การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเป็นหัตถการความงามที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน เพราะสามารถช่วยลดเลือนร่องลึกและทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้อย่างรวดเร็ว แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ห้ามอะไรบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย การปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องหลังฉีดจะช่วยลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงและทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น
1. ห้ามสัมผัส กด นวด บริเวณที่ฉีด
หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้ว ห้ามสัมผัส กด นวด หรือแกะเกาบริเวณที่ฉีดเด็ดขาด เพราะฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่สนิท การสัมผัสแรงๆ อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนไปตำแหน่งอื่น ส่งผลให้ใบหน้าเสียทรงหรือไม่สมมาตร นอกจากนี้ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและการอักเสบอีกด้วย
2. ห้ามออกกำลังกายหนักและกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออก
การออกกำลังกายหนักจะทำให้การไหลเวียนเลือดเร่งขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการบวมและอักเสบมากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมเหล่านี้อย่างน้อย 48 ชั่วโมงหลังฉีด
- การออกกำลังกายหนัก
- การวิ่ง
- การเล่นกีฬา
- การเข้าซาวน่า
- การอบไอน้ำ
3. ห้ามสัมผัสความร้อนโดยตรง
ความร้อนสามารถทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วขึ้น และอาจทำให้เกิดการอักเสบ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยง
- การเข้าซาวน่า
- การอบไอน้ำ
- การตากแดดโดยตรง
- การใช้คอมเพรสร้อน
- การทำเลเซอร์ (ควรเว้นระยะอย่างน้อย 2 สัปดาห์)
4. ห้ามแต่งหน้าในช่วงแรก
หลังฉีดฟิลเลอร์ควรงดแต่งหน้าอย่างน้อย 12-24 ชั่วโมงแรก เนื่องจาก
- เครื่องสำอางอาจเข้าไปในรูเข็ม ทำให้เกิดการอักเสบ
- การทาเครื่องสำอางต้องใช้การสัมผัสและกดใบหน้า
- สารเคมีในเครื่องสำอางอาจทำให้เกิดการระคายเคือง
อาหารที่กระตุ้นการอักเสบ
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ห้ามอะไรบ้าง ในเรื่องอาหาร ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่อาจกระตุ้นการอักเสบ เช่น
- อาหารหมักดอง
- อาหารรสจัด รสเค็ม
- อาหารหวานที่มีน้ำตาลสูง
- อาหารทอด มันๆ
- อาหารดิบ เช่น ซาชิมิ ซูชิ
เครื่องดื่มที่ต้องงด
- แอลกอฮอล์ (อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง)
- เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูง
- เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง
ท่านอนที่ถูกต้อง
หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม การนอนก็มีข้อควรระวัง ดังนี้
- ห้ามนอนตะแคงในช่วง 12 ชั่วโมงแรก
- ห้ามนอนคว่ำหน้า
- ควรนอนศีรษะสูงกว่าลำตัวเล็กน้อย
- ใช้หมอนพิงศีรษะให้อยู่ในท่าที่เหมาะสม
เหตุผลของการควบคุมท่านอน
การนอนในท่าที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้ ฟิลเลอร์เคลื่อนตำแหน่ง เกิดการบวมมากขึ้นและทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
ยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
ควรหลีกเลี่ยงยาเหล่านี้เป็นเวลา 1 สัปดาห์หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม มีดังนี้
- แอสไพริน
- ยาแก้ปวดที่มีส่วนผสมของแอสไพริน
- วิตามิน E ในปริมาณสูง
- ยาสมุนไพรที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
อาหารเสริมที่ต้องระวัง
- วิตามิน E
- น้ำมันปลา
- สมุนไพรบางชนิด เช่น จินโกะ ขิง
แม้จะปฏิบัติตามข้อห้ามครบถ้วนแล้ว แต่หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์ทันที
- อาการปวดรุนแรงที่ไม่ลดลง
- บวมแดงผิดปกติ
- ผิวหนังเปลี่ยนสีเป็นซีดหรือคล้ำ
- มีไข้
- เกิดผื่นหรือตุ่มผิดปกติ
- รู้สึกชาหรือเสียวซ่าผิดปกติ
| อ่านเพิ่มเติม ฟิลเลอร์ร่องแก้ม อันตรายไหม ? ขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง ?
บทสรุป
การทราบว่า ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ห้ามอะไรบ้าง เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย การปฏิบัติตามข้อห้ามอย่างเคร่งครัด ทั้งเรื่องการสัมผัสบริเวณที่ฉีด การหลีกเลี่ยงความร้อน การเลือกอาหาร การนอนพักผ่อน และการใช้ยา จะช่วยลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงและทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น หากมีข้อสงสัยหรือพบอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่เป็นไปตามความคาดหวัง