ฉีดปลายจมูก | ฉีดปรับทรงจมูกด้วยฟิลเลอร์ที่ควรรู้

ฉีดปลายจมูก

โปรแกรมการ ฉีดปลายจมูก ด้วยฟิลเลอร์เป็นหนึ่งในวิธีการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงจมูกให้สวยงามโดยไม่ต้องผ่านการผ่าตัด การฉีดปลายจมูกช่วยแก้ไขปัญหาปลายจมูกที่ไม่ได้รูป ไม่โด่ง หรือต้องการปรับให้เชิดขึ้นได้  โดยบทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับการฉีดปลายจมูกให้มากขึ้น ทั้งข้อดี ข้อควรระวัง และวิธีการเตรียมตัวก่อนและหลังการฉีด

การฉีดปลายจมูกคืออะไร

ข้อดีและข้อเสียของการฉีดปลายจมูก

การฉีดปลายจมูก คือ การใช้ฟิลเลอร์ (สารเติมเต็ม) ประเภทกรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic Acid) ฉีดเข้าบริเวณปลายจมูกเพื่อปรับรูปทรงให้สวยงามตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการทำให้ปลายจมูกโด่งขึ้น มีมิติมากขึ้น หรือทำให้ปลายจมูกเชิดและมีทรงหยดน้ำ กรดไฮยาลูโรนิคเป็นสารที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นเองตามธรรมชาติ ทำให้การฉีดฟิลเลอร์มีความปลอดภัยสูง มีอาการแพ้น้อย

| อ่านเพิ่มเติม  เจาะลึกบทความฟิลเลอร์จมูกแบบละเอียด

ข้อดีและข้อเสียของการฉีดปลายจมูก

ข้อดีและข้อเสียของการฉีดปลายจมูก

ข้อดีของการฉีดปลายจมูก

  1. ไม่ต้องผ่าตัด วิธีการฉีดปลายจมูกเป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด จึงมีความเสี่ยงน้อยกว่า ไม่มีแผลผ่าตัด ไม่มีรอยแผลเป็น
  2. เห็นผลทันที – หลังฉีดเสร็จ คุณจะเห็นผลลัพธ์ทันที สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการระหว่างการฉีด
  3. ระยะเวลาพักฟื้นสั้น – แทบไม่ต้องพักฟื้น อาจมีรอยแดงหรือบวมเล็กน้อยซึ่งจะหายไปใน 2-3 วัน
  4. ความเจ็บปวดน้อย – ด้วยครีมชาหรือยาชาเฉพาะที่ ทำให้ความรู้สึกเจ็บปวดระหว่างการฉีดลดลงมาก
  5. สามารถย้อนกลับได้ – หากไม่พอใจผลลัพธ์ สามารถฉีดสารละลายเอนไซม์เพื่อสลายฟิลเลอร์ได้ 

ข้อเสียของการฉีดปลายจมูก

  1. ผลลัพธ์ไม่ถาวร – ฟิลเลอร์ประเภทกรดไฮยาลูโรนิคจะค่อยๆ ถูกร่างกายดูดซึมไป ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน ต้องกลับมาฉีดซ้ำ
  2. ข้อจำกัดในการปรับเปลี่ยนรูปทรง – การฉีดปลายจมูกมีขีดจำกัดในการปรับเปลี่ยนรูปทรง ไม่สามารถเปลี่ยนโครงสร้างจมูกได้มากเท่าการผ่าตัด
  3. ความเสี่ยง – แม้ว่าจะปลอดภัยกว่าการผ่าตัด แต่ก็ยังมีความเสี่ยง โดยเฉพาะหากฉีดโดยแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญ เช่น อาการบวม ช้ำ ติดเชื้อ หรือในกรณีที่ร้ายแรงที่สุดคือฟิลเลอร์อาจเข้าสู่เส้นเลือดทำให้เกิดการอุดตัน
  4. ค่าใช้จ่ายระยะยาว – แม้ค่าใช้จ่ายต่อครั้งจะถูกกว่าการผ่าตัด แต่เมื่อต้องฉีดซ้ำเรื่อย ๆ ในระยะยาวอาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า

การเตรียมตัวก่อนฉีดและการดูแลหลังฉีด

การเตรียมตัวก่อนฉีดและการดูแลหลังฉีด

การเตรียมตัวก่อนฉีดปลายจมูก

  1. งดยาบางชนิด – ควรงดใช้ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น แอสไพริน และยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดอย่างน้อย 1 สัปดาห์
  2. งดแอลกอฮอล์ – ควรงดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด
  3. งดผลิตภัณฑ์ดูแลผิว – ควรงดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารกรดหรือสารที่ทำให้ผิวไวต่อแสง
  4. แจ้งประวัติสุขภาพ – แจ้งแพทย์หากคุณมีโรคประจำตัว การแพ้ยา หรือกำลังใช้ยาใด ๆ

การดูแลหลังฉีดปลายจมูก

  1. หลีกเลี่ยงการสัมผัส – ไม่ควรแตะต้องหรือกดทับบริเวณที่ฉีดอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
  2. ประคบเย็น – ประคบเย็นเบาๆ เพื่อลดอาการบวมและช้ำ แต่ไม่ควรกดแรง
  3. งดกิจกรรมบางอย่าง – หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนัก อบซาวน่า หรืออาบน้ำร้อนจัด ประมาณ 24-48 ชั่วโมงหลังการฉีด
  4. นอนศีรษะสูง – ควรนอนศีรษะสูงกว่าลำตัวในช่วง 2-3 คืนแรก เพื่อลดอาการบวม
  5. ดื่มน้ำมากๆ – การดื่มน้ำเปล่าในปริมาณมากช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและช่วยในการฟื้นตัว

ฉีดปลายจมูกเหมาะกับใคร และไม่เหมาะกับใคร

ฉีดปลายจมูกเหมาะกับใคร และไม่เหมาะกับใคร

ฉีดฟิลเลอร์ปลายจมูก เหมาะกับใครบ้าง 

  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงปลายจมูกเล็กน้อยโดยไม่ต้องผ่าตัด
  • ผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้นนาน
  • ผู้ที่กลัวการผ่าตัดหรือต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการผ่าตัด
  • ผู้ที่ต้องการทดลองรูปทรงจมูกใหม่ก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรมถาวร
  • ผู้ที่มีปัญหาเล็กน้อยที่ปลายจมูก เช่น ปลายจมูกไม่ชัด ไม่โด่ง หรือต้องการทำให้เชิดขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์ปลายจมูก ไม่เหมาะกับใครบ้าง 

  • ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงรูปทรงจมูกอย่างมาก
  • ผู้ที่มีโครงสร้างจมูกผิดปกติมาก
  • ผู้ที่มีประวัติแพ้ฟิลเลอร์หรือส่วนประกอบในฟิลเลอร์
  • ผู้ที่มีโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือมีแนวโน้มเกิดแผลเป็นคีลอยด์
  • ผู้ที่วางแผนจะทำศัลยกรรมเสริมจมูกในอนาคตอันใกล้
  • ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยหลังการฉีดปลายจมูก มีดังนี้

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
  • อาการบวม แดง ช้ำ: เป็นเรื่องปกติที่อาจเกิดขึ้นหลังการฉีด อาการจะค่อย ๆ หายไปภายใน 3-7 วัน
  • ความรู้สึกเจ็บหรือไม่สบาย: อาจมีอาการเจ็บหรือไม่สบายบริเวณที่ฉีดซึ่งจะหายไปเอง
  • ฟิลเลอร์เคลื่อนตัว: หากมีการสัมผัสหรือกดทับบริเวณที่ฉีดมากเกินไป อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวได้
  • การติดเชื้อ: เป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้น้อย แต่มีความเสี่ยงเช่นกัน

อาการผิดปกติที่ควรรีบพบแพทย์ มีดังนี้

  • ความเจ็บปวดรุนแรงหรือไม่หายไป
  • อาการบวมที่มากผิดปกติหรือไม่ดีขึ้น
  • ผิวเปลี่ยนสี มีอาการชา หรือมีหนอง
  • มีปัญหาด้านการมองเห็น ปวดศีรษะรุนแรง หรืออาการผิดปกติอื่นๆ

บทสรุป

การ ฉีดปลายจมูก ด้วยฟิลเลอร์เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงจมูกให้สวยงามโดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วยข้อดีของการฉีดปลายจมูกที่ใช้เวลาทำน้อย ไม่ต้องพักฟื้นนาน และมีความเสี่ยงต่ำกว่าการผ่าตัด ทำให้วิธีนี้เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ของการฉีดปลายจมูกไม่ถาวรและมีข้อจำกัดในการปรับเปลี่ยนรูปทรงจมูก ดังนั้น การเลือกวิธีนี้ควรพิจารณาให้รอบคอบและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมกับความต้องการนะคะ

CONTACT FOR SPECIAL PRIVILEGES

กดด้านล่างติดเราเพื่อสอบถามรายละเอียดเเละสิทธิ์อื่นๆ

โทร RWC
line rwc
Facebook rwc
โทร RWC
Facebook rwc
line rwc

ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง RWC Clinic

ทีมแพทย์ RWC

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า