ฉีดฟิลเลอร์คางที่ไหนดี 5 ข้อควรรู้เลือกคลินิกปลอดภัย ได้ผลลัพธ์สวยเป๊ะ

ฉีดฟิลเลอร์คางที่ไหนดี 5 ข้อควรรู้เลือกคลินิกปลอดภัย ได้ผลลัพธ์สวยเป๊ะ

การฉีดฟิลเลอร์คาง เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาคางสั้น คางบุ๋ม หรือต้องการเพิ่มความมีมิติให้ใบหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัด และก่อนจะตัดสินใจฉีด ควรเลือก “ฉีดฟิลเลอร์คางที่ไหนดี” ให้ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง  บทความนี้จะพาไปรู้จักกับวิธีเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์คางที่ดี พร้อมเทคนิคการสังเกตฟิลเลอร์แท้ และข้อมูลสำคัญที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ เพื่อให้การฉีดฟิลเลอร์คางออกมาสวยและมีความปลอดภัย

1. เทคนิคการเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์คางที่ได้มาตรฐาน

การตัดสินใจเลือกว่า ฉีดฟิลเลอร์คางที่ไหนดี เป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดที่จะส่งผลต่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่จะได้รับ อย่าเลือกเพียงเพราะราคาถูกหรือโปรโมชั่นล่อใจ แต่ควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้ค่ะ

เทคนิคการเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์คางที่ได้มาตรฐาน
  • ใบอนุญาตและมาตรฐานของคลินิก – ตรวจสอบว่าสถานบริการมีใบอนุญาตประกอบกิจการที่ถูกต้อง มีเลข 11 หลักจากกระทรวงสาธารณสุข และมีใบประกอบกิจการสถานพยาบาลติดไว้ในที่เปิดเผย สังเกตความสะอาดของคลินิก เครื่องมือ และสภาพแวดล้อมโดยรวม
  • คุณสมบัติและประสบการณ์ของแพทย์ – แพทย์ผู้ฉีดต้องมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่ตรวจสอบได้ทางเว็บไซต์แพทยสภา มีความเชี่ยวชาญด้านความงามโดยเฉพาะ หากเป็นแพทย์ที่ผ่านการอบรมเฉพาะทางด้านการฉีดฟิลเลอร์ จะยิ่งเป็นการดี
  • การคัดกรองและวินิจฉัยก่อนทำ – คลินิกที่ดีจะต้องมีการซักประวัติผู้ป่วยอย่างละเอียด ประเมินสภาพผิวและโครงสร้างใบหน้า วางแผนการรักษาที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล และให้ข้อมูลที่ครบถ้วนทั้งข้อดีและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
  • ราคาที่สมเหตุสมผล – ราคาฉีดฟิลเลอร์คางโดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 9,000-20,000 บาทต่อซีซี ขึ้นอยู่กับแบรนด์และปริมาณที่ใช้ หากราคาถูกผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าอาจใช้ผลิตภัณฑ์ปลอม หรือมีการลดขั้นตอนมาตรฐานบางอย่าง
  • รีวิวจากผู้ใช้บริการจริง – ศึกษารีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการจริง ทั้งจากเว็บไซต์ของคลินิกและเว็บไซต์กลาง ให้ความสนใจกับรีวิวที่มีภาพก่อน-หลัง และมีรายละเอียดประสบการณ์การใช้บริการ

2. วิธีสังเกตฟิลเลอร์แท้ รู้ทันฟิลเลอร์ปลอม

สิ่งสำคัญต่อมาคือการตรวจสอบว่าคลินิกใช้ฟิลเลอร์แท้หรือไม่ เพราะฟิลเลอร์ปลอมสามารถก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อร่างกาย นี่คือวิธีสังเกตฟิลเลอร์แท้

วิธีสังเกตฟิลเลอร์แท้ รู้ทันฟิลเลอร์ปลอม
  • ขอดูบรรจุภัณฑ์และฉลาก – ฟิลเลอร์แท้ต้องมีกล่องปิดผนึกชัดเจน มีเลขทะเบียน อย. มีเลขล็อตสินค้า (Lot number) ตรงกันทั้งบนกล่อง ซอง และหลอดฟิลเลอร์
  • ตรวจสอบเลขล็อตกับบริษัทผู้จำหน่าย – คลินิกที่ใช้ฟิลเลอร์แท้จะสามารถให้คุณตรวจสอบเลขล็อตกับบริษัทผู้นำเข้าหรือจัดจำหน่ายได้ รวมถึงสามารถตรวจสอบได้ว่าคลินิกนั้นเป็นตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการรับรองหรือไม่
  • มีเอกสารกำกับภาษาไทย – ภายในกล่องฟิลเลอร์แท้ต้องมีเอกสารกำกับยาเป็นภาษาไทยแนบมาด้วย
  • ระวังราคาที่ถูกผิดปกติ – ฟิลเลอร์แท้จากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงย่อมมีต้นทุนสูง หากราคาถูกผิดปกติ ควรสงสัยว่าอาจเป็นฟิลเลอร์ปลอม

3. ยี่ห้อฟิลเลอร์คางที่เหมาะสม 

ยี่ห้อฟิลเลอร์คางที่ดีควรมีความคงตัวสูง เนื้อแน่น ไม่ฟู เพื่อให้ปั้นเป็นทรงได้สวย เหมาะกับการเสริมกระดูกมากกว่าการเติมเนื้อ ยี่ห้อฟิลเลอร์ชั้นนำที่เหมาะสำหรับฉีดคาง ดังนี้

ยี่ห้อฟิลเลอร์คางที่เหมาะสม 
  • Juvederm Voluma (อเมริกา) – ฟิลเลอร์เนื้อแข็งที่มีความยืดหยุ่นสูง อุ้มน้ำได้มาก เนื้อฟูปานกลาง อยู่ได้นานถึง 18 เดือน เหมาะสำหรับการเพิ่มมิติให้คาง
  • Juvederm Volux (อเมริกา) – เนื้อแข็งกว่า Voluma เล็กน้อย ความคงตัวสูง ขึ้นรูปง่าย อยู่ได้นาน 18-24 เดือน เหมาะกับการปรับโครงสร้างคาง
  • Restylane Perlane lyft (สวีเดน) – ไม่อุ้มน้ำ ไม่ฟู มีค่าความแข็งสูง สามารถยกพยุงผิวได้ใกล้เคียงกับกระดูกมากที่สุด อยู่ได้ประมาณ 12 เดือน
  • Belotero Intense (สวิตเซอร์แลนด์) – เนื้อแข็ง คงทนได้ประมาณ 18 เดือน เหมาะกับการปรับรูปคาง

4. การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์คาง

การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีหลังฉีดฟิลเลอร์คางจะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดีและยืดอายุการใช้งานของฟิลเลอร์ได้นานขึ้น

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์คาง
  • ห้ามนวด กด บริเวณที่ฉีด – อย่าสัมผัสแรงหรือกดบริเวณคางอย่างน้อย 2 สัปดาห์แรก เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์
  • ประคบเย็น – ประคบเย็นบริเวณคางเป็นระยะ ๆ ในช่วง 2-3 วันแรก ครั้งละ 10-15 นาที เพื่อลดอาการบวมช้ำ
  • หลีกเลี่ยงความร้อน – งดการอบซาวน่า แช่น้ำร้อน หรือกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายร้อนจัด รวมถึงการอยู่ใกล้เตาปิ้งย่าง หมูกระทะ ชาบู อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • งดแอลกอฮอล์และบุหรี่ – ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้อาการบวมช้ำหายช้าและฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น
  • ดื่มน้ำมาก ๆ –  เพื่อให้ฟิลเลอร์ซึ่งเป็นสารอุ้มน้ำทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
  • สังเกตอาการผิดปกติ – หากพบอาการปวดบวมมาก บวมแดงเกิน 5 วัน มีไข้ มีผื่นแพ้ หรือใบหน้าเบี้ยว ให้รีบกลับไปพบแพทย์ทันที

5. อันตรายที่เกิดจากฉีดฟิลเลอร์คางกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน

การฉีดฟิลเลอร์คางกับคลินิกเถื่อนหรือไม่ได้มาตรฐานสามารถก่อให้เกิดอันตรายมากมาย และบางอย่างอาจส่งผลกระทบระยะยาวต่อสุขภาพและความงาม

อันตรายที่เกิดจากฉีดฟิลเลอร์คางกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน
  • การติดเชื้อ – อาจเกิดการติดเชื้อได้ทั้งแบบฉับพลันและเรื้อรัง เนื่องจากเครื่องมือหรือสถานที่ไม่สะอาด
  • ฟิลเลอร์เป็นก้อน – เกิดจากการฉีดผิดเทคนิคหรือใช้ฟิลเลอร์ปลอม ทำให้คางผิดรูป ดูไม่เป็นธรรมชาติ
  • เนื้อตาย – กรณีร้ายแรงที่ฟิลเลอร์ไปอุดตันเส้นเลือด ทำให้เนื้อเยื่อขาดเลือดไปเลี้ยงจนเกิดเนื้อตาย
  • ฟิลเลอร์ไหลย้อย – ทำให้คางผิดรูป ใบหน้าดูผิดสัดส่วน ซึ่งหากเป็นฟิลเลอร์ปลอม อาจต้องผ่าตัดขูดออกเท่านั้น
  • การเกิดพังผืด – ร่างกายอาจตอบสนองต่อฟิลเลอร์ปลอมด้วยการสร้างเนื้อเยื่อพังผืดรอบ ๆ ก้อนฟิลเลอร์ ทำให้เกิดก้อนแข็งใต้ผิวหนัง
  • ตาบอด – กรณีร้ายแรงที่สุดคือการฉีดผิดตำแหน่งเข้าในเส้นเลือดที่เชื่อมต่อกับตา อาจทำให้ตาบอดได้

| อ่านเพิ่มเติม ฟิลเลอร์เป็นก้อน อันตรายไหม? สาเหตุ อาการ และวิธีแก้ไข

บทสรุป

การตัดสินใจว่า ฉีดฟิลเลอร์คางที่ไหนดี นั้นเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ควรให้ความสำคัญกับมาตรฐานของคลินิก คุณสมบัติของแพทย์ คุณภาพของฟิลเลอร์ที่ใช้ และราคาที่สมเหตุสมผล มากกว่าการเลือกเพียงเพราะโปรโมชั่นหรือราคาถูก

เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีมีความเหมาะสม ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์คางกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตถูกต้อง มีแพทย์ที่มีประสบการณ์เฉพาะทาง ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย. และมีการติดตามผลหลังการฉีด เพื่อลดความเสี่ยงกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานหรือการใช้ฟิลเลอร์ปลอมค่ะ

CONTACT FOR SPECIAL PRIVILEGES

กดด้านล่างติดเราเพื่อสอบถามรายละเอียดเเละสิทธิ์อื่นๆ

โทร RWC
line rwc
Facebook rwc
โทร RWC
Facebook rwc
line rwc

ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง RWC Clinic

ทีมแพทย์ RWC

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า