ปัจจุบันการฉีด ฟิลเลอร์สะโพก เป็นอีกหนึ่งในทางเลือกที่กำลังได้รับความนิยมในการแก้ไขปัญหาสะโพกบุ๋ม (Hip Dips) หรือเพิ่มความอวบอิ่มให้กับสะโพก นอกจากการให้ความสำคัญในเรื่องความปลอยภัยแล้ว แต่สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาคือ ฟิลเลอร์สะโพก อยู่ได้นานแค่ไหน คุ้มค่าหรือไม่ และมีทางเลือกอื่นที่ดีกว่าหรือไม่ บทความนี้จะรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นต้องรู้ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์สะโพก
ฟิลเลอร์สะโพก คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภทกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid หรือ HA) เข้าไปในบริเวณสะโพก โดยเฉพาะในตำแหน่ง Hip Dips หรือแอ่งเว้าด้านข้างสะโพก เพื่อแก้ปัญหาสะโพกบุ๋ม เติมเนื้อสะโพกให้เป็นทรง ทำให้สะโพกดูผาย อวบอิ่ม และมีรูปทรงที่สวยงามขึ้น
กรดไฮยาลูโรนิกที่ใช้ในฟิลเลอร์เป็นสารที่มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับสารที่มีตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์ จึงมีความปลอดภัยสูง และสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ เนื่องจากฟิลเลอร์มีลักษณะเป็นเนื้อเจลที่มีความยืดหยุ่นและคงตัว จึงสามารถทดแทนเนื้อเยื่อและช่วยเติมเต็มบริเวณที่ต้องการได้อย่างเป็นธรรมชาติ
| อ่านเพิ่มเติม โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์สะโพก เสริมความมั่นใจบั้นท้ายด้วยฟิลเลอร์
โดยทั่วไปฟิลเลอร์สะโพกสามารถอยู่ได้นานประมาณ 2 ปี หรือมากกว่านั้น เนื่องจากขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนบุคคลของผู้รับการฉีด ซึ่งทำให้อายุการใช้งานของฟิลเลอร์แต่ละคนไม่เท่ากัน
หลังการฉีดฟิลเลอร์สะโพก จะสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที แต่ผลลัพธ์ที่สุดท้ายจะเห็นได้ชัดเจนเมื่อตัวยาฟิลเลอร์เข้าที่และอาการบวมลดลง ประมาณ 2-4 สัปดาห์หลังฉีด อย่างไรก็ตาม ฟิลเลอร์จะค่อย ๆ ถูกดูดซึมและสลายไปตามธรรมชาติของร่างกาย ทำให้ผลลัพธ์ไม่สามารถอยู่ได้ถาวรค่ะ
ในปัจจุบัน มีเพียงฟิลเลอร์ยี่ห้อ Variofill เท่านั้นที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของประเทศไทยสำหรับการฉีดเสริมสะโพกโดยเฉพาะ ซึ่งฟิลเลอร์ชนิดนี้มีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยให้คงทนต่อการกดทับได้ดี เหมาะกับบริเวณสะโพกที่ต้องรับน้ำหนักและมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา
ความคงทนของฟิลเลอร์สะโพกขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนี้
- ชนิดและคุณภาพของฟิลเลอร์: ฟิลเลอร์ที่มีความเข้มข้นสูงและได้รับการออกแบบมาสำหรับการฉีดสะโพกโดยเฉพาะ เช่น Variofill ที่มีความเข้มข้นสูงถึง 33 mg/ml จะมีความคงทนมากกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป
- อัตราการเผาผลาญของแต่ละบุคคล: คนที่มีอัตราการเผาผลาญสูงอาจทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วกว่าปกติ
- กิจกรรมทางกาย: ผู้ที่ออกกำลังกายอย่างหนักและสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการออกกำลังกายที่มีการกระแทกหรือการกดทับบริเวณสะโพกมาก อาจทำให้ฟิลเลอร์สลายได้เร็วขึ้น
- น้ำหนักตัว: การเปลี่ยนแปลงน้ำหนักตัวอย่างรวดเร็วหรือมาก อาจส่งผลต่อรูปทรงและความคงทนของฟิลเลอร์
- การดูแลหลังฉีด: การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด จะช่วยให้ฟิลเลอร์คงอยู่ได้นานขึ้น
- เทคนิคการฉีด: การฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ใช้เทคนิคการฉีดที่เหมาะสม จะช่วยให้ฟิลเลอร์กระจายตัวได้ดีและอยู่ได้นานขึ้น
ปริมาณเท่าไหร่ในการฉีดสะโพก
- 10-40 CC ต่อการฉีด 1 ข้างของสะโพก
- 20-80 CC ต่อการฉีด 1 ครั้ง (ทั้ง 2 ข้าง)
สำหรับปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้จะขึ้นอยู่กับการประเมินสภาพปัญหาของแพทย์ผสานกับความต้องการของผู้รับการฉีด ถ้าสะโพกบุ๋มมาก หรือต้องการเติมเต็มให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ก็จำเป็นต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์มากขึ้นตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม การใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณมากเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาเช่น ฟิลเลอร์เป็นก้อน ผิวไม่เรียบเนียน หรือดูไม่เป็นธรรมชาติได้ ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับสภาพสะโพกและความต้องการของแต่ละคน
สำหรับราคาฟิลเลอร์สะโพกจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ปริมาณที่ใช้ และเทคนิคที่แพทย์ใช้ สำหรับฟิลเลอร์ Variofill ที่ได้รับการรับรองจาก อย. ไทย ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 29,000 บาท ต่อ 10 CC
หากพิจารณาปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องใช้สำหรับการฉีดสะโพกต่อครั้ง เนื่องจากต้องเติมซ้ำทุก 1-2 ปี ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายสะสมในระยะยาวค่อนข้างสูง
ข้อดีของฟิลเลอร์สะโพก
- ไม่ต้องผ่าตัด – ไม่มีแผลผ่าตัด ไม่ต้องดมยาสลบ ลดความเสี่ยงจากการผ่าตัดและการดมยา
- ไม่ต้องพักฟื้น – สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันทีหลังฉีด
- เห็นผลทันที – สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังฉีด และชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่ออาการบวมลดลง
- ปรับแก้ทรงได้ง่าย – หากไม่พอใจกับผลลัพธ์ สามารถฉีดเพิ่มเติมหรือปรับแก้ได้ง่าย
- สลายได้เอง – ฟิลเลอร์ของแท้สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย
- ใช้เวลาทำน้อย – ใช้เวลาในการทำหัตถการประมาณ 30-60 นาทีเท่านั้น
ข้อเสียของฟิลเลอร์สะโพก
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร – อยู่ได้ไม่ถาวร ต้องฉีดซ้ำเพื่อรักษาผลลัพธ์
- ราคาสูง – ต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์มาก ทำให้มีค่าใช้จ่ายสูง ไม่คุ้มค่าในระยะยาว
- ความเสี่ยงจากฟิลเลอร์ปลอม – หากใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเกิดอาการแพ้ อักเสบ หรือเกิดก้อนแข็งใต้ผิวหนัง
- ต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูง – หากแพทย์ขาดประสบการณ์ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น สะโพกเป็นก้อน ผิวเป็นคลื่น ไม่เรียบเนียน
- อาจเกิดอาการข้างเคียง – เช่น รอยช้ำ อาการบวม ผิวแดง หรือเจ็บบริเวณที่ฉีด
- ความเสี่ยงต่อเส้นประสาท – บริเวณสะโพกมีเส้นประสาท Sciatic Nerve ซึ่งต้องระมัดระวังในการฉีด
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก: อย่างน้อย 48 ชั่วโมงหลังฉีด เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงความร้อนสูง: งดเข้าซาวน่า อบไอน้ำ หรืออยู่ในที่ที่มีอุณหภูมิสูงอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ: ช่วยให้ฟิลเลอร์ตั้งตัวได้ดีและดูดซับน้ำได้ดีขึ้น
- งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่: อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์หลังฉีด
- งดทานอาหารดิบ หรือของหมักดอง: เพื่อลดความเสี่ยงในการอักเสบหรือติดเชื้อ
- ห้ามบีบ นวด หรือเกา: บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงการนั่งในท่าเดิม: ไม่ควรนั่งในท่าเดียวนาน ๆ โดยไม่เปลี่ยนท่า ในช่วง 2 สัปดาห์แรก
- ติดตามผลกับแพทย์: ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อติดตามผลและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับความคงทนของฟิลเลอร์สะโพก
-
ฟิลเลอร์สะโพกจะยุบตัวเมื่อไหร่?
ฟิลเลอร์สะโพกจะเริ่มยุบตัวหลังจากฉีดประมาณ 14-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และปัจจัยส่วนบุคคล เช่น อัตราการเผาผลาญ การออกกำลังกาย และการดูแลหลังฉีด โดยการยุบตัวจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ได้หายไปทันที
-
ฟิลเลอร์สะโพกสลายตัวแล้วจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมหรือไม่?
ใช่ค่ะ เมื่อฟิลเลอร์สลายตัวหมดแล้ว สะโพกจะกลับไปมีลักษณะเหมือนก่อนฉีด ไม่มีผลข้างเคียงถาวรหรือการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของสะโพก ยกเว้นในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอมหรือไม่ได้มาตรฐาน
-
จะรู้ได้อย่างไรว่าฟิลเลอร์สะโพกเริ่มสลายตัว?
เมื่อฟิลเลอร์เริ่มสลายตัว จะสามารถสังเกตเห็นว่าสะโพกเริ่มกลับมามีรอยบุ๋มหรือแอ่งเว้าเหมือนเดิม สะโพกจะดูแบนลง หรือมีขนาดเล็กลง การสลายตัวจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ได้เกิดขึ้นทันที
-
ทำอย่างไรเมื่อฟิลเลอร์สะโพกเริ่มสลายตัว?
เมื่อสังเกตเห็นว่าฟิลเลอร์เริ่มสลายตัว สามารถเลือกฉีดฟิลเลอร์เพิ่ม เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้คงอยู่ หรือปล่อยให้ฟิลเลอร์สลายตัวไปเองตามธรรมชาติ นอกจากนี้ยังสามารถพิจารณาทางเลือกอื่นที่ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า เช่น การฉีดไขมัน หรือการผ่าตัดเสริมค่ะ
สรุป
ฟิลเลอร์สะโพกอยู่ได้นานแค่ไหน คำตอบคือประมาณ 1-2 ปีเท่านั้น ทำให้เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทดลองดูผลลัพธ์ก่อนตัดสินใจทำวิธีถาวร หรือผู้ที่ยังไม่พร้อมสำหรับการผ่าตัด แต่มีข้อควรคำนึงคือ เนื่องจาก ฟิลเลอร์สะโพกอยู่ได้นานแค่ไหน มีข้อจำกัดด้านระยะเวลา จึงมีค่าใช้จ่ายที่สูงจากการต้องทำซ้ำเป็นประจำ ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกวิธีฉีดฟิลเลอร์เสริมสะโพก ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาวิธีที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณก่อนนะคะ