การฉีดฟิลเลอร์ปากได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีที่ช่วยให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม โดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งก็ทำให้มีหลายคนสงสัยเกี่ยวกับผลลัพธ์ของการฉีด ฟิลเลอร์ปากอยู่ได้นานแค่ไหน
บทความนี้จะพาทุกท่านไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับระยะเวลาที่ฟิลเลอร์ปากอยู่ได้ ปัจจัยที่มีผลต่อความคงทน รวมถึงวิธีดูแลให้ฟิลเลอร์ปากอยู่ได้นานขึ้น เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจก่อนเข้ารับบริการ
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm
- Juvederm Ultra Plus: ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มและฟูมาก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการปากอวบอิ่มแบบฝรั่ง อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
- Juvederm Voluma: เนื้อแข็ง แน่น อยู่ได้นานที่สุดถึง 18 เดือน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปากอวบอิ่มที่อยู่ได้นาน
- Juvederm Volift: เนื้อนิ่ม มีความละเอียดและยืดหยุ่นสูง ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
- Juvederm Volite: เนื้อละเอียด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น มีความเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane
- Restylane Kysse: เป็นรุ่นที่ฉีดปากโดยเฉพาะ อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน เหมาะสำหรับการสร้างขอบริมฝีปากที่ชัดเจน อวบอิ่ม และเติมความชุ่มชื้น
- Restylane Refyne: เนื้อเจลมีความยืดหยุ่น สามารถเติมเต็มให้ปากอวบอิ่มอย่างเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
- Restylane Vital Light: เนื้อละเอียด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ผิวปากชุ่มชื้นโดยไม่ต้องการเพิ่มความอวบอิ่มมาก อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
- Restylane Classic: เนื้อแข็ง สามารถอยู่ได้นาน 12-18 เดือน
1. ฝีมือและเทคนิคของแพทย์
ความสามารถและประสบการณ์ของแพทย์เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความอยู่ทนของฟิลเลอร์ปาก แพทย์ที่มีประสบการณ์สูงจะสามารถฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างแม่นยำทั้งในเรื่องของปริมาณ ตำแหน่ง และวิธีการฉีด ทำให้ฟิลเลอร์กระจายตัวได้ดีและมีความคงทนมากกว่า ควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์อย่างน้อย 5-10 ปีในการฉีดฟิลเลอร์ปาก
2. พฤติกรรมและการใช้ชีวิตประจำวัน
กิจกรรมที่ทำให้ริมฝีปากเคลื่อนไหวมาก เช่น การพูดมาก การใช้หลอดดูดเครื่องดื่มบ่อยๆ การสูบบุหรี่ หรือการออกกำลังกายหนักๆ อาจเร่งการสลายตัวของฟิลเลอร์ได้ นอกจากนี้ การสัมผัสกับแสงแดดจัดหรือความร้อนสูงเป็นประจำก็ทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้นด้วย
3. อัตราการเผาผลาญของร่างกาย
คนที่มีอัตราการเผาผลาญสูงมักจะมีการสลายฟิลเลอร์เร็วกว่าคนทั่วไป ทำให้ฟิลเลอร์ปากอยู่ได้ไม่นานเท่าที่ควร ซึ่งเป็นปัจจัยเฉพาะบุคคลที่ควบคุมได้ยาก
1. หลีกเลี่ยงความร้อนและแสงแดด
ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นอาหารร้อน เครื่องดื่มร้อน แสงแดดจัด ซาวน่า อบไอน้ำ หรือการใช้ไดร์เป่าผมใกล้บริเวณที่ฉีด เนื่องจากความร้อนจะกระตุ้นให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วขึ้น
2. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
ฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยให้ฟิลเลอร์ปากฟูและอยู่ได้นานขึ้น ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
3. ไม่นวดหรือสัมผัสบริเวณที่ฉีดแรงๆ
ควรหลีกเลี่ยงการนวด การคลึง หรือการสัมผัสบริเวณริมฝีปากแรงๆ อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังฉีด เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวหรือผิดรูปได้ นอกจากนี้ ควรงดการอ้าปากกว้างหรือการใช้ริมฝีปากมากเกินไปในช่วงแรก
4. งดแอลกอฮอล์และอาหารรสจัด
แอลกอฮอล์และอาหารรสจัดอาจทำให้เกิดการอักเสบและบวมมากขึ้น ควรงดแอลกอฮอล์ อาหารดอง และอาหารรสจัดอย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
5. ใช้ลิปบาล์มและครีมบำรุงริมฝีปาก
การใช้ลิปบาล์มหรือครีมบำรุงริมฝีปากที่มีสารให้ความชุ่มชื้นจะช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก ทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น
บทสรุป
ฟิลเลอร์ปากอยู่ได้นานแค่ไหน นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ ความเชี่ยวชาญของแพทย์ และวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีด โดยทั่วไปฟิลเลอร์ปากจะอยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน
เพื่อให้ฟิลเลอร์ปากอยู่ได้นานที่สุด ควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ใช้ฟิลเลอร์แท้จากยี่ห้อที่มีชื่อเสียงและได้มาตรฐาน เช่น Juvederm หรือ Restylane และดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีหลังฉีด ทั้งการหลีกเลี่ยงความร้อน การดื่มน้ำให้เพียงพอ และการไม่สัมผัสหรือนวดบริเวณที่ฉีด
การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงปากให้สวยงาม เพราะไม่ต้องพักฟื้นนาน ไม่เจ็บมาก และหากไม่พอใจก็สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ แต่หากต้องการความอยู่ทนนานมากขึ้น อาจต้องพิจารณาว่าการฉีดซ้ำทุกปีเหมาะกับตัวเองหรือไม่ หรืออาจเลือกวิธีศัลยกรรมปากซึ่งให้ผลถาวรมากกว่า