การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ผลข้างเคียง เป็นเรื่องที่ผู้สนใจควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจฉีด แม้จะเป็นหัตถการที่ค่อนข้างมีความปลอดภัยสูง ก็ยังมีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งผู้ที่สนใจควรศึกษาและทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจทำ บทความนี้จะรวบรวมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับผลข้างเคียงและข้อควรรู้ต่าง ๆ เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างรอบคอบและเตรียมพร้อมสำหรับการดูแลตัวเองได้อย่างถูกต้อง
ฟิลเลอร์ร่องแก้มคืออะไร และทำงานอย่างไร
ฟิลเลอร์ร่องแก้มคือการฉีดสารเติมเต็มที่มีส่วนประกอบหลักเป็นกรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid) เข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณร่องแก้ม เพื่อเติมเต็มร่องลึกให้ตื้นขึ้น ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใสมากขึ้น กรดไฮยาลูรอนิคเป็นสารที่มีอยู่แล้วในร่างกายมนุษย์ มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ทำให้ผิวดูเต่งตึง มีความยืดหยุ่น และลดเลือนริ้วรอยได้
ร่องแก้มลึกมักเกิดจากหลายสาเหตุ ดังนี้
- การยุบตัวของกระดูกบริเวณใต้ตาหรือร่องแก้ม
- การสูญเสียไขมันใต้ผิวหนัง
- การใช้กล้ามเนื้อบริเวณร่องแก้มมากเกินไป
- ผิวแห้ง หรือโดนแดดบ่อย ทำให้ชั้นผิวบางลง
ฟิลเลอร์จะช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้โดยไม่ต้องผ่าตัด เห็นผลทันที และใช้เวลาในการทำหัตถการไม่นานค่ะ
- อาการบวม แดง บริเวณที่ฉีด ซึ่งเป็นปฏิกิริยาตอบสนองปกติของร่างกายต่อการฉีด มักหายไปเองภายใน 2-3 วัน
- รอยช้ำเขียว จากเข็มฉีด สามารถหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์
- อาการคันเล็กน้อย บริเวณที่ฉีด ไม่เป็นอันตราย
- ความรู้สึกตึงหรือไม่สบาย บริเวณร่องแก้ม ซึ่งจะค่อยๆ ดีขึ้นเมื่อฟิลเลอร์เข้าที่
- ความไม่สมมาตร ของใบหน้าในช่วงแรก เนื่องจากอาการบวมอาจไม่เท่ากันทั้งสองข้าง แต่จะดีขึ้นเมื่อการบวมลดลง
อาการเหล่านี้ถือเป็นเรื่องปกติและไม่น่ากังวล แต่หากอาการไม่ดีขึ้นหรือรุนแรงขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ทันที
- การอุดตันของเส้นเลือด เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในเส้นเลือดโดยตรง ทำให้เกิดการขาดเลือดของเนื้อเยื่อ ผู้รับบริการอาจมีอาการปวดรุนแรงทันทีหลังฉีด ผิวหนังเปลี่ยนสีเป็นสีซีด ขาว หรือเขียวคล้ำ
- ตาบอด เป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงแต่พบได้น้อยมาก เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงลูกตา ทำให้ตาขาดเลือดและตาบอดได้
- การติดเชื้อ จากการฉีดที่ไม่สะอาดพอหรือการดูแลหลังฉีดที่ไม่เหมาะสม จะมีอาการบวม แดง ร้อน และอาจมีหนอง
- การเกิดก้อนใต้ผิวหนัง เกิดจากการฉีดที่ไม่เหมาะสม หรือการเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์
- เนื้อเยื่อตาย เป็นผลจากการขาดเลือดไปเลี้ยงเนื้อเยื่อบริเวณที่ฉีด
มีบางสถานการณ์หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ถือเป็นภาวะฉุกเฉิน ต้องรีบพบแพทย์ทันที
- ปวดรุนแรงผิดปกติ โดยเฉพาะหากเกิดขึ้นทันทีหลังฉีด
- สีผิวเปลี่ยนไปอย่างผิดปกติ เช่น ซีดขาว เขียวคล้ำ หรือเทาดำ
- มีอาการตาพร่ามัว หรือการมองเห็นเปลี่ยนไป
- บวมแดงมากผิดปกติ และไม่ดีขึ้นภายใน 3-7 วัน
- มีไข้สูง ร่วมกับบริเวณที่ฉีดมีอาการแดง ร้อน และเจ็บมาก
- มีหนองหรือของเหลวไหลออกมา จากบริเวณที่ฉีด
อาการเหล่านี้อาจบ่งชี้ถึงภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น การติดเชื้อ การอุดตันของเส้นเลือด หรือเนื้อเยื่อตาย ซึ่งต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน
- งดยาและอาหารเสริมบางชนิด เช่น ยาแอสไพริน วิตามินอี สมุนไพรบางชนิดที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการฉีด
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนและหลังการฉีด
- งดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนและหลังการฉีด
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น การออกกำลังกายหนัก การเข้าซาวน่า อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด
- แจ้งประวัติสุขภาพและการแพ้ยา ให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด
- เลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน
บทสรุป
สำหรับการ ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ผลข้างเคียง เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม แม้การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มจะเป็นทางเลือกที่ดีในการแก้ไขปัญหาร่องแก้มลึกโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่ผู้ที่สนใจควรตระหนักถึงความเสี่ยงทั้งผลข้างเคียงทั่วไปที่ไม่รุนแรง และผลข้างเคียงร้ายแรงที่พบได้น้อย การเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน และการปฏิบัติตามคำแนะนำในการเตรียมตัวและดูแลตนเองหลังฉีดอย่างเคร่งครัด จะช่วยลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อนได้
หากใครที่กำลังพิจารณาฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสม ศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน และตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นด้วยนะคะ
CONTACT FOR SPECIAL PRIVILEGES
กดด้านล่างติดเราเพื่อสอบถามรายละเอียดเเละสิทธิ์อื่นๆ
No block ID is set