ปัญหาร่องแก้มลึกเป็นหนึ่งในปัญหาผิวหน้าที่ทำให้ดูแก่กว่าวัย สำหรับใครที่ต้องการฉีดบริเวณร่องแก้ม ควรรู้ว่า ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อไหนดี สำหรับการแก้ไขปัญหานี้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ การเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมไม่ได้ขึ้นอยู่เพียงแค่ชื่อเสียงของแบรนด์เท่านั้น แต่ยังต้องพิจารณาถึงสภาพผิว ความลึกของร่องแก้ม และคุณสมบัติเฉพาะของฟิลเลอร์แต่ละรุ่นที่จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด
1. การยุบตัวของกระดูกบริเวณใต้ตา เป็นสาเหตุที่พบมากที่สุดในผู้ที่อายุ 30 ปีขึ้นไป เมื่อกระดูกใต้ตายุบลง เนื้อแก้มจะหย่อนลงมา ทำให้เกิดร่องแก้มที่ลึกและชัดเจน กรณีนี้ต้องการฟิลเลอร์ที่สามารถยกพยุงผิวได้ดีและมีความแข็งแรงในการคงรูป
2. การยุบตัวของกระดูกบริเวณร่องแก้มโดยตรง มักพบในช่วงอายุ 20-30 ปี ที่ร่องแก้มยังไม่ลึกมาก การแก้ไขจะง่ายกว่า และสามารถใช้ฟิลเลอร์เพียงอย่างเดียวได้ผลดี โดยต้องฉีดในชั้นกระดูกใต้กล้ามเนื้อ
3. การสูญเสียไขมันใต้ผิวหนัง เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินน้อยลง ไขมันใต้ผิวหนังก็ลดลงด้วย ทำให้ผิวยุบตัวและเกิดร่องลึก กรณีนี้ต้องการฟิลเลอร์ที่สามารถกระจายตัวได้ดีและให้ความชุ่มชื้น
4. การยิ้มบ่อยจนกล้ามเนื้อแข็งแรงเกินไป กล้ามเนื้อที่ดึงร่องแก้มทำงานมากเกินไป จึงต้องใช้เทคนิคพิเศษในการฉีดฟิลเลอร์ร่วมกับการควบคุมกล้ามเนื้อ
5. ผิวแห้งและการสัมผัสแสงแดด ทำให้ชั้นผิวบางลงและเกิดริ้วรอยตื้นๆ ต้องการฟิลเลอร์โมเลกุลเล็กที่สามารถเติมความชุ่มชื้นและเก็บรายละเอียดได้ดี
รุ่นที่เหมาะสำหรับร่องแก้ม
- Restylane Defyne อยู่ได้นาน 18 เดือน มีเนื้อแข็งปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับร่องแก้มลึกปานกลาง สามารถอุ้มน้ำได้ดี ให้ผลฟูอิ่ม
- Restylane Refyne อยู่ได้นาน 12 เดือน มีเนื้อนิ่มกว่า Defyne เหมาะกับร่องแก้มตื้นถึงปานกลาง ให้ผลธรรมชาติ เคลื่อนไหวได้เป็นธรรมชาติ
- Restylane Perlane Lyft อยู่ได้นาน 12 เดือน มีเนื้อแข็งที่สุด มีความคงตัวสูง เหมาะกับร่องแก้มลึกมาก ไม่ฟูมาก เน้นการยกพยุงผิว
- Restylane Volyme อยู่ได้นาน 18 เดือน มีเนื้อนิ่ม เหมาะกับการเติมปริมาตร ใช้สำหรับแก้มตอบ และเติมเต็มส่วนที่โหลลึกกระจายตัวได้ดี ไม่เป็นก้อน
2. Juvederm
Juvederm เป็นแบรนด์ฟิลเลอร์จากบริษัท Allergan ที่มีชื่อเสียงด้านผลิตภัณฑ์ความงาม เมื่อพิจารณาฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อไหนดี Juvederm มักได้รับการยกย่องในเรื่องของความเรียบเนียนและการกระจายตัวที่ดีเยี่ยม
รุ่นที่เหมาะสำหรับร่องแก้ม
- Juvederm Voluma อยู่ได้นาน 18-24 เดือน ฟิลเลอร์เนื้อแข็งและฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูงที่สุดในกลุ่ม Juvederm เหมาะกับการเติมใต้ตาและร่องแก้มพร้อมกัน อยู่ได้นานที่สุดในกลุ่มฟิลเลอร์ HA
- Juvederm Volift อยู่ได้นาน 12 เดือน มีเนื้อนิ่มปานกลาง มีความละเอียด เหมาะกับผิวบางและร่องแก้มที่ไม่ลึกมาก เก็บรายละเอียดร่องแก้มชั้นตื้นได้ดี ใช้ฉีดปาก มุมปาก ได้ด้วย
- Juvederm Ultra Plus XC อยู่ได้นาน 12 เดือน มีเนื้อนิ่ม เก็บกักน้ำได้ดีที่สุด ฉีดแล้วฟูมาก ทำให้เต็มสวย ทนต่อการขยับ เหมาะกับคนที่ยิ้มบ่อย มียาชาผสมอยู่ในตัว ลดความเจ็บปวด
- Juvederm Volux อยู่ได้นาน 18-24 เดือน มีเนื้อแข็งที่สุดในกลุ่ม Juvederm มีโมเลกุลขนาดใหญ่ คงรูปได้ดีที่สุด เหมาะกับร่องแก้มลึกมากและการเสริมโครงหน้า ให้ผลการยกพยุงที่ชัดเจน
- Juvederm Volite อยู่ได้นาน 8-12 เดือน มีเนื้อละเอียดที่สุด สำหรับผิวชั้นตื้น ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและเก็บรายละเอียด เหมาะกับการบำรุงผิว (Skin booster) ใช้ร่วมกับฟิลเลอร์เนื้อแข็งเพื่อผลที่สมบูรณ์
- มีเลขทะเบียน อย. และมีภาษาไทยกำกับ : ฟิลเลอร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก อย. มีเพียงไฮยาลูรอนิก แอซิด ซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศและเป็นสารที่ใช้ในทางการแพทย์โดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
- มีเลข LOT บนหน้ากล่องเข็มด้านใน : สามารถดูเลขที่หรืออักษรแสดงครั้งที่ผลิต หรือ Lot No. ที่กล่องของฟิลเลอร์ แล้วนำโทรไปตรวจสอบได้
- มีการบรรจุเข็มภายในกล่องในจำนวนที่ถูกต้อง : ภายในกล่องฟิลเลอร์ของแท้ 1 กล่องนั้นจะประกอบด้วยเข็มจำนวน 2 อัน พร้อมระบุวันหมดอายุอย่างชัดเจน
- ต้องมีเอกสารกำกับ : เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญของฟิลเลอร์ที่มีประโยชน์และให้ความปลอดภัยแก่ผู้รับบริการ จะมีฉลากหรือเอกสารกำกับทุกกล่อง มีบาร์โค้ดชัดเจนที่ด้านข้างตัวกล่อง ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยให้ผู้รับบริการสามารถติดตามและตรวจสอบย้อนกลับได้ เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดตามกฎหมาย
- เลข LOT บนกล่องและด้านในต้องตรงกันฟิลเลอร์ของแท้ : เลข LOT บนกล่องและซองด้านใน จะต้องปรากฏเป็นตัวเลขชุดเดียวกันทั้งสองที่สรุป ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ใช้ยี่ห้อไหนดี
บทสรุป
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อไหนดี ไม่มีคำตอบเดียวที่เหมาะกับทุกคน การเลือกฟิลเลอร์ที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ได้แก่ สาเหตุของร่องแก้ม สภาพผิว อายุ และงบประมาณ สำหรับผู้เริ่มต้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินและเลือกยี่ห้อที่เหมาะสมที่สุด โดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ และควรเลือกฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจาก อย. เท่านั้น เพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและน่าพึงพอใจค่ะ