ฟิลเลอร์ปากอยู่ได้กี่เดือน พร้อมเคล็ดลับยืดอายุฟิลเลอร์ให้นานขึ้น

ฟิลเลอร์ปากอยู่ได้กี่เดือน เพราะเมื่อตัดสินใจลงทุนกับการเสริมความงาม ใครๆ ก็อยากให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานที่สุด บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับอายุการใช้งานของฟิลเลอร์ปาก ปัจจัยที่มีผลต่อความคงทน และวิธีดูแลเพื่อยืดระยะเวลาให้นานขึ้นค่ะ

ฟิลเลอร์ปากคืออะไร และช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง

ฟิลเลอร์ปาก คือ การใช้สารเติมเต็มที่มีส่วนประกอบของกรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic Acid หรือ HA) ฉีดเข้าไปที่ริมฝีปากเพื่อเพิ่มความอวบอิ่ม ปรับรูปทรง และเติมเต็มให้ริมฝีปากดูมีมิติ สารกรดไฮยาลูโรนิคนี้เป็นสารที่มีอยู่แล้วในร่างกายตามธรรมชาติ ทำหน้าที่ช่วยอุ้มน้ำและเพิ่มความชุ่มชื้น

ฟิลเลอร์ปากสามารถช่วยแก้ปัญหาริมฝีปากได้หลายประการ ดังนี้

• ปากบาง ต้องการเพิ่มความอวบอิ่ม
• ริมฝีปากแห้ง ขาดความชุ่มชื้น ปากเป็นร่อง
• รูปทรงปากไม่สมมาตร
• มุมปากตก ต้องการยกมุมปาก
• ต้องการปรับรูปทรงปากตามความต้องการ เช่น ทรงกระจับ หรือทรงสายฝอ

| อ่านเพิ่มเติม  ฟิลเลอร์ปาก เติมความเซ็กซี่ เลือกทรงไหนให้เป๊ะปังสไตล์สาวไทย

ฟิลเลอร์ปากอยู่ได้กี่เดือน? ขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง

โดยทั่วไปแล้ว ฟิลเลอร์ปากจะอยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน แต่ระยะเวลาที่แน่นอนนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนี้

• ยี่ห้อและชนิดของฟิลเลอร์ – แต่ละยี่ห้อมีเทคโนโลยีการผลิตและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่ออายุการใช้งาน
  • Restylane Kysse: อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
  • Restylane Volyme: อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
  • Restylane Vital Light: อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน
  • Juvederm Voluma: อยู่ได้นานถึง 18 เดือน
  • Juvederm Volite อยู่ได้นานถึง 12 เดือน
• การเผาผลาญของแต่ละบุคคล – คนที่มีอัตราการเผาผลาญเร็วมักจะมีการสลายฟิลเลอร์เร็วกว่าคนที่มีการเผาผลาญช้า
• พฤติกรรมและกิจวัตรประจำวัน – การใช้ปากมากในชีวิตประจำวัน เช่น พูดมาก ดื่มผ่านหลอด หรือเม้มปากบ่อยๆ อาจทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น
• เทคนิคการฉีด – แพทย์ที่มีประสบการณ์จะสามารถฉีดฟิลเลอร์ในตำแหน่งและระดับความลึกที่เหมาะสม ซึ่งช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น

วิธีดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อให้อยู่ได้นานขึ้น

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปากอย่างถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการใช้งานและทำให้ผลลัพธ์ดูดียิ่งขึ้น วิธีดูแลที่สำคัญมีดังนี้

• งดการสัมผัสหรือนวดบริเวณที่ฉีด
• หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด ทั้งอาหารร้อน เครื่องดื่มร้อน การอบซาวน่า
• ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม (แต่ไม่ควรกดแรง)
• งดการออกกำลังกายหนัก
• งดทาลิปสติกอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
• ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์หรืออาหารหมักดอง 1-2 สัปดาห์
•  ไม่ควรอ้าปากกว้างเกินไป
• ไม่ควรใช้หลอดดูดเครื่องดื่ม ในช่วง 3 วันแรก
• หลีกเลี่ยงอาหารรสจัดในช่วงสัปดาห์แรก

เลือกคลินิกและแพทย์ก่อนตัดสินใจฉีด

นอกจากยี่ห้อของฟิลเลอร์และการดูแลตัวเองแล้ว การเลือกคลินิกและแพทย์ผู้ฉีดก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานของฟิลเลอร์ปาก

• ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของแพทย์ – แพทย์ที่มีประสบการณ์จะรู้เทคนิคการฉีดที่ช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น เช่น การฉีดในระดับความลึกที่เหมาะสม หรือการใช้เข็มที่เหมาะกับแต่ละบริเวณ
• การเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน – คลินิกที่ดีจะใช้เฉพาะฟิลเลอร์แท้ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานเท่านั้น ซึ่งนอกจากจะปลอดภัยแล้ว ยังช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์ปลอม
• การวางแผนการรักษาที่เหมาะสม – แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะประเมินลักษณะริมฝีปากและความต้องการของคุณ เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม เช่น การเลือกชนิดและปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะกับโครงสร้างใบหน้า
• การติดตามผลและการดูแลหลังการรักษา – คลินิกที่ดีจะมีการนัดติดตามผลและให้คำแนะนำในการดูแลหลังการรักษา เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานและดูดีที่สุด

สรุป

ฟิลเลอร์ปากอยู่ได้กี่เดือน นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งชนิดและยี่ห้อของฟิลเลอร์ การเผาผลาญของแต่ละบุคคล พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เทคนิคการฉีด และการดูแลหลังการรักษา โดยทั่วไปแล้ว ฟิลเลอร์ปากมักอยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน แต่หากเลือกยี่ห้อที่มีความคงทนสูง ร่วมกับการดูแลตัวเองที่ถูกวิธี และฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก็สามารถยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้นได้

สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกฟิลเลอร์และแพทย์ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามเป็นธรรมชาติและปลอดภัย เมื่อถึงเวลาที่ฟิลเลอร์เริ่มสลายตัวสามารถกลับไปฉีดซ้ำเพื่อรักษาริมฝีปากอวบอิ่มให้คงอยู่ต่อไปได้ค่ะ