ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ปัจจุบันแค่ใช้ครีมบำรุงผิวก็เอาไม่อยู่ การฉีดวิตามิน ฉีด DNA หรือ P Cell สารสกัดจากทะเลคุณภาพดีให้เข้าสู่ร่างกาย เป็นอีกหนึ่งความนิยมและเพื่อให้สาเหล่านี้เป็นตัวช่วยในการซ่อมแซมและบำรุงผิวนั่นเอง
ซึ่งบทความนี้ RWC มาเจาะลึกความรู้เกี่ยวกับประโยชน์ พร้อมเจาะลึกการรักษาผิวด้วยการ ฉีด DNA ห้ามพลาดบทความนี้
อ่านเพิ่มเติม >>>เมโสหน้าใส<<<
ฉีด DNA คืออะไร
ฉีด DNA สารสกัดจากทะเล นวัตกรรมฟื้นฟูสภาพผิวจากภายใน HA + DNA ปลาแซลมอน
HA (Hyaluronic Acid) สารที่เลียนแบบสารในร่างกายที่ปลอดภัย มีความโดนเด่นในเรื่องของความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่น จะช่วยดึงโมเลกุลของน้ำจากภายใน ส่งผลให้ผิวดูชุ่มชื้นและเต่งตึงนั่นเอง
สกัดจากอสุจิปลาแซลมอน เรียกว่า Poly Deoxy Ribo Nucleotide เป็นขั้นตอนการสังเคราะห์ DNA ที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาการฟื้นฟูเนื้อเยื่อ เพื่อช่วยประสิทธิภาพในการรักษาผิวหนังและช่วยกระตุ้นเซลล์ร่างกายอีกด้วย
- ช่วยกักเก็บน้ำและความชุ่มชื้นให้กับผิว ผิวชุ่มชื่นยืดหยุ่นกลับคืนสู่ความสมดุลอ่อนเยาว์อีกครั้ง
- ปกป้องเนื้อเยื่อโครงสร้างผิวจากการทำลายของอนุมูลอิสระ และกระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์ผิว
- ช่วยลดเลือนริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้า ให้อิ่มฟู
- ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย
- ช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจน (collagen) และอีลาสติน (elastin) เพื่อเร่งการสร้างเซลล์ผิวใหม่ทดแทนผิวเก่าที่ถูกทำร้ายจากแสงแดดและมลภาวะ
- ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้รูขุมขนดูกระชับ
- ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอดูกระจ่างใสขึ้น
การดูเเลรักษาหลังฉีด
- งดการกดนวดบริเวณที่ฉีด
- หลีกเลี่ยงการล้างหน้า 4-6 ชั่วโมงหลังฉีด
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด 48 ชั่วโมงหลังฉีด
- สามารถประคบเย็นบริเวณที่เกิดรอยช้ำ รอยแดงจากเข็มได้
- งดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน
- แนะนำให้ใช้ครีมบำรุงที่มีวิตามินผสม เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โดยปกติแล้ว แพทย์จะแนะนำให้ฉีด DNA หรือสารสกัดจากปลาแซลมอน ประมาณ 2 ครั้งขึ้นไป และต้องเว้นระยะห่างประมาณ 2-4 สัปดาห์ ต่อ 1 ครั้ง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์และปัญหาพื้นฐานสุขภาพผิวของแต่ละบุคคล
สรุป
ส่วนผสมหลักของการ ฉีด DNA สารสกัดจาดปลาแซลมอน จะคล้ายคลึงกับส่วนประกอบที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของมนุษย์ นั่นก็คือสาร HA ที่บริสุทธิ์และไม่เป็นอันตราย และช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวและสร้างความชุ่มชื้นให้แก่ผิว