ฟิลเลอร์น้องสาวอันตรายไหม ? รวมภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายของฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์น้องสาวอันตรายไหม

ฟิลเลอร์น้องสาวอันตรายไหม? เป็นคำถามที่หลายคนสงสัยเมื่อพิจารณาเลือกวิธีการฟื้นฟูบริเวณจุดซ่อนเร้นด้วยฟิลเลอร์ ในปัจจุบันการฉีดฟิลเลอร์น้องสาวได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นทางเลือกที่ไม่ต้องผ่าตัดสำหรับการแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อย ลีบแบน หรือต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับอวัยวะเพศหญิง อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์น้องสาวควรอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและตรงตามความต้องการ บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับฟิลเลอร์น้องสาว ข้อควรระวัง และวิธีการเลือกฉีดอย่างปลอดภัย

ข้อเท็จจริงที่ควรรู้ ฟิลเลอร์น้องสาวอันตรายไหม

การฉีดฟิลเลอร์น้องสาวจะปลอดภัยหรือไม่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่ คุณภาพของฟิลเลอร์ที่ใช้ ความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้ฉีด และการดูแลหลังฉีด

เมื่อฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน ฟิลเลอร์น้องสาวถือว่ามีความปลอดภัยสูง แต่ก็ยังมีความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้

โดยภาวะแทรกซ้อนของการฉีดฟิลเลอร์น้องสาว สามารถแบ่งออกได้หลัก ๆ 2 ประเภท ดังนี้

ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย (มักเป็นอาการเฉพาะที่และหายได้เองภายใน 2-7 วัน)

ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย
  • อาการบวม –  เป็นปฏิกิริยาตอบสนองตามธรรมชาติของร่างกายต่อการบาดเจ็บและการฉีดสารแปลกปลอม อาการบวมมักปรากฏทันทีหลังฉีด โดยเฉพาะในบริเวณที่มีเนื้อเยื่ออ่อนนุ่ม เช่น แคมใหญ่และแคมเล็ก อาการบวมอาจคงอยู่ได้ตั้งแต่ 2-3 วันไปจนถึง 1 สัปดาห์ และมักมีลักษณะบวมแดง อุ่น เต่งตึง และอาจรู้สึกไม่สบาย สามารถบรรเทาได้ด้วยการประคบเย็นและการใช้ยาลดการอักเสบตามที่แพทย์แนะนำ
  • รอยช้ำและจ้ำเลือด – เกิดจากเข็มที่ฉีดไปกระทบกับเส้นเลือดฝอย ทำให้มีเลือดออกใต้ผิวหนัง รอยช้ำอาจมีสีแดง ม่วง หรือน้ำเงิน ขึ้นอยู่กับความลึกของเลือดที่ออกใต้ผิวหนัง บริเวณจุดซ่อนเร้นมีเส้นเลือดมากมาย จึงมีโอกาสเกิดรอยช้ำได้มากกว่าบริเวณอื่น รอยช้ำจะค่อยๆ จางหายไปเองภายใน 5-10 วัน การรับประทานยาละลายลิ่มเลือดหรือวิตามินบางชนิดก่อนหัตถการอาจเพิ่มความเสี่ยงของรอยช้ำ
  • อาการปวด – แม้จะมีการใช้ยาชาเฉพาะที่ระหว่างทำหัตถการ แต่ผู้เข้ารับการฉีดอาจยังรู้สึกเจ็บหรือปวดบริเวณที่ฉีดได้ หลังจากฤทธิ์ยาชาหมด อาจมีอาการปวดตื้อหรือแสบร้อนในบริเวณที่ฉีด ซึ่งมักคงอยู่ประมาณ 24-48 ชั่วโมง และค่อยๆ บรรเทาลง ความเจ็บปวดที่รุนแรงหรือนานเกินไปอาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนที่ควรปรึกษาแพทย์
  • อาการคัน – บางรายอาจมีอาการคันหลังฉีด เนื่องจากการระคายเคืองของผิวและการตอบสนองของร่างกายต่อสารเติมเต็ม อาการคันอาจเกิดขึ้นทันทีหรือหลังจากฉีดไปแล้ว 1-2 วัน และอาจรุนแรงขึ้นเมื่อเกิดการเสียดสีหรือในสภาพอากาศร้อน อาการคันที่รุนแรงหรือมีผื่นแดงร่วมด้วยอาจเป็นสัญญาณของการแพ้ ซึ่งควรได้รับการประเมินจากแพทย์โดยเร็ว
  • ผิวไม่เรียบ – อาจเกิดตุ่มนูนหรือความไม่สม่ำเสมอของผิวหากฉีดในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมหรือใช้เทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้อง ฟิลเลอร์อาจกระจายตัวไม่สม่ำเสมอ ทำให้เกิดก้อนนูนหรือรอยบุ๋มที่มองเห็นหรือคลำได้ โดยเฉพาะเมื่อฉีดในชั้นผิวหนังที่ตื้นเกินไป อาการนี้มักปรากฏชัดหลังจากอาการบวมลดลง และอาจคงอยู่จนกว่าฟิลเลอร์จะค่อย ๆ สลายตัว

ภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย (พบได้น้อยแต่มีความเสี่ยงสูง)

ภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย
  • การติดเชื้อ – บริเวณอวัยวะเพศมีแบคทีเรียประจำถิ่นอยู่หลากหลายชนิด การฉีดฟิลเลอร์ทำให้เกิดช่องทางสำหรับเชื้อโรคเข้าสู่ชั้นใต้ผิวหนัง ซึ่งอาการของการติดเชื้อได้แก่ บวมแดง ร้อน เจ็บ มีหนองไหล อาจมีไข้ ในกรณีรุนแรงอาจลุกลามเป็นการติดเชื้อในกระแสเลือดซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
  • การเกิดฝีหรือการอักเสบของรูขุมขน – บริเวณอวัยวะเพศมีต่อมไขมัน ต่อมเหงื่อ และรูขุมขนจำนวนมาก การฉีดสารเข้าไปอาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ เกิดเป็นฝี (Abscess) หรือเกิดการอักเสบของรูขุมขน (Folliculitis) ซึ่งทำให้มีตุ่มแดง เจ็บ คันและอาจมีหนองในรูขุมขน หากไม่รักษาอาจลุกลามเป็นฝีลึกและต้องรักษาด้วยการเจาะระบายหนองหรือให้ยาปฏิชีวนะ
  • การอุดตันของหลอดเลือด – บริเวณอวัยวะเพศมีเส้นเลือดมาเลี้ยงอย่างหนาแน่น หากฉีดฟิลเลอร์เข้าหลอดเลือดโดยตรง จะทำให้เกิดการอุดตัน เลือดไม่สามารถไหลผ่านได้ ทำให้เนื้อเยื่อขาดเลือด ผู้รับการฉีดจะรู้สึกเจ็บปวดรุนแรงทันที บริเวณที่ฉีดจะซีด ขาว หรือเขียวคล้ำ ซึ่งต้องรีบแก้ไขโดยด่วนด้วยการฉีด Hyaluronidase กรณีเป็นฟิลเลอร์ประเภทกรดไฮยาลูโรนิก
  • เนื้อเยื่อตายเฉพาะที่ – เป็นผลต่อเนื่องจากการอุดตันของหลอดเลือด ทำให้เนื้อเยื่อขาดออกซิเจนและสารอาหาร เกิดภาวะเนื้อตาย บริเวณที่ขาดเลือดจะเปลี่ยนเป็นสีดำ แห้ง มีแผลเปิด และอาจมีการติดเชื้อแทรกซ้อน ภาวะนี้อาจส่งผลให้เกิดแผลเป็นถาวร สูญเสียความรู้สึก หรือสูญเสียการทำงานของอวัยวะในบริเวณนั้น
  • ผลกระทบต่อท่อปัสสาวะและอวัยวะใกล้เคียง – การฉีดที่ลึกเกินไปหรือใช้เทคนิคไม่ถูกต้องอาจส่งผลกระทบต่อโครงสร้างใกล้เคียง เช่น ท่อปัสสาวะ ทำให้เกิดการกดทับท่อปัสสาวะ ปัสสาวะลำบาก เจ็บขณะปัสสาวะ หรืออาจกระทบต่อเส้นประสาท ทำให้เกิดความผิดปกติของความรู้สึก เช่น ชา เสียวแปลบ หรือปวดเรื้อรัง
  • ภาวะภูมิแพ้รุนแรง – สารในฟิลเลอร์บางชนิดอาจกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ ตั้งแต่การแพ้เฉพาะที่ (มีผื่นแดง คัน บวม) ไปจนถึงการแพ้รุนแรง (Anaphylaxis) ซึ่งมีอาการหายใจลำบาก หลอดลมตีบ ความดันโลหิตต่ำ หมดสติ อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที
 
 

ใครบ้างที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์น้องสาว

ใครบ้างที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์น้องสาว
  • สตรีมีครรภ์หรือผู้ที่กำลังให้นมบุตร
  • ผู้ที่มีประวัติการแพ้ฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็ม
  • ผู้ที่มีโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง
  • ผู้ที่มีประวัติการติดเชื้อหรืออักเสบบริเวณที่ต้องการฉีด
  • ผู้ที่มีประวัติเคยฉีดสารปลอมแปลงที่ไม่สลายตัวประเภทซิลิโคนหรือพาราฟิน
  • ผู้ที่มีโรคเลือดออกง่ายหรือรับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด

*ทุกครั้งก่อนฉีด แนะนำให้เข้าปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้

วิธีลดความเสี่ยงและได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัย

วิธีลดความเสี่ยงและได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัย

เพื่อลดความเสี่ยงและได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยจากการฉีดฟิลเลอร์น้องสาว ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้

  1. เลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ – ควรเลือกแพทย์ที่มีความชำนาญในการฉีดฟิลเลอร์บริเวณจุดซ่อนเร้นโดยเฉพาะ เช่น แพทย์เฉพาะทางสาขาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา หรือแพทย์ศัลยกรรมความงามที่มีประสบการณ์สูง
  2. เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน – สถานพยาบาลต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลที่ถูกต้อง มีความสะอาด และมีอุปกรณ์ฆ่าเชื้อที่ได้มาตรฐาน ทำเลที่ตั้งดี สะดวกต่อการเดินทาง
  3. ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ – ควรใช้ฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองจาก อย. ไทย และเป็นฟิลเลอร์ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับบริเวณจุดซ่อนเร้น
  4. แจ้งประวัติสุขภาพให้ครบถ้วน – แจ้งแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัว ยาที่ใช้ประจำ และประวัติการแพ้
  5. การเตรียมตัวก่อนฉีด:
    • งดดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ก่อนฉีดประมาณ 1 สัปดาห์
    • งดยาในกลุ่ม NSAIDs เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนค รวมถึงวิตามินบางชนิด
    • ทำความสะอาดบริเวณจุดซ่อนเร้นก่อนเข้ารับการฉีด
    • งดฉีดในช่วงที่มีประจำเดือน

บทสรุป

ฟิลเลอร์น้องสาวอันตรายไหม? โดยสรุปแล้ว การฉีดฟิลเลอร์น้องสาวสามารถทำได้อย่างปลอดภัยหากเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน และปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังการฉีด

อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่สนใจควรตระหนักว่าการฉีดฟิลเลอร์น้องสาวไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสำหรับทุกคน มีข้อจำกัดและความเสี่ยงที่ต้องพิจารณา ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมของตนเอง ศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน ชั่งน้ำหนักระหว่างความเสี่ยงและประโยชน์ที่จะได้รับ และตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลที่ถูกต้องนะคะ

CONTACT FOR SPECIAL PRIVILEGES

กดด้านล่างติดเราเพื่อสอบถามรายละเอียดเเละสิทธิ์อื่นๆ

โทร RWC
line rwc
Facebook rwc
โทร RWC
Facebook rwc
line rwc

ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง RWC Clinic

ทีมแพทย์ RWC

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า