เมื่อตัวเลขของอายุมากขึ้นทุก ๆ ปี ทำให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าชัดเจนขึ้น เริ่มมีริ้วรอย ความหย่อนคล้อยของผิว ทั้งใบหน้าและตามร่างกาย เกิดริ้วรอยโดยไม่รู้ตัว สาเหตุที่ทำให้เกิดอาจจะเป็น ความเครียด การใช้ชีวิตในแต่ละวัน อาจทำให้ละเลยการดูแลตัวเองไป ส่งผลให้ผิวพรรณที่ร่างกายและใบหน้ามีความเสื่อมถอยลงไป
สารบัญ
- Thermage vs ร้อยไหม Tesslift คืออะไร
- หลักการทำงานของ Thermage vs ร้อยไหม Tesslift
- Thermage vs ร้อยไหม Tesslift เหมาะกับใครบ้าง
- Thermage vs ร้อยไหม Tesslift ไม่เหมาะกับใครบ้าง
- ข้อดีของการทำ Thermage vs ร้อยไหม Tesslift
- ข้อเสียของการทำ Thermage vs ร้อยไหม Tesslift
- ข้อปฏิบัติก่อนและหลังทำ Thermage vs ร้อยไหม Tesslift
- ราคาในการทำ Thermage vs ร้อยไหม Tesslift
การรักษาด้วยเทอร์มาจ (Thermage) คือ การใช้ความถี่ของคลื่นวิทยุ (Radio Frequency) ส่งพลังงานลงไปกระตุ้นชั้นใต้ผิวหนัง ได้ถึงระดับชั้นไขมัน (Subcutaneous) จะช่วยให้เกิดการสร้างคอลลาเจนที่ไม่กระชับให้กลับมาหดตัว เนื้อเยื่อจะเกิดความยืดหยุ่นได้ดีขึ้น สามารถยกกระชับได้ คือ ใบหน้า รอบดวงตา และลำตัว โดยไม่ต้องศัลยกรรมหรือผ่าตัด สามารถกลับไปทำกิจกรรมอื่นต่อได้เลย
การร้อยไหม (Tesslift) คือ การใช้เทคนิคพิเศษเพื่อยกกระชับหรือปรับรูปหน้า เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก ๆ จะใช้เส้นไหมที่สลายตัวได้เอง จึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัยและไม่ส่งผลข้างเคียง การรักษาจะมีแผลเล็ก ๆ ซึ่งเป็นทางเข้าของเส้นไหม สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันที หลังทำ การรักษาจะอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี ขึ้นกับชนิดของไหม ความยาวไหม และเทคนิคของแพทย์ในการร้อยไหม
หลักการทำงานของ Thermage กับ ร้อยไหม Tesslift
- การรักษาด้วย Thermage จะใช้คลื่นวิทยุ (Radio Frequency) ส่งพลังงานความถี่สูงแบบขั้วเดียว (Monopolar RF) โดยหัวยิงสามารถส่งพลังงานไปยังผิวหนังระดับของชั้นหนังแท้ (Dermis) และชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ และยังทำให้เกิดการกระชับของผิว (Lightening) เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ผลลัพธ์ที่ได้จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน
- ร้อยไหม : จะใช้เข็มที่ผ่านการฆ่าเชื้อทางการแพทย์แล้ว เพื่อนำเส้นไหมเข้าไปบริเวณใต้ผิวหนัง ซึ่งไหมที่ใช้จะเป็นเส้นเล็ก ๆ จำนวนมากร้อยเรียงเป็นตาข่าย การร้อยไหมจะไปกระตุ้นเซลล์ที่มีหน้าที่สร้างเส้นใยคอลลาเจนใหม่รอบแนวไหม ทำให้เกิดการดึงรั้งบริเวณผิวหน้า รวมทั้งยังกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตให้หล่อเลี้ยงชั้นผิวหนังเพิ่มขึ้นด้วย การรักษาจะใช้ยาชาเพื่อลดอาการปวด และบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้น
อ่านเพิ่มเติม Thermage ยกกระชับใบหน้า
Thermage vs ร้อยไหม Tesslift เหมาะกับใครบ้าง
- Thermage เหมาะสำหรับผู้ที่อายุ 40 ขึ้นไป หรือผู้ที่มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย ริ้วรอยร่องแก้มลึก หนังตาหรือหางคิ้วตก และสามารถทำในบริเวณลำตัว เช่น ผู้ที่มีปัญหาผิวเหี่ยวย่นที่หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา
- ร้อยไหม เหมาะกับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 30-60 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยมาก ๆ กรอบหน้าไม่ชัด
Thermage vs ร้อยไหม Tesslift ไม่เหมาะกับใครบ้าง
- Thermage ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเกี่ยวกับหัวใจ โรคลมชัก โรคเบาหวาน และผู้ที่ตั้งครรภ์
- ร้อยไหม ไม่เหมาะกับคนกลัวเข็ม คนที่มีโรคประจำตัวเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังมีคนที่ต้องกินยาต้านการแข็งตัวของเลือด เพราะจะทำให้แผลหายช้ากว่าปกติ และผู้ที่กำลังตั้งครรภ์อีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม ปัญหาหลังร้อยไหม เกิดจากอะไร ? ป้องกันได้อย่างไร ?
Thermage
- Thermage การรักษาใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง แล้วแต่บริเวณที่ทำ จะเห็นผลของการยกกระชับทันทีประมาณ 20-30 เปอร์เซ็นต์ หลังจากนั้นสภาพผิวจะดีขึ้นอย่างเต็มที่หลังจากการรักษาประมาณ 6 เดือน
- ระยะเวลาของผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน
- การรักษาต่อเนื่องปีละ 1 ครั้ง จะช่วยฟื้นฟูผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ เพื่อเป็นการชะลอวัยได้ในระยะยาว
- จะไม่มีบาดแผลหรือร่องรอยใด ๆ ปรากฏหลังการรักษา
- สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติหรือกลับมาทำงานได้ทันที
- Thermage เป็นเทคโนโลยีที่ผ่านการพัฒนาและปรับปรุง จึงมั่นใจเรื่องความปลอดภัยได้ว่าจะแสดงผลข้างเคียงในระยะยาว
ร้อยไหม Tesslift
- วัสดุ Polydioxanone สามารถย่อยสลายได้ตามกระบวนการธรรมชาติของร่างกาย ไม่มีสารตกค้างใต้ชั้นผิวหนัง
- มีผลในการยกกระชับระยะยาว กระตุ้นให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อในรูของไหมโครงตาข่าย ทำให้เกิดแรงยึดและแรงตึงมีผลให้เกิดความแข็งแรงแบบกึ่งถาวร รอยเงี่ยงที่ไหมโครงตาข่าย จะเป็นตัวยึดเกี่ยวกับเนื้อเยื่อและตัวไหมโครงตาขายก็จะเป็นตัว กระตุ้นในการสร้างเนื้อเยื่อบริเวณรอบ ๆ ไหมโครงตาข่าย
- มีผลในการพยุงผิวหน้า เกี่ยวรั้งผิวหนัง พร้อมยกกระชับทันทีภายหลังการร้อยไหมโครงตาข่าย มีการสร้างคอลลาเจนอย่างรวดเร็วภายหลังการร้อยไหมโครงตาข่าย
- ไม่ต้องผ่านการผ่าตัด ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที ใช้เพียงยาชาเท่านั้น
- อุปกรณ์ในการร้อยไหมโครงตาข่ายได้รับการออกแบบ ในการใช้งานอย่างง่าย สะดวก ลดการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อ
อ่านเพิ่มเติม ร้อยไหม เหมาะกับใคร ? ตรวจสอบตัวเราว่าถึงเวลาร้อยไหมหรือยัง ?
ข้อเสียของการทำ Thermage vs ร้อยไหม Tesslift
Thermage
- มีอาการแดงหรือบวมเล็กน้อยหลังทำ เพราะการส่งพลังงานคลื่นจึงทำให้เกิดความร้อนใต้ผิวหนัง อาการจะหายได้หลังทำไม่กี่ชั่วโมง ไม่ถึงขั้นต้องพักฟื้นนาน ๆ
- อาการผิวไหม้กรณีนี้เกิดจากขั้นตอนในการรักษา ดังนั้น ต้องให้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นผู้รักษา
การร้อยไหม Tesslift
- การร้อยไหม ควรเลือกไหมที่มีประสิทธิภาพดี การร้อยไหมเป็นเทคนิคที่ต้องใช้ความชำนาญ จึงต้องเลือกชนิดของเส้นไหมที่เหมาะสม
- ผลข้างเคียงหลังการรักษา เช่น อาการตึง บวม ช้ำ แดง บริเวณที่ร้อยไหม เพราะต้องใช้เข็มแทงเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง จะหายได้เองประมาณ 4-10 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน
- อาจเกิดรอยยุบบนใบหน้า จะหายไปเองประมาณ 1 เดือนหลังจากทำ
ข้อปฏิบัติก่อนและหลังทำ
Thermage
- หลีกเลี่ยงการรักษาในผู้ป่วยที่มีอาการดังต่อไปนี้ โรคเบาหวาน และหญิงที่กำลังตั้งครรภ์หรืออยู่ระหว่างให้นมบุตร
- สามารถทาครีมบำรุง หรือแต่งหน้าได้ตามปกติ
- หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดด หรือควรทาครีมกันที่มีค่า SPF สูง ๆ ทุกครั้ง
- หากต้องการรับรักษาซ้ำ ก็สามารถทำได้ทุกช่วงเวลา
*สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจที่ต้องติดอุปกรณ์โลหะ สามารถทำได้ แต่แนะนำให้เข้าปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการก่อนนะคะ
ร้อยไหม Tesslift
ก่อนทำ
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวและอาการแพ้ยา ควรเข้ารับการปรึกษาและแจ้งอาการดังกล่าวก่อน
- งดทานยาและอาหารเสริม เช่นยาในกลุ่ม แอสไพริน (Aspirin) ไอบิวโพรเฟน (Ibuprofen) ยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือวิตามินอี อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำการรักษา
- งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 สัปดาห์
หลังทำ
- หากมีอาการปวด บวม บริเวณที่รักษา ควรประคบเย็นหรือทานยาเพื่อลดการอักเสบได้
- เพื่อป้องการการอักเสบหรือการติดเชื้อ ควรงดแต่งหน้าหลังทำ 1-2 วัน
- งดล้างหน้าหลังทำอย่างน้อย 3 ชั่วโมง และงดการนวดหรือขัดบริเวณที่ร้อยไหม
- ควรงดการนอนคว่ำ ให้นอนในท่าตะแคง นอนหงาย เพื่อหลีกเลี่ยงการกดทับบริเวณที่ทำ
- งดการทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงเยอะ เช่น การออกกำลังกาย
- หลีกเลี่ยงแสงแดด และควรทาครีมกันแดดทุกครั้ง
- ห้ามรับการรักษาด้วยเลเซอร์ประมาณ 2-4 สัปดาห์
- งดทานวิตามินหรืออาหารเสริมที่ทำให้เลือดออกง่าย เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี
ราคาในการทำ Thermage vs ร้อยไหม Tesslift
- Thermage ราคาจะค่อนข้างสูง มีราคาตั้งแต่หลักหมื่นต้น ๆ อยู่ที่บริเวณของผู้รับบริการต้องการ อยู่ที่ดุลพินิลของแพทย์ผู้รักษา แต่การทำ Thermage ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่า ซึ่งทำเพียง 1 ครั้ง ก็สามารถอยู่ได้เป็นระยะเวลานาน
- ร้อยไหม มีราคาตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น จะขึ้นกับชนิดไหม ความยาวของไหม รวมถึงคลินิกหรือสถานพยาบาล และความชำนาญของแพทย์ด้วย
อ่านเพิ่มเติม Thermage ปลอม
สรุป
Thermage vs ร้อยไหม Tesslift มีข้อดี คือ ประหยัดเวลา ไม่ต้องผ่าตัด ไมต้องพักฟื้น หลังทำเสร็จสามารถไปทำกิจกรรมต่อได้เลย ส่วนข้อเสียหรือข้อควรระวัง Thermage คือคนที่มีโรคประจำตัวห้ามทำ และการร้อยไหม Tesslift หลังทำต้องระวังเป็นพิเศษในการดูแลบริเวณที่ทำ แต่ผลลัพธ์การรักษาเหมือนกันคือการยกกระชับผิว ขึ้นอยู่กับว่าผู้เข้ารับบริการต้องการรักษาด้วยวิธีแบบไหน แต่เพื่อการรักษาที่ปลอดภัยต้องเลือกสถานที่ที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งผ่านการอบรมมาแล้ว อย่างแท้จริง