่งผลให้การแสดงอาการแพ้รวดเร็วและรุนแรงกว่า
• มีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับไต เช่น ภาวะไตเสื่อม หรือไตวายเรื้อรัง เป็นต้น จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงวิตามินเอ หรือวิตามินบางชนิด ที่อาจมีส่วนผสมของโพแทสเซียมและแมกนีเซียม ซึ่งจะส่งผลต่อการทำงานของไต
• มีอาการป่วยโรคพร่องเอนไซม์ G6PD เนื่องจากผู้ป่วยในโรคนี้ต้องหลีกเลี่ยงอาหารและยาที่อาจก่อให้เกิดภาวะซีดจากเม็ดเลือดแดงแตก ดังนั้นจะรับวิตามินได้ก็ต่อเมื่อแพทย์พิจารณาแล้วว่าจะไม่มีความเสี่ยงเหล่านั้น
• มีการรับประทานยาที่มีฤทธิ์เกี่ยวกับเกล็ดเลือด การให้วิตามินบางตัวทางหลอดเลือด อาจมีผลต่อยาที่ออกฤทธิ์เกี่ยวกับเลือดที่อยู่ในกระแสเลือด เช่น ผู้ที่รับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด ต้องหลีกเลี่ยงวิตามินอี
• มีโรคประจำตัวและยาที่รับประทานประจำ เนื่องจากโรค อาการป่วย และยาที่รับประทานอยู่อาจมีผลกระทบกับระบบไหลเวียนเลือดและหลอดเลือด
ราคา ฉีดวิตามินผิว
การ ฉีดวิตามินผิว ควรมีราคาสมเหตุสมผล เช็คราคาที่น่าไว้ใจ ไม่ถูกเกินไป ซึ่งการฉีดแต่ละครั้งมีราคาค่อนที่ข้างสูง เช่น ค่าฉีดครั้งละ 2,000 บาท และต้องฉีดทุกๆ 3-7 วันต่อครั้ง ในหนึ่งเดือนอาจจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 8,000-20,000 บาทเลยทีเดียว และต้องฉีดติดต่อกันหลายเดือนด้วยถึงจะเห็นผลอย่างชัดเจน นอกจากราคาแล้วควรศึกษาข้อมูลแพทย์และเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ
เลือก ฉีดวิตามินผิว ที่ไหนดี
ก่อนตัดสินใจ ฉีดวิตามินผิว ควรศึกษาข้อมูลและเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ มีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง ดำเนินงานโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ให้คำแนะนำอย่างละเอียดเกี่ยวกับตัวยาที่ใช้ และมีราคาสมเหตุสมผล การซื้อวิตามินผิวมาฉีดเอง หรือฉีดกับหมอกระเป๋าถือว่าเป็นเรื่องอันตรายอย่างมาก
เพราะเราไม่สามารถตรวจสอบได้เลยว่ายาที่ใช้เป็นของแท้ที่ได้มาตรฐานหรือไม่ คนที่ฉีดให้มีความรู้ความชำนาญหรือไม่ รวมถึงความสะอาดในขั้นตอนต่างๆ และอุปกรณ์ที่ใช้ทำหัตถการ เมื่อ ฉีดวิตามินผิว เข้าสู่กระแสเลือดแล้วอาจทำให้เกิดการติดเชื้อและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
สรุป
การ ฉีดวิตามินผิว ได้รับความนิยมในหมู่คนรักความงาม โดยเฉพาะในเรื่องความขาวใสของผิว ความขาวที่ได้รับหลังจาก ฉีดวิตามินผิว เข้าไปสามารถเป็นไปได้จริง ด้วยหลักการทำงานของวิตามินที่มีส่วนช่วยลดการเกิดขึ้นของเม็ดสีเมลานิน แก้ปัญหาจุดด่างดำ ก็จะทำให้ผิวดูขาวมากขึ้นกว่าผิวเดิม แต่ระดับความขาวที่เกิดขึ้น ก็ไม่ได้มากจนเลยระดับผิวหนังเดิมของตัวเองไปแต่อย่างใด