อาการข้างเคียงชนิดรุนแรงจากการฉีดฟิลเลอร์ ฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอด เกิดขึ้นได้อย่างไร ? การฉีดฟิลเลอร์ในตำแหน่งที่เสี่ยง สามารถเกิดอาการตาบอดได้มากน้อยแค่ไหน ความกังวลใจอันดับต้น ๆ ของคนฉีดฟิลเลอร์ จะต้องบอกให้ทราบตรงนี้เลยว่า ปัญหาการ ฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอด นั้นไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ หากรับบริการการฉีดฟิลเลอร์จากแพทย์ที่มีความชำนาญด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ ก็หมดกังวลเรื่องอาการตาบอดหลังฉีดฟิลเลอร์ได้เลย
ฟิลเลอร์ปลอม เสี่ยงต่อการตาบอดที่สุด
ฟิลเลอร์ปลอม คือ สารที่ใช้ในการมาเลียนแบบฟิลเลอร์ ตัวอย่างเช่น ซิลิโคนเหลว เป็นสารโพลิเมอร์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตสิ่งของที่ทำมาจากพลาสติก หากเข้าสู่ร่างกายของเราก็จะไม่สามารถดูดซึมได้ เมื่อระยะเวลาผ่านไป ร่างกายจะเกิดต่อต้านสารแปลกปลอมที่เข้าไป และเกิดอาการแพ้
หลังฉีดฟิลเลอร์ปลอมเข้าไป ในระยะแรกอาจจะยังไม่ออกอาการมาก ร่างกายรู้สึกเหมือนปกติ แต่เมื่อเวลาผ่านไปร่างกายจะจับได้ว่ามีสารแปลกปลอมเข้ามาเพราะมันไม่สลาย โดยเริ่มจับเป็นก้อน กลายเป็นซิลิโคนเหลวที่เกาะแน่นกับกระดูก
เมื่อฟิลเลอร์ปลอมเข้าสู่ร่างกายในระยะเวลานึง จะไม่สลายเหมือนกับฟิลเลอร์แท้ ซึ่งเมื่อสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในร่างกายแล้วไม่สลาย โดยเริ่มจับเป็นก้อน กลายเป็นซิลิโคนเหลวที่เกาะแน่นกับกระดูก สามารถสังเกตได้เมื่อถึงระยะเวลาในการสลายฟิลเลอร์แล้วยังรู้สึกเหมือนมีก้อนอยู่ภายในร่างกาย มีการย้อยหรือบวมผิดรูป
แสดงว่าได้ถูกฉีดฟิลเลอร์ปลอมแล้ว สามารถนำฟิลเลอร์ปลอมออกได้ด้วยการขูดฟิลเลอร์หรือการผ่าตัดนำฟิลเลอร์ออก ซึ่งไม่สามารถนำออกได้ทั้งหมดด้วย เพราะอาจจะต้องหลีกเลี่ยงอวัยวะรอบข้างที่สำคัญ
การที่ฟิลเลอร์นั้นไปอุดตันตามเส้นเลือดและเส้นประสาทบนใบหน้า ส่งผลให้เกิดอาการเนื้อตาย เนื้อเยื่อบางส่วนของร่างกายตายจนทำให้เกิดการเน่า โดยอาจมีอาการบวมหรือเกิดเป็นตุ่มพองขึ้น เกิดจากเนื้อเยื่อขาดเลือดหรือได้รับเลือดไม่เพียงพอ และทำให้ตาบอดได้ในที่สุด อย่างร้ายแรงจริงๆ ก็อาจทำให้เกิดภาวะช็อกและเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
อ่านเพิ่มเติม : 7 ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ตำแหน่งที่เสี่ยงต่อ ฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอด
การฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอด ฟิลเลอร์มีความเสี่ยงต่อการอุดตันเส้นเลือด ที่บริเวณตา และจมูก ส่งผลให้เกิดเนื้อตายและตาบอดได้ บริเวณที่มีความเสี่ยงสูงสุดคือ ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์จมูก และร่องแก้ม มีโอกาสทำให้เกิดเส้นเลือดแดงอุดตันในตา หรือศัพท์ทางการแพทย์เรียกว่า Central Retinal Artery Occlusion (CRAO)
การ ฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอด คือ ฟิลเลอร์ที่เข้าเส้นเลือดดำแล้วเกิดการ “ท้นกลับ” หรือเรียกว่าไหลย้อนกลับไปที่เส้นเลือดแดง ถ้าหากเข้าเส้นเลือดแดงที่ไม่สำคัญก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าไปเข้าเส้นเลือดแดงที่ไปเลี้ยงลูกตาก็จะทำให้ตาบอดได้อย่างรวดเร็ว เพราะตัวสารนั้นมันจะไปอุดที่ Central retinal artery หรือ ถ้าอุดเส้นใหญ่กว่าหรือเส้นหลักก็คือ Ophthalmic artery นั้น ลูกตาก็จะฝ่อลงภายในไม่กี่วัน เพราะขาดเลือดไปเลี้ยงทั้งลูกตา
ทำไมถึง ฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอด
การฉีดฟิลเลอร์ หากพลาดพลั้งเข้าเส้นเลือดที่เลี้ยงจอประสาทตา สามารถทำให้เกิดการตาบอดได้นั้น เป็นเรื่องจริง แต่การเกิดเหตุการณ์เช่นนั้น ไม่ได้เกิดได้ง่ายๆ ทีนี้แล้วเราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเราไม่ใช่ผู้โชคร้ายจากการเสริมความงาม
ต้องบอกก่อนว่าการฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอด เป็นอาการที่จะเกิดทันที! ย้ำอีกครั้งว่าปกติการเกิดตาบอดนั้นมักจะเกิดทันที ตามที่เคยมีการเก็บรายงานมาในต่างประเทศก็พบบ้างว่าเกิดขึ้นภายหลัง 2 ชั่วโมง นับจากฉีดฟิลเลอร์ แต่สำหรับเมืองไทยแล้วผู้ที่ตาบอดจากการฉีดฟิลเลอร์เกิดอาการทันทีขณะฉีดทุกราย
นั่นแปลว่า โอกาสที่หลังฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วปกติดี มองเห็นชัดเจนเหมือนเดิม ก็แปลว่าไม่น่าเกิดการตาบอดกับคุณแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าพ้นจากการตาบอดแล้วในช่วงแรก จะไม่เจอกับผลข้างเคียงอื่นๆอีก เพราะหากเป็นอาการเนื้อตาย ติดเชื้อ อักเสบ กลุ่มอาการพวกนี้จะเกิดตามมาภายหลังได้เช่นกัน
สำหรับการป้องกันนั้นสำคัญที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอาการตาบอด หรือมีปัญหาอื่นๆตามมาจากการฉีดฟิลเลอร์ นั่นคือ การศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์อย่างถูกต้อง ไม่เห็นแก่ราคาถูกหรือโปรโมชั่นโดยไม่ได้ตรวจสอบแพทย์ผู้ทำการรักษาว่าจะต้องเป็นแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ หรือคุณภาพของยา ว่าเป็นฟิลเลอร์แท้หรือไม่
อ่านเพิ่มเติม : ขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำ แก้ปัญหาด้วยฟิลเลอร์
สรุป รู้ลึกรู้จริงเรื่องฟิลเลอร์
การหลีกเลี่ยงการ ฉีดฟิลเลอร์เเล้วตาบอด ต้องอย่าเห็นแก่ของถูก เพราะมีความเสี่ยงมากที่หมอเถื่อนจะเป็นคนฉีดให้ แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจะมีความระมัดระวัง จะทราบในส่วนของเส้นเลือด เส้นที่จะต้องระวัง ว่าอยู่ตรงไหน ความลึกประมาณไหน ทำให้การฉีดฟิลเลอร์นั้นนอกจากจะออกมาสวยเป็นธรรมชาติแล้ว ยังปลอดภัย ไร้ผลข้างเคียงอีกด้วย