หลุมสิว เป็นปัญหาผิวหน้าที่ไม่มีใครอยากเป็น มาทำความรู้จักกับ ประเภทหลุมสิว ว่าหลุมสิวที่เกิดขึ้นบนใบหน้าเราเป็นหลุมสิวประเภทไหน เป็นหลุมสิวที่รุนแรงแค่ไหน เพื่อให้สามารถหาทางรักษาหลุมสิวได้อย่างเหมาะสม และสามารถป้องกันการเกิดหลุมสิวซ้ำได้อีกครั้ง
สารบัญ
มารู้จักนวัตกรรมรักษาหลุมสิวที่ดีที่สุด ได้ที่นี่
หลุมสิว คืออะไร
หลุมสิว คือ รอยแผลเป็นชนิดหนึ่งหลังเกิดการอักเสบจากสิวที่ผิวหนัง และเกิดเส้นพังผืดดึงรั้งผิวหนังให้เกิดรอยบุ๋มลงไป เกิดขึ้นเมื่อเราปล่อยให้สิวอักเสบมันลุกลามจนกินพื้นที่ลึกลงไปถึงเนื้อใน ทำให้เนื้อหายจนกลายเป็นหลุมเป็นบ่อ หรือมีกรณีทำร้ายผิวหน้าโดยไม่ตั้งใจ เช่น การพยายามบีบสิวอย่างผิดวิธีจนทำให้สิวอุดตันธรรมดาๆ กลายเป็นสิวอักเสบและกลายเป็นหลุมสิวในที่สุด
ส่วนใหญ่มักจะมีหนองร่วมด้วย จึงทำให้คอลลาเจนถูกทำลายจนทิ้งรอยหลุมไว้หลังสิวหาย ซึ่งร่างกายพยายามซ่อมแซมตนเอง เนื่องจากเมื่อมีการอักเสบเกิดขึ้นก็มักจะมีพังผืดตามมาเสมอ พังผืดเหล่านั้นจะดึงรั้งทำให้เกิดแผลหลุมขึ้นมา นอกจากนั้นสิวอักเสบขนาดเล็ก หรือแม้แต่สิวอุดตันที่มีการแกะ กดสิว หรือบีบสิว ก็อาจจะทิ้งรอยแผลเป็นได้เช่นเดียวกัน
การป้องกันการเกิดหลุมสิว
การป้องกันที่ดีที่สุด คือการพยายามป้องกันไม่ให้ตัวเองมีสิวอักเสบ หรือถ้าเป็นแล้วก็ต้องรีบหาทางรักษาเพื่อทำให้สิวอักเสบยุบเร็วขึ้นโดยไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ แม้ว่าเราจะไม่สามารถทำให้ผิวเติมเต็มหลุมสิวได้เหมือนเดิม 100% แต่เราก็สามารถทำให้เซลล์เนื้อเยื่อใหม่ฟื้นฟูและเติมเต็มหลุมได้ถึง 70-80%
ประเภทหลุมสิว มีอะไรบ้าง
หลุมสิวชนิด Rolling scar (ระดับทั่วไป)
หลุมสิวระดับนี้จะมีลักษณะเป็นหลุมสิวแบบตื้น ๆ เป็นแอ่งเว้า กินพื้นที่ส่วนบนของผิวเพียงเล็กน้อย ที่มักจะเกิดจากการแกะเกาสิวที่อยู่ในระดับที่ไม่ลึกมาก และทำการรักษาได้ง่ายกว่าระดับอื่น
- เป็นแอ่งโค้งตื้นที่มีปากกว้างมากกว่า 4-5 มิลลิเมตร
- เป็นหลุมที่มีความรุนแรงน้อยที่สุด รักษาได้ง่าย
- ผู้ที่เป็นหลุมสิวชนิดนี้มีประมาณ 15-25%
ชนิด Box scar (ระดับรุนแรงปานกลาง)
หลุมสิวระดับนี้จะมีลักษณะเป็นบ่อ เป็นรอยหลุมที่มีลักษณะขนาดใหญ่ประมาณ 3-5 มิลลิเมตรมีขอบชัดเจนและมีขอบเขตกว้าง จึงมีรูปร่างคล้ายกล่องสี่เหลี่ยม ฐานของหลุมจะแข็งตึง เกิดจากการมีพังผืด แต่จะมีความตื้นชั้นผิวเท่านั้น ไม่ได้กินไปจนถึงชั้นรูขุมขน หลุมสิวระดับนี้ หลังการรักษารอยหลุมแล้ว อาจจะเหลือร่องรอยจุดด่างดำอยู่บ้าง
- ลักษณะเหลี่ยมออกกลมรี
- มีปากหลุมที่กว้าง แต่ก้นหลุมสิวตื้น
- ผู้ที่เป็นหลุมสิวชนิดนี้มีประมาณ 20-30%
- มักพบบริเวณ “แก้ม และ ขมับ”
ชนิด Ice pick scar (ระดับรุนแรงที่สุด)
รอยหลุมแคบแต่ลึก มีความลึกถึงรูขุมขน หลุมชนิดนี้เกิดจากการกดหรือบีบสิวอุดตัน มีการทำลายลึกลงไปถึงชั้นผิวหนังแท้ ทำให้คอลลาเจนหายไปด้วย หลุมสิวชนิดนี้รักษายากและต้องใช้เวลานานในการรักษา
- เป็นหลุมสิวที่มีความรุนแรงที่สุดและพบมากที่สุด
- ค่อนข้างยากในการรักษา
- ผู้ที่เป็นหลุมสิวชนิดนี้มีถึง 60-70%
การรักษาหลุมสิว มีอะไรบ้าง
การทำ Subcision
วิธีนี้แพทย์จะใช้เข็มลักษณะพิเศษตัดผิวพังผืด โดยสอดเข็มลงไปใต้ผิวหนัง เพื่อทำการตัดพังผืดที่ยึดผิวด้านบนที่เป็นหลุมให้ขาดออกจากหนังที่ยึดอยู่ด้านล่าง หลุมสิวก็จะตื้นขึ้น เหมาะสำหรับทำควบคู่กับการรักษาด้วยเครื่องเลเซอร์อื่นๆ สำหรับปัญหาหลุมสิวที่ลึกมากๆ
ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว
การฉีดฟิลเลอร์ คือ การฉีดสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid เข้าไปยังบริเวณหลุมสิวเพื่อเติมเติม การรักษาด้วยวิธีนี้จะได้ผลประมาณ 60% – 70% เพราะเป็นการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปเพื่อเติมร่องหลุมในทันที ไม่ต้องรอให้ร่างกายสร้างเนื้อขึ้นมาเอง เป็นอีกวิธีที่เหมาะกับการรักษาหลุมสิวระดับทั่วไปในระดับตื้นถึงลึกปานกลาง
การทำ IPL
สามารถใช้ได้ดีกับหลุมสิวระดับ Rolling scar โดย IPL จะเป็นการใช้คลื่นแสงความเข้มข้นสูง เพื่อเข้าไปกระตุ้นคอลลาเจนในผิวหนัง ให้เติมเต็มผิวหนังขึ้นมา โดยระยะของแสงจะต้องมีการปรับให้เหมาะสมกับสภาพปัญหาผิวของแต่ละบุคคล ถ้าหากการปรับนี้ทำโดยผู้ไม่มีความเชี่ยวชาญโดยตรง อาจทำให้ผิวไหม้ได้
เลเซอร์หลุมสิว
เลเซอร์หลุมสิว คือ การใช้เทคโนโลยีเลเซอร์สำหรับแก้ปัญหารอยสิวด้วยพลังงานแสง และช่วงความยาวคลื่นที่เหมาะสม โดยจะทำการยิงลำแสงเลเซอร์ลงไปบนผิวหนังที่ต้องการลบรอยสิว เพื่อกำจัดผิวหนังชั้นนอก และกระตุ้นผิวหนังให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ส่งผลให้หลุมสิวและผิวบริเวณที่ทำแลดูเรียบเนียน และรอยต่าง ๆ ดูจางลง
เทคโนโลยีเลเซอร์หลุมสิวที่กำลังได้รับความนิยม นั่นก็คือ Fractora ส่งผ่านพลังงานในลักษณะ Fractional RF ลงสู่ผิว เจาะเข้าไปที่ชั้นหนังแท้ เพื่อตัดพังผืดที่ดึงรั้งหลุมสิว ก่อนที่จะปล่อยคลื่นพลังงานความร้อนจากปลายหัวเข็ม โดยความร้อนนี้จะยิงลึกถึงจุดที่ลึกที่สุดของชั้นหนังแท้ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนดันผิวจากด้านล่างขึ้นสู่ด้านบน เพื่อเติมเต็มหลุมสิว จึงเหมาะสำหรับรักษาหลุมสิวที่ลึกและยากต่อการรักษาด้วยเลเซอร์ทั่วไป
สรุป
ประเภทหลุมสิว มีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท ได้แก่ Rolling Scar, Box Scar และ Ice Pick Scar ซึ่งแบ่งตามความรุนแรงโดยเรียงจากน้อยไปมาก โดยปัญหาหลุมสิวนั้นไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ฟื้นฟูให้กลับมาเรียบเนียนราวกลับได้ใบหน้าใหม่ได้ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การฉีดฟิลเลอร์, การทำเลเซอร์