นอกจากการฉีดฟิลเลอร์ที่เป็นที่นิยมในขณะนี้ การ ฉีดไขมันหน้าผาก ก็เป็นวิธีที่เป็นที่นิยมตีคู่มากับการฉีดฟิลเลอร์ เนื่องจากปลอดภัยแล้วยังสลายได้เองตามธรรมชาติ เพราะวิธีนี้เรียกได้ว่าเป็นการฟิลเลอร์ด้วยไขมันตัวเองก็ได้ แต่การใช้ไขมันตัวเองนำมาเติมเต็มหน้าผากเป็นวิธีที่ปลอดภัยกว่าการใช้สารเลียนแบบธรรมชาติ
สารบัญ
- รู้จักการฉีดไขมันหน้าผาก แบบ CAL FACE
- ฉีดไขมันหน้าผาก อยู่ได้นานเป็นปี
- การฉีดไขมันหน้าผาก ไม่ควรถี่จนเกินไป
- ไม่สามารถนำไขมันส่วนเกินบริเวณหน้ามาใช้กับการฉีดไขมันหน้าผากได้
- ไม่ต้องกังวลหากฉีดไขมันหน้าผาก แล้วบวมคล้ายกับหัวของปลาทอง
- ไม่ควรฉีดไขมันหน้าผาก ในปริมาณมากภายในครั้งเดียว
- ไม่สามารถนำไขมันของคนอื่นมาฉีดไขมันหน้าผาก
บทความแนะนำสำหรับผู้สนใจฉีดไขมันหน้า อ่านได้ที่นี่…
1. รู้จักการ ฉีดไขมันหน้าผาก แบบ CAL FACE
เป็นการฉีดสเต็มเซลล์จากไขมัน โดยดูดไขมันส่วนเกินของร่างกาย เพื่อนำไปสกัดเป็นสเต็มเซลล์เพื่อเติมเต็มส่วนต่างๆ ของร่างกาย แล้วนำกลับมาผสมกับไขมันที่คัดแยกไขมันดีไว้ เรียกได้ว่า เป็นการกำจัดไขมันส่วนที่ไม่ต้องการ แล้วนำไขมันส่วนนั้นกลับมาเติมเต็มส่วนที่เราต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการฉีดไขมันปกติ ทำให้ไขมันที่ฉีดเข้าไปติดง่ายและอยู่ได้นานกว่าการฉีดไขมันปกติ
วิดีโอ : ฉีดไขมันหน้าผาก
2. ฉีดไขมันหน้าผาก อยู่ได้นานเป็นปี
จริงๆ แล้วมีหลายปัจจัยที่ทำให้ไขมันที่ฉีดเข้าไปอยู่ได้นาน เช่น เทคนิคการรักษาคุณภาพไขมันตั้งแต่เริ่มฉีดไขมันออกมาการเก็บดูแลรักษาไขมัน เทคนิคการ ฉีดไขมันหน้าผาก ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ส่งผลให้ไขมันติดทนและอยู่ได้นาน โดยไม่ต้องกลับมาเติมซ้ำอีก
หากเป็นการฉีดสเต็มเซลล์จากไขมัน (CAL FACE) ทำให้ไขมันติดกับผิว และเส้นเลือดมีการหล่อเลี้ยง อาจทำให้ไขมันคงอยู่ถาวรตลอดไป แต่ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตของเราว่าจะทำให้ไขมันมีการเพิ่มหรือลด เช่น การออกกำลังกาย การรับประทานอาหาร
3. การฉีดไขมันหน้าผาก ไม่ควรถี่จนเกินไป
การฉีดไขมันที่ดี มาจากมีกระบวนการการฉีดที่ดีตั้งแต่เริ่มดูดไขมันจนกระทั่งฉีดไขมันเข้าไป ทำให้ไขมันที่ฉีดอยู่ได้นานโดยไม่จำเป็นต้องฉีดหลายครั้ง ซึ่งการฉีดไขมันจะเริ่มเข้าที่อย่างเห็นได้ชัดเมื่อผ่านเวลาประมาณ 1 ปีขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตัวของเราด้วย แต่หลังจากผ่านไป 2 ถึง 3 เดือนแล้วก็จะเข้าที่มากขึ้น หากพอใจกับไขมันที่เหลืออยู่บนใบหน้าแล้วก็ไม่จำเป็นที่จะต้อง ฉีดไขมันหน้าผาก
แต่ถ้าหากต้องการเติมไขมันเพิ่มอีกก็สามารถทำได้ ในกรณีที่บริเวณหน้าผากนั้นมีลักษณะคล้ายกับขาดไขมันอย่างชัดเจน แต่แนะนำให้รอผลลัพธ์ออกมาอย่างชัดเจนภายใน 1 ปี แล้วจึงพิจารณาเติมไขมันอีกครั้ง อาจไม่ดีแน่ที่ต้องเจ็บหลายครั้ง หลังจากเติมไขมันแล้วหายบวมก็ขึ้นกับตัวของคนไข้ ว่ หากพอใจแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องกลับไปเติม หากต้องการเติมสามารถเติมได้ประมาณ 3-6 เดือน
4. ไม่สามารถนำไขมันส่วนเกินบริเวณหน้ามาใช้กับการ ฉีดไขมันหน้าผาก ได้
เนื่องจากการ ไขมันเพื่อลดสัดส่วน กับ ไขมันเพื่อนำฉีดบริเวณหน้า มีจุดประสงค์และกระบวนการที่แตกต่างกัน เพราะว่าการดูดไขมันเพื่อลดสัดส่วนนั้น ใช้เครื่องมือดูดไขมันที่จะมีความร้อนเพื่อสลายไขมันให้แตกตัว ด้วยความร้อนนั้นเองที่จะทำลายสเต็มเซลล์ที่มีชีวิตในไขมัน จึงไม่มีประสิทธิภาพที่จะนำมา ฉีดไขมันหน้าผาก จึงนำเอาไปทิ้ง โดยไขมันที่มีคุณภาพดีที่สุด คือไขมันบริเวณหน้าท้อง ก้น ต้นขา สะโพก ซึ่งหากได้ไขมันแล้วจะนำมาแยกสกัด ผสมกับเนื้อเยื่อไขมันแล้วจึงฉีดเข้าไป
5. ไม่ต้องกังวลหาก ฉีดไขมันหน้าผาก แล้วบวมคล้ายกับหัวของปลาทอง
หากเป็นการ ฉีดไขมันหน้าผาก ครั้งแรก จะมีการฉีดไขมันในปริมาณที่เกินจากปกติเล็กน้อยเผื่อไว้หากไขมันสลายเร็วจนเกินไป ส่งผลให้บริเวณหน้าผากของเรานั้นบวม คล้ายกับลักษณะของหัวปลาทอง โดยไขมันนั้นจะสลายประมาณ 30-40% ภายใน 1 เดือน และเริ่มเข้าที่มากขึ้น
6. ไม่ควรฉีดไขมันหน้าผาก ในปริมาณมากภายในครั้งเดียว
การฉีดไขมันเข้าไปในปริมาณมากภายในครั้งเดียว จะทำให้มีโอกาสสูงมากที่เซลล์ไขมันจะตาย ทำให้ไขมันที่ฉีดเข้าไป ยุบหายเกือบหมด โดยการ ฉีดไขมันหน้าผาก ที่ดี คือ ฉีดเซลล์ไขมันในปริมาณน้อย แต่ทำให้ไขมันนั้นกระจายไปให้ทั่วในทุกชั้นของผิว
ซึ่งอาจไม่ได้ผลที่ต้องการอย่างทันใจ แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับมาคุ้มค่ามาก เพราะไขมันที่ฉีดเข้าไปจะมีโอกาสอยู่ได้ถาวร แต่เซลล์ไขมันที่เติมแล้วมีชีวิตรอด ก็ยังสามารถหายไปได้ตามเวลาอยู่ดี จะมีบางส่วนที่อยู่ได้ถาวรเท่านั้น เพราะไขมันเป็นสารที่อยู่ในร่างกายมนุษย์ มีสลายไปตามกาลเวลาเช่นกัน
7. ไม่สามารถนำไขมันของคนอื่นมาฉีดไขมันหน้าผาก
การใช้ไขมันสเต็มเซลล์ก็เปรียบเสมือนการปลูกถ่ายอวัยวะของร่างกาย เพื่อไม่ให้ร่างกายต่อต้านไขมันของเรา ดังนั้นการ ฉีดไขมันหน้าผาก จึงต้องใช้ไขมันของตัวเอง ไม่สามารถใช้ไขมันสัตว์หรือไขมันจากคนในครอบครัว แม้กระทั่งไขมันฝาแฝดของตัวเองก็ตาม
หากใช้ไขมันของคนอื่นจะมีผลกระทบ ดังนี้
- มีการต่อต้านของเนื้อเยื่อ การติดของตัวไขมันก็จะไม่ดี
- ความเข้ากันได้ของเซลล์ เชื้อโรคบางอย่างที่ไม่ได้ทำการคัดกรอง กรุ๊ปเลือด รวมถึงความเข้ากันได้อื่นๆ จะไม่สามารถเข้ากับร่างกายเราได้ อาจทำให้ไขมันที่ฉีดเข้าไม่ติด อยู่กับเราไม่นาน
สรุป
การทำหัตถการใดๆ บนใบหน้าไม่ว่าส่วนใดก็ตาม ควรมีการสืบค้นข้อมูลให้ละเอียดถี่ถ้วน ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่จะช่วยแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดจากการ ฉีดไขมันหน้าผาก ที่ไม่มีประสิทธิภาพได้ก็ตาม บทความนี้ก็จะช่วยบอกได้ว่าก่อน ฉีดไขมันหน้าผาก มีข้อควรรู้อะไรบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นในการตัดสินใจ