หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไร สิ่งสำคัญที่ต้องทราบของการฉีดฟิลเลอร์ คือ ข้อปฏิบัติหลังฉีดนั่นเองค่ะ หลายคนกังวลว่าไปฉีดฟิลเลอร์มาแล้วต้องทำตัวแบบไหน เพราะว่าอาจมีผลข้างเคียงกับฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไป ดังนั้น บทความนี้จะมาบอกว่าหลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไร และอาหารที่ควรรับประทาน
ทำความรู้จักฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร? สารเติมเต็มฟิลเลอร์ เป็นสารประเภท Hyaluronic Acid (HA) ถูก สร้างขึ้นมาเพื่อเลียนแบบสารธรรมชาติ ที่มีอยู่แล้วในร่างกาย โดยจะมีอยู่มากในชั้นผิวหนังและกระดูกอ่อน ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของคอลลาเจน มีส่วนช่วยในการเติมเต็มใบหน้า ริ้วรอย รอยหมองคล้ำดูจางลง ช่วยแก้ไขโครงสร้างใต้ผิวหนัง ให้เต่งตึงขึ้น ดูมีน้ำมีนวลขึ้น หน้าดูเด็กลง
อาหารที่ควรเลี่ยงหลังฉีดฟิลเลอร์
การดื่มแอลกฮอล์มีผลโดยตรงกับการบวมของฟิลเลอร์ อาการบวมในที่นี่ไม่ได้ได้เกิดผลกับการที่ฟิลเลอร์อุ้มน้ำเพิ่มมากขึ้นแต่อย่างใด แต่เป็นอาการอักเสบบวม ซึ่งโดยปกติแล้วอาการบวมแดงหลังจากการฉีดฟิลเลอร์นั้น จะคงอยู่ที่ประมาณ 2-3 วัน และจะหายไปได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด
แต่อาการบวมที่เกิดจากการผิดปกติ หลังการฉีดฟิลเลอร์ มีโอกาสที่จะเป็นอาการบวมจากการติดเชื้อด้วย หากฉีบวมเกิน 3 วัน ให้รีบมาปรึกษาแพทย์ เพื่อป้องกันผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ที่อาจจะเกิดขึ้น
**แนะนำให้งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกฮอล์ ในช่วง 2-3 วัน ก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์ แต่ระยะเวลาที่เหมาะสมจริง ๆ ควรเป็น 1 สัปดาห์ค่ะ
หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง
อาหารหมักดองนั้น มีผลกับการบวมเช่นเดียวกับแอลกอฮอล์ และมีผลกับการเกิดการติดเชื้อเป็นอย่างมาก เพราะอาหารหมักดอง อาจมีวัตถุเจือปนมากันอาหาร สารกันเชื้อรา สี สารกันเสีย และสารฟอกสี ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก
อาหารมักดอง ถือว่าเป็นอาหารแสลง ที่อาจก่อให้เกิดอาการติดเชื้อได้ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยและการลดความเสี่ยงของอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น แพทย์จึงแนะนำ ห้ามกินของหมักดอง รวมถึงปลาร้า หอยแครงลวก ไข่ดาวไม่สุก ไข่ลวก เนื้อที่ปรุงไม่สุก หรือแม้กระทั่ง ผักผลไม้ที่ล้างไม่สะอาดหลังฉีดฟิลเลอร์ เนื่องจากมีความเสี่ยงสูง เพราะอาหารดิบเต็มไปด้วยพยาธิ เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส และเชื้ออื่น ๆ อีกมากมาย
หากเรารับประทานอาหารดิบหรือกึ่งสุกกึ่งดิบเข้าไป เชื้อโรคก็จะเข้าไปในเส้นเลือดแล้วก็จะเข้าไปขัดขวางการซ่อมแซมแผล และทำให้แผลติดเชื้อได้
หลังฉีดฟิลเลอร์แนะนำให้เลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีรสจัด เช่น รสหวานจัด เค็มจัด หรือเผ็ดจัด หรืออาหารที่มีโซเดียมสูง เนื่องจากอาหารเหล่านี้จะส่งผลให้ตัวบวม หรือที่เรียกว่า “ภาวะบวมน้ำ” ซึ่งเป็นสาเหตุที่จะไปกระตุ้นการอักเสบบนผิวหน้าได้ง่าย ทำให้แผลบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์หายได้ช้า
อ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์กินปลาร้าได้ไหม
หลีกเลี่ยงอาหารเสริม หรือยาบางชนิด
หลีกเลี่ยงการทานวิตามิน หรือ อาหารเสริมประเภทวิตามินอี น้ำมันปลา หรือสารสกัดสมุนไพรที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น โสม กิงโกะ และส่วนผสมของกระเทียม เพราะสารดังกล่าวจะเข้าไปทำปฏิกิริยาต่อร่างกาย อาจทำให้มีผลข้างเคียงตามมาและเสี่ยงต่อการเกิดภาวะช้ำได้ง่ายกว่าปกติ
รวมถึงหลีกเลี่ยงยาที่มีผลต่อการทำให้เกิดเลือดแข็งตัว อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เช่น ยาแก้ปวด กลุ่ม NSAIDs, แอสไพริน (aspirin) และ ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) เพื่อความปลอดภัยควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาดังกล่าวจะดีที่สุด
วิดีโอ : 4 ข้อฉีดฟิลเลอร์ผิดพลาด
ควรทานอะไรหลังจากการฉีดฟิลเลอร์
สิ่งที่ควรรับประทานหลังฉีดฟิลเลอร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของผลลัพธ์ และตัวยาอยู่ได้นาน มีดังนี้
- ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อความชุ่มชื้นและให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดไปอุ้มน้ำและฟูขึ้น
- สามารถรับประทานยาได้หากมีปวดในบริเวณที่ฉีด แพทย์แนะนำกลุ่มยาแก้ปวด พาราเซตามอล
- อาหารที่มีวิตามินเอและวิตามินซีสูง เช่น สับปะรด แครอท มันฝรั่งหวาน สาหร่ายเคลป์ กีวี่ สตอเบอร์รี่ ผลไม้รสเปรี้ยว
อาหารที่กล่าวมาข้างต้น จะมีส่วนประกอบที่ช่วยทำให้เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และเป็นผลดีที่ทำให้บาดแผลจากการฉีดฟิลเลอร์หายไวขึ้นค่ะ
ผลข้างเคียงการฉีดฟิลเลอร์ที่อาจเกิดขึ้นได้
ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ที่อาจเกิดขึ้นได้ จะมีอาการบวมเล็กน้อย หรือมีจุดแดงเล็ก ๆ ที่เกิดจากเข็ม แต่อาการจะดีขึ้นภายใน 3-5 วัน ซึ่งสามารถใช้รองพื้นธรรมดา เพื่อปกปิดรอยเข็ม หรือรอยบวมแดงได้ แต่หากภายใน 3 วัน อาการบวมยังไม่ดีขึ้น ควรติดต่อกลับมาที่คลินิก และหากเกิดรอยช้ำ หรือรอยบวม ไม่ควรใช้ความร้อนประคบ เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์ละลาย
อ่านเพิ่มเติม ปัญหาฟิลเลอร์ไหลย้อย
วิธีลดความเสี่ยงและอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
การฉีดฟิลเลอร์ที่ปลอดภัย และไม่เป็นอันตราย จะต้องเลือกจากปัจจัยหลายอย่าง โดยเราจะต้องตัดสินใจให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ตามมา ซึ่งวิธีลดความเสี่ยงและอันตรายมี ดังนี้
การเลือกตัวยา
ฟิลเลอร์ที่ใช้ในการฉีดเพื่อทำการรักษา จะต้องเป็นฟิลเลอร์แท้ เท่านั้น ฟิลเลอร์จะต้องได้มาตรฐาน ได้รับรองจากองค์การอาหารและยา โดยเราสามารถดูรายละเอียดได้จาก การเลือกฟิลเลอร์แท้และฟิลเลอร์คุณภาพ และวิธีการตรวจสอบฟิลเลอร์แท้หรือปลอม
อ่านเพิ่มเติม >>> ฟิลเลอร์แท้ ดูอย่างไร?
เลือกแพทย์ที่มีความชำนาญ
แพทย์ที่จะทำการฉีดฟิลเลอร์ต้องมีประสบการณ์และความชำนาญเฉพาะทางด้าน แพทย์ต้องมีความเชี่ยวชาญในการวางตัวยาในตำแหน่งชั้นผิวได้อย่างเหมาะสม เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นธรรมชาติ และบวมช้ำน้อยที่สุด และไม่เกิดปัญหาหลังการฉีดฟิลเลอร์ในแบบต่าง ๆ
ดูประวัติแพทย์ RWC >>> คลิกที่นี่
เลือกสถานบันความงาม
สถาบันความงามหรือสถานพยาบาลที่ไปรับบริการจะต้องได้มาตรฐาน สะอาด ทั้งสถานที่และอุปกรณ์ที่ใช้ เพื่อลดโอกาสในการเกิดการติดเชื้อจากการฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะแท้หรือปลอม ถ้าไม่สะอาดก็อาจจะเกิดการติดเชื้อได้เช่นกัน
สรุป
หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไร ถ้าใครที่หลังฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วนั้นอยากให้ผิวดูเต่งตึงขึ้นมากกว่าปกติ และแผลหายเร็วขึ้นก็สามารถรับประทานอาหารตามที่บอกข้างต้นได้เลย ทั้งนี้หลังเข้ารับการรักษาด้วยการฉีดฟิลเลอร์อย่าลืมรับประทานน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 3-4.5 ลิตร ในช่วงวันแรก ๆ เพื่อให้ฟิลเลอร์ของเราอุ้มน้ำมากยิ่งขึ้น
เผลอดื่มแอลกอฮอไป ทำให้ปากบวม ต้องไปพบแพทไหมค่ะหรือรอให้หายเอง