ทำไมต้องเสริมจมูกที่ RWC Clinic
1. ทีมแพทย์มีประสบการณ์มากกว่า 8 ปี เสริมจมูกมากกว่า 20,000 เคส
2. จบแพทย์เฉพาะทาง หู คอ จมูก และด้านศัลยกรรมจากประเทศเกาหลีใต้โดยตรง
3. ได้รับรางวัลรับรองจากนิตยสารชื่อดัง
ได้รับรางวัล Iconic Advanced Closed Rhinoplasty Technique รางวัลการใช้เทคนิคขั้นสูงด้านการศัลยกรรมจมูกแบบปิด ในงาน Preaw Iconic Beauty Awards 2022 จากนิตยสารแพรว
4. มีทรงจมูกเฉพาะตัว ที่ผ่านการวิเคราะห์และออกแบบอย่างปราณีต
- องศาที่เหมาะสมในแต่ละบุคคล
- ทรงจมูกดูเข้ากับใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ
- ทรงจมูกปรับโหงวเฮ้งช่วยเรียกทรัพย์
5. เทคโนโลยี Ai อัจฉริยะ เห็นทรงจมูกได้ตั้งแต่ยังไม่เสริม
6. ซิลิโคนออกแบบพิเศษ คุณภาพสูงที่สุดในโลก
7. อันดับ 1 หมอเสริมจมูกแบบปิด จากเว็บไซต์จัดอันดับเสริมจมูกของไทย
ทำความรู้จักเเพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเรา
รีวิวคนไข้จริง หลังเสริมจมูกครบ 1 เดือน
การศัลยกรรมจมูก
ใครที่เหมาะกับการศัลยกรรมจมูก ?
1. คนที่เมื่อมองรูปหน้าโดยรวมแล้ว สันจมูกดูเรียบแบนไม่มีมิติ ไม่สมดุลกับใบหน้า
2. คนที่มีปีกจมูก หรือบริเวณสันจมูกดูกว้างมากเกินไป
3. คนที่กระดูกจมูก คด งอ ฐานเอียง หรือผิดสัดส่วนไม่เข้ารูป
4. คนที่ปลายจมูกเชิด ปลายไม่ได้สัดส่วน และต้องการมีหยดน้ำที่สวยงามโดยคำนึงความปลอดภัยเป็นลำดับแรก
5. คนที่ทำเคยทำศัลยกรรมจมูกมาแล้วเกิดความผิดปกติไม่ว่าจะสันเอียง หรือผิวบางมากเกินไปจนเสี่ยงต่ออาการจมูกทะลุ
การศัลยกรรมเสริมจมูก เป็นศัลยกรรมที่มีคนในความสนใจมากสุด ในปัจจุบันนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับใครที่อยากจะปรับเปลี่ยนรูปหน้า แก้ไขโหงวเฮ้งก็มักจะนึกถึงการเสริมจมูกเป็นอันดับแรกเสมอ
การศัลยกรรมจมูกแบ่งออกเป็นหลายประเภท
ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของรูปร่างจมูก ดังนี้
- กำจัดส่วนที่โก่งจนเกินไปที่บริเวณสันจมูก
- ปรับสันจมูกให้ตรงหรือโด่งขึ้น
- ปรับเปลี่ยนรูปร่างของปลายจมูก
- ขยายหรือลดขนาดของรูจมูก
- แก้ไขความผิดปกติของจมูกซึ่งเกิดจากอุบัติเหตุ
- เสริมเพิ่มหรือลดขนาดของจมูก
- ปรับแก้ไขรูปจมูกให้ถูกต้องตามหลักโหงวเฮ้ง
ศัลยกรรมจมูกที่ RWC ดีอย่างไร ?
- ไม่บวม ไม่ช้ำ ด้วยเทคนิคพิเศษความชำนาญของคุณหมอ
- ไม่ต้องพักฟื้นรักษาตัวนาน สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- มีเทคโนโลยี Ai อัจฉริยะ สามารภเห็นทรงจมูกได้ตั้งแต่ยังไม่เสริม
- ได้ทรงหรือแบบตามที่ได้ปรึกษาร่วมกันกับคุณหมอ
- ปรับเทคนิคใช้กับคนไข้ ตามปัญหานั้น ๆ
- รับประกันดูแลผลงานระยะเวลา 1 ปี
เลือกซิลิโคนแบบไหนดี ?
เลือกซิลิโคนอย่างไร..
ศัลยกรรมสาวไทยนิยมทำกันมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น “การทำศัลยกรรมจมูก” แต่สิ่งที่ต้องคำนึง นอกจากความปลอดภัยและราคาแล้ว ทรงที่เหมาะกับรูปหน้าเราก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่สามารถมองข้ามไปได้ การเสริมจมูก สาว ๆ ส่วนใหญ่ ก็มักมีทรงในดวงใจกันอยู่บ้างแล้ว หรือบางคนก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าควรใช้ซิลิโคนจมูกทรงอะไรดี วันนี้ RWC ช่วยแนะนำซิลิโคนให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นค่ะ
1. ควรงดการกินยากลุ่มแอสไพริน หรือไอบิวโพรเฟน เพื่อลดอาการฟกช้ำจากเลือดคั่งหลังผ่าตัด
2. ควรงดทานอาหารประเภทของหมักดอง และอาหารทะเล อย่างน้อย 1 สัปดาห์
3. งดการทานอาหารเสริม น้ำมันตับปลา หรือวิตามินอื่น ๆ เพื่อป้องกันอาการเลือดหยุดไหลช้า
4. ผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรแจ้งให้แพทย์ทราบว่า เราเป็นโรคใด กินยาชนิดใด หรือแพ้ยาตัวไหนบ้าง เพื่อแพทย์จะได้ทราบและลดอันตรายภายหลังการเสริมจมูกได้มากขึ้น
5. การงดน้ำและอาหาร ขึ้นอยู่กับรูปแบบว่าคุณจะรับการเสริมจมูกแบบใด
– หากเป็นการดมยาสลบ : ควรงดน้ำและอาหารก่อนอย่างน้อย 8 ชั่วโมง
– หากเป็นการฉีดยาชา : ไม่ต้องงดน้ำและอาหาร แต่ควรทานเป็นอาหารเบา ๆ ประมาณ 4-6 ชั่วโมงก่อนเวลาผ่าตัด
6. งดการแต่งหน้า และควรสระผมก่อนให้เรียบร้อย
1.เตรียมอุปกรณ์ไว้ใช้สำหรับช่วงหลังเสริมจมูก ได้แก่ หมอนรองคอ ผ้าเย็นหรือผ้าขนหนู คอตตอนบัต น้ำเกลือล้างแผล เสื้อที่ใส่แบบติดกระดุม
2.หลีกเลี่ยงการโดนบริเวณแผล อาทิ การดึง จับ แคะ เพื่อให้ใบหน้ากลับมาสู่สภาพปกติได้เร็วที่สุด
3.ใส่เสื้อที่มีกระดุมด้านหน้า เพื่อลดการที่จมูกกับสัมผัสกับตัวเสื้อ
4.หลังจากการผ่าตัด ควรประคบเย็น 3 วัน หลังจากนั้นให้ประคบอุ่น เพื่อให้เลือดไหลเวียนดี หรือจะใช้แบบเจลประคบแบบซอง หรือที่เป็นแผ่นใหญ่ ๆ ก็ได้
5.งดสูบบุหรี่ และงดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
6.ทานยาที่แพทย์สั่งให้อย่างเคร่งครัด
7.ควรงดการออกกำลังกายอย่างน้อย 1 เดือน โดยเฉพาะการออกกำลังกายหนัก ๆ ที่ต้องใช้แรงกระแทก
8.งดการแต่งหน้า และเสริมความงามใบหน้า เช่น การกดสิว และยิงเลเซอร์ เพราะอาจทำให้ยิ่งเกิดการอักเสบและแผลหายช้ามากขึ้น
9.หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีฝุ่นมาก ๆ เพราะอาจก่อให้เกิดการไอ จาม สั่งน้ำมูก แต่หากจำเป็นจริง ๆ ควรใส่แมสก์ป้องกันไว้ โดยใช้แบบวันต่อวัน
10.ล้างหน้าเบา ๆ หรือจะใช้สำลีชุบน้ำมาเช็ดเบา ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้มือเราสัมผัสถูกหน้าแรงเกินไป
11.ในช่วงแรก ควรทานอาหารที่ย่อยง่าย เช่น โจ๊ก หรือข้าวต้มไปก่อน และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเผ็ดจัด เพราะอาจทำให้เราไอ หรือจาม
คำถามที่พบบ่อย ( FAQ )
เป็นคำถามที่พบบ่อย และต้องทำความเข้าใจกันเสียก่อนครับ ว่าพื้นฐานทรงจมูก และโครงสร้างรูปหน้าแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นการนำรูปของดารา หรือลักษณะจมูกที่ต้องการมาให้แพทย์ประเมิณนั้น แพทย์ผู้ทำจะต้องเปรียบเทียบว่าจะสามารถทำได้หรือไม่ โดยต้องดูจากรูปหน้าคนไข้เป็นหลัก ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย และได้ทรงจมูกที่เหมาะสมกับรูปหน้าของคนไข้ด้วยนั่นเองครับ
ทั้งนี้ต้องประเมิณจากรูปทรงจมูกของคนไข้ก่อนนะครับ ว่าพื้นฐานเดิมเป็นคนมีปลายจมูกอยู่แล้วหรือเปล่า ถ้ามีปลายอยู่แล้วก็สามารถเสริมซิลิโคนอย่างเดียวได้เลย แต่ถ้าเป็นคนที่พื้นฐานจมูกเดิมไม่มีปลาย ปลายจมูกเชิดขึ้น ในกรณีแบบนี้คุณหมอแนะนำให้เสริมร่วมกับเทคนิคแต่งปลายอื่นๆ เช่นการใช้เนื้อเยื่อสังเคราะห์ หรือกระดูกอ่อนใบหูมาแต่งปลาย เพื่อความปลอดภัย และป้องกันการทะลุได้ในอนาคตครับ
การเสริมจมูกนั้นเป็นการผ่าตัดที่อยู่ในลักษณะผ่าตัดเล็ก ดังนั้นจึงไม่ต้องถึงกับใช้เครื่องดมยาสลบแบบการผ่าตัดใหญ่อย่าง เสริมหน้าอก แต่ทาง Roselin Clinic จะมีโปรแกรมระงับความเจ็บปวด โดยใช้ร่วมกับยาชาในบริเวณที่ผ่าตัด ดังนั้นคนไข้จึงวางใจในการผ่าตัดได้เลยครับ ว่าปลอดภัย และไม่เจ็บอย่างที่คิดแน่นอนครับ
อาการบวมช้ำขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัยครับ โดยในแต่ละบุคคลจะมีอาการบวมมาก บวมน้อยไม่เหมือนกันซึ่งทางคลินิกมียาที่ช่วยในการลดบวมได้ แต่ทั้งนี้คนไข้เองก็ต้องให้ความร่วมมือกับทางคลินิกในการปฏิบัติตัวหลังทำอย่างเคร่งครัดด้วยนะครับ เพื่อให้หายบวมไว เข้ารูปสวยเร็ว โดยปกติแล้วสำหรับการเสริมจมูกจะเริ่มลดอาการบวมตั้งแต่ 7 วัน เป็นต้นไป เข้าที่จริงๆจะอยู่ที่ 2 – 3 เดือนครับ
ทั้งนี้ต้องประเมิณจากรูปทรงจมูกของคนไข้ก่อนนะครับ ว่าพื้นฐานเดิมเป็นคนมีปลายจมูกอยู่แล้วหรือเปล่า ถ้ามีปลายอยู่แล้วก็สามารถเสริมซิลิโคนอย่างเดียวได้เลย แต่ถ้าเป็นคนที่พื้นฐานจมูกเดิมไม่มีปลาย ปลายจมูกเชิดขึ้น ในกรณีแบบนี้คุณหมอแนะนำให้เสริมร่วมกับเทคนิคแต่งปลายอื่นๆ เช่นการใช้เนื้อเยื่อสังเคราะห์ หรือกระดูกอ่อนใบหูมาแต่งปลาย เพื่อความปลอดภัย และป้องกันการทะลุได้ในอนาคตครับ
สำหรับการเสริมจมูกของทาง Roselin Clinic นั้น คนไข้สามารถวางใจได้เลยครับ ว่าเสริมครั้งเดียวสามารถอยู่ได้ตลอดชีวิต วัสดุที่ใช้นั้นมีอายุอยู่ได้มากกว่าชั่วอายุคนแน่นอนครับ แต่ทั้งนี้อาจจะมีปัจจัยอื่นเช่นการเกิดอุบัติเหตุ หรือการกระแทกจนเบี้ยว เอียง หรือเกิดจากการเบื่อ อยากเปลี่ยนทรง โดยทั้งนี้จะต้องเข้ามาให้แพทย์ผู้ทำเป็นผู้ประเมิณการแก้ไขให้อีกครั้งนะครับ