การรักษาหลุมสิวไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปในเมื่อมีนวัตกรรมที่ช่วยรักษาหลุมสิวอย่าง เมโสหลุมสิว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาหลุมสิวในราคาย่อมเยา ยังอยากลองรักษาในระดับเบื้องต้น หรือมีระดับความรุนแรงของหลุมสิวไม่มาก ต้องมาลองฉีดเมโสหลุมสิว แล้วจะรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นตาตื่นใจ
สารบัญ
- การเมโสหลุมสิว คืออะไร
- การเมโสหลุมสิว ดีไหม
- ส่วนผสมของเมโสหลุมสิว
- ข้อดีของการฉีดเมโสหลุมสิว
- ผลลัพธ์หลังทำการฉีดเมโสหลุมสิว
- การดูแลตัวเองหลังฉีดเมโสหลุมสิว
- การเมโสหลุมสิว VS ฟิลเลอร์หลุมสิว
มารู้จักนวัตกรรมรักษาหลุมสิวที่ดีที่สุด ได้ที่นี่
เมโสหลุมสิว คืออะไร
เมโสหลุมสิว คือ เป็นการฉีดเมโสเข้าไปใต้ชั้นผิวเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้เซลล์ผิวใหม่ และช่วยซ่อมแซมผิวได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมาก โดยเฉพาะสำหรับหลุมสิวที่มีความรุนแรงปานกลางไปจนถึงมาก อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเนื่องจากเป็นการเติม Volume เข้าไปใต้หลุมสิว เพื่อทดแทนไขมันบริเวณใต้ผิว ที่หายไป รวมทั้งยังไปแทนที่พังผืดใต้ผิวหนัง ให้ผิวดูสุขภาพดีขึ้น ทำให้เห็นผลลัพธ์ทันที
ส่วนผสมของ เมโสหลุมสิว
- Hyaluronic acid ช่วยให้ผิวหน้าชุ่มชื่น ฉ่ำวาว
- PDRN สารสกัดจากปลาแซลมอน ให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใส
- Multivitamin มากกว่า 10 ชนิด ช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระและชะลอวัยให้กับผิว
- Niacinamide ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิว ผิวหน้าเนียน นุ่ม
- Coenzyme Q10 ช่วยลดเลือนริ้วรอยให้ผิวหน้า
- Hydrolyed collagen เสริมสร้างคอลลาเจนให้ผิว ผิวหน้าแข็งแรง
ข้อดีของการฉีด เมโสหลุมสิว
- ฟื้นฟูผิวชั้นหนังแท้ที่เสื่อมสภาพตามอายุ ที่เพิ่มขึ้นให้แข็งแรง จากภายในสู่ภายนอก พร้อมปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆ
- ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่และช่วยซ่อมแซมผิวรูปแบบใหม่ ช่วยให้ผิวสุขภาพดีถึงชั้นหนังแท้
- ช่วยเพิ่ม Volume ช่วยให้ผิวหนาตัวขึ้น ผิวแน่น ให้ผิวมีความยืดหยุ่น ดูอิ่มน้ำ
- เสริมสร้างและช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น อิ่มน้ำ ฟูเด้ง เรียบเนียน ช่วยให้ผิวเก็บความชุ่มชื้น ไว้ได้ยาวนานขึ้น
- ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้กลับมาเต่งตึง อ่อนเยาว์
- ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน ผิวอิ่มน้ำสุขภาพดี
- ลดการสร้างน้ำมันส่วนเกิน คืนความสมดุลทำให้ผิวเนียนเรียบ ชุ่มชื่น
- ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสตินให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยังคงความยืดหยุ่นของผิวได้สูง
- ยั้บยั้งการเสียหายของผนังคอลลาเจนไม่ให้ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ
- ช่วยปกป้องเซลล์ผิว จาก แสง UV
- ช่วยทำให้ริ้วรอยตื้นขึ้น ริ้วรอยบางๆ จางลงอย่างเป็นธรรมชาติ
การดูแลตัวเองหลังฉีด เมโสหลุมสิว
วิธีการดูแลรักษาตัวระหว่างการรักษาหลุมสิว ไม่ว่าจะหนักอยู่ในกลุ่มประเภทไหนก็ตาม สิ่งที่มีความจำเป็นและสำคัญอย่างยิ่ง คือ ต้องพยายามรักษาหรือป้องกันตัวเองไม่ให้เกิดภาวะสิวอักเสบซึ้นซ้ำอีก ไม่ควรจะดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ระหว่างการทานยาหรือระหว่างการรักษา (เพราะแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างคลอลาเจน) ซึ่งสำหรับบางคนก็อาจจะรับประทานคอลลาเจนเสริมเข้าไปด้วยก็ได้ เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจากภายในร่างกายให้ดีขึ้น
สิ่งที่ไม่ควรทำ หากยังมีปัญหาเรื่องของหลุมสิว นั่นก็คือ การขัดหน้า นวดหน้า เพราะนั่นคือวิธีที่จะทำให้เกิดภาวะการอุดตันของสิ่งสกปรกต่างๆ ในหลุมสิว ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะอักเสบได้ในภายหลัง การรักษาเรื่องของอาการหลุมสิวอักเสบ ผู้รับการรักษาต้องค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ค่อยรักษา และจะทำให้การฟื้นฟูสภาพผิวหน้าค่อยๆ ดีขึ้นและผิวก็จะแข็งแรงได้ดีอีกด้วย
เมโสหลุมสิว VS ฟิลเลอร์หลุมสิว
ถ้าถามว่า เมโสหลุมสิว กับ ฟิลเลอร์หลุมสิว อะไรดีกว่ากัน ต้องให้การฉีดฟิลเลอร์ดีกว่า เพราะการฉีดฟิลเลอร์เป็นการเติมเต็มหลุมสิวให้เต็มทันที ต่างจากการฉีดเมโสที่จะต้องรอให้ตัวยาค่อยๆ ฟื้นฟูคอลลาเจนเพื่อเติมเต็มหลุมสิว โดยการฉีดฟิลเลอร์ เป็นอีกวิธีที่เหมาะกับการรักษาหลุมสิวในระดับตื้นถึงลึกปานกลางฟิลเลอร์ (Filler) นั้นเป็นชื่อที่ใช้เรียกแทน “สารเติมเต็ม”
โดยสารที่นิยมนำมาใช้กันมากก็คือ ไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ส่วนใหญ่แล้วการรักษาหลุมสิว ด้วยวิธีนี้จะค่อนข้างได้ผลประมาณ 30-70% เพราะเป็นการฉีดสารเข้าไปเพื่อเติมเต็มรอยหลุมในทันที ไม่จำเป็นต้องรอให้ร่างกายสร้างเนื้อขึ้นมาเอง แต่การฉีด 1 ครั้งจะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน – 1 ปี เพราะฟิลเลอร์ ไฮยาลูรอนิก แอซิด เป็นสารที่สามารถเสื่อมสลายไปได้เองตามธรรมชาติโดยไม่ทิ้งสารติดค้างกับร่างกาย
อาการหลังทำอาจพบว่าใบหน้ามีรอยแดงช้ำได้ การรักษาวิธีนี้จะใช้กับหลุมสิวประเภท Rolling scar เพราะไม่มีพังผืดเกาะที่หลุมวิธีนี้ใช้กับหลุมสิวที่มีพังผืดเกาะไม่ได้ผล เพราะพังผืดเป็นตัวกั้นการสร้างคอลลาเจน วิธีการรักษาคือ จะฉีดสารเติมเต็มเข้าไปที่ก้นหลุมเพื่อปิดรอยหลุมให้ตื้นขึ้น
สรุป
เมโสหลุมสิว ด้วยสารสกัดทรงประสิทธิภาพจากธรรมชาติที่มีความบริสุทธิ์สูง ส่งผลให้กระตุ้นกระบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่ เสริมสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ฟื้นฟูผิวเสียให้มีสุขภาพดี ช่วยให้ผิวกระชับ เต่งตึง ให้หลุมสิวดูตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ