Mesotherapy คืออะไร ? การฉีดวิตามินคืนความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้า
บทความนี้จะพาไปทำความรู้จัก Mesotherapy คือ อะไร ทำไมต้องฉีดวิตามินผิวคืนความหน้าใส เพื่อแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูผิวได้อย่างตรงจุด ช่วยผิวให้ดูอ่อนกว่าวัย และได้ความสดใสกลับคืน
เมโสเทอราปี (Mesotherapy) ประกอบด้วย 2 คำ คือ เมโส (Meso) ซึ่งมาจากคำว่า เมโสเดิร์ม (Mesoderm) แปลว่าผิวหนังชั้นกลาง กับคำว่า เทอราปี (Theraphy) แปลว่า การบำบัดรักษา จึงมีความหมายว่า วิธีการบำบัดรักษาในผิวหนังชั้นกลาง เพื่อกระตุ้นเซลล์ผิวให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ รักษาผิวพรรณให้ผ่องใส ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองเพื่อเพิ่มการขจัดของเสีย ลดความหย่อนคล้อย ลดริ้วรอยจากวัยที่เพิ่มขึ้น
สารบัญ
Mesotherapy คือ การส่งตัวยาหรือสารอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหารเข้มข้นเข้าสู่ผิว เช่น วิตามิน Coenzyme Q10 แร่ธาตุ และกรดอะมิโนโดยใช้เข็มฉีดขนาดเล็ก ประมาณ 27-30 G (เล็กกว่าก้านดอกเข็ม) เข้าไปยังตำแหน่งต่าง ๆ โดยตรง เพื่อแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูผิวได้อย่างตรงจุด ผลที่ได้จะดูเป็นธรรมชาติ แก้ปัญหาผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะทำอาจมีความรู้สึกเจ็บเหมือนโดนมดกัด แต่จะไม่มีอาการเจ็บปวด และหลังจากทำอาจเป็นรอยแดง ๆ เล็ก ซึ่งจะจางหายไปในไม่ช้าควรทำประจำอาทิตย์ละ 1 ครั้ง เพื่อให้ได้ผลรับที่ดี โดยตำแหน่งที่นิยมทำ Mesotherapy คือ “ใบหน้า”
ชนิดของ Mesotherapy
สลายไขมัน (Meso Fat)
เมโสชนิดนี้นั้นคือการฉีดเอนไซม์ชนิดหนึ่งลงไปบริเวณที่เราต้องการที่จะลดไขมันโดยเอนไซม์ชนิดนี้จะตรงเข้าไปย่อยสลายไขมัน และเซลลูไลท์ให้แตกตัวแล้วจึงให้ร่างกายดูดซึม และขับออกไปเองตามธรรมชาติ ซึ่งสามารถทำได้ทั่วร่างกายตั้งแต่ใบหน้า ของคนที่มีแก้มเยอะ เหนียงเยอะ ยิ้มแล้วแก้มออก
เมโสหน้าใส ผิวพรรณกระจ่างใส ลดเม็ดสี
เป็นการฉีดวิตามิน แร่ธาตุ ที่เป็นอาหารที่จำเป็นต่อผิวของเราลงสู่ชั้นผิว เพื่อช่วยฟื้นฟู และบำรุงผิวอย่างล้ำลึก นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับผิว ทำให้รูขุมขนที่ดูกว้างกลับเล็กลง ผิวเอิบอิ่ม ผิวพรรณแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
เมโสลดฝ้า ลดกระ รอยสิว (Meso Melasma)
เมโสลดฝ้า ลดกระชนิดนี้จะมีสารบำรุงที่ช่วยลด และยับยั้งปัญหาสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอที่ต้นตอ โดยการลดการผลิตเม็ดสีของเซลล์ผลิตสีผิว หรือ Melanocyte ซึ่งได้ผลมากกับฝ้ากระ จากแดดที่ไม่สามารถขจัดออกได้ด้วยสกินแคร์ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยลดรอยดำจากสิว และหลุมสิวตื้น ๆ ได้อีกด้วย
เมโส ลดปัญหาผมร่วง (Meso Hair)
Meso Hair จะช่วยบำรุงและเติมเต็มสารอาหารที่จำเป็นกับรากผม มีสารสกัด และส่วนประกอบที่จำเป็นตรงไปยังต่อมของเส้นผมนั้น จะช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนดี ต่อมเส้นผม (Hair Follicle) ได้รับการบำรุงอย่างล้ำลึก
อ่านเพิ่มเติม >>> ช่วยในด้านเสริมความงามได้อย่างไรบ้าง?
- การคลีนหน้าหรือทำความสะอาดผิวหน้า
- ทายาชาทั่วบริเวณหน้าจากนั้นแร็บหน้าด้วยพลาสติก (เพื่อไม่ให้ตัวยาระเหย) ทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที
- ลงเข็มทั่วใบหน้าใช้เวลา 10-15 นาที (โดยเข็มมีขนาดความลึกต่างกัน 0.25, 0.5, 0.75, 1, 2 มิล) ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
- ประคบเย็นเพื่อระงับความรู้สึกขณะฉีด
- นอนพักหน้าประมาณ 15-30 นาที เนื่องจากหลังจากทำเสร็จหน้าจะแดงและมีอาการแสบร้อน
- รับยาแก้อักเสบ กลับมาทาที่บ้าน
ข้อดีข้อเสียของการฉีดเมโสหน้าใส
ข้อดีของ Mesotherapy
- เป็นการให้สารบำรุงผิวที่เห็นผลได้ไวกว่าการทาครีมบำรุงผิว
- ไม่ต้องพักฟื้นรอยแดงสามารถหายไปได้ภายในสามวัน
- ช่วยรักษาปัญหาของผิวได้อย่างเร่งด่วน เช่น สิว รูขุมขนกว้าง เป็นต้น
ผลข้างเคียงจากการทำ Mesotherapy
ผลข้างคียงของการทำ Mesotherapy คือ อาจทำให้ผิวหนังบริเวณที่ฉีดเริ่มบางขึ้นและแสงแดด ทำให้เป็นอุปสรรคให้ผิวหน้ากลับมาคล้ำเสียได้ ดังนั้นควรใช้ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดเพื่อช่วยป้องกันรังสียูจากแดดและการเผาไหม้ และหลังจากรักษาด้วยการทำ Mesotherapy ไปแล้วควรดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อผลลัพธ์ที่ดี
อ่านเพิ่มเติม Mesotherapy ราคา เท่าไหร่ ?
การดูแลตัวเองหลักการรักษาด้วย Mesotherapy
- ไม่ควรนวดผิวทันทีหลังทำ ตัวยาจะแพร่กระจายเอง
- ไม่ควรขัด หรือสครับผิวทันทีหลังทำ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองบริเวณรอยเข็มได้
- ควรงดทาครีมสิว หรือครีมที่อาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองบริเวณรอยเข็ม 1 คืน
- หลังล้างหน้าสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ
- หากเกิดรอยแดง รอยช้ำจากรอยเข็มในบริเวณจุดที่ฉีด รอยแดงจะหายไป 1-3 วัน รอยช้ำจะหายไป 7-14 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
- ควรทำทุกอาทิตย์เป็นประจำหรืออาทิตย์เว้นอาทิตย์เพื่อความสม่ำเสมอและเห็นผล ระยะเวลาในการทำ 3 ครั้งขึ้นไปขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
สรุป
Mesotherapy คือ เทคนิคที่ใช้ฉีดวิตามินและสารสกัดต่างๆ เพื่อฟื้นฟูบำรุงผิวและกระชับผิว โดยตรง เพื่อแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูผิวได้อย่างตรงจุด ใช้รักษาฝ้า รักษาอาการปวด และยังถูกนำไปประยุกต์ใช้บำรุงผมอีกทางหนึ่งด้วย ไม่เพียงเท่านี้ ในปัจจุบันด้วยเคล็ดลับที่ดูเหมือนจะมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดี จึงถูกนำไปใช้ในการแพทย์หลากหลายมากขึ้น