การทำงานของ Thermage กับ HIFU เป็นที่รู้จักกันในด้านการยกกระชับผิวบนใบหน้า และร่างกายให้ดูอ่อนวัย เรียบเนียน ช่วยลดเลือนริ้วรอย ลดไขมัน แถมยังกระชับรูขุมขนลดลง โดยไม่ต้องผ่านการผ่าตัด และพักฟื้นหลังการรักษาให้เสียเวลา
ความแตกต่างการทำงานของ Thermage กับ HIFU
แม้ว่าผลลัพธ์ของการทำ Thermage กับ HIFU จะเหมือนกันคือการยกกระชับ แต่หลักการทำงานของทั้งสองนั้นแตกต่างกัน ปล่อยคลื่นคนละชนิด ความสามารถในการลงสู่ชั้นผิวก็ต่างกัน
การทำงานของ Thermage
Thermage เป็นการปรับผิวให้กระชับด้วยเครื่องที่ปล่อยคลื่นวิทยุความถี่สูง (radio frequency: RF) ลงสู่ผิวหนัง ตัวคลื่น RF ที่ใช้คลื่นวิทยุแบบขั้วเดียว เป็นตัวที่ลงลึกที่สุดไปถึงชั้นไขมันใต้ชั้นผิว (Subcutaneous) ซึ่งเป็นชั้นที่อยู่ของคอลลาเจน (collagen) สารตัวนี้จะเป็นตัวที่ทำให้ผิวแน่นกระชับ โดย Thermage จะปล่อยความร้อน ช่วยกระตุ้นให้คอลลาเจนสร้างเนื้อเยื่อใหม่ หลังจากทำ Thermage แล้วผิวจึงดูยกกระชับ เรียบเนียนขึ้น
การทำงานของ HIFU
HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) เป็นนวัตกรรมที่ช่วยยกกระชับผิวหน้าโดยใช้เครื่องปล่อยคลื่นอัลตราซาวด์ ที่มีความเข้มข้นสูงและเจาะจงลงลึกไปยังชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) หรือร่างแหของชั้นกล้ามเนื้อ ซึ่งอยู่ใต้ชั้นหนังแท้ พลังงานของคลื่นอัลตราซาวด์จะเปลี่ยนเป็นความร้อนจุดเล็กๆ ไปตามตำแหน่งที่ต้องการ ส่งผลให้เกิดความกระชับ ริ้วรอยลดลง โดยคลื่นอัลตร้าซาวด์นี้ไม่ส่งผลกระทบต่อผิวชั้นนอก และไม่ส่งผลต่อระบบการทำงานของร่างกาย
ทำ Thermage กับ HIFU เจ็บไหม ?
หลายคนอาจจะกังวลว่าการทำ Thermage กับ HIFU เจ็บหรือไม่ โดยขณะที่ทำการรักษาด้วยสองเครื่องนี้จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน การรักษาด้วย Thermage นั้น เนื่องจากเป็นการทำงานโดยการปล่อยคลื่นวิทยุที่มีความร้อน จึงทำให้รู้สึกร้อนเล็กน้อย ส่วนการทำ HIFU จะให้ความรู้สึกเหมือนมีอาการปวดตึง ๆ บริเวณใต้ชั้นผิว ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเลือกเครื่องให้เหมาะกับตนเอง
อ่านเพิ่มเติม Thermage ปลอม
ทำ Thermge กับ HIFU ใช้เวลานานไหม ?
เมื่อเปรียบเทียบเวลาในการทำ Thermage จะใช้เวลานานกว่า เพราะใช้เวลาประมาณ 2-4 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น ตามความอดทนของผู้รับบริการ แต่การทำ HIFU ใช้เวลาเพียงไม่ถึง 1 ชั่วโมง
อ่านเพิมเติม Hifu ดีไหม ? ยกกระชับแบบไม่ผ่าตัด เห็นผลลัพธ์ได้จริงหรือไม่
สภาพผิวแบบไหนเหมาะกับการทำ Thermage และ HIFU
เนื่องจากสภาพผิวของแต่ละคนค่อนข้างแตกต่างกัน ความหย่อนคล้อยของผิวก็เช่นกัน เพราะสภาพผิวที่ผ่านการใช้งานในรูปแบบที่ต่างกันนั้น อาจบอกได้ไม่ชัดเจน จึงต้องรับคำปรึกษาจากแพทย์โดยตรงเพื่อความถูกต้องว่าเหมาะกับการรักษาแบบไหน นอกจากนี้ราคาและค่าใช้จ่ายก็แตกต่างกันไปตามปัญหาสภาพผิวของแต่ละบุคคลอีกด้วย
ผลลัพธ์ของการทำ Thermage กับ HIFU
เนื่องจากใช้เทคโนโลยีแตกต่างกัน ผลลัพธ์ของ Thermage กับ HIFU จึงมีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไปด้วย
โดย Thermage นั้น สามารถทำได้ทุกส่วนบริเวณในร่างกาย เช่น ใบหน้า รอบดวงตา และลำตัวได้ ในคนที่มีพื้นผิวหนา แต่ความหย่อนคล้อยน้อย เหมาะกับการทำ Thermage นอกเหนือจากนี้ยังช่วยในการกระชับรูขุมขนได้ด้วย หลังจากทำ Thermage จะเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนขึ้นภายใน 2-6 เดือน นับจากวันที่ทำ และผลจะอยู่ได้นานประมาณ 1 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละบุคคล
อ่านเพิ่มเติม หลังทำ Thermage ควรปฏิบัติอย่างไร
ส่วนผลลัพธ์ของการทำ HIFU นั้น บริเวณที่จะเห็นผลดีเป็นพิเศษ คือ ช่วงล่างของหน้า (lower face) และยกคิ้วได้ดี นอกจากจะช่วยกระชับผิว ยังช่วยลดริ้วรอย และช่วยปรับผิวให้ดูเรียบเนียนขึ้น คนที่มีปัญหาในเรื่องของความหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับ หน้าตอบ การทำ HIFU จะเหมาะกว่า เพื่อให้ได้ใบหน้าดูเรียว กรอบหน้าชัดยิ่งขึ้น กลุ่มที่เหมาะสำหรับการทำ HIFU คือ ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง จะเห็นผลชัดขึ้นหลังทำ HIFU ประมาณ 1-2 เดือน ถ้าอยากให้เห็นผลมากขึ้นต้องทำ HIFU ร่วมกับการทำแบบอื่น ๆ เช่น การฉีดฟิลเลอร์ หรือร้อยไหม เพื่อผลที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
สรุป
การเลือกทำ Thermage กับ HIFU นั้น ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและความต้องการในการรักษาของผู้รับบริการ ผู้ที่มีปัญหาอยากยกกระชับผิว ลดไขมัน ทั้งใบหน้า รอบดวงตา ลำตัว หรือผิวหย่อนคล้อยน้อย แนะนำให้เลือกเป็น Thermage แต่ถ้าอยากยกกระชับผิวหน้า และลดริ้วรอยให้เรียบเนียน กระจ่างใส แนะนำให้เลือกเป็น HIFU จะเห็นผลชัดเจนกว่า นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญและควรคำนึงถึงคือหลักความปลอดภัย ต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียด และปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง