การฉีดแฟตแก้ม (Meso Fat) ในปัจจุบันมีการพัฒนาไปมาก จัดว่าเป็นการรักษาที่มีความปลอดภัยสูง ผลข้างเคียงน้อย และมีผลลัพธ์ที่เห็นผลได้ชัด แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ฉีดแฟตแก้มแล้ว ไม่เห็นผลลัพธ์ หรือ ผลลัพธ์อยู่ได้แค่ไม่นาน เรามาดู ข้อห้ามหลังฉีดแฟตแก้ม กันว่ามีอะไรที่เราควรปฏิบัติเพื่อให้หลังการฉีดแฟตแก้ม เห็นผลลัพธ์ที่ยาวนานกันบ้าง
เมโสแฟต คืออะไร
การฉีดแฟตแก้ม สามารถช่วยสลายไขมันส่วนเกินบริเวณแก้ม ช่วยในเรื่อง ของการปรับรูปหน้าให้ดูเรียวเล็กลง เสริมโครงหน้าให้ดูมีมิติ เหมาะสำหรับคนที่รูปหน้าไม่เท่ากัน หรือมีแก้มเยอะ มีเหนียง การฉีดแฟตแก้มจะช่วยให้มั่นใจในรูปหน้ามากขึ้น ถ่ายรูปออกมาแล้วมั่นใจยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยทำให้ผิวกระชับขึ้น ผิวหน้า ดูอ่อนเยาว์ขึ้นด้วย
ทำความรู้จักกับ เมโสแฟต ให้มากขึ้น
วิธีดูแลตนเองหลังการฉีดแฟตแก้ม
การฉีดแฟตแก้ม เป็นการสลายก้อนไขมันให้กลายเป็นไขมันเหลว แล้วจะถูกขับออกทางปัสสาวะ ดังนั้น หลังการฉีดจำเป็นต้องดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เพื่อให้ไขมันถูกขับออกมาทางปัสสาวะได้มากที่สุดนั่นเอง
ช่วงที่เว้นระยะจากการฉีดแฟตแก้ม ควรเข้ารับบริการยกกระชับผิวด้วยคลื่นไฟฟ้า (Radio Frequency: RF) ควบคู่ไปด้วย เพื่อช่วยเร่งไขมันให้ออกมาเร็วขึ้น กล้ามเนื้อกระชับ ไม่หย่อนคล้อย
จริงๆ แล้วหลังฉีดแฟตแก้มไม่ได้มีข้อห้ามที่น่ากังวลมากนัก แต่ก็ไม่ควรที่จะละเลย ข้อห้ามหลังฉีดแฟตแก้ม
ข้อห้ามหลังฉีดแฟตแก้ม
- งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 1 สัปดาห์
- ห้ามเข้าอบซาวน่า หลังทำ ประมาณ 1 อาทิตย์ เพื่อไม่ให้เกิดการบวมช้ำมากขึ้น และลดการฟกช้ำให้น้อยลง
- ห้ามขัดหน้าหรือทำทรีทเม้นต์ใดๆ หรือไปว่ายน้ำ หลังฉีดแฟตแก้ม เพราะอาจเกิดการติดเชื้อในบริเวณที่ฉีด รวมถึงผิวหนังบริเวณที่ฉีดอาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือเกิดรอยช้ำ
- เพื่อให้การสลายไขมันได้ผลดีมากยิ่งขึ้น ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารควบคู่ไปด้วย โดยให้หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมัน และน้ำตาลสูง
- ออกกำลังกายเบาๆ เช่น เล่นโยคะ เดินเร็ว ประมาณสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที-1 ชั่วโมง เพื่อช่วยให้ไขมันสลายออกไปได้เร็วขึ้น
ข้อห้ามที่หลายคนเข้าใจแบบผิดๆ
ฉีดแฟตแก้มไม่ได้มีข้อห้ามอะไรที่ยุ่งยากนัก แต่การกระทำเหล่านี้อาจเป็นการกระตุ้นกระบวนการอักเสบ ซึ่งเป็นตัวการของอาการบวม สิ่งสำคัญคือการดูแลตัวเองอย่างดีเพื่อให้ประสิทธิภาพการรักษาที่มีมากขึ้น
- ถ้าไม่มีรอยช้ำไม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงความร้อนต่างๆ
- หลังฉีดแฟตแก้ม 48 ชม. เมื่อรูเข็มปิดสนิทแล้ว สามารถขัดหน้าหรือทำทรีทเม้นต์ใดๆ หรือไปว่ายน้ำ ได้ตามปกติ
- ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 2วัน เพื่อลดการบวมช้ำ
ไขข้อข้องใจ : ฉีดเมโสแฟตแล้วอันตรายไหม ?
สเตียรอยด์ (Steroid)
ปกติแพทย์ผิวหนังจะใช้ในการฉีดสิว ฉีดคีลอยด์ ใช้ในปริมาณที่น้อยจะปลอดภัย แต่ถูกนำมาใช้ผิดวิธี มักผสมสเตียรอยด์ปริมาณมากในเมโสแฟตที่ไม่ผ่าน อย. เพราะต้นทุนต่ำ เห็นผลไว แต่ เมื่อฉีดหลายๆ ครั้งจะทำให้หน้าบวมกว่าเดิม และเสี่ยงต่อการอักเสบติดเชื้อง่ายขึ้น เนื่องจากกดภูมิคุ้มกันของร่ายกาย สเตียรอยด์ที่ผสมในเมโสแฟตจะมีทั้งแบบสีขาวขุ่นและขาวใส ทางที่ดีควรขอดูยี่ห้อเมโสแฟต ก่อนฉีดทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย
ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase)
ปกติไฮยาลูโรนิเดส นำมาใช้ในการฉีดสลายฟิลเลอร์ได้อย่างปลอดภัย แต่บางคลินิกนำมาใช้ผิดวิธี โดยการฉีดปริมาณมากๆ ทำให้คอลลาเจนในผิวถูกย่อยสลายออกไป ทำให้เนื้อยุบลงอย่างรวดเร็ว จึงเป็นที่นิยมเนื่องจาก ต้นทุนต่ำ และเห็นผลไว เมื่อฉีดหลายๆ ครั้ง จะทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย และผิวหย่อนลงเนื่องจากคอลลาเจนเสื่อมลง
สรุป
ถึงแม้ว่าการฉีดแฟตแก้มไม่ได้มี ข้อห้ามหลังฉีดแฟตแก้ม ที่มากมายยุ่งยากนัก แต่การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ยาวนานและปลอดภัยกับตัวเรามากกว่า
ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง RWC Clinic
บทความยอดนิยม
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร
- ฉีดฟิลเลอร์คาง ดีจริงไหม
- ฉีดไขมันหน้าเด็กคืออะไร
- ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์กับหมอขนม